วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ซัลโมเนลลา นักอ่าน จากไก่งวงดิบ

แหล่งต้นตอของการระบาดกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคระบาดแห่งสหรัฐฯ หรือซีดีซี และสำนักงานสาธารณสุขในหลายรัฐ กำลังสอบสวนการระบาดของเชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้ง ที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบ และสำนักงานตรวจสอบความปลอดภัยอาหารด้านเกษตรกรรมของกระทรวงเกษตร สหรัฐฯ กำลังตรวจติดตามการระบาดอย่างใกล้ชิด
               จนถึงวันที่ ๑๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว ๙๐ รายจากการระบาดของเชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้งจากทั้งหมด ๒๖ รัฐ ผู้ป่วยเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายนปีที่แล้วถึง ๒๙ มิถุนายนปีนี้ ช่วงอายุของผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างน้อยกว่า ๑ ปีจนถึง ๙๑ ปี ค่าเฉลี่ยเป็น ๔๑ ปี ส่วนใหญ่ ๖๑ เปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิง จากผู้ป่วย ๗๘ รายที่มีข้อมูลทางระบาดวิทยา ๔๐ ราย (คิดเป็น ๕๑ เปอร์เซ็นต์) ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต 

การสอบสวนการระบาดของโรค
               จากการสัมภาษณ์ผู้ป่วยเกี่ยวกับอาหารที่รับประทานเข้าไป และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆในสัปดาห์ก่อนที่พวกเขาจะแสดงอาการป่วย พบว่า ผู้ป่วยที่ให้สัมภาษณ์ทั้งหมด ๖๑ ราย ๓๗ รายคิดเป็น ๖๑ เปอร์เซ็นต์เตรียมผลิตภัณฑ์จากไก่งวงที่ซื้อมาดิบๆ รวมถึง เนื้อไก่งวงบด ชิ้นส่วนไก่งวง และไก่งวงตัว ผู้ป่วยรายงานว่า ซื้อสินค้าเนื้อไก่งวงดิบจากหลายยี่ห้อ หลายร้านค้า นอกจากนั้น ผู้ป่วย ๒ ใน ๖๑ ราย อ้างว่า ป่วยภายหลังจากสัตว์เลี้ยงในบ้านกินอาหารที่เตรียมจากไก่งวงบดดิบ และ ๓ ใน ๖๑ ราย ทำงานในโรงงานที่เลี้ยง หรือแปรรูปไก่งวง หรืออาศัยกับสมาชิกในครอบครัวที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการดังกล่าว
               การระบาดของเชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้ง ตรวจพบในตัวอย่างอาหารสุนัขที่เตรียมจากเนื้อไก่งวงดิบในรัฐมินเนโซตา จากผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบที่ได้จากโรงฆ่า ๑๙ แห่ง และโรงงานแปรรูปการณ์ผลิต ๖ แห่ง และไก่งวงมีชีวิตในหลายรัฐ    
               ตัวอย่างที่เก็บโดยเอฟซิสที่โรงฆ่า และโรงงานแปรรูปการณ์ผลิตเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจติดตามเป็นประจำตามมาตรฐานของเชื้อ ซัลโมเนลลา นอกจากนั้น ยังมีการวิเคราะห์ลำดับจีโนมทั้งหมด (WGS, Whole genome sequence) พบว่า เชื้อซัลโมเนลลาสายพันธุ์ที่ได้จากตัวอย่างเหล่านี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเชื้อซัลโมเนลลาที่ได้จากผู้ป่วย ผลการสวนสวนเหล่านี้เป็นหลักฐานที่สำคัญที่ว่า ผู้ป่วยจากการระบาดครั้งนี้มาจากการเตรียมผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ลำดับจีโนมทั้งหมด ไม่พบการดื้อยาปฏิชีวนะของเชื้อทั้ง ๖๘ ตัวอย่างจากผู้ป่วย ๒๘ ราย และตัวอย่างอาหาร และสัตว์ ๔๐ ตัวอย่าง อย่างไรก็ตาม ๓๓ ตัวอย่างจากผู้ป่วย และ ๔๙ ตัวอย่างจากอาหาร และตัวอย่างจากสัตว์ประกอบด้วยยีนส์ที่ดื้อยาปฏิชีวนะบางส่วน หรือทั้งหมด ได้แก่ แอมพิซิลลิน สเตรปโตมัยซิน ซัลฟาเมธอกซาโซล เตตราซัยคลิน เจนตามัยซิน และกานามัยซิน การตรวจสอบ ๔ ตัวอย่างจากการระบาดโดยการทดสอบความไวรับต่อยาปฏิชีวนะด้วยวิธีมาตรฐานโดยห้องปฏิบัติการตามระบบการตรวจติดตามเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะของซีดีซีช่วยยืนยันผลการทดสอบเหล่านี้ ภาวะดื้อยาเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ยาปฏิชีวนะที่ใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะ การติดเชื้อ ซัลโมเนลลา  
               ข้อมูลที่มีอยู่ บ่งชี้ว่า  เชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้ง อาจพบได้ในไก่งวงมีชีวิต และผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบเชื้อในตัวอย่างที่เก็บจากผู้จำหน่ายเนื้อไก่งวงดิบ หรือไก่งวงมีชีวิต ซีดีซี และเอฟซิส แบ่งปันผลการเฝ้าระวังโรคจากอุตสาหกรรมการผลิตไก่งวง เพื่อให้ตระหนักถึงการระบาดของโรค และการป่วย และเพื่อเรียกร้องให้มีขั้นตอนการลดการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลลา เนื่องจาก ผลการเฝ้าระวังโรค บ่งชี้ว่า เชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้ง ปรากฏในไก่งวงมีชีวิต และผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบ การสอบสวน และมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดความชุกของเชื้อนี้ควรมีการกำหนดเป้าหมายทั้งในฟาร์มเลี้ยงไก่งวง และโรงงานแปรรูปการณ์ผลิต ผู้บริโภคควรตระหนักระมัดระวังไก่งวงดิบที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อ และผู้บริโภคควรได้รับความรู้เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย

เอกสารอ้างอิง

Wattagnet. 2018. CDC, FSIS monitoring Salmonella outbreak linked to raw turkey. [Internet]. [Cited 2018 Jul 19]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/35129-cdc-fsis-monitoring-salmonella-outbreak-linked-to-raw-turkey
ภาพที่ ๑ การระบาดของเชื้อ ซัลโมเนลลา รีดดิ้ง ที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ไก่งวงดิบ (แหล่งภาพ https://pixabay.com/en/turkeys-birds-plumage-poultry-2799462/)


วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

กุญแจ ๓ ดอก อนาคตของความปลอดภัยอาหารในสัตว์ปีก

บริษัทผู้ผลิตสัตว์ปีกจำเป็นต้องมีความร่วมมือ และให้ความรู้กับผู้บริโภค และลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ เพื่อต่อสู้กับปัญหาความปลอดภัยอาหาร เป็นความเห็นของผู้บริหารระดับสูงด้านความปลอดภัยอาหารของวอลมาร์ท
               อุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในกระบวนการผลิตอาหารตลอดศตวรรษที่ผ่านมา แต่ปัญหาความปลอดภัยอาหารยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ซัลโมเนลลา เป็นพาดหัวข่าวเป็นประจำเสมอ แม้ว่าจะถกเถียงกันว่า อุตสาหกรรมยังคงไม่ประสบชัยในการต่อสู้กับปัญหาความปลอดภัยอาหาร ในอนาคต ปัจจัยสามประการจะมีอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก ที่พยายามสร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยตั้งแต่แหล่งที่มาของการผลิตสำหรับผู้บริโภค ผู้ผลิตสัตว์ปีกจำเป็นต้องทำสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม

