วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ฤดูหนาวนำหวัดนกกลับสู่ยุโรป และเอเชียแล้ว

รายงานการระบาดใหม่โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในเนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ และอิตาลี การเริ่มต้นฤดูหนาวในซีกโลกเหนือนำไปสู่การระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในสัตว์ปีก ภายหลังการระบาดสงบลงมาแล้วหลายเดือนของฤดูร้อนที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีรายงานโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำในฝรั่งเศส และเยอรมันอีกด้วย

โรคไข้หวัดนกในแอฟริกา
               แอฟริกาใต้ ยืนยันการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ อีก ๖ ครั้ง ทำสถิติใหม่รวมแล้ว ๑๐๖ ครั้งแล้วนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ.๒๐๑๗ เป็นต้นมา โดยการระบาดครั้งหลังสุดทั้งหมดเกิดขึ้นในฟาร์มนกกระจอกเทศในจังหวัดเคปตะวันตก ตามรายงานของกรมปศุสัตว์ต่อโอไออี รวมแล้วมีการระบาดทั้งหมด ๕๘ แห่ง โดยมีสัตว์ปีกมากกว่า ๖,๓๐๐ ตัวที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรค
                  ซิมบับเว กรมปศุสัตว์ประกาศปลอดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงแล้ว หลังจากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๘ สายพันธุ์ใหม่ได้ระบาดในฟาร์มสัตว์ปีกขนาดใหญ่ในเมืองลานาร์คเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าพนักงานได้รายงานต่อโอไออี ฟาร์มที่เกิดการติดเชื้อได้ถูกทำลาย และฆ่าเชื้อ ไม่พบรายงานการระบาดใหม่อีกเป็นเวลา ๓ เดือน 
               ไอโวรีโคสต์ หลังจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๑ ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.๒๐๑๕ เป็นต้นมาไม่พบการระบาดใหม่อีกเลย กระทรวงปศุสัตว์ และทรัพยากรประมงจึงรายงานต่อโอไออีประกาศปลอดจากโรคเรียบร้อยแล้ว
โรคไข้หวัดนกในยุโรประบาดในเนเธอร์แลนด์ และอิตาลี
               เนเธอร์แลนด์ ภายหลังสงบลงต่อเนื่องกันหกเดือน เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๖ ก็ได้กลับสู่เนเธอร์แลนด์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า ยืนยันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในเป็ด ๑๖,๐๐๐ ตัวที่จังหวัดเฟลโฟลันด์ สัตว์ทั้งหมดถูกทำลายอย่างมีมนุษยธรรม ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก ไข่ และมูลสัตว์ภายในรัศมี ๑๐ กิโลเมตรรอบพื้นที่ระบาด 
               อิตาลี เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ต่างกับเนเธอร์แลนด์ที่เลข ๘ แต่การระบาดทำสถิติเป็น ๘๓ ครั้งแล้วตามรายงานของสำนักวิจัยสุขภาพสัตว์ และความปลอดภัยอาหารเจ้าเก่า IZSVe ล่าสุดยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสในฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๑๗,๐๐๐ ชีวิตในจังหวัดราเวนนาใน Emilia-Romagna ก่อนหน้านี้มีการระบาดในเบรสเซียในแถบลอมบาร์ดี และฟาร์มสองแห่งในจังหวัดทรีวิโซในเวเนโต โดยการระบาดสี่ครั้งล่าสุดทำให้ตัดสินใจทำลายสัตว์ป่วยทั้งหมดอย่างมีมนุษยธรรมมากกว่า ๘๔,๐๐๐ ตัวในอิตาลี    
               รัสเซีย สำนักงานสุขภาพสัตว์รายงานต่อโอไออีถึงการระบาดครั้งแรกของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘ ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว และมีการระบาดใหม่ใน Rostov ablast โดยมีสัตว์ปีก ๓ ตัวของชาวบ้านให้ผลเป็นบวกต่อเชื้อไวรัสดังกล่าว
               ฝรั่งเศส และเยอรมัน ก็พบโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำในฟาร์มสัตว์ปีก โดยฝรั่งเศสพบเอช ๕ เอ็น ๓ ในฟาร์มเป็ดในทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างการทดสอบทางห้องปฏิบัติการก่อนการเคลื่อนย้ายตามรายงานอย่างเป็นทางการต่อโอไออี เชื้อวัสชนิดเดียวกันเคยตรวจพบเมื่อเดือนกันยายนในไก่งวงพันธุ์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ สำหรับในเยอรมัน ฟาร์มสัตว์ปีกใน Lower Saxony มีผลบวกต่อเอช ๕ เอ็น ๒ ชนิดความรุนแรงต่ำเมื่อสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน ภายหลังเป็ด และห่าน ๔๓ ตัวจาก ๑,๐๑๑ ตัวเสียชีวิต เชื้อไวรัสนี้ตรวจพบเป็นครั้งสุดท้ายในประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

