วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสารพิษเชื้อราในการเลี้ยงไก่แบบอินทรีย์

สารพิษจากเชื้อราส่งผลกระทบที่อันตรายมากต่อปศุสัตว์ โดยเฉพาะ การผลิตสัตว์ปีก สารพิษจากเชื้อราเป็นสาเหตุของรอยโรคที่ปาก ตับสีเหลือง รอยโรคที่กึ๋น และความอ่อนแอของผนังลำไส้ เป็นต้น ผู้ผลิตสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดของโลกส่วนใหญ่จะให้ความใส่ใจกับการเลือกสรรวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ เนื่องจาก ทราบดีว่า ความเป็นพิษของสารพิษจากเชื้อรามีผลต่อสุขภาพสัตว์ปีก และผลกำไร ยิ่งเมื่อมีการเลี้ยงสัตว์ปีกอินทรีย์ก็เป็นสิ่ที่ท้าทายต่อการผลิต
            ความท้าทายของด้านอุปสงค์ และอุปทานตามผลการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๔ โดยกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐฯ ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์เพิ่มขึ้น ๗๒ เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๐๘ เป็นต้นมา ความต้องการไก่เนื้อ ไก่งวง และไข่ไก่ ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO กำลังแข็งแกร่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี
การเติบโตภาคสัตว์ปีกอินทรีย์  
            ผู้ผลิตสัตว์ปีกที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO ในยุโรปกำลังขยายกำลังการผลิต การเลี้ยงสัตว์ปีกแบบอินทรีย์มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๐ ถึง ๒๐๑๔ การผลิตไก่เนื้อแบบอินทรีย์เติบโตประมาณ ๙๖ เปอร์เซ็นต์ ไข่ไก่อินทรีย์เติบโตประมาณ ๘๙ เปอร์เซ็นต์ และไก่งวงเติบโตประมาณ ๓๕ เปอร์เซ็นต์ แม้ว่า อุตสาหกรรมสัตว์ปีกจะมีการจัดการได้อย่างรวดเร็วมาก การกระจายสินค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ได้รับรอง และ non-GMO ยังมีการตอบสนองต่อปัญหาได้ค่อนข้างช้า
ข้าวโพดอินทรีย์มีปริมาณน้อย
            สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในปี ค.ศ. ๒๐๑๑ มีข้าวโพดอินทรีย์เพียง ๐.๒๖ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปัจจุบัน ๔ เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่จำหน่ายเป็นอาหารอินทรีย์ ขณะที่ ๐.๕ เปร์เซ็นต์ ของพื้นที่การผลิตในสหรัฐฯเท่านั้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ ด้วยข้อจำกัดของปริมาณการผลิตที่น้อย ผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องยอมรับวัตถุดิบที่เสื่อมคุณภาพ แตกหัก และไม่สมบูรณ์ไปบ้าง เมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เสีย และไม่สมบูรณ์มักประกอบด้วยเชื้อรา และสารพิษจากเชื้อราระดับสูง โดยเชื้อราชนิดที่ผลิตสารพิษจากเชื้อราส่วนใหญ่เป็นเชื้อราที่มาจากดิน สามารถมีชีวิต และทนทานอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นเวลานาน การเกษตรกรรมสมัยใหม่ เช่น การเพาะปลูกโดยไม่ต้องไถพรวนดิน พบว่า อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเชื้อรามีเพิ่มขึ้น การปรากฏของลำต้นใต้ดินของต้นข้าวโพด และส่วนที่ยังคลุมฝักอยู่ตั้งแต่เปลือกจนถึงแกนข้างในมักมีการติดเชื้อรา และทิ้งไว้ตามผิวดินจากปีหนึ่งสู่อีกปีหนึ่งกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราทำให้อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น การใช้ยาฆ่าเชื้อราอาจช่วยลดอุบัติการณ์ของเชื้อราฟิวซาเรียมในเมล็ดข้าวโพดได้ แต่การใช้ยาฆ่าเชื้อราไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับข้าวโพดอินทรีย์
การจัดการสารพิษจากเชื้อรา
            เพื่อปกป้องห่วงโซ่อาหาร องค์การอาหาร และยาสหรัฐฯ จำกัดระดับของสารพิษจากเชื้อราในอาหาร และอาหารสัตว์ การเตือนภัยอาหารโดยสมาคมเมล็ดวัตถุดิบ และอาหารสัตว์ เตือนให้ผู้ผลิตทุกรายตระหนักถึงระดับการปนเปื้อนที่ยอมรับได้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอินทรีย์ โดยระดับดังกล่าว ผู้ผลิตอินทรีย์ต้องมีการจัดการความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อรา และเครื่องมือสำหรับคุ้มครองสุขภาพทางเดินอาหาร   
            กลยุทธการจัดการ และดำเนินการตลอดทั้งโปรแกรมมีความจำเป็นต่อการป้องกันการประสบปัญหาสารพิษจากเชื้อรา โดยตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานที่ได้รับการรับรองสำหรับอุตสาหกรรมสำหรับการเก็บตัวอย่าง และส่งตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการทดสอบที่มีมาตรฐานสูงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตามด้วยการตรวจติดตามโรงงานอาหารสัตว์เป็นประจำเพื่อขจัดปัญหาการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตในโรงงานอาหารสัตว์ การควบคุมสารพิษจากเชื้อราในระบบการผลิตแบบอินทรีย์ในอาหารเพื่อป้องกันผลกระทบของสารพิษจากเชื้อรายังเป็นประโยชน์ต่อผลผลิตโดยภาพรวมอีกด้วย

