สารพิษจากเชื้อราส่งผลกระทบที่อันตรายมากต่อปศุสัตว์
โดยเฉพาะ การผลิตสัตว์ปีก สารพิษจากเชื้อราเป็นสาเหตุของรอยโรคที่ปาก ตับสีเหลือง
รอยโรคที่กึ๋น และความอ่อนแอของผนังลำไส้ เป็นต้น
ผู้ผลิตสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดของโลกส่วนใหญ่จะให้ความใส่ใจกับการเลือกสรรวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ
เนื่องจาก ทราบดีว่า ความเป็นพิษของสารพิษจากเชื้อรามีผลต่อสุขภาพสัตว์ปีก
และผลกำไร ยิ่งเมื่อมีการเลี้ยงสัตว์ปีกอินทรีย์ก็เป็นสิ่ที่ท้าทายต่อการผลิต
ความท้าทายของด้านอุปสงค์
และอุปทานตามผลการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๔ โดยกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐฯ
ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์เพิ่มขึ้น ๗๒ เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๐๘ เป็นต้นมา
ความต้องการไก่เนื้อ ไก่งวง และไข่ไก่ ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO
กำลังแข็งแกร่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี
การเติบโตภาคสัตว์ปีกอินทรีย์
ผู้ผลิตสัตว์ปีกที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO
ในยุโรปกำลังขยายกำลังการผลิต
การเลี้ยงสัตว์ปีกแบบอินทรีย์มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก นับตั้งแต่ปี ค.ศ.
๒๐๐๐ ถึง ๒๐๑๔ การผลิตไก่เนื้อแบบอินทรีย์เติบโตประมาณ ๙๖ เปอร์เซ็นต์ ไข่ไก่อินทรีย์เติบโตประมาณ
๘๙ เปอร์เซ็นต์ และไก่งวงเติบโตประมาณ ๓๕ เปอร์เซ็นต์ แม้ว่า
อุตสาหกรรมสัตว์ปีกจะมีการจัดการได้อย่างรวดเร็วมาก
การกระจายสินค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ได้รับรอง และ non-GMO ยังมีการตอบสนองต่อปัญหาได้ค่อนข้างช้า
ข้าวโพดอินทรีย์มีปริมาณน้อย
สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในปี ค.ศ.
๒๐๑๑ มีข้าวโพดอินทรีย์เพียง ๐.๒๖ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปัจจุบัน ๔
เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่จำหน่ายเป็นอาหารอินทรีย์ ขณะที่ ๐.๕ เปร์เซ็นต์
ของพื้นที่การผลิตในสหรัฐฯเท่านั้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ ด้วยข้อจำกัดของปริมาณการผลิตที่น้อย
ผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องยอมรับวัตถุดิบที่เสื่อมคุณภาพ แตกหัก และไม่สมบูรณ์ไปบ้าง
เมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เสีย และไม่สมบูรณ์มักประกอบด้วยเชื้อรา
และสารพิษจากเชื้อราระดับสูง
โดยเชื้อราชนิดที่ผลิตสารพิษจากเชื้อราส่วนใหญ่เป็นเชื้อราที่มาจากดิน
สามารถมีชีวิต และทนทานอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นเวลานาน การเกษตรกรรมสมัยใหม่
เช่น การเพาะปลูกโดยไม่ต้องไถพรวนดิน พบว่า
อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเชื้อรามีเพิ่มขึ้น การปรากฏของลำต้นใต้ดินของต้นข้าวโพด
และส่วนที่ยังคลุมฝักอยู่ตั้งแต่เปลือกจนถึงแกนข้างในมักมีการติดเชื้อรา
และทิ้งไว้ตามผิวดินจากปีหนึ่งสู่อีกปีหนึ่งกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราทำให้อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น
การใช้ยาฆ่าเชื้อราอาจช่วยลดอุบัติการณ์ของเชื้อราฟิวซาเรียมในเมล็ดข้าวโพดได้
แต่การใช้ยาฆ่าเชื้อราไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับข้าวโพดอินทรีย์
การจัดการสารพิษจากเชื้อรา
เพื่อปกป้องห่วงโซ่อาหาร องค์การอาหาร และยาสหรัฐฯ
จำกัดระดับของสารพิษจากเชื้อราในอาหาร และอาหารสัตว์
การเตือนภัยอาหารโดยสมาคมเมล็ดวัตถุดิบ และอาหารสัตว์
เตือนให้ผู้ผลิตทุกรายตระหนักถึงระดับการปนเปื้อนที่ยอมรับได้
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอินทรีย์ โดยระดับดังกล่าว
ผู้ผลิตอินทรีย์ต้องมีการจัดการความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อรา
และเครื่องมือสำหรับคุ้มครองสุขภาพทางเดินอาหาร
กลยุทธการจัดการ และดำเนินการตลอดทั้งโปรแกรมมีความจำเป็นต่อการป้องกันการประสบปัญหาสารพิษจากเชื้อรา
โดยตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานที่ได้รับการรับรองสำหรับอุตสาหกรรมสำหรับการเก็บตัวอย่าง
และส่งตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการทดสอบที่มีมาตรฐานสูงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตามด้วยการตรวจติดตามโรงงานอาหารสัตว์เป็นประจำเพื่อขจัดปัญหาการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตในโรงงานอาหารสัตว์
การควบคุมสารพิษจากเชื้อราในระบบการผลิตแบบอินทรีย์ในอาหารเพื่อป้องกันผลกระทบของสารพิษจากเชื้อรายังเป็นประโยชน์ต่อผลผลิตโดยภาพรวมอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
Reyes M. 2017. Mycotoxins: A major worry for organic poultry. [Internet].
[Cited 2017 Aug 15]. Available from: http://www.poultryworld.net/Nutrition/Partner/2017/8/Mycotoxins-A-major-worry-for-organic-poultry-171071E/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น