โรคไข้หวัดนกในเอเชียคืนสู่ไต้หวัน เกาหลีใต้ และกัมพูชา
               ไต้หวัน ภายหลังห่างหายไป ๗ เดือน กระทรวงเกษตรฯก็ได้ยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงสูงเอช ๕ เอ็น ๖ พ้องไปกับเนเธอร์แลนด์ โดยตรวจพบในนกป่าที่ตายในอุทยานแห่งชาติในเมืองไทนาน ขณะนี้กำลังเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก ๔ แห่งที่อยู่ใกล้กับพื้นที่พบโรค รัฐบาลเกาหลีได้ออกแผนการเฝ้าระวังโรคในฟาร์มที่มีความเสี่ยงต่อโรค โดยเฉพาะในพื้นที่ชุ่มน้ำ ฟาร์มเป็ดดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่หากินของนกป่า รวมถึง ไก่พื้นเมือง อีกด้วย ระหว่างเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ไต้หวันยืนยันการระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๒ ในสัตว์ปีกมากกว่า ๑๖,๔๐๐ ตัว โดยการระบาดสามครั้งนี้พบในฟาร์มเป็ด และไก่พื้นเมืองในเมืองยุนหลิน และตรวจพบเชื้อไวรัสที่โรงฆ่าในเมืองเกาสง
               เกาหลีใต้ เชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงสูงเอช ๕ เอ็น ๖ ตามเนเธอร์แลนด์ที่พบอะไร เกาหลีใต้ก็จะมีปัญหากับเพื่อนดัทช์ด้วยเช่นกัน ตั้งแต่อีเอเอ ฟิโปรนิล จนถึงหวัดนก กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ไม่พลาด สัตว์ปีกติดเชื้อไปแล้วกว่า ๑๒,๕๐๐ ตัวในจังหวัดช็อลลาเหนือทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยฟาร์มตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบ จึงเชื่อว่า แหล่งการติดเชื้อน่าจะมาจากนกป่า แต่ไม่มีหลักฐานว่าบินมาจากเนเธอร์แลนด์ด้วยหรือเปล่า กระทรวงเกษตรฯ ยังรายงานยืนยันเชื้อไวรัสชนิดความรุนแรงสูงเอช ๕ เอ็น ๘ ต่อโอไออี ๑๕ ครั้งในเดือนมิถุนายน โดยรวมแล้วมีสัตว์ปีกติดเชื้อ ๑,๓๒๗ ตัว ส่วนใหญ่ยังเป็นฝูงไก่พื้นเมืองที่เลี้ยงหลังบ้าน โดยสองครั้งอยู่ในจังหวัดช็อลลาเหนือเหมือนกัน และอีกสองครั้งในจังหวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดย็องซังเหนือ และอีกครั้งในเมืองแดจูทางตอนใต้ของประเทศ
               กัมพูชา กลับมาแล้วตามนัด โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงเอช ๕ เอ็น ๑ เจ้าเก่า ภายหลังห่างหายไปกว่า ๑๐ เดือนตามรายงานของกระทรวงเกษตรฯแจ้งเองต่อโอไออี ไก่เกือบทั้งหมด ๑,๗๖๓ ตัวในจังหวัดทางตอนกลางกำพงจามของประเทศที่ตายก่อนยืนยันผลการติดเชื้อ
              ญี่ปุ่น ยืนยันแล้วกับโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงเอช ๕ เอ็น ๖ ที่แยกได้จากนกป่า ๖ ตัวที่ตายในเมืองมัตสึเอะในจังหวัดชิมาเนะ ทั้งนี้ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็พบเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันนี้มาแล้วในหงส์ป่า

จีนมีผู้ป่วยหวัดนกเพิ่มใหม่อีกราย
               ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกเอช ๗ เอ็น ๙ ขาประจำ โดยผู้ป่วยรายล่าสุดนี้มาจากจังหวัดยูนนาน ทำให้จำนวนผู้ป่วยทั่วโลกตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.๒๐๑๓ เป็นต้นมา ทำสถิติเพิ่มเป็น ๑,๕๖๕ รายแล้ว

เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑  การเริ่มต้นฤดูหนาวในซีกโลกเหนือนำไปสู่การระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในสัตว์ปีก (ขอบคุณแหล่งภาพ Thatsaphon Saengnarongrat, Bigstock)

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สู้เว้ย!!! จีนใช้รีคอมบิแนนท์ อินเตอร์เฟอรอนปราบหวัดนกเอช ๙

วันพุธที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐
นักวิทยาศาสตร์จีนออกอาวุธใหม่ต่อสู้กับโรคไข้หวัดนก โดยใช้รีคอมบิแนนท์ อัลฟา อินเตอร์เฟอรอน ซึ่งเป็นสารไซโตไคน์ตามธรรมชาติหลังการถูกกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อการป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดนก
            ปัจจุบัน วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกในประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดของโรคได้ เนื่องจาก ความหลากหลายของสายพันธุ์เชื้อไวรัสในประเทศจีนมากมายเหลือเกิน นักวิจัยจึงพยายามหาวิธีการใหม่สำหรับป้องกัน รักษา และวินิจฉัยโรคไข้หวัดนก

ไฟเขียวผ่านตลอดให้อัลฟา อินเตอร์เฟอรอน
          นักวิจัยจากสถาบันจุลชีววิทยาของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน ร่วมกับบริษัท Qingdao Vland Biological Product และศูนย์วิจัย Qingdao National Animal Protection Engineering Technology Reserch Center มุ่งหน้าใช้อัลฟา อินเตอร์เฟอรอน ที่มีบทบาทสำคัญในระยะแรกของการติดเชื้อไวรัสโดยการพัฒนาการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อโรค และเหนี่ยวนำร่างกายให้สร้างโปรตีนต่อต้านไวรัสอีกหลายชนิด โดยยีนของอัลฟา อินเตอร์เฟอรอนจะนำเข้าสู่เชื้อ อี. โคไล เพื่อให้สร้างโปรตีนของอัลฟา อินเตอร์เฟอรอนของไก่ โปรตีนเหล่านี้จะถูกเตรียมให้บริสุทธิ์แล้วผสมในน้ำให้ไก่กิน
         ผลการวิจัย พบว่า ไก่ที่ได้รับโปรตีนบริสุทธิ์ของรีคอมบิแนนท์ อัลฟา อินเตอร์เฟอรอน สามารถป้องกันโรคไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๙ บ่งชี้ว่า โปรตีนนี้ยังคงออกฤทธิ์ได้ในตัวสัตว์ โดยสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการโรคในระยะยาวต่อไป
เอกสารอ้างอิง
McDougal T. 2017. Fight AI: China can now use recombinant interferon. [Internet]. [Cited 2017 Nov 24]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/11/Fight-AI-China-can-now-use-recombinant-interferon-216453E/

ภาพที่ ๑ รีคอมบิแนนท์ อัลฟา อินเตอร์เฟอรอน เป็นสารไซโตไคน์ตามธรรมชาติหลังการถูกกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อการป้องกัน และรักษาโรคไข้หวัดนก (แหล่งภาพ Ronald Hissink)