ความปลอดภัยอาหารจะก้าวต่อไปอย่างไร
๑.   ยกระดับการป้องกันปนเปื้อน และสานสัมพันธ์ความร่วมมือ ขณะที่ อุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกมีการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยอาหารเพิ่มขึ้น แต่ความจริงแล้ว ผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการกำลังสร้างคำถามมากขึ้นจนจำเป็นต้องหาแสวงหาความร่วมมือมากขึ้น เพื่อให้มีการประเมินความปลอดภัยอาหารได้ตลอดห่วงโซ่การผลิตสัตว์ปีกจริง ๆ ผู้ผลิตทุกรายอยู่ในเกมการแข่งขันระหว่างความสามารถของตัวเอง และบริษัทในการป้องกันปัญหาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับเนื้อสัตว์ปีก รวมถึง สังคมก็กำลังตรวจสอบพวกเราเช่นกัน โดยเฉพาะ การตรวจสอบด้านสาธารณสุขไปไกลกว่าการป้องกันการปนเปื้อนของผู้ผลิตสัตว์ปีก ดังนั้น ผู้ผลิตมีพันธกิจในการยกระดับการป้องกันความปลอดภัยทางชีวภาพต่อผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก อุตสาหกรรมควรมีมุมมองต่อความปลอดภัยอาหารแบบองค์รวม เมื่อเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก และทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกรายนับตั้งแต่ ซัพไพล์เออร์ไปจนถึงหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษา ภาคชุมชน และภาคเอกชนอื่น ๆ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาความปลอดภัยอาหารจากเนื้อสัตว์ปีก ความท้าทายในอนาคตมากมายต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคทุกฝ่าย
๒. การให้ความรู้กับผู้บริโภค ความปลอดภัยอาหารเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน โดยบริษัทผู้ผลิตสัตว์ปีกให้ความรู้กับผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น การปรับถุงใส่ไก่ดิบเป็นสองชั้น แล้วให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยอาหารตามโซเชียล มีเดีย หรือสื่อโฆษณา ผู้ผลิตสัตว์ปีกจำเป็นเข้าไปให้ความรู้กับผู้บริโภคมากขึ้น ทิศทางนี้ต้องก้าวไปอย่างแน่นอน
๓.  ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และเจาะลึกข้อมูล เทคโนโลยีใหม่ยังคงช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทให้เกิดความโปร่งใสในการผลิตอาหาร และความปลอดภัยอาหาร ผู้ผลิตสัตว์ปีกสามารถได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะ บล็อกเชน เทคโนโลยี เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อการจัดจำหน่ายสินค้า ขณะนี้ บล็อกเชนเทคโนโลยีกำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะช่วยสร้างศักราชใหม่ของความโปร่งใสต่อความปลอดภัยอาหาร ผู้ผลิตควารประเมินตระหนักถึงบทบาทของบล็อกเชน เทคโนโลยีจะช่วยในการสอบกลับกระบวนการผลิต และช่วยให้แบนด์ของผลิตภัณฑ์เล่าเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด ถึงเวลานี้ สิ่งที่เคยทำกันในอดีตไม่ได้ดีเพียงพอต่อการแข่งขันในปัจจุบันนี้อีกแล้ว
  
เอกสารอ้างอิง
Conway A. 2018. 3 keys to the future of food safety in poultry. [Internet]. [Cited 2018 Jul 23]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/35146-keys-to-the-future-of-food-safety-in-poultry
ภาพที่ ๑ บริษัทผู้ผลิตสัตว์ปีกจำเป็นต้องมีความร่วมมือ และให้ความรู้กับผู้บริโภค และลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ เพื่อต่อสู้กับปัญหาความปลอดภัยอาหาร เป็นความเห็นของผู้บริหารระดับสูงด้านความปลอดภัยอาหารของวอลมาร์ท (แหล่งภาพ https://pixabay.com/en/chicken-roasted-whole-grilled-1199243/)

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เบลเยียมพบนิวคาสเซิลหลังมรสุมฟิโปรนิล