เอกสารอ้างอิง
Reyes M. 2017. Mycotoxins: A major worry for organic poultry. [Internet]. [Cited 2017 Aug 15]. Available from: http://www.poultryworld.net/Nutrition/Partner/2017/8/Mycotoxins-A-major-worry-for-organic-poultry-171071E/

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หวัดนกโจมตีอิตาลี ๑ ปีมีห้าสิบครั้ง

นับตั้งแต่รายงานโรคไข้หวัดนกครั้งแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีได้รายงานการรระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงเป็นครั้งที่ ๕๐ แล้ว ขณะที่ เหยื่อรายใหม่ล่าสุดพึ่งยืนยันในแอฟริกาใต้ และไต้หวัน
               การระบาดครั้งใหม่เจ็ดครั้งของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง (HPAI) จากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๘ มีจำนวนสัตว์ปีกที่เกิดโรคมากกว่า ๗๗๖,๐๐๐ ตัว โดยหน่วยผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นฟาร์มไก่ไข่ที่มีไก่เกือบ ๗๔๓,๐๐๐ ตัวในจังหวัดเฟอร์ราราในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา และมีการระบาดอีก ๔ ครั้งในแคว้นเวเนโต้ที่มีฝูงไก่ไข่เล็กๆ ๒ แห่ง ไก่งวงเนื้อ และกลุ่มสัตว์ปีกหลายชนิดรวมกันอีก ๑ ฝูง ในแคว้นลอมบาร์ดีก็มีฝูงไก่งวง และสัตว์ปีกหลังบ้านที่ยืนแล้วว่ามีการติดเชื้อด้วยเช่นกัน
               ข้อมูลล่าสุดจากองค์กรสุขภาพ และวิจัยอิตาลีสำหรับสุขภาพสัตว์ และความปลอดภัยอาหาร (Italian health authority and research organization for animal health and food safety, IZSVe) อ้างว่า มีการระบาดอีก ๒ ครั้งเพิ่มขึ้นอีก เป็นอันว่ารวมแล้วมีการระบาดครึ่งร้อยไปแล้วในปีนี้ปีเดียว IZSVs รายงานว่า HPAI จากสับไทป์ H5 ถูกตรวจพบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในฝูงสัตว์ปีกอีก ๒ ฝูงในแคว้นลอมบาร์ดี นก ๒๐ ตัวที่ย่านเกษตรกรรมในจังหวัดเบอร์กาโม และฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๖,๕๐๐ ตัวในเมืองมอนโตวา เจ้าหน้าที่กำลังพยายามสืบเสาะหาเชื้อไวรัสที่ก่อโรค ทำลายสัตว์ป่วยอย่างมีมนุษยธรรม ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อฟาร์ม
ฮังการี รัสเซียประกาศปลอดโรค
               กระทรวงเกษตรฮังการีรายงานล่าสุดไปยังโอไออี การระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ รวม ๑๓ ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ๒๐๑๖ และมีนาคมปีนี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีการตรวจพบโรคเพิ่มเติม ดังนั้น จึงประกาศปลอดโรค เช่นเดียวกับรัสเซียก็ไม่มีการระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในรัสเซียตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
แอฟริกาใต้ระบาดเพิ่มอีก     
               ผ่านมา ๖๗ สัปดาห์ จำนวนครั้งของการระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ในแอฟริกาใต้รวมแล้ว ๗๙ ครั้ง รวมถึง ๗ ครั้งในฟาร์มสัตว์ปีก ๖ ครั้งในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดเคปทาวน์ตะวันตก รวมแล้วกว่า ๔๒๘,๐๐๐ ตัวแล้ว ฟาร์มแห่งหนึ่งมีไก่ ๑๗๖,๐๐๐ ตัว ตายไปเสีย ๑๐๐,๐๐๐ ตัว และฟาร์มขนาด ๕๐,๕๐๐ และ ๒๐๐,๐๐๐ ตัว แถมยังมีฟาร์มนกกระจอกเทศ และสัตว์ปีกหลังบ้านติดเชื้ออีกด้วย เชื้อไวรัสชนิดเดียวกันนี้ยังระบาดในสวนสัตว์อีก ๕ ครั้งในเคปทาวน์ และโยฮันเนสเบิร์ก สัตว์ปีกเลี้ยงเป็นงานอดิเรก ๒ แห่ง และห่านป่าอีกฝูง เรียกว่า โดนกันทั่วหน้าอ่วมกันทั้งประเทศ


