วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

การฟัก สาเหตุของปัญหาลูกไก่ขาถ่าง


อุบัติการณ์ของลูกไก่ขาถ่าง หรือขาบิดในฝูงไก่ และไก่งวงเพิ่มขึ้น เกิดจากกระบวนการฟัก โดยเฉพาะ อุณหภูมิในตู้เกิด และการระบายอากาศ การจัดการในโรงฟัก หรือระหว่างการขนส่งไปยังฟาร์มจึงมีบทบาทสำคัญมาก
               สิ่งที่เห็นลูกไก่ขาถ่าง (Splayed legs) ที่โรงฟักอาจพบได้น้อยมาก ตามปรกติไม่ควรเกินกว่าร้อยละ ๐.๓๕ ถึง ๐.๕ แต่อาจเพิ่มขึ้นในบางกรณี ลูกไก่ที่พบภาวะนี้อาจเกิดขึ้นทั้งสองข้าง หรือข้างเดียว ขาชี้ออกด้านข้างจากข้อต่อสะโพก และไม่สามารถยืนได้เอง บางครั้ง ปัญหาไปปรากฏที่ฟาร์ม และเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของการคัดทิ้งระหว่างสามสัปดาห์แรก
               สภาวะดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับความชื้นที่สูงระหว่างการฟัก แต่ผลการวิจัย บ่งชี้ว่า อุณหภูมิที่สูงระหว่างช่วงสุดท้ายของพัฒนาการตัวอ่อนเป็นสาเหตุใหญ่ ปัญหาขาถ่างพบได้ในลูกไก่แรกฟักต้องยืนอยู่บนพื้นที่ลื่นไม่มั่นคง อุณหภูมิที่สูงระหว่างการบ่มยังมีผลกระทบอย่างมากต่อปัญหาขาถ่าง เนื่องจาก ส่งผลต่อพัฒนาการของกระดูก เอ็น และกล้ามเนื้อ และเมตาโบลิซึมของต่อมไทรอยด์   
               ตัวออ่นอาจเกิดความเครียดจากความร้อนในโรงฟักเชิงพาณิชย์ เนื่องจาก การออกแบบระบบการบ่ม และการฟัก ทำให้การไหลเวียอากาศไม่เพียงพอรอบฟองไข่ในบางตำแหน่ง บางครั้ง การระบายอากาศที่ลดลงระหว่างการบ่ม และเวลาการฟักที่ยืดยาวผิดปรกติ ๑๒ ถึง ๒๔ ชั่วโมงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดจากความร้อน เหนี่ยวนำให้เกิดอุบัติการณ์ลูกไก่ขาถ่างได้

การพัฒนากล้ามเนื้อ (Muscle development)
               ลูกไก่ที่เผชิญหน้ากับอุณหภูมิการบ่มที่สูงขึ้นทำให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ไม่สามาถยืนขึ้นได้เมื่อฟักออกเป็นตัว เนื่องจาก ไกลโคเจนสำรองในกล้ามเนื้อที่ลดลง และเส้นใยกล้ามเนื้อบางลงกว่าปรกติ อุณหภูมิการฟักที่เพิ่มขึ้นกระตุ้นการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ความต้องการออกซิเจนผ่านรูเปลือกไข่สูงขึ้นอย่างมาก ตัวอ่อนลูกไก่จึงเปลี่ยนจากการใช้ลิปิดในไข่แดงที่ต้องการออกซิเจนไปใช้แหล่งพลังงานสำรองจากไกลโคเจนที่เก็บไว้ในกล้ามเนื้อ กระบวนการเผาผลาญไกลโคเจนไม่ต้องการออกซิเจน แต่สร้างกรดแลกติกขึ้นมาเป็นผลพลอยได้ ในสภาวะกรดขัดขวางการหดตัว และเมตาโบลิซึมของกล้ามเนื้อ ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสภาวะความเป็นกรดได้ตามปรกติ การสะสมของกรดแลกติกเป็นปัจจัยสำคัญทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า บางครั้งเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง และทำให้ตัวอ่อนตายช่วงท้ายของการฟักไข่ แต่บ่อยครั้ง ลูกไก่ที่ประสบกับปัญหาร้อนเกินฟักออกเป็นตัวได้ แต่จะแสดงอาการเฉื่อยชา และเซื่องซึม ไม่ค่อยอยากเดินเข้าหาอาหาร และน้ำ และขาดอาหารที่ฟาร์มทำให้อัตราการตายสัปดาห์แรกสูงขึ้น