รายงานโรคระบาดยืนยันการระบาดของโรคนิวคาสเซิลในเบลเยียมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นม
               ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของโรคนี้ในเบลเยียมนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมาเป็นฟาร์มที่ตรวจพบในเมือง Haaltert มีจำนวนไก่ ๕๗,๘๒๐ ตัว ในจำนวนนี้ตายเกือบ ๖,๑๐๐ ตัว ส่วนไก่ที่เหลือถูกทำลาย และกำจัดซาก การปรากฏของโรคนิวคาสเซิลเป็นที่สงสัยตั้งแต่วันที่ ๒๘ มิถุนายนที่ผ่านมา และภายหลังการตรวจลำดับสารพันธุกรรม และเรียลไทม์พีซีอาร์ จึงยืนยันการตรวจพบโรคนิวคาสเซิล มาตรการควบคุม รวมถึง การทำลายไก่ป่วย กำหนดพื้นที่โซนนิ่ง การเฝ้าระวังรอบพื้นที่กักกัน และ/หรือพื้นที่ป้องกันโรค และการสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของโรค มาตรการควบคุมยังดำเนินการต่อไป รวมถึง การทำลายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และการกำจัดซากสัตว์ป่วย และของเสียต่างๆ อ้างอิงตามโอไออี การระบาดครั้งสุดท้ายยืนยันโรคในเบลเยียมตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมา โอไออียังคงเผยแพร่รายงานรายสัปดาห์เพื่อติดตามโรคไปจนกว่าสถานการณ์โรคนิวคาสเซิลในเบลเยียมจะถูกฟื้นฟูกลับสู่ปรกติ
               ขณะที่ โรคนิวคาสเซิลยังคงสร้างปัญหาในฟาร์มเพียงแห่งเดียว แต่ในสหรัฐฯ มีการระบาดอีกหลายราย เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการยืนยันการระบาดไปแล้ว ๕๒ รายในรัฐแคลิฟอร์เนียตามรายงานของเอฟิส

ปัญหาอื่น ๆในฟาร์มสัตว์ปีกเบลเยียม
               ข่าวการตรวจพบโรคนิวคาสเซิลในเบลเยียมเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวภายหลังข่าวร้ายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ในอุตสาหกรรมสัตว์ปีก โดยบริษัท อะโกร เรมิเจเซน ที่มีฐานการผลิตในเบลเยียมผลิตยาฟิโปรนิลให้กับฟาร์มไก่ไข่ในเนเธอร์แลนด์ ๒ แห่งล้มละลายแล้ว นับตั้งแต่ยาฆ่าแมลง ฟิโปรนิล ถูกใช้อย่างผิดกฎหมายสำหรับการผลิตสัตว์เพื่อผลิตเป็นอาหารกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวสำคัญที่ช๊อกอุตสาหกรรมการผลิตไข่ในยุโรประหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา หนึ่งปีภายหลังเหตุการณ์นี้ มีรายงานว่าไข่ไก่ของเนเธอร์แลนด์กว่า ๗๓,๐๐๐ ฟองถูกเรียกคืนจากร้านค้าในเยอรมันเมื่อพบว่าปนเปื้อนด้วยยาฟิโปรนิล    
         
เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2018. Newcastle disease hits nearly 58,000 birds in Belgium. [Internet]. [Cited 2018 Jul 16]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/35082-newcastle-disease-hits-nearly-58000-birds-in-belgium


วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

หวัดนกน้อยลง เหลือรัสเซีย และไต้หวัน

รัสเซีย ไต้หวัน เป็นเพียงสองประเทศที่มีรายงานสัตว์ป่วยใหม่จากโรคไข้หวัดนกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซีย และไต้หวันเป็นเพียงสองประเทศเท่านั้นที่ยังคงมีการระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในสัตว์ปีกอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การแจ้งเตือนยังคงดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็นโรคติดต่อสู่คน
               รัสเซีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ รัสเซียยืนยันการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง ๕ ครั้งจากสับไทป์เอช ๕ ในสัตว์ปีกต่อโอไออี การระบาดครั้งล่าสุดพบในฝูงสัตว์ปีกขนาดเล็กเป็นสัตว์ปีกหลังบ้านที่มีสัตว์อยู่ระหว่าง ๔๔ ถึง ๑๕๒ ตัว จากสัตว์ทั้งหมด ๔๔๕ ตัวที่ติดเชื้อ ตาย ๘๕ ตัว และ ๑๑๗ ตัวที่มีคำสั่งให้ทำลายสัตว์ป่วย ข้อกังวลคือ การระบาดไปยังพื้นที่ใหม่ในเมือง Smolensk แม้ว่าจะพบโรคในทางตะวันตกของรัสเซีย การระบาดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทางตะวันออกมากกว่า พื้นที่ระบาดก่อนหน้านี้ได้แก่ เมือง Kursk Penza Samara และ Saratov เป็นต้น นับตั้งแต่การระบาดครั้งแรกในกลางเดือนมิถุนายน มีการระบาดของโรคไปแล้ว ๓๓ ครั้งในรัสเซีย สร้างความเสียหายไปกว่า ๔๘๘,๐๐๐ ตัว

