วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

วัคซีนเอ็มเอสใหม่


บริษัท อีโค แอนนิมอล เฮล์ธ (ECO) พัฒนาวัคซีนเชื้อเป็นชนิดใหม่สำหรับเชื้อเอ็มเอสในสัตว์ปีก หลังจากลงนามข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยจอร์เจียเป็นครั้งที่สองแล้ว
               มหาวิทยาลัยจอร์เจีย และบริษัท อีโค แอนนิมอล เฮล์ธ นัดถกกันเรื่องวัคซีนเอ็มเอส นักวิจัย สรุปผลการทดสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัยวัคซีนใหม่ ปีเตอร์ ลอว์เรนส์ กรรมการบริษัทที่ไม่ใช่ผู้บริหารของบริษัท อีโค แอนนิมอล เฮล์ธ แสดงความเห็นว่า เชื้อเอ็มเอสเป็นแบคทีเรียที่สร้างปัญหาในการผลิตทั้งในฟาร์มไก่ไข่ และฟาร์มไก่พันธุ์ทั่วโลก ส่งผลให้ผลผลิตไข่ลดลงร้อยละ ๕ ถึง ๑๐ และคุณภาพไข่ต่ำลง ขณะที่ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย นาโอลา เฟอร์กูสัน-โนเอล นักวิจัยจากศูนย์วิเคราะห์ และวิจัยโรคสัตว์ปีก เห็นว่า คณะผู้วิจัยกำลังคอยความร่วมมือกับบริษัท อีโค แอนนิมอล เฮล์ธ เพื่อช่วยพัฒนาวัคซีนเอ็มเอสให้ได้รับการรับรองสินค้าต่อไป

เอกสารอ้างอิง
Davies J. 2019. New Mycoplasmasynoviae vaccine enters development. [Internet]. [Cited 2019 Feb 11]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2019/2/New-Mycoplasmasynoviae-vaccine-enters-development-392094E/



วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เทคโนโลยีส่องตัวอ่อนในไข่ฟักรุกตลาดสัตว์ปีก


เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถในการฟักไข่ได้สร้างสรรค์ระบบการตรวจติดตามตัวอ่อนให้สามารถตรวจสอบสภาวะทางสรีรวิทยาของตัวอ่อนได้โดยตรง
               ระบบ CrystalEgg จากบริษัท LIVEgg เสมือนนั่งอยู่ใจกลางตู้บ่ม แล้วตรวจสอบพัฒนาการตัวอ่อนในไข่ฟักตามเวลาจริง ไม่ว่าจะตาย หรือผสมไม่ติด ระบบเซนเซอร์เก็บข้อมูลด้านสรีรวิทยาจากตัวอ่อน แล้วปรับเข้าเป็นอัลกอริทึมเพื่อวิเคราะห์ ช่วยให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตามเวลาจริงของตัวอ่อนในระยะต่างๆ ผู้ผลิตอ้างว่า วันที่ ๗ ของการฟักไข่ สามารถคำนวณข้อมูลได้อย่างถูกต้องว่าจะมีอัตราการฟักไข่ อัตราการตาย อัตราการผสมติด และปัจจัยที่สำคัญอื่นๆ บริษัท LIVEgg อ้างว่าสามารถเพิ่มอัตราการฟักได้อีกร้อยละ ๓ ถึง ๔ แม้กระทั่ง ระบบการฟักไข่ระดับสุดยอดยังสามารถตรวจติดตามปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมภายในตู้ฟักเท่านั้น แต่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่เพียงพอที่จะดูแลตัวอ่อนให้ดีที่สุดได้ การตรวจติดตามการพัฒนาตัวอ่อน และสภาวะของตัวอ่อนระหว่างการฟักได้กลายเป็นจริงแล้ว ด้วยระบบ CrystalEgg จะช่วยผู้จัดการโรงฟัก เจ้าของบริษัท สามารถเฝ้าสังเกตการพัฒนาของตัวอ่อน เพื่อให้การควบคุมระบบดีขึ้น และยังมีรายงานข้อมูลตามเวลาจริง หากมีข้อบกพร่องอะไรก็สามารถแก้ไขได้ทันที     

เอกสารอ้างอิง
Davies J. 2019. New embryo monitor to hit the market. [Internet]. [Cited 2019 Jan 23]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2019/1/New-embryo-monitor-to-hit-the-market-384733E/



วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

แมลงเป็นเครื่องมือต่อสู้โรคไทฟอยด์ไก่

หนอนแมลงวันทหารดำป่น ปริมาณเพียงเล็กน้อยช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของไก่เนื้อ และลดอัตราการรอดชีวิตระหว่างการเกิดโรคไทฟอยด์ไก่
               หนอนแมลงวันทหารดำป่น เป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับทดแทนถั่วเหลือง และปลาป่นในอาหารสัตว์ได้ ในอาหารไก่เนื้อ หนอนแมลงวันทหารดำป่น สามารถทดแทนถั่วเหลืองได้โดยไม่มีผลกระทบต่อผลผลิต หนอนแมลงวันทหารดำป่นมีผลต่อผลผลิตไก่เนื้อ โดยเฉพาะ การเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์

การศึกษาการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
               ในการศึกษาเร็วๆนี้เมื่อปีที่แล้ว ลี และคณะ ศึกษาผลของหนอนแมลงวันทหารดำป่นต่อการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อไก่เนื้อที่ให้เชื้อ ซัลโมเนลลา เอนเทอริคา ซีโรวาร์ กัลลินารัม หรือ ซ. กัลลินารัม เป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมลบที่เป็นสาเหตุของโรคไทฟอยด์ไก่ ทำให้ไก่ป่วยแสดงอาการเบื่ออาหาร ท้องเสีย ขาดน้ำ แต่ยังรวมถึง เลือดจาง ตับม้ามโต และเลือดออกตามทางเดินอาหารของไก่ อัตราการตายสูง โรคไทฟฟอยด์ไก่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกในประเทศเอเชีย รวมถึง เกาหลี และอินเดีย การผสมหนอนแมลงวันทหารดำป่นในปริมาณเล็กน้อยช่วยส่งเสริมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในไก่เนื้อ ลดอัตราการตาย และช่วยกำจัดเชื้อโรคเมื่อป้อนเชื้อพิษทับ ซ. กัลลินารัม ให้ได้ รวมถึง น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น แม้ว่า เชื้อ ซ. กัลลินารัม ไม่พบในยุโรป และอเมริกาเหนือแล้ว ผลการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า คุณสมบัติการป้องกันโรค และกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะในไก่เนื้อด้วยหนอนแมลงวันทหารดำป่นผสมในอาหารสัตว์เป็นประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการผลิตของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกทั่วไป

หนอนแมลงวันทหารดำป่นช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
               ระหว่างการทดลอง ไก่เนื้อได้รับอาหารที่เสริมด้วยหนอนแมลงวันทหารดำป่นป่นที่สัดส่วนร้อยละ ๑ ๒ และ ๓ โดยน้ำหนักนับตั้งแต่อายุ ๑ วัน ที่อายุ ๒๐ วัน เก็บตัวอย่างม้าม แล้วแยกเซลล์ม้ามออกเพื่อหาอัตราส่วนระหว่างลิมโฟไซต์ชนิด ที หากลุ่มประชาการเซลล์ที่มีเครื่องหมาย CD3+ และ CD4+ เซลล์ทั้งสองชนิดเป็นเครื่องหมายที่สำคัญสำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน จำนวนของเซลล์ CD3+ และ CD4+ มีสัดส่วนสูงในไก่ที่ให้หนอนแมลงวันทหารดำป่นเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม สังเกตได้ว่า ปริมาณของเซลล์ CD3+ และ CD4+ เพิ่มขึ้นตามปริมาณของหนอนแมลงวันทหารดำป่นที่มีสัดส่วนมากขึ้น โดยการเสริมหนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ และ ๓ บ่งชี้ว่า ช่วนส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้น การเพิ่มจำนวนของเซลล์ลิมโฟไซต์ในม้าม เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามปริมาณของหนอนแมลงวันทหารดำป่นในอาหารไก่เนื้อ บ่งชี้ว่า การเสริมหนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ และ ๓ ช่วยส่งเสริมการเพิ่มจำนวนของเซลล์ลิมโฟไซต์ในไก่เนื้อได้

เพิ่มฤทธิ์ของไลโซไซม์
               นอกจากนั้น ผลการศึกษาครั้งนี้ยังพบว่า การทำงานของไลโซไซม์ในกระแสเลือดของไก่เนื้อที่เสริมด้วยหนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ และ ๓ ยังมีฤทธิ์สูงขึ้น ไลโซไซม์เป็นเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายผนังเซลล์แบคทีเรีย และมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์เก็บกิน เช่น มาโครฝาจ ที่เป็นเม็ดเลือดขาวที่กำจัดเชื้อจุลชีพ และสิ่งแปลกปลอม และแกรนูโลไซต์ ที่เป็นเม็ดเลือดขาวอีกชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับแบคทีเรีย รา และปรสิต ผลการทดลองนี้ บ่งชี้ว่า การผสมหนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ และ ๓ ในอาหารสัตว์ ช่วยส่งเสริมการทำลายแบคทีเรีย และสิ่งแปลกปล่อมของเซลล์เก็บกินในไก่เนื้อได้