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่สนับสนุนไก่เนื้อโตช้า

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นว่าด้วยการผลิตสัตว์ปีกยุคใหม่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับสังคมอย่างมาก แต่ก็มีคำถามถึงความยั่งยืนของการผลิตไก่เนื้อโตช้า
           เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นักวิจัยเยอรมันได้ตีพิมพ์รายงานการประเมินศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตสัตว์ปีกทางเลือกใหม่ด้วยวิธีการพิเศษ หรืออินทรีย์ ทั้งในสหภาพยุโรป และเยอรมัน โดยเฉพาะ การใช้พันธุ์สัตว์ปีกโตช้าที่มีประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารที่น้อยกว่าการเลี้ยงตามปรกติ และต้องใช้พื้นที่การเลี้ยงต่อตัวมากกว่า การผลิตและติดฉลากสัตว์ปีกอินทรีย์สอดคล้องกับความต้องการขั้นต่ำของตลาดสหภาพยุโรป ขณะเดียวกัน ผลการศึกษาโดยสภาพไก่แห่งชาติในสหรัฐฯ และบริษัทอีแลนโคเมื่อต้นปีก็ไม่ค่อยน่าพอใจเช่นกัน โดยรายงานผลการวิจัยว่า ทั้งการผลิตสัตว์ปีกด้วยวิธีการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า และอินทรีย์มีประสิทธิภาพต่ำ และต้นทุนการผลิตสูง เนื้อสัตว์ที่ผลิตด้วยการผลิตวิธีการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า จะมีราคาแพงกว่าเนื้อปรกติ ๒๐ ถึง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเนื้อสัตว์ปีกอินทรีย์แพงกว่าถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์   
          รายได้ทางการเกษตรกรรมของสหภาพยุโรปจะลดลงราว ๓ พันล้านยูโรในกรณีการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า และ ๘ พันล้านยูโรในกรณีมีการเลี้ยงสัตว์ปีกอินทรีย์ นอกจากนั้น วิธีการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า และอินทรีย์ยังใช้ทรัพยากรต่างๆมากกว่าการเลี้ยงสัตว์ปีกเชิงอุตสาหกรรมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ วัสดุรองพื้น น้ำ และยังส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือแก๊สก่อปัญหากรีนเฮาส์ก็จะเพิ่มขึ้นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกในที่สุด ผลการวิจัยเหล่านี้อาจเป็นผลดีสำหรับอุตสาหกรรมที่เริ่มตอบสนองตามใจกลุ่มนักเคลื่อนไหวคุ้มครองสัตว์ที่พยายามกดดันผู้ประกอบการอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมการผลิตไข่ในอดีตที่ผ่านมา วิทยาศาสตร์ก็อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
               ผู้ประกอบการ ยอมรับให้องค์กรพิทักษ์สัตว์อย่างเพื่อนสัตว์โลก (Global Animal Partnership, GAP) กำหนดเป็นมาตรฐาน และระบบสวัสดิภาพสัตว์อื่นๆโดยมิได้คำนึงถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และอาจไม่สนใจที่จะรับทราบข้อมูลด้วยซ้ำ การตัดสินใจในอดีต ผู้ที่กำหนดมาตรฐานอาศัยปัจจัยสำคัญที่สุดมุ่งเน้นไปที่ความคิดของผู้บริโภค และความรู้สึกที่ดีเพียงด้านเดียว เช่นเดียวกับผู้กำหนดมาตรฐานเลี้ยงไก่ไข่ไม่ใช้กรง หรือปลอดภัยปฏิชีวนะก็มิได้สนใจกับข้อมูลใดๆด้านวิทยาศาสตร์ แต่ใช้ความเชื่อ และความรู้สึกของผู้บริโภคเท่านั้น    
               ในอนาคตข้างหน้า เริ่มจากปี ค.ศ.๒๐๑๘ เป็นปีที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหารในการตัดสินใจว่าจะเลือกเดินบนผืนทรายด้วยการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า หากผู้ประกอบการนำหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ให้ข้อมูลกับผู้บริโภค และผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะเป็นโอกาสที่อุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกจะสามารถเลือกสวนทางกับกระแสการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้าได้
เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑ วิธีการเลี้ยงสัตว์ปีกโตช้า และอินทรีย์ยังใช้ทรัพยากรต่างๆมากกว่าการเลี้ยงสัตว์ปีกเชิงอุตสาหกรรมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ วัสดุรองพื้น น้ำ และยังส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือแก๊สก่อปัญหากรีนเฮาส์ก็จะเพิ่มขึ้นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกในที่สุด (แหล่งภาพ: Wabeno, Bigstock)

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ลมหนาวหอบหวัดนกกลับเกาหลีใต้แล้ว

ยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๖ ในเป็ด ๑๒,๐๐๐ ตัว ภายหลังหายหน้าไปเพียงไม่กี่เดือน โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงได้หวนกลับสู่ภาคการผลิตสัตว์ปีกของเกาหลีใต้อีกครั้ง นอกจากนั้น ยังมีรายงานการระบาดใหม่ในแอฟริกาใต้ อิตาลี ไต้หวัน และบัลกาเรีย
               เกาหลีใต้ เชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๖ ได้รับการยืนยันที่ฟาร์มเป็ดเมืองโกชางห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ๓๐๐ กิโลเมตร ตามรายงานข่าวจากยอนฮัป นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ลี นัก ยอน ได้สั่งมาตรการเร่งด่วนให้ควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกเป็นเวลา ๔๘ ชั่วโมง รวมถึง ยานพาหนะ และพนักงานฟาร์ม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคระบาดต่อไป โดยกฏระเบียบต่างๆจะยังคงบังคับใช้ต่อไปอีก ๗ วันในพื้นที่เมืองโกชาง เกาหลีใต้ยืนยันการระบาดของโรคครั้งสุดท้ายเมื่อกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แต่เจ้าพนักงานยังมีรายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสเอช ๕ จากมูลนกป่าเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง
               ญี่ปุ่น ภายหลังการยืนยันการตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในฤดูหนาวนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงเกษตรฯได้รายงานต่อโอไออีเรื่องการตรวจพบเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๖ ในนกป่าอีก ๓ ตัว และเป็ด ๒ ตัว โดยพบนกนางนวลตายอีก ๑ ตัว ในเมืองมัตซึเอะ จังหวัดชิมาเนะ ไม่พบความผิดปรกติในนกป่าอื่นๆในพื้นที่เดียวกัน
               ไต้หวัน กระทรวงเกษตรฯรายงานต่อโอไออีว่า ซากห่าน ๑๕๐ ตัวพบในอำเภอเจียหลี่ เมืองไถ่หนาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลเป็นบวกต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๒ ฟาร์มภายในรัศมี ๓ กิโลเมตรกำลังเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด 

แอฟริกาใต้ทำเซนจูรี่เบรค
               โรคไข้หวัดนกระบาดในแอฟริกาใต้มากกว่า ๑๐๐ ครั้งแล้ว นับตั้งงแต่การตรวจพบเป็นครั้งแรกของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้มีการระบาดที่ไม่ได้รายงานที่ฟาร์มนกกระจอกเทศในจังหวัดเคปตะวันตกทำให้มีการระบาดรวมแล้ว ๓๙ ครั้งจากนกกระจอกเทศ ๑,๗๓๓ ตัว ในจังหวัดหวัดเดียวกันนี้ยังมีห่านนำเข้าในเคปทาวน์ และฝูงไก่สวยงาม ๓๗ ตัวในเมืองดราเคนสไตน์มีผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเป็นบวกต่อเอช ๕ เอ็น ๘ มาแล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  