เอเชียพบระบาดในไต้หวัน และเกาหลีใต้   
               ไต้หวัน ยังคงตั้งป้อมต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกหลายสับไทป์พร้อมกันนับตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๑๕ เป็นต้นมา โดยมีการเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างล่าสุดยังพบเชื้อไวรัสสับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๒ ในไก่พื้นเมือง และเป็ดที่ตำบล Yunlin และฟาร์มเป็ดใน Changhua แถมยังพบสับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ในเป็ดที่ Yunlin และ Pingtung   
               อินเดีย ไม่พบการระบาดใหม่จากสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯได้ประกาศปลอดโรคต่อโอไออีเรียบร้อยแล้ว
               ฟิลิปปินส์ เผชิญกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกหลายฉากตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมา แต่เวลานี้ใกล้จะฟื้นแล้วสังเกตจากราคาไก่หน้าฟาร์มเริ่มกลับสู่ระดับราคาก่อนหน้าการระบาดของโรค ภายหลัง ผู้บริโภคเสียความมั่นใจต่ออาหารจานไก่ อย่างไรก็ตาม การผลิตก็ยังไม่กลับสู่ปรกติใน Pampanga และ Nueva Ecija ซึ่งเป็นจุดที่มีการระบาดของโรค
              เกาหลีใต้ หลังจากโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำตรวจพบในเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลเกาหลีประกาศว่า เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ ตรวจพบในมูลนกป่าใน Seosan รัฐบาลใช้มาตรการกักกันสัตว์รอบบริเวณพื้นที่ระบาดในตอนกลางของเกาหลีใต้ และกำลังตรวจประเมินความรุนแรงของเชื้อไวรัส  
               จีน ไม่พบผู้ป่วยนับตั้งตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา พระเอกตัวจริงในมหากาพย์ไข้หวัดนก เอช ๗ เอ็น ๙ ก็ประสบความสำเร็จแล้วในวันที่ ๑๕ กันยายนที่ผ่านมา เมื่อไม่มีผู้ป่วยเพิ่มเติมอีก จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมแล้ว ๑,๕๖๔ ราย ในจำนวนนี้เป็น ๗๖๖ ราย จากการระบาดระลอกที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ค.ศ.๒๐๑๖ จนถึง ๓๐ กันยายน ค.ศ.๒๐๑๗ เกือบทั้งหมดรวม ๗๕๘ รายมาจากพระเอกตัวจริง มังกรจีน นั่นเอง
เอกสารอ้างอิง


วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยาฆ่าแมลงตกค้าง ฟิโปรนิลในบรั่นดีเยอรมัน

ตรวจพบฟิโปรนิลในผลิตภัณฑ์จากเยอรมันมากมายที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งผลิตภัณฑ์เบเกอรี และเครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ยอดนิยมในเยอรมัน โดยมีส่วนผสมของไข่เป็นองค์ประกอบ
การสอบย้อนกลับสารตกค้างฟิโปรนิลยังตรวจพบในผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิดที่มีส่วนประกอบของไข่ในเยอรมันทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ใช้บรั่นดีมิกซ์กับไข่แดงนามว่า “Advocaat” มึนเมากันทีเดียวพร้อมกันทั้งสุราเมรัย และยาฆ่าแมลง เริ่มมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของไข่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่เยอรมันสันนิษฐานว่าน่าจะมีผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มมากกว่า ๘๐๐ รายการที่มีโอกาสปนเปื้อน หน่วยงานความปลอดภัยอาหารในเยอรมัน และยุโรปได้เตือนภัยสารตกค้างฟิโปรนิลไว้ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เมื่อไข่ไก่จากผู้ผลิต ๗ รายในเนเธอร์แลนด์เรียกสินค้าคืน ภายหลังการตรวจพบสารตกค้างฟิโปรนิล ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงที่ผิดกฏหมายสำหรับการใช้ในฟาร์มสัตว์ปีก ในเวลาต่อมา การเรียกคืนสินค้ายังขยายวงกว้างไปยังผู้ผลิตอีกหลายร้อยราย และยังตรวจพบในอีกหลายประเทศ โดยบัลกาเรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายงานการพบสารตกค้างฟิโปรนิลมากที่สุด ในเดือนกันยายน ไข่ไก่ราว ๒๑๕,๐๐๐ ฟอง ถูกสอบย้อนกลับได้ว่ามีการตกค้างของฟิโปรนิลจากทั้งโรงเก็บไข่ไก่ และร้านค้าในเมือง Plovdiv เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสองของประเทศ มีการจับกุมผู้ต้องหา ๒ รายที่พัวพันกับการตกค้างของฟิโปรนิล
คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสุขภาพ และความปลอดภัยอาหารนาม Vytenis Andriukaitis เรียกร้องให้นำผู้ต้องหาขึ้นศาล ยุโรปยังคงหวาดระแวง และจะไม่ยอมทนต่อการดำเนินการกับคนเพียงไม่กี่คนที่ไม่ซื่อสัตย์ ชื่อเสียง และความมั่นคงตลอดวงจรการผลิตอาหารเป็นหนึ่งในเสาเค้าจุนเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่เยอรมันอ้างกว่า ระดับของสารตกค้างในไข่ไก่ที่ตรวจพบเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ยังไม่สูงเพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่ แต่มีความเสี่ยงสำหรับเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวโทษรัฐบาลว่าพยายามปกปิดรายงานว่า ยาฆ่าแมลงถูกตรวจพบในผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่มีส่วนผสมของไข่ รัฐบาลปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตรวจพบฟิโปรนิลที่ระดับสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกสินค้าคืนครั้งมโหฬาร ที่อาจพลิกทำลายอุตสาหกรรมอาหารได้ภายในพริบตา และป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในเดือนกันยายน
เอกสารอ้างอิง

ภาพที่ ๑     เครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ใช้บรั่นดีมิกซ์กับไข่แดง Advocaat” ปนเปื้อนด้วยยาฆ่าแมลงผิดกฏหมายฟิโปรนิล (แหล่งภาพ: Naltik, Bigstock)