เอเชีย โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงระบาดในไต้หวัน และมาตรการป้องกันโรคในอิหร่าน
               ไต้หวัน ฝูงเป็ดเนื้อ ๒,๖๓๕ ตัวในเมือง Yunlin พบผลเป็นบวกต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๒ อ้างอิงตามรายงานอย่างเป็นทางการต่อโอไออี ทำให้รวมแล้วมีจำนวนการระบาดในประเทศปีนี้ทั้งหมด ๔๒ ครั้ง
กัมพูชา ภายหลังการระบาด ๙ ครั้งเกิดจากสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๑ ตั้งแต่ธันวาคมของปีที่แล้ว กระทรวงเกษตรแห่งกัมพูชา ประกาศว่า สถานการณ์ของโรคได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว รายล่าสุดเกิดขึ้นในฟาร์มเมื่อกลางเดือนมีนาคม  
               อิหร่าน ระดมนำเข้าวัคซีนสิบล้านโด๊สต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ควบคุมได้เรียบร้อยแล้วไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การให้วัคซีนยังมีความจำเป็น ตามความเห็นของกรมปศุสัตว์อิหร่านสำหรับต่อสู้โรคไข้หวัดนก

วิตกโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำในอินโดนีเซีย
               อินโดนีเซีย โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำพบในสัตว์ปีก ประเทศอินโดนีเซีย รายงานจากกระทรวงเกษตร และองค์การอาหาร และเกษตรกรรม ตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงต่ำ สับไทป์เอช ๙ เอ็น ๒ แม้ว่าเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงต่ำจนไม่ทำให้ไก่ตายมากนัก แต่ก็ส่งผลให้ไข่ลดลงถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อผู้เลี้ยงสัตว์ปีก สิ่งที่แตกต่างจากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๑ ชนิดความรุนแรงสูงที่เคยระบาดในอดีตคือ ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่อเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงต่ำ นอกจากทำให้ไข่ลดแล้ว เชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงต่ำ สับไทป์เอช ๙ เอ็น ๒ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ตามข้อมูลบันทึกประจำวันของโรคไข้หวัดนก พบว่า กลุ่มยีนส์ Internal genes ของเชื้อไวรัสสร้างขึ้นมาจากเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงสูงหลายชนิดที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดต่อทั้งสุขภาพมนุษย์ และสัตว์

แอฟริกา ไวรัสรุนแรงยังระบาดต่อไปในกานา
               กานา ฟาร์มที่ติดเชื้อชนิดรุนแรงมีเพิ่มขึ้นอีก ๒ แห่งตามเว็บไซต์ในกานา ทำลายไก่ไปแล้วราว ๑๑,๘๐๐ ตัว ขณะนี้ได้ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงระบาด ๑๓ ครั้ง ทำลายไก่ไปมากกว่า ๒๕,๐๐๐ ตัว ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว กานาก็สูญเสียไก่ไปถึง ๗๖,๐๐๐ ชีวิต
เอกสารอ้างอิง

Linden J. 2018. Fewer avian flu outbreaks in poultry. [Internet]. [Cited 2018 Jul 9]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/35010-fewer-avian-flu-outbreaks-in-poultry-reported



วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

อียูห้ามใช้ยาฆ่าแมลงชนิดนีโอนิค พบตกค้างไก่งวงป่า

นักวิทยาศาสตร์พบสารตกค้าง นีโอนิโคตินอยด์ในตับของไก่งวงป่า เป็นหลักฐานว่า สารเคมีทางเกษตรกรรมกำลังเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติโดยสัตว์ป่า
               นักวิจัยจากวิทยาลัยสัตวแพทย์ออนทาริโอ มหาวิทยาลัยเกลฟ์ ประเทศคานาดา กล่าวถึงผลการวิจัยเป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของสารนีโอนิคส์ต่อสัตว์ป่า ผลงานวิจัยตีพิมพ์เมื่อปลายเดือนที่แล้วในวารสารวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และวิจัยด้านมลพิษตรวจพบสารนีโอนิโคตินอยด์ในตับของสัตว์ป่า โดยพบยาฆ่าแมลงสองชนิดในสัตว์ปีกบางตัว

ยาฆ่าแมลงในระบบทางเดินอาหาร
               นักวิจัยยังพบ ข้าวโพด และถั่วเหลืองถูกเคลือบไว้ด้วยยาฆ่าแมลงในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ปีกบางตัว ศาสตราจารย์ด้านพยาธิชีววิทยา แคลร์ จาร์ดีน กล่าวถึงนักอนุรักษ์ที่กำลังเป็นห่วงเป็นใยว่า การใช้นีโอนิคอาจเชื่อมโยงกับระบบสืบพันธุ์ที่เสื่อมลงในไก่งวงป่า ไก่งวงป่ากินเมล็ดธัญพืชจากฟาร์ม นักตกปลา และนักล่าสัตว์ท้องถิ่นสังเกต จำนวนลูกนกที่น้อยลง และเชื่อว่า สารนีโอนิคอาจเป็นสาเหตุ   
               ขณะที่ นักวิจัยมุ่งศึกษาความเสี่ยงต่อสุขภาพของสารนีโอนิคต่อผึ้ง กำลังศึกษาระดับของการสัมผัสสารพิษในสัตว์ป่าหลายๆชนิดเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบต่อพฤติกรรมการอพยพ การสืบพันธุ์ และการตายของสัตว์ป่า ผลการศึกษานี้จะเป็นฐานข้อมูลสำหรับไก่งวงป่าในเมืองออนทาริโอตอนใต้ และกำหนดเป็นค่าอ้างอิงในการวิเคราะห์ต่อไปในอนาคต

ผลการทบต่อสุขภาพระยะยาว 
               นักศึกษาปริญญาเอก อะแมนดา แมคโดนัลด์ เสริมว่า ขณะที่การศึกษาพิสูจน์แล้วว่า ไก่งวงป่าที่กินเมล็ดธัญพืชที่บำบัดด้วยสารนีโอนิค แต่ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวยังไม่ทราบแน่ชัด การศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า เมล็ดพืชที่เคลือบด้วยสารนีโอนิค มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของนกเอี้ยง นกพิราบ และนกกระทา ปริมาณของสารเพียงเล็กน้อย พบว่า ส่งผลกระทบต่อมวลร่างกาย การสืบพันธุ์ และบางครั้ง การตายในนกกระจอกมงกุฎขาว    
               ศาสตราจารย์ด้านพยาธิชีววิทยา นิโคล เนเมธ ปัจจุบันปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยจอร์เจีย สรุปให้เห็นว่า นักวิจัยจำเป็นต้องประเมินระดับของนีโอนิคที่สะสมในสัตว์ป่า โดยเฉพาะ สัตว์ที่อาศัยกินอาหารจากพืชจากการเพาะปลูกสำหรับมนุษย์ และแมลง มีโอกาสที่จะสัมผัสกับสารชนิดนี้ ในเดือนเมษายน ประเทศสมาชิกกลุ่มอียูจะยืดเวลาการห้ามใช้ยาฆ่าแมลงชนิด นีโอนิโคตินอยด์ ในการเพาะปลูกพืช และผัก
เอกสารอ้างอิง

McDougal T. 2018. Health impacts of neonics go beyond bees to affect turkeys. [Internet]. [Cited 2018 Jul 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2018/7/Health-impacts-of-neonics-go-beyond-bees-to-affect-turkeys-306472E/

ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...