ยุโรป การระบาดใหม่ในอิตาลี และบัลกาเรีย
               อิตาลี การระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงจากเอช ๕ เอ็น ๘ ยืนยันในอิตาลีในสัปดาหืที่ผ่านมา รวมแล้วอิตาลีมีการระบาดไปแล้ว ๗๙ ครั้งตามข้อมูลของ IZSVe โดยรายล่าสุดเกิดขึ้นในจังหวัดเบรสเซียในลอมบาร์ดดีในสัตว์ปีกทั้งหมด ๘๕,๐๐๐ ตัว ทั้งหมดถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว การระบาดสองครั้งพบในฟาร์มไก่ไข่ที่อยู่ใกล้กับการระบาดครั้งก่อนหน้า แม่ไก่ ๑ ใน ๒ โรงเรือนกินอาหารลดลง และไข่ลดลง ขณะเดียวกัน ยังพบการระบาดในฟาร์มไก่เนื้อที่มีการตายอย่างรวดเร็ว
               บัลกาเรีย มีการระบาด ๒ ครั้งของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงจากเอช ๕ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีรายงานต่อโอไออี จำนวนสัตว์ปีกทั้งหมด ๑๒,๐๐๐ ตัวที่เกิดความเสียหายจากทั้งการตาย และการทำลายสัตว์ป่วยเป็นสัตว์ปีกเลี้ยงหลังบ้านในจังหวัดสไลเวน และแจมโบล หลังจากการระบาดครั้งแรกในสัตว์ปีกเลี้ยงหลังบ้านในจังหวัดฮาสโกโวเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑ หลังโรคสงบไม่กี่เดือนในเกาหลีใต้ เชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๖ ได้รับการยืนยันที่ฟาร์มเป็ดเมืองโกชางห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ๓๐๐ กิโลเมตร (แหล่งภาพ: Thatsaphon Saengnarongrat, Bigstock)


วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เนื้อไก่ป๊อปปูลาร์ชนะวัวแล้วในแมคโดนัลด์อังกฤษ

ร้านอาหารแมคโดนัลด์ในอังกฤษประกาศว่า คำสั่งซื้อเนื้อไก่เวลานี้มียอดซื้อสูงกว่าเนื้อโคแล้ว
ผู้อำนวยการบริหารจัดการร้านอาหารจานด่วน Cannor McVeigh บรรยายไว้ในการประชุมอุตสาหกรรมสัตว์ปีก และไข่สัปดาห์นี้ว่า ในปี ค.ศ.๒๐๒๐ ปริมาณเนื้อสัตว์ปีกจากฟาร์มในสหราชอาณาจักรจะสูงกว่าปี ค.ศ. ๒๐๑๓ เป็น ๑๐ ถึง ๑๑ เท่าตัว แต่ยังไม่สามารถทำนายเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนได้
          ผู้บริโภคได้เปลี่ยนความนิยมจากเนื้อโคเป็นเนื้อไก่มากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากร้านอาหารจานด่วนอย่างแมคโดนัลด์ เดิมธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นไปยังเนื้อโค แต่ถึงเวลานี้ ผลิตภัณฑ์จากไก่กลับได้รับความนิยมมากกว่าแล้ว ทัศนคติของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว หันมาเปลี่ยนความคิดในการเลือกเมนูจากร้านแมคโดนัลด์ ราคาเนื้ออกไก่ในอังกฤษยังเป็นอุปสรรค ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในอังกฤษโปรดปรานแต่เนื้ออก และคาดหวังว่า อาหารบนจานจะมีแต่เนื้ออกเท่านั้น ขณะเดียวกัน เนื้ออกก็เป็นชิ้นส่วนที่มีราคาที่ค่อนข้างสูง กลายเป็นปัจจัยที่จำกัดการเติบโตของยอดการสั่งซื้อเนื้อไก่  ในปี ค.ศ.๒๐๒๐ อีกไม่ถึง ๓ ปีข้างหน้าก็จะมีไก่อังกฤษมากกว่าเดิมเป็น ๑๐ ถึง ๑๑ เท่าของปี ค.ศ.๒๐๑๓ อีกไม่กี่สัปดาห์นี้ก็จะมีการหารือร่วมกันในรายละเอียดกับคู่ค้าสำคัญที่มอย พาร์ก และคาร์กิล
               ในอดีต แมคโดนัลด์ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการจำหน่ายสินค้าประเภคเนื้อโค ไข่ นม และมันฝรั่ง ยังไม่ค่อยมีสินค้าประเภทไก่ โดยมีแหล่งวัตถุดิบสำคัญ ได้แก่ ยุโรป ไทย และบราซิล รวมถึง สหราชอาณาจักร เมื่อเร็วๆนี้ แมคโดนัลด์ยังมีกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ปล่อยอิสระ โดยมีการผลิตสื่อโฆษณาแสดงให้เห็นถึงการเลี้ยงแม่ไก่ปล่อยอิสระท่ามกลางต้นไม้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ

เอกสารอ้างอิง

Davies J. 2017. Chicken now more popular than beef at UK McDonalds. [Internet]. [Cited 2017 Nov 6]. Available from: http://www.poultryworld.net/Meat/Articles/2017/11/Chicken-now-more-popular-than-beef-at-UK-McDonalds-207835E/

ภาพที่ ๑ พฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารในร้านอาหารแมคโดนัลด์กำลังเปลี่ยนไป พร้อมที่จะคิดต่างกับเมนูอาหารที่เคยคุ้นเคย (แหล่งภาพ: Brian Robert Marshall)