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

วิจัยเชื้อราในไส้ตันไก่

เชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคอาหารเป็นพิษในมนุษย์ แต่ละปีทั่วโลกต้องลงทุนใช้เงินหลายหมื่นล้านบาทเพื่อควบคุมเชื้อเหล่านี้ และกลยุทธสำคัญส่วนใหญ่ก็มีเป้าหมายที่เชื้อแบคทีเรียก่อโรคเหล่านี้ในทางเดินอาหาร
กลยุทธ์ในการป้องกันเชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ในการผลิตไก่เนื้อ รวมถึง การใช้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในรูปของซีอี หรือโปรไบโอติก แต่ก็ยังมีเชื้อชนิดอื่น เช่น รา และยีสต์ ที่มีฤทธิ์ป้องกัน และควบคุมเชื้อก่อโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน
บทบาทของเชื้อรา และยีสต์ ยังไม่ทราบแน่ชัด
               เชื้อรา และยีสต์ เป็นจุลินทรีย์ไมโคฟลอราที่นักวิชาการยังไม่เข้าใจว่า มีความสัมพันธ์กับการผลิตสัตว์ปีกอย่างไรได้บ้าง เชื้อเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้ อย่างไรก็ตามก็มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า เชื้อราก็สามารถป้องกันสัตว์ปีกจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นเดียวกัน นักวิชาการทั่วโลกมักมองข้ามบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   
การปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน
               การศึกษาผลของเชื้อราที่เป็นประโยชน์ กับการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันภายใต้สภาวะการเลี้ยงไก่ปรกติ ความเครียด และการเกิดโรค ปัญหาประการหนึ่งในการทำงานวิจัยกับเชื้อราคือ การจำแนกจีนัส และชนิดของเชื้อรา เนื่องจาก ห้องปฏิบัติการเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีความสนใจเชื้อรา และยีสต์ ดังนั้น เป้าหมาของการศึกษาครั้งนี้คือ การจำแนกเชื้อราที่แยกได้จากทางเดินอาหารของไก่เนื้อ และไก่ไข่ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราที่พบในไส้ตันของสัตว์ปีก แล้วใช้เทคนิค Automated repetitive sequence PCR เป็นเครื่องมือสำหรับการจำแนกชนิดกลุ่มประชากรเชื้อรา ผลการวิจัยครั้งนี้จะให้ข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราภายใต้ระบบการเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะป็นสิ่งสำคัญสำหรับการศึกษาผลของเชื้อราต่อทางเดินอาหาร และสุขภาพสัตว์ปีกต่อไป
เอกสารอ้างอิง
J. Byrd A, Caldwell DY, and Nisbet DJ. 2017. Identifying fungi in commercial poultry caeca. [Internet]. [Cited 2017 Oct 2]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/10/Identifying-fungi-in-commercial-poultry-caeca-191500E/


ภาพที่ ๑  นักวิชาการกำลังสนใจบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   (แหล่งภาพ: Koos Groenewold)

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การทำให้น้ำเป็นกรดส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ไก่โตดี ลดการใช้ยา

