มีการยืนยันการระบาดของไข้หวัดนกหลายจุดในฟาร์มสัตว์ปีกของเนเธอร์แลนด์ แม้ว่าจะมีคำสั่งให้กักเลี้ยงสัตว์ปีกภายในโรงเรือนทั่วประเทศมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีหลายเส้นทางที่เชื้อสามารถแพร่กระจายได้
ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายอากาศหรือช่องโหว่ด้านชีวอนามัย
พร้อมชี้ว่าความหนาแน่นของการเลี้ยงสัตว์ปีกที่สูงมากในประเทศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงพื้นฐานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ภาคการผลิตสัตว์ปีกของเนเธอร์แลนด์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายจังหวัด
เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดของการกักเลี้ยงสัตว์ปีกในโรงเรือนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งไม่อาจป้องกันเชื้อไวรัสรุนแรงสูงที่ยังคงแพร่ระบาดในนกป่าต่อไป
ช่องทางนำโรคเข้าสู่ฟาร์ม
มีหลายเส้นทางที่เชื้อสามารถเล็ดรอดเข้าสู่ฝูงสัตว์ปีกที่ถูกกักเลี้ยงภายในโรงเรือนได้
ตามคำกล่าวของไธส์ คูเคน นักไวรัสวิทยาจากเอราสมุส เอ็มซี เมืองรอตเทอร์ดัม
มาตรการกักเลี้ยงสัตว์ปีกช่วยป้องกันการระบาดเพิ่มเติมได้จริง
แต่ไม่สามารถให้การปกป้องได้อย่างสมบูรณ์ เขาระบุว่า “ไวรัสสายพันธุ์นี้เหมือนหลุดรอดจากมือเรา
และยังคงแพร่หมุนเวียนอยู่ในนกป่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้”
เชื้อไวรัสสามารถเข้าสู่โรงเรือนสัตว์ปีกได้หลายทาง
ระบบระบายอากาศอาจดูดเอาขนของนกป่าที่ปนเปื้อนเชื้อเข้ามา
หรือรอยรั่วบนหลังคาอาจทำให้น้ำฝนที่ปนเปื้อนมูลนกไหลหยดลงในโรงเรือน
เมื่อเชื้อเข้าสู่ภายในแล้ว
มันสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในโรงเรือนที่มีความหนาแน่นของสัตว์สูง
คูเคนอธิบายว่า “เมื่อมันเข้ามาได้ ก็เหมือนตกลงบนเตียงที่ปูพร้อมไว้แล้ว
และสามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็วมาก” ปัจจัยด้านมนุษย์ก็มีส่วนทำให้เชื้อแพร่กระจายเช่นกัน
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยวาเกนนิงเกน ซึ่งติดตั้งกล้องในฟาร์มสัตว์ปีก
พบว่าการปฏิบัติตามมาตรการชีวอนามัย เช่น การล้างรองเท้าบูท
ยังสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ในหลายฟาร์ม
การทดลองวัคซีนให้ผลน่าพอใจ
เนเธอร์แลนด์กำลังดำเนินการทดลองใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในฟาร์มไก่ไข่แห่งหนึ่ง
โดยจนถึงขณะนี้มีรายงานผลลัพธ์ที่เป็นบวก อย่างไรก็ตาม
การนำไปใช้ในระดับประเทศยังต้องรอการอนุมัติ
กระทรวงเกษตรของเนเธอร์แลนด์ระบุว่ายังไม่สามารถเร่งกระบวนการได้ภายใต้ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบปัจจุบัน
โฆษกกระทรวงกล่าวว่า
“การใช้วัคซีนอนุญาตได้เฉพาะภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป
และตราบใดที่ยังไม่มีโครงการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการ
ก็ยังคงห้ามใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในเนเธอร์แลนด์
ความกังวลต่อความหนาแน่นเชิงโครงสร้าง
คูเคนเน้นย้ำว่าขนาดของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ปีกในเนเธอร์แลนด์เป็นความท้าทายพื้นฐาน
ประเทศมีไก่และสัตว์ปีกอื่น ๆ ประมาณ ๘๔ ล้านตัว
คิดเป็นจำนวนสัตว์ปีกต่อพื้นที่เกษตรหนึ่งเฮกตาร์มากกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปถึง ๕
เท่า “สิ่งนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง หากเราต้องการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ”
คูเคนกล่าว ผู้เชี่ยวชาญได้ส่งรายงานต่อรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ในปี พ.ศ.๒๕๖๔
ซึ่งมีข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัจจัยเสี่ยงเชิงโครงสร้าง อย่างไรก็ตาม
คูเคนระบุว่าการนำข้อเสนอเหล่านั้นไปปฏิบัติยังมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย
ความเสี่ยงต่อการระบาดใหญ่ถูกยกระดับ
ผลกระทบจากการที่เชื้อไข้หวัดนกยังคงแพร่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องนั้นขยายกว้างเกินกว่าภาคการผลิตสัตว์ปีก คณะกรรมาธิการนานาชาติได้ปรับระดับความเสี่ยงการเกิดการระบาดใหญ่จาก “ต่ำ” เป็น “ปานกลาง” เมื่อไม่นานมานี้ คูเคนอธิบายว่า “สาเหตุเป็นเพราะไวรัสแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในสัตว์ปีกหลายชนิดทั่วโลก และยังพบในโคนมในสหรัฐอเมริกา โดยเชื้อได้แพร่หมุนเวียนอยู่ที่นั่นมานานหนึ่งปีแล้ว” มนุษย์ที่ทำงานใกล้ชิดกับสัตว์ปีกที่ติดเชื้อสามารถรับเชื้อได้ และอาจมีอาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และไอ ตามข้อมูลของสถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งเนเธอร์แลนด์ ส่วนสัตว์ปีกที่ติดเชื้อมักมีอาการซึม กินและดื่มลดลง มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และมักตายจากโรคนี้ ตามรายงานของสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคของเนเธอร์แลนด์ การระบาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงความท้าทายที่ซับซ้อนของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกเนเธอร์แลนด์ นั่นคือการต้องสร้างสมดุลระหว่างระบบการผลิตแบบเข้มข้นกับการควบคุมโรค ในสภาพแวดล้อมที่เชื้อไข้หวัดนกความรุนแรงสูงได้กลายเป็นโรคประจำถิ่นในประชากรนกป่าแล้ว
เอกสารอ้างอิง
Linden
J. 2025. Bird flu outbreaks persist despite month-long
Dutch housing order. [Internet]. [Cited 2025 Dec 17]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/bird-flu-outbreaks-persist-despite-month-long-dutch-housing-order/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น