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เตรียมตั้งรับหวัดนก เมื่อถึงกาลการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ชี้ปีนี้หนาวยาวนาน พ้องไปกับภาษิต “Winter is coming” จากมหากาพย์ละครย้อนยุค Game of Thrones ที่เพิ่งปิดฉากฤดูกาลที่ ๗ ไปด้วยฉากทัพผีดิบไวท์วอล์คเกอร์ ทุกอาณาจักรที่เคยเป็นปรปักษ์กันมาก่อนก็ต้องหันมาจับมือกันรับมือกับภัยพิบัติที่สำคัญมากกว่า สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ ศัตรูร้ายที่อาจมาพร้อมกับฤดูหนาวก็คือ โรคระบาด โดยเฉพาะ ไข้หวัดนก ที่แวดล้อมหน้าล้อมหลังประเทศไทยในยามนี้
               ในสหราชอาณาจักร ความเสี่ยงของโรคไข้หวัดนกหวนกลับมาอีกครั้ง หลังจากฤดูหนาวปีที่แล้ว จำนวนครั้งของการระบาดโรคไข้หวัดนกมากเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลได้ยกระดับความเสี่ยงของโรคระบาดจากต่ำขึ้นเป็นปานกลาง เนื่องจาก การระบาดของโรคไข้หวัดนก สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ทั่วยุโรป อิตาลีมีรายงานการระบาดล่าสุดไปแล้ว ๑๗ ครั้ง โดยเฉพาะ ฟาร์มไก่ไข่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมีประชากรไก่ไข่มากกว่า ๘๕๐,๐๐๐ ตัวในฟาร์ม ในเยอรมันพบไวรัสในนกป่า และบัลกาเรียเกิดการระบาด ๒ ครั้ง  
               เกษตรกรสามารถเตรียมตั้งรับมือกับการเยือนของฤดูหนาวพร้อมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้อย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงจากโรค อันดับแรกคือ การลดแขกเยี่ยมฟาร์ม การยกระดับมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพให้เข้มงวดเป็นพิเศษ และระมัดระวังนกป่าที่โบยบินเข้าใกล้ฟาร์ม ไม่ให้มีโอกาสเข้าใกล้กับสัตว์ในฟาร์ม โรคไข้หวัดนกอาจไม่ได้เป็นปิศาจร้ายที่น่ากลัวเหมือนเช่นละครย้อนยุค Game of Thrones แต่การเตรียมรับมือเป็นอย่างดีสำหรับฤดูหนาวที่มาถึงแล้ว ก็จะช่วยให้ฟาร์มของเราแคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคระบาดผ่านพ้นฤดูหนาวที่ยาวนานในปีนี้ไปได้
เอกสารอ้างอิง
Davies J. 2017. Preparing for winter for the best chance to prevent bird flu. [Internet]. [Cited 2017 Nov 8]. Available from: http://www.poultryworld.net/Home/General/2017/11/Preparing-for-winter-for-the-best-chance-to-prevent-bird-flu-208649E/     
ภาพที่ ๑ เกษตรกรสามารถเตรียมตั้งรับมือกับการเยือนของฤดูหนาวพร้อมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้ ด้วยการลดแขกเยี่ยมฟาร์ม การยกระดับมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพให้เข้มงวดเป็นพิเศษ และระมัดระวังนกป่าที่โบยบินเข้าใกล้ฟาร์ม (แหล่งภาพ: Jan Willem Schouten)

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

แบนไก่ฮอลแลนด์ หลังเจอหวัดนกรุนแรงต่ำ

ฮ่องกงประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากดัทช์ภายหลังการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำ โดยมีการสั่งทำลายสัตว์ปีกไปแล้วมากกว่า ๔๐,๐๐๐ ตัว
               รัฐบาลฮ่องกงได้ห้ามนำเข้าเนื้อ และไข่จากสัตว์ปีกทุกชนิดจากจังหวัดซีแลนด์ ทางตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ฮ่องกงนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง ๒,๕๐๐ ตัน และไข่ ๑ ล้านฟองจากเนเธอร์แลนด์ การระบาดครั้งนี้ ประเทศเนเธอร์แลนด์รายงานต่อโอไออีตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตามรายงานการเกิดโรคแบบไม่แสดงอาการจากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๒ ซึ่งเป็นสับไทป์ที่เคยเกิดการระบาดใหญ่มาแล้วในสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ที่ผ่านมา รัฐบาลดัทช์ได้สั่งห้ามการขนส่งสัตว์ปีก ไข่ เนื้อ และมูลสัตว์ภายในรัศมี ๑ กิโลเมตรรอบฟาร์มในหมู่บ้าน Sint Philipsland แม้ว่าจะไม่มีฟาร์มสัตว์ปีกอื่นๆในพื้นที่ การสั่งทำลายสัตว์ปีกครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดการระบาดของโรค แม้ว่า เชื้อไวรัสที่ตรวจพบจะยังเป็นเพียงเชื้อไวรัสเอช ๕ ชนิดไม่รุนแรง แต่เชื้อสามารถเกิดการกลายพันธุ์กลายเป็นเชื้อที่รุนแรง และระบาดไปยังฟาร์มไก่ ดังนั้น รัฐบาลจึงตัดสินใจทำลายสัตว์ปีกดังกล่าว     
               นับเป็นเคราะห์ซ้ำ กรรมซัดของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกในเนเธอร์แลนด์อีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ประสบปัญหาการตกค้างของฟิโปรนิลในไข่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ไข่ไก่หลายล้านฟองถูกทิ้งทั้งหมด และไก่มากกว่า ๓.๒ ล้านตัวก็ถูกทำลายมาแล้ว ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกมากกว่า ๒๖๐ แห่งยังคงปิด รอคอยคำสั่งอนุญาตจากรัฐบาลให้กลับมาเลี้ยงใหม่ได้
เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์รายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำจากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๒ ซึ่งเป็นสับไทป์ที่เคยเกิดการระบาดใหญ่มาแล้วในสหรัฐฯ (แหล่งภาพ: Jan Willem Schouten)


วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสารพิษเชื้อราในการเลี้ยงไก่แบบอินทรีย์