หนอนแมลงวันทหารดำป่นบรรเทาโรคไทฟอยด์ไก่
                     การทดสอบการติดเชื้อเชื้อโดยศึกษาผลต่อภูมิคุ้มกันภายหลังการเสริมหนอนแมลงวันทหารดำป่น พบว่า ที่อายุ ๑๘ วัน ไก่เนื้อที่ได้รับเชื้อพิษทับ ซัลโมเนลลา กัลลินารัม โดยการป้อนปากขนาด ๕ x ๑๐๑๐ ซีเอฟยู ถือว่าความเข้มข้นสูงมากๆ ไก่ที่ให้หนอนแมลงวันทหารดำป่นตายช้าลงราว ๒ ถึง ๓ วันเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่เริ่มตายตั้งแต่สามวันหลังการติดเชื้อ แม้กระทั่งวันที่ ๑๕ อัตราการรอดชีวิตสุดท้ายในกลุ่มที่ให้อาหารเสริมหนอนแมลงวันทหารดำป่นก็สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยเป็นแบบตามขนาดความเข้มข้นอีกด้วย กลุ่มควบคุมมีอัตรารอดชีวิตร้อยละ ๕๐ หนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๑ อัตรารอดชีวิตร้อยละ ๖๗ หนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ อัตรารอดชีวิตร้อยละ ๗๕ โดยเฉพาะ    หนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๓ อัตรารอดชีวิตสูงถึงร้อยละ ๘๕ หากอ้างตามรายงานการวิจัยก่อนหน้านี้ อัตราการตายของโรคนี้สูงถึงร้อยละ ๑๐๐ และสัตว์ที่อายุ ๒ ถึง ๓ สัปดาห์มีความไวรับสูงเป็นพิเศษ ผลการวิจัยครั้งนี้ แสดงเห็นเห็นว่า แม้สัดส่วนของหนอนแมลงวันทหารดำป่นระดับต่ำในอาหารสัตว์ก็ยังสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของไก่เนื้อได้ภายหลังการป้อนเชื้อพิษทับ  ซัลโมเนลลา กัลลินารัม 
 
การกำจัดเชื้อก่อโรค
                    ปริมาณของเชื้อ ซัลโมเนลลา กัลลินารัม มีชีวิตในตับ ม้าม ต่อมเบอร์ซา และไส้ตัน ของไก่เนื้อที่ได้รับเชื้อพิษลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มที่ให้หนอนแมลงวันทหารดำป่นร้อยละ ๒ และ ๓ เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่อายุ ๑๖ วันภายหลังการติดเชื้อ โดยเฉพาะ ในตับ ม้าม และไส้ตัน และเบอร์ซา บ่งชี้ว่า การเสริมหนอนแมลงวันทหารดำป่นช่วยเพิ่มความสามารถในการกำจัดเชื้อ ซัลโมเนลลา กัลป์ลินารัม ภายหลังการติดเชื้อ

เพิ่มการเจริญเติบโตไก่เนื้อ
               การศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากสิ่งกระตุ้นช่วยให้การเจริญเติบโตในไก่เนื้อดีขึ้น เนื่องจาก สถานะสุขภาพที่ดีขึ้น สมมติฐานนี้ได้รับการยืนยันโดยการวิจัยล่าสุดอีกด้วย ไก่เนื้อที่ให้อาหารสัตว์ผสมหนอนแมลงวันทหารดำป่น ช่วยส่งเสริมการเพิ่มน้ำหนักจนถึงน้ำหนักเป้าหมาย ๑.๓ กิโลกรัมสองวันก่อนกลุ่มควบคุม (๓๐ วันแทนที่จะเป็น ๓๒ วัน)

บทสรุป
               ผลของการใช้เครื่องหมายทางภูมิคุ้มกัน และการตรวจวัดการติดเชื้อ สามารถสรุปได้ว่า องค์ประกอบของหนอนแมลงวันทหารดำป่นเป็นสารกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้ และช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีในไก่เนื้อต่อเชื้อแบคทีเรียทั่วไป ยังไม่สามารถยืนยันได้จริงๆว่า ปริมาณของหนอนแมลงวันทหารดำป่นเพียงเล็กน้อยที่เติมในอาหารไก่มีฤทธิ์ป้องกันโรคได้จริงหรือไม่ในการเลี้ยงเชิงพาณิชย์เหมือนในห้องทดลองหรือไม่ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม อัตราการรอดชีวิตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการตรวจวัดการติดเชื้อก็อาจเป็นเหตุผลที่ดีประการหนึ่งในการลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และหนอนแมลงวันทหารดำป่นก็เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบของหนอนแมลงวันทหารดำป่นที่มีฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกันก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ควรมีการวิจัยต่อไปในอนาคต

เอกสารอ้างอิง
Ebertz A. 2019. Insects as a tool against fowl typhoid disease. [Internet]. [Cited 2019 Jan 16]. Available from: https://www.poultryworld.net/Nutrition/Articles/2019/1/Insects-as-a-tool-against-fowl-typhoid-disease-382031E/
ภาพที่ ๑ แมลงมีค่าโภชนะที่น่าสนใจ มีผลดีต่อผลผลิตไก่เนื้ออย่างกว้างขวาง (Ebertz, 2019)  


ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...