น้ำที่ถูกเตรียมให้เป็นกรดเป็นกุญแจส่วนหนึ่งของการกำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ปเป็นประโยชน์ และสุขภาพของสัตว์ปีก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือสมดุลของชีวิตที่ถูกต้อง
               น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง ระดับของความสะอาด และสุขอนามัยมีอยู่หลายมาตรฐาน คนส่วนใหญ่คิดว่า เมื่อน้ำที่สกปรก สังเกตได้ความขุ่น และการปนเปื้อนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วน้ำที่ดูใสก็อาจซ่อนอันตรายไว้ได้เช่นกัน
คุณภาพน้ำ พื้นฐานสำคัญสำหรับสุขภาพสัตว์
               ตามปรกติ ไก่กินน้ำเป็นสองเท่าของอาหาร ดังนั้น น้ำจึงมีบทบาทสำคัญต่อการย่อยอาหาร การเคลื่อนย้ายสารอาหาร การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และการกำจัดของเสียจากร่างกาย น้ำมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพไก่ และผลการเลี้ยงฟาร์ม
               กุญแจสำคัญ ๒ ประการสำหรับการทำความสะอาดน้ำในฟาร์ม ได้แก่
               ๑. การทำความสะอาดฆ่าเชื้อหลังจบรุ่น (Terminal hygience at turnaround)
               ๒. บำบัดน้ำโดยใช้กรดอินทรีย์ (Ongoing water treatments like organic acids)
ภายหลังการจับไก่
               เกษตรกรมีการฟลัชล้างระบบน้ำทุกรุ่นหลังการจับไก่อยู่แล้ว แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กิจกรรมประจำรุ่นประสบความสำเร็จ ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แค่เพียงอ่านคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แล้วปฏิบัติตาม คนส่วนใหญ่คิดเพียงว่าปล่อยทิ้งไว้ในท่อให้นานขึ้นก็ช่วยให้ได้ผลดีแล้ว แต่สิ่งนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป น้ำยาทำความสะอาดสามารถทำลายไบโอฟิลม์ตามท่อได้ในช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ไบโอฟิลม์สามารถจับตัวกันใหม่จนกระทั่งยากที่จะฟลัชล้างออกไปได้ 
ไบโอฟิลม์คืออะไร และกำจัดได้อย่างไร
               ไบโอฟิลม์คือกลุ่มของเชื้อแบคทีเรีย รา และสาหร่ายที่จับรวมเข้าด้วยกันเป็นเมือกเกาะแน่นบนพื้นผิว และปกป้องไม่ให้สารต้านเชื้อแบคทีเรียทำลายได้ ดังนั้น เชื้อดังกล่าวก็จะสามารถเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้ 
               น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้กรดเปอร์อะเซติกมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไบโอฟิลม์ ขณะที่ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้ผลดีในการกำจัดไบโอฟิลม์ และสารอินทรีย์ แต่ไม่ว่าจะใช้น้ำยาเคมีประเภทใดก็ให้ปฏิบัติตามฉลากข้างขวด อย่างไรก็ตาม หากเชื้อแบคทีเรียระดับสูง ความเข้มข้นระดับ ๑ เปอร์เซ็นต์อาจไม่เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อได้ อาจต้องเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ ๒ ถึง ๓ เปอร์เซ็นต์ ให้ทบทวนกิจกรรมที่ได้ทำมาในรุ่นที่ผ่านมา หากมีการตรวจน้ำทางห้องปฏิบัติการ และไม่พบเชื้อใดๆที่น่าวิตกกังวล การใช้น้ำยาทำความสะอาดความเข้มข้นเพียง ๑ เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอ แต่ถ้ามีการให้ยา และวิตามินบ่อย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสารตกค้างคงอยู่ในท่อก็ควรจะเพิ่มความเข้มข้นน้ำยาทำความสะอาดขึ้นอีกสักหน่อย
การตรวจคุณภาพน้ำ
               คุณภาพน้ำจะมีผลต่อสุขภาพไก่ในโรงเรือนมากเท่าไรก็ขึ้นกับว่า ไก่กินน้ำเข้าไปมากเท่าไร โดยเฉพาะ พีเอช อาจส่งผลต่อรสชาด และการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียก่อโรคชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นด่าง ขณะที่ เชื้อแบคทีเรียที่ดีชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นกรด น้ำที่มีระดับพีเอชสูงยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ และวัคซีน ขณะที่ น้ำที่มีกรดมากเกินไปก็อาจทำให้ไก่ไม่ยอมกินน้ำ และกัดกร่อนอุปกรณ์การเลี้ยงในโรงเรือนได้อีกด้วย
ระดับพีเอชที่เหมาะสม