สารพิษจากเชื้อราส่งผลกระทบที่อันตรายมากต่อปศุสัตว์ โดยเฉพาะ การผลิตสัตว์ปีก สารพิษจากเชื้อราเป็นสาเหตุของรอยโรคที่ปาก ตับสีเหลือง รอยโรคที่กึ๋น และความอ่อนแอของผนังลำไส้ เป็นต้น ผู้ผลิตสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดของโลกส่วนใหญ่จะให้ความใส่ใจกับการเลือกสรรวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ เนื่องจาก ทราบดีว่า ความเป็นพิษของสารพิษจากเชื้อรามีผลต่อสุขภาพสัตว์ปีก และผลกำไร ยิ่งเมื่อมีการเลี้ยงสัตว์ปีกอินทรีย์ก็เป็นสิ่ที่ท้าทายต่อการผลิต
            ความท้าทายของด้านอุปสงค์ และอุปทานตามผลการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๑๔ โดยกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐฯ ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินทรีย์เพิ่มขึ้น ๗๒ เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๐๘ เป็นต้นมา ความต้องการไก่เนื้อ ไก่งวง และไข่ไก่ ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO กำลังแข็งแกร่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี
การเติบโตภาคสัตว์ปีกอินทรีย์  
            ผู้ผลิตสัตว์ปีกที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ และ non-GMO ในยุโรปกำลังขยายกำลังการผลิต การเลี้ยงสัตว์ปีกแบบอินทรีย์มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วมาก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๐ ถึง ๒๐๑๔ การผลิตไก่เนื้อแบบอินทรีย์เติบโตประมาณ ๙๖ เปอร์เซ็นต์ ไข่ไก่อินทรีย์เติบโตประมาณ ๘๙ เปอร์เซ็นต์ และไก่งวงเติบโตประมาณ ๓๕ เปอร์เซ็นต์ แม้ว่า อุตสาหกรรมสัตว์ปีกจะมีการจัดการได้อย่างรวดเร็วมาก การกระจายสินค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ได้รับรอง และ non-GMO ยังมีการตอบสนองต่อปัญหาได้ค่อนข้างช้า
ข้าวโพดอินทรีย์มีปริมาณน้อย
            สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในปี ค.ศ. ๒๐๑๑ มีข้าวโพดอินทรีย์เพียง ๐.๒๖ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปัจจุบัน ๔ เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่จำหน่ายเป็นอาหารอินทรีย์ ขณะที่ ๐.๕ เปร์เซ็นต์ ของพื้นที่การผลิตในสหรัฐฯเท่านั้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ ด้วยข้อจำกัดของปริมาณการผลิตที่น้อย ผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องยอมรับวัตถุดิบที่เสื่อมคุณภาพ แตกหัก และไม่สมบูรณ์ไปบ้าง เมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เสีย และไม่สมบูรณ์มักประกอบด้วยเชื้อรา และสารพิษจากเชื้อราระดับสูง โดยเชื้อราชนิดที่ผลิตสารพิษจากเชื้อราส่วนใหญ่เป็นเชื้อราที่มาจากดิน สามารถมีชีวิต และทนทานอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นเวลานาน การเกษตรกรรมสมัยใหม่ เช่น การเพาะปลูกโดยไม่ต้องไถพรวนดิน พบว่า อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเชื้อรามีเพิ่มขึ้น การปรากฏของลำต้นใต้ดินของต้นข้าวโพด และส่วนที่ยังคลุมฝักอยู่ตั้งแต่เปลือกจนถึงแกนข้างในมักมีการติดเชื้อรา และทิ้งไว้ตามผิวดินจากปีหนึ่งสู่อีกปีหนึ่งกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราทำให้อุบัติการณ์ของการปนเปื้อนเมล็ดวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น การใช้ยาฆ่าเชื้อราอาจช่วยลดอุบัติการณ์ของเชื้อราฟิวซาเรียมในเมล็ดข้าวโพดได้ แต่การใช้ยาฆ่าเชื้อราไม่อนุญาตให้ใช้สำหรับข้าวโพดอินทรีย์
การจัดการสารพิษจากเชื้อรา
            เพื่อปกป้องห่วงโซ่อาหาร องค์การอาหาร และยาสหรัฐฯ จำกัดระดับของสารพิษจากเชื้อราในอาหาร และอาหารสัตว์ การเตือนภัยอาหารโดยสมาคมเมล็ดวัตถุดิบ และอาหารสัตว์ เตือนให้ผู้ผลิตทุกรายตระหนักถึงระดับการปนเปื้อนที่ยอมรับได้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอินทรีย์ โดยระดับดังกล่าว ผู้ผลิตอินทรีย์ต้องมีการจัดการความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อรา และเครื่องมือสำหรับคุ้มครองสุขภาพทางเดินอาหาร   
            กลยุทธการจัดการ และดำเนินการตลอดทั้งโปรแกรมมีความจำเป็นต่อการป้องกันการประสบปัญหาสารพิษจากเชื้อรา โดยตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานที่ได้รับการรับรองสำหรับอุตสาหกรรมสำหรับการเก็บตัวอย่าง และส่งตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการทดสอบที่มีมาตรฐานสูงเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตามด้วยการตรวจติดตามโรงงานอาหารสัตว์เป็นประจำเพื่อขจัดปัญหาการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตในโรงงานอาหารสัตว์ การควบคุมสารพิษจากเชื้อราในระบบการผลิตแบบอินทรีย์ในอาหารเพื่อป้องกันผลกระทบของสารพิษจากเชื้อรายังเป็นประโยชน์ต่อผลผลิตโดยภาพรวมอีกด้วย

เอกสารอ้างอิง
Reyes M. 2017. Mycotoxins: A major worry for organic poultry. [Internet]. [Cited 2017 Aug 15]. Available from: http://www.poultryworld.net/Nutrition/Partner/2017/8/Mycotoxins-A-major-worry-for-organic-poultry-171071E/

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หวัดนกโจมตีอิตาลี ๑ ปีมีห้าสิบครั้ง

นับตั้งแต่รายงานโรคไข้หวัดนกครั้งแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีได้รายงานการรระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงเป็นครั้งที่ ๕๐ แล้ว ขณะที่ เหยื่อรายใหม่ล่าสุดพึ่งยืนยันในแอฟริกาใต้ และไต้หวัน
               การระบาดครั้งใหม่เจ็ดครั้งของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง (HPAI) จากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๘ มีจำนวนสัตว์ปีกที่เกิดโรคมากกว่า ๗๗๖,๐๐๐ ตัว โดยหน่วยผลิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นฟาร์มไก่ไข่ที่มีไก่เกือบ ๗๔๓,๐๐๐ ตัวในจังหวัดเฟอร์ราราในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา และมีการระบาดอีก ๔ ครั้งในแคว้นเวเนโต้ที่มีฝูงไก่ไข่เล็กๆ ๒ แห่ง ไก่งวงเนื้อ และกลุ่มสัตว์ปีกหลายชนิดรวมกันอีก ๑ ฝูง ในแคว้นลอมบาร์ดีก็มีฝูงไก่งวง และสัตว์ปีกหลังบ้านที่ยืนแล้วว่ามีการติดเชื้อด้วยเช่นกัน
               ข้อมูลล่าสุดจากองค์กรสุขภาพ และวิจัยอิตาลีสำหรับสุขภาพสัตว์ และความปลอดภัยอาหาร (Italian health authority and research organization for animal health and food safety, IZSVe) อ้างว่า มีการระบาดอีก ๒ ครั้งเพิ่มขึ้นอีก เป็นอันว่ารวมแล้วมีการระบาดครึ่งร้อยไปแล้วในปีนี้ปีเดียว IZSVs รายงานว่า HPAI จากสับไทป์ H5 ถูกตรวจพบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในฝูงสัตว์ปีกอีก ๒ ฝูงในแคว้นลอมบาร์ดี นก ๒๐ ตัวที่ย่านเกษตรกรรมในจังหวัดเบอร์กาโม และฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๖,๕๐๐ ตัวในเมืองมอนโตวา เจ้าหน้าที่กำลังพยายามสืบเสาะหาเชื้อไวรัสที่ก่อโรค ทำลายสัตว์ป่วยอย่างมีมนุษยธรรม ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อฟาร์ม
ฮังการี รัสเซียประกาศปลอดโรค
               กระทรวงเกษตรฮังการีรายงานล่าสุดไปยังโอไออี การระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ รวม ๑๓ ครั้ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ๒๐๑๖ และมีนาคมปีนี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีการตรวจพบโรคเพิ่มเติม ดังนั้น จึงประกาศปลอดโรค เช่นเดียวกับรัสเซียก็ไม่มีการระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในรัสเซียตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
แอฟริกาใต้ระบาดเพิ่มอีก     
               ผ่านมา ๖๗ สัปดาห์ จำนวนครั้งของการระบาดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ในแอฟริกาใต้รวมแล้ว ๗๙ ครั้ง รวมถึง ๗ ครั้งในฟาร์มสัตว์ปีก ๖ ครั้งในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดเคปทาวน์ตะวันตก รวมแล้วกว่า ๔๒๘,๐๐๐ ตัวแล้ว ฟาร์มแห่งหนึ่งมีไก่ ๑๗๖,๐๐๐ ตัว ตายไปเสีย ๑๐๐,๐๐๐ ตัว และฟาร์มขนาด ๕๐,๕๐๐ และ ๒๐๐,๐๐๐ ตัว แถมยังมีฟาร์มนกกระจอกเทศ และสัตว์ปีกหลังบ้านติดเชื้ออีกด้วย เชื้อไวรัสชนิดเดียวกันนี้ยังระบาดในสวนสัตว์อีก ๕ ครั้งในเคปทาวน์ และโยฮันเนสเบิร์ก สัตว์ปีกเลี้ยงเป็นงานอดิเรก ๒ แห่ง และห่านป่าอีกฝูง เรียกว่า โดนกันทั่วหน้าอ่วมกันทั้งประเทศ