การพัฒนาเส้นเอ็น (Tendon development)
               นักวิจัยยังพบว่า สภาวะการบ่มมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาเส้นเอ็น ความแข็งแรงของเส้นเอ็นมีความสำคัญมากต่อการเคลื่อนที่อย่างเหมาะสมในสัตว์ปีกทุกชนิด โดยเฉพาะ ไก่งวง
ความแข็งแกร่งของโครงสร้าง และการทำหน้าที่ทางกายภาพของเส้นเอ็นขึ้นกับการจัดเรียงอย่างถูกต้องของเส้นใยคอลลาเจนชนิดที่ ๑ ระหว่างการเจริญเติบโตของตัวอ่อน เส้นใยคอลลาเจนโดยทั่วไปจะหนาขึ้นตามอายุ และการออกกำลังกาย เอ็นประกอบด้วยโปรตีโอไกลแคนหลายชนิด โดยเฉพาะ ดีโคริน (Decorin) มีหน้าที่ควบคุมการสร้างองค์ประกอบของเอ็นโดยจำกัดการสร้างเส้นใยคอลลเจน และการจัดเรียงทิศทางของเส้นเอ็นโดยอาศัยความเค้นแรงดึง ผลการวิจัยประเมินโปรคอลลาเจนชนิดที่ ๑ และดีคอลลินด้วยเทคนิคอิมมูโนฮิสโตเคมีในเส้นเอ็นกาสตร๊อกนีเมียสของไก่ที่ถูกบ่มภายใต้อุณหภูมิที่เปลือกไข่ตามมาตรฐาน ๓๗.๖ องศาเซลเซียส หรือภายใต้สภาวะผิดปรกติ อุณหภูมิที่เปลือกไข่ต่ำ ๓๖ องศาเซลเซียสระหว่าง ๗ วันแรก และอุณหภูมิที่เปลือกไข่ต่ำ ๓๙ องศาเซลเซียสระหว่าง ๗ วันสุดท้าย พบว่า เส้นใยคอลลาเจนบางลงในไก่ที่มาจากกระบวนการฟักที่ผิดปรกติตั้งแต่เมื่อฟักเป็นตัว ที่อายุ ๔ ๑๔ และ ๒๑ วัน ตามลำดับ

การพัฒนากระดูก (Bone development)
               การพัฒนากระดูกในสัตว์ปีกอาจได้รับผลกระทบโดยกระบวนการฟัก การสร้างโครงสร้างแมทริกซ์ของคอลลาเจนในกระดูกเริ่มขึ้นระหว่างการฟักช่วงแรก นักวิจัยแสดงให้เห้นว่า กระดูกของสัตว์ปีกเริ่มต้นกระบวนการสร้างกระดูก (Ossification) เช่น การแสดงออกของคอลลาเจนชนิด เอ็กซ์ การปรากฏของเอนไซม์อัลคาไลน์ ฟอสฟอเตส และการแสดงออกของเอนไซม์เมตัลโลโปรตีเนส ตั้งแต่ที่อายุ ๑๖ วันของการฟักในไก่เนื้อ และ ๑๘ วันของการฟักในไก่งวง รายงานผลการวิจัยอีกฉบับ พบว่า การสร้างกระดูกยาวในไก่งวงเริ่มต้นตั้งแต่ตัวอ่อนอายุ ๑๒ วัน และมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นภายหลังการฟักเป็นเวลา ๒๐ วัน หรือหนึ่งสัปดาห์ก่อนฟักเป็นตัว ปัจจัยหลายประการที่ควบคุมกระบวนการสร้างกระดูกอ่อนที่เรียกว่า เอนโดคอนดรัล ออสซิฟิเคชัน (Endochondral ossification) ของกระดูกยาวที่อาจได้รับผลกระทบจาการฟัก โดยเฉพาะในระหว่างระยะพลาโต (plateau stage) ของการใช้ออกซิเจน หรือ ๓ ถึง ๔ วันก่อนการฟัก เมื่อกระดูกมีอัตราการยืดยาวรวดเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหาการพัฒนากระดูกอาจมีสาเหตุจากสภาวะการบ่มที่ไม่เหมาะสมเพียงเล็กน้อยที่ระยะใดๆของการเจริญเติบโตตัวอ่อนก็ได้

               การเพิ่มจำนวน และการพัฒนาของเซลล์กระดูกอ่อนอาจได้รับผลกระทบโดยความเครียดจากอุณหภูมิระหว่างกระบวนการฟักได้ สภาวะที่ไม่เหมาะสมเพียงเล็กน้อยในตู้ฟักมีอิทธิพลโดยตรงต่ออุบัติการณ์ของโรคทิเบียล ดิสคอนโดรพลาเซีย (Tibial dyschondroplasia) หรือการเปลี่ยนแปลงของกระดูกยาวภายหลังการฟัก บ่อยครั้งที่สังเกตพบว่า การเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการกระดูกแข้งส่วนปลาย และการสร้างกระดูกคอนไดล์ที่ผิดปรกติที่ทำให้เกิดปัญหาขาบิด ในช่วงแรกของชีวิตคล้ายคลึงมากกับสภาวะขาถ่าง อุณหภูมิการบ่มส่งผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของการทำหน้าที่ ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ไอจีเอฟวัน และโกรธฮอร์โมน (Thyroid-IGF1-GH hormonal axis)” ที่ควบคุมพัฒนาการของเซลล์กระดูกอ่อนที่บริเวณแถบการเจริญเติบโตของกระดูก (Growth plate) และพัฒนาการของกระดูกทั่วไป นอกเหนือจากนั้น ลิปิด แร่ธาตุ และวิตามินในไข่แดงก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อการปรับรูปร่าง และการปรับรูปร่างใหม่ของกระดูก หากไข่แดงไม่ถูกดูดซึมระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว กระดูกจะม่สามารถได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการพัฒนากระดูกในระยะแรก

ความเครียดจากกระบวนการฟัก     
               ปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่อปัญหาขาถ่าง ซึ่งเป็นความไม่สมมาตรระหว่างขาข้างซ้าย และขวา เนื่องจากความเครียดจากการฟักไข่ ในการทดลองทั้งหมด สังเกตพบว่า ความเครียดจากขั้นตอนก่อนการฟักส่งผลต่อความไม่สมมาตรสัมพัทธ์ของพารามิเตอร์บางชนิดของกระดูกในไก่งวง และไก่ ความไม่สมมาตรสัมพัทธ์ระหว่างแขนขา และคุณลักษณะทางฟีโนไทป์ทั้งสองข้างสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการฟักไข่ที่ส่งผลต่อความเครียดระหว่างพัฒนาการของตัวอ่อนลูกไก่ ยิ่งความไม่สมมาตรของกระดูกสูงมากเท่าไรก็ยิ่งเชื่อมโยงต่อปัญหาการเคลื่อนที่ และทำให้คะแนนท่าเดินยิ่งแย่ลง ความไม่สมมาตรสัมพัทธ์เป็นพารามิเตอร์ที่ใช้สำหรับประเมินสวัสดิภาพสัตว์ แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงบ้างเกี่ยวกับความเพียงพอของพารามิเตอร์นี้สำหรับสวัสดิภาพสัตว์ในสัตว์ปีกโตเต็มวัยแล้ว ปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลต่อความไม่สมมาตรสัมพัทธ์ภายหลังการฟักไข่ แต่ดูเหมือนจะเป็นวิธีการประเมินสวัสดิภาพสัตว์ปีกที่แม่นยำสำหรับพัฒนาการตัวอ่อนลูกไก่ในไข่ฟัก

ความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์สัตว์ปีก
               บ่อยครั้งที่กล่าวถึงกันว่า มีความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์สัตว์ปีกต่อความชุกของปัญหาขา หรืออุบัติการณ์ของลูกไก่ขาถ่าง ผู้วิจัยประเมินรูปแบบของอุณหภูมิการบ่ม ๓ ลักษณะต่อสายพ่อแม่พันธุ์เพศเมีย ๓ สายในไก่งวงที่สายปู่ย่าพันธุ์เพศเมียมีการผสมข้ามกันกับสายปู่ย่าพันธุ์เพศผู้ ๓ สาย ด้วยวิธีนี้ คุณลักษณะด้านการให้ไข่คล้ายคลึงกัน แต่พันธุกรรมของตัวอ่อนมีความแตกต่างกัน รูปแบบของอุณหภูมิ ๓ ลักษณะ ได้แก่ รูปแบบของอุณหภูมิที่สูงขึ้น ปรกติ และต่ำลง ผลการทดลอง บ่งชี้ว่า ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างการฟัก และสายพันธุ์ต่อพัฒนาการของกระดูก คะแนนของความผิดปรกติการจัดท่ากระดูกเป็นมุมขากาง หรือหุบ (Valgus/varus angular deformities) อย่างไรก็ตาม รูปแบบการฟักส่งผลกระทบโดยตรงต่อพารามิเตอร์ต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพกระดูก และขา บ่งชี้ว่า โดยไม่ขึ้นกับสายพันธุ์ไก่ การฟักมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพขา รูปแบบอุณหภูมิการฟักที่สูงทำให้อุบัติการณ์ของลูกไก่ขาถ่างเมื่อฟักสูง โดยไม่ขึ้นกับสายพันธุ์ ลูกไก่ที่ฟักออกมาเกือบร้อยละ ๒๐ ที่รูปแบบอุณหภูมิการฟักสูงเกิดปัญหาขาถ่าง ผลบางประการของตัวอ่อนที่ผ่านการฟักที่อุณหภูมิสูงสังเกตได้ขณะฟักเป็นตัวปรากฏเป็นลูกไก่ขาถ่าง แต่อุณหภูมิที่สูงยังส่งผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ การใช้สารอาหาร โครงสร้างของตัวไก่ และสุขภาพของไก่ และไก่งวงโดยภาพรวม ลูกไก่ขาถ่างเป็นตัวบ่งชี้ว่า เกิดสภาวะความเครียดจากความร้อนแล้ว และจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาการจัดการเครื่องจักร หรือการจัดการโรงฟัก       
  
เอกสารอ้างอิง
Oviedo-Rondón EO and Wineland MJ. 2011. Incubation distress easily leads to splayed legs. [Internet]. [Cited 2011 Aug 23]. Available from: https://www.poultryworld.net/Breeders/Incubation/2011/8/Incubation-distress-easily-leads-to-splayed-legs-WP009251W/ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...