               พีเอชที่เหมาะควรอยู่ระหว่าง ๕ ถึง ๖ น้ำกระด้างต้องมีการบำบัดมากกว่าน้ำอ่อน ถ้าใช้น้ำบาดาลก็ควรตรวจวิเคราะห์เป็นประจำทุก ๖ ถึง ๑๒ เดือน เพื่อทำความเข้าใจแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อให้มากขึ้น เนื่องจาก ระดับของแร่ธาตุส่งผลกระทบต่อสุขภาพไก่ได้โดยตรง เช่น น้ำที่มีระดับโซเดียม และคลอไรด์สูงอาจทำให้วัสดุรองพื้นเปียกได้ เช่นเดียวกับแมกนีเซียม และซัลเฟต หรือซัลเฟต และโซเดียม เพียงใช้แผ่นดิปสติ๊กง่ายๆ หรืออุปกรณ์พกพาตรวจพีเอชของน้ำในท่อน้ำไก่กินอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้เรามีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของแร่ธาตุในแหล่งน้ำได้
อุปกรณ์บำบัดน้ำ
               อุปกรณ์บำบัดน้ำกระด้างให้เป้นน้ำอ่อนใช้หลักการของการแลกเปลี่ยนไอออนเพื่อกำจัดไอออนของแคลเซียม และแมกนีเซียม แล้วแทนที่ด้วยไอออนของโซเดียม อย่างไรก็ตาม ภายหลังการบำบัดก็จะทำให้ระดับของโซเดียมสูงขึ้นจนไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้น ผู้ผลิตควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์บำบัดน้ำอย่างรอบคอบ
ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
               เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อตัวของไบโอฟิลม์ไปจนตลอดรุ่นการเลี้ยง พิจารณาเลือกวิธีการบำบัดน้ำที่เหมาะสม ได้แก่ การกรองด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต น้ำอิเล็กโทรไลต์ คลอรีนไดออกไซด์ และคลอรีนเม็ด การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถใช้ขณะที่ยังมีการเลี้ยงไก่ในโรงเรือนในระดับที่ต่ำกว่าที่ใช้เวลาจับไก่ และได้ผลเป็นอย่างดีภายหลังการให้วิตามิน เกลือแร่ หรือยา   
กรดอินทรีย์
               ผู้ผลิตควรพิจารณากรดอินทรีย์ เพ่อเป็นแหล่งอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร เราไม่ต้องการเชื้อแบคทีเรียชนิดใดๆในน้ำที่อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ไก่มีความเสี่ยงภัยต่อสุขภาพ กรดอินทรีย์มีประโยชน์สำคัญ ๓ ประการ
               ๑. กรดอินทรีย์ช่วยทำความสะอาดน้ำ
               ๒. กรดอินทรีย์ช่วยลดตะกรันหินปูน
               ๓. กรดอินทรีย์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร
การลดพีเอชด้วยกรดอินทรีย์
               กรดอินทรีย์ลดพีเอชของน้ำ เมื่อใช้ร่วมกับสารทำความสะอาดชนิดอื่นๆ เช่น คลอรีน พีเอชที่เหมาะสมคือ ๕.๕ อย่างไรก็ตาม หากใช้กรดอินทรีย์อย่างเดียว ผู้ผลิตควรลดพีเอชลงให้ได้ระหว่าง ๓.๘ ถึง ๔.๒ เพื่อให้มีฤทธิ์กำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคจากน้ำ ไก่ชอบน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด และค่อนข้างทนทานต่อกรด แต่หากระดับพีเอชต่ำลงกว่า ๓.๕ ก็จะทำลายผนังลำไส้ได้เช่นกัน
การใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้
               สิ่งสำคัญในการใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะผ่านไปถึงลำไส้ในรูปแบบที่สมบูรณ์ กรดทำงานในลำไส้โดยผ่านผนังเซลล์ของแบคทีเรียจากนั้นจึงแตกตัว และลดพีเอชภายในเซลล์แบคทีเรีย เซลล์จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อพยายามปรับพีเอชไว้ ทำลายเมตาโบลิซึมของแบคทีเรีย และป้องกันแบคทีเรียก่อโรคมิให้รอดชีวิตต่อไป หากกรดไม่ถูกเคลือบป้องกันไว้ก็จะถูกทำละลายก่อนที่จะไปถึงลำไส้ และไม่สามารถออกฤทธิ์ต่อไปได้
               ชนิดของกรดอินทรีย์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายได้แก่ กรดฟอร์มิก และกรดโพรพิโอนิก มีประสิทธิภาพดีในการควบคุมเชื้อ อี. โคไล และซัลโมเนลลา ขณะที่ กรดแลคติก และกรดบิวไทริก มีความสำคัญต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแลคโตบาซิลลัสในลำไส้
ระบบการเติมยาอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