เอเชียพบระบาดในไต้หวัน และเกาหลีใต้   
               ไต้หวัน ยังคงตั้งป้อมต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกหลายสับไทป์พร้อมกันนับตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๑๕ เป็นต้นมา โดยมีการเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างล่าสุดยังพบเชื้อไวรัสสับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๒ ในไก่พื้นเมือง และเป็ดที่ตำบล Yunlin และฟาร์มเป็ดใน Changhua แถมยังพบสับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ในเป็ดที่ Yunlin และ Pingtung   
               อินเดีย ไม่พบการระบาดใหม่จากสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯได้ประกาศปลอดโรคต่อโอไออีเรียบร้อยแล้ว
               ฟิลิปปินส์ เผชิญกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกหลายฉากตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมา แต่เวลานี้ใกล้จะฟื้นแล้วสังเกตจากราคาไก่หน้าฟาร์มเริ่มกลับสู่ระดับราคาก่อนหน้าการระบาดของโรค ภายหลัง ผู้บริโภคเสียความมั่นใจต่ออาหารจานไก่ อย่างไรก็ตาม การผลิตก็ยังไม่กลับสู่ปรกติใน Pampanga และ Nueva Ecija ซึ่งเป็นจุดที่มีการระบาดของโรค
              เกาหลีใต้ หลังจากโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำตรวจพบในเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลเกาหลีประกาศว่า เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ ตรวจพบในมูลนกป่าใน Seosan รัฐบาลใช้มาตรการกักกันสัตว์รอบบริเวณพื้นที่ระบาดในตอนกลางของเกาหลีใต้ และกำลังตรวจประเมินความรุนแรงของเชื้อไวรัส  
               จีน ไม่พบผู้ป่วยนับตั้งตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นมา พระเอกตัวจริงในมหากาพย์ไข้หวัดนก เอช ๗ เอ็น ๙ ก็ประสบความสำเร็จแล้วในวันที่ ๑๕ กันยายนที่ผ่านมา เมื่อไม่มีผู้ป่วยเพิ่มเติมอีก จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมแล้ว ๑,๕๖๔ ราย ในจำนวนนี้เป็น ๗๖๖ ราย จากการระบาดระลอกที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ค.ศ.๒๐๑๖ จนถึง ๓๐ กันยายน ค.ศ.๒๐๑๗ เกือบทั้งหมดรวม ๗๕๘ รายมาจากพระเอกตัวจริง มังกรจีน นั่นเอง
เอกสารอ้างอิง


วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยาฆ่าแมลงตกค้าง ฟิโปรนิลในบรั่นดีเยอรมัน

ตรวจพบฟิโปรนิลในผลิตภัณฑ์จากเยอรมันมากมายที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งผลิตภัณฑ์เบเกอรี และเครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ยอดนิยมในเยอรมัน โดยมีส่วนผสมของไข่เป็นองค์ประกอบ
การสอบย้อนกลับสารตกค้างฟิโปรนิลยังตรวจพบในผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิดที่มีส่วนประกอบของไข่ในเยอรมันทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ใช้บรั่นดีมิกซ์กับไข่แดงนามว่า “Advocaat” มึนเมากันทีเดียวพร้อมกันทั้งสุราเมรัย และยาฆ่าแมลง เริ่มมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของไข่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่เยอรมันสันนิษฐานว่าน่าจะมีผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มมากกว่า ๘๐๐ รายการที่มีโอกาสปนเปื้อน หน่วยงานความปลอดภัยอาหารในเยอรมัน และยุโรปได้เตือนภัยสารตกค้างฟิโปรนิลไว้ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เมื่อไข่ไก่จากผู้ผลิต ๗ รายในเนเธอร์แลนด์เรียกสินค้าคืน ภายหลังการตรวจพบสารตกค้างฟิโปรนิล ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงที่ผิดกฏหมายสำหรับการใช้ในฟาร์มสัตว์ปีก ในเวลาต่อมา การเรียกคืนสินค้ายังขยายวงกว้างไปยังผู้ผลิตอีกหลายร้อยราย และยังตรวจพบในอีกหลายประเทศ โดยบัลกาเรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายงานการพบสารตกค้างฟิโปรนิลมากที่สุด ในเดือนกันยายน ไข่ไก่ราว ๒๑๕,๐๐๐ ฟอง ถูกสอบย้อนกลับได้ว่ามีการตกค้างของฟิโปรนิลจากทั้งโรงเก็บไข่ไก่ และร้านค้าในเมือง Plovdiv เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสองของประเทศ มีการจับกุมผู้ต้องหา ๒ รายที่พัวพันกับการตกค้างของฟิโปรนิล
คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสุขภาพ และความปลอดภัยอาหารนาม Vytenis Andriukaitis เรียกร้องให้นำผู้ต้องหาขึ้นศาล ยุโรปยังคงหวาดระแวง และจะไม่ยอมทนต่อการดำเนินการกับคนเพียงไม่กี่คนที่ไม่ซื่อสัตย์ ชื่อเสียง และความมั่นคงตลอดวงจรการผลิตอาหารเป็นหนึ่งในเสาเค้าจุนเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป เจ้าหน้าที่เยอรมันอ้างกว่า ระดับของสารตกค้างในไข่ไก่ที่ตรวจพบเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ยังไม่สูงเพียงพอที่จะเป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่ แต่มีความเสี่ยงสำหรับเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวโทษรัฐบาลว่าพยายามปกปิดรายงานว่า ยาฆ่าแมลงถูกตรวจพบในผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่มีส่วนผสมของไข่ รัฐบาลปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตรวจพบฟิโปรนิลที่ระดับสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกสินค้าคืนครั้งมโหฬาร ที่อาจพลิกทำลายอุตสาหกรรมอาหารได้ภายในพริบตา และป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในเดือนกันยายน
เอกสารอ้างอิง