               กรด คลอรีน และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยอื่นๆ อาจเป็นอันตรายหากขาดความระมัดระวัง การลงทุนติดตั้งระบบการเติมยาอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคอยให้พนักงานคอยเติม และตวงชั่งด้วยมือ จะทำให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ประกอบการว่า สัตว์ปีกในโรงเรือนได้รับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในระดับที่ถูกต้องไปจนตลอดวงจรการเลี้ยง  การเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารที่ดีเพิ่มเติมได้โดยการใช้โปรไบโอติกในน้ำ หรืออาหาร เพื่อส่งเสริมความแข็งแรง และการทำหน้าที่ของภูมิคุ้มกัน
               การใช้ยาฆ่าเชื้อในน้ำอย่างต่อเนื่องจะทำลายโปรไบโอติกส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงต้องหยุดใช้น้ำยาฆ่าเชื้อระหว่างการใช้โปรไบโอติก อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกในสหราชอาณาจักรที่ทนทานต่อคลอรีนได้
กรณีตัวอย่าง การใส่ใจต่อน้ำให้ผลผลิตที่ดี
               ฟาร์มไก่เนื้อที่มีปัญหาสุขภาพต่อเนื่องทุกรุ่น จำนวน ๕๔๒,๐๐๐ ตัว เริ่มบำบัดน้ำอย่างเข้มงวดเป็นเวลา ๓ ปีจากน้ำบ่อที่ใช้ในฟาร์ม มีการตรวจสอบเป็นประจำทุก ๖ เดือน และฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเล็ต น้ำมีระดับแมงกานีส เหล็ก และซัลเฟตสูง ดังนั้น จึงใช้รีเวิร์สออสโมซิสเพื่อกำจัดสารเหล่านี้ สุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่สุขอนามัยของน้ำมักถูกมองข้ามไป
               เมื่อจบการเลี้ยงแต่ละรุ่นก็มีการฟลัชล้างทุกไลน์น้ำ รวมถึง ท่อน้ำใต้ดินไหลออก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาศัยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ทิ้งไว้เป็นเวลา ๑๒ ชั่วโมงก่อนฟลัชทิ้งด้วยน้ำสะอาด แล้วทำซ้ำก่อนที่ลูกไก่รุ่นใหม่จะนำเข้ามาเลี้ยง จากนั้นใช้คลอรีน และกรดอินทรีย์เติมลงในน้ำโดยใช้ระบบการเติมยาอัตโนมัติช่วยปรับพีเอชลดลงจาก ๗.๔ ให้เป็น ๕.๒ ด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อย ผู้เลี้ยงก็จะได้ประโยชน์จากสุขภาพของลำไส้ที่ดี ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาวัสดุรองพื้นเสีย เมื่อไก่จับเข้าโรงฆ่าก็มีคะแนนรอยโรคของเท้าที่ดีมาก การทำความสะอาดไลน์น้ำ และอุปกรณ์การให้น้ำก่อนที่จะเกิดเมือกขึ้นมาเป็นการตัดปัญหาการเกิดไบโอฟิลม์  
น้ำสะอาดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เราใช้ในการเลี้ยงไก่ เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนของมวลร่างกายไก่ส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำ
โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์
               การใช้โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร และภูมิคุ้มกันในไก่ที่อายุ ๓ สัปดาห์เป็นเวลาที่ไก่กำลังเปลี่ยนสูตรอาหารสัตว์ บางฟาร์มกำลังให้วัคซีนกัมโบโร และเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต สภาวะดังกล่าวที่สร้างความเครียดต่อสุขภาพทางเดินอาหาร น้ำมันหอมระเหยช่วยสร้างความสมดุลให้กับลำไส้ และลดการรั่วไหลของแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด สามารถยับยั้งการเกาะยึดของเชื้อ อี. โคลัย ที่ฟิมเบรีย ตั้งแต่ลูกไก่แรกเลี้ยงอายุ ๑ วัน ช่วงเวลาการเลี้ยงไก่เล็กค่อนข้างสั้น ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมน้ำที่สะอาด และมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อมิให้เชื้อแบคทีเรียก่อโรคฉวยโอกาสเข้าไปในร่างกายของสัตว์ตั้งแต่ระยะแรก นอกจากนั้น ผลประโยชน์อื่นๆยังช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้เป็นอย่างมาก นั่นคือ การอยู่บนพื้นฐานของการป้องกันมากกว่าการคอยรักษาสัตว์ป่วย

เอกสารอ้างอิง

Cooper O. 2017. How acidification of water improves gut health. [Internet]. [Cited 2016 Sep 19]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/9/How-acidification-of-water-improves-gut-health-186304E/

ภาพที่ ๑  น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง (แหล่งภาพ: Tim Scrivener)

ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...