ภาพที่ ๑     เครื่องดื่มสุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติใหม่ใช้บรั่นดีมิกซ์กับไข่แดง Advocaat” ปนเปื้อนด้วยยาฆ่าแมลงผิดกฏหมายฟิโปรนิล (แหล่งภาพ: Naltik, Bigstock)

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

วิจัยเชื้อราในไส้ตันไก่

เชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคอาหารเป็นพิษในมนุษย์ แต่ละปีทั่วโลกต้องลงทุนใช้เงินหลายหมื่นล้านบาทเพื่อควบคุมเชื้อเหล่านี้ และกลยุทธสำคัญส่วนใหญ่ก็มีเป้าหมายที่เชื้อแบคทีเรียก่อโรคเหล่านี้ในทางเดินอาหาร
กลยุทธ์ในการป้องกันเชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ในการผลิตไก่เนื้อ รวมถึง การใช้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในรูปของซีอี หรือโปรไบโอติก แต่ก็ยังมีเชื้อชนิดอื่น เช่น รา และยีสต์ ที่มีฤทธิ์ป้องกัน และควบคุมเชื้อก่อโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน
บทบาทของเชื้อรา และยีสต์ ยังไม่ทราบแน่ชัด
               เชื้อรา และยีสต์ เป็นจุลินทรีย์ไมโคฟลอราที่นักวิชาการยังไม่เข้าใจว่า มีความสัมพันธ์กับการผลิตสัตว์ปีกอย่างไรได้บ้าง เชื้อเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้ อย่างไรก็ตามก็มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า เชื้อราก็สามารถป้องกันสัตว์ปีกจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นเดียวกัน นักวิชาการทั่วโลกมักมองข้ามบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   
การปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน
               การศึกษาผลของเชื้อราที่เป็นประโยชน์ กับการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันภายใต้สภาวะการเลี้ยงไก่ปรกติ ความเครียด และการเกิดโรค ปัญหาประการหนึ่งในการทำงานวิจัยกับเชื้อราคือ การจำแนกจีนัส และชนิดของเชื้อรา เนื่องจาก ห้องปฏิบัติการเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีความสนใจเชื้อรา และยีสต์ ดังนั้น เป้าหมาของการศึกษาครั้งนี้คือ การจำแนกเชื้อราที่แยกได้จากทางเดินอาหารของไก่เนื้อ และไก่ไข่ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราที่พบในไส้ตันของสัตว์ปีก แล้วใช้เทคนิค Automated repetitive sequence PCR เป็นเครื่องมือสำหรับการจำแนกชนิดกลุ่มประชากรเชื้อรา ผลการวิจัยครั้งนี้จะให้ข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราภายใต้ระบบการเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะป็นสิ่งสำคัญสำหรับการศึกษาผลของเชื้อราต่อทางเดินอาหาร และสุขภาพสัตว์ปีกต่อไป
เอกสารอ้างอิง
J. Byrd A, Caldwell DY, and Nisbet DJ. 2017. Identifying fungi in commercial poultry caeca. [Internet]. [Cited 2017 Oct 2]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/10/Identifying-fungi-in-commercial-poultry-caeca-191500E/


ภาพที่ ๑  นักวิชาการกำลังสนใจบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   (แหล่งภาพ: Koos Groenewold)

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การทำให้น้ำเป็นกรดส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ไก่โตดี ลดการใช้ยา

น้ำที่ถูกเตรียมให้เป็นกรดเป็นกุญแจส่วนหนึ่งของการกำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ปเป็นประโยชน์ และสุขภาพของสัตว์ปีก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือสมดุลของชีวิตที่ถูกต้อง
               น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง ระดับของความสะอาด และสุขอนามัยมีอยู่หลายมาตรฐาน คนส่วนใหญ่คิดว่า เมื่อน้ำที่สกปรก สังเกตได้ความขุ่น และการปนเปื้อนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วน้ำที่ดูใสก็อาจซ่อนอันตรายไว้ได้เช่นกัน
คุณภาพน้ำ พื้นฐานสำคัญสำหรับสุขภาพสัตว์
               ตามปรกติ ไก่กินน้ำเป็นสองเท่าของอาหาร ดังนั้น น้ำจึงมีบทบาทสำคัญต่อการย่อยอาหาร การเคลื่อนย้ายสารอาหาร การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และการกำจัดของเสียจากร่างกาย น้ำมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพไก่ และผลการเลี้ยงฟาร์ม
               กุญแจสำคัญ ๒ ประการสำหรับการทำความสะอาดน้ำในฟาร์ม ได้แก่
               ๑. การทำความสะอาดฆ่าเชื้อหลังจบรุ่น (Terminal hygience at turnaround)
               ๒. บำบัดน้ำโดยใช้กรดอินทรีย์ (Ongoing water treatments like organic acids)
ภายหลังการจับไก่
               เกษตรกรมีการฟลัชล้างระบบน้ำทุกรุ่นหลังการจับไก่อยู่แล้ว แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กิจกรรมประจำรุ่นประสบความสำเร็จ ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แค่เพียงอ่านคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แล้วปฏิบัติตาม คนส่วนใหญ่คิดเพียงว่าปล่อยทิ้งไว้ในท่อให้นานขึ้นก็ช่วยให้ได้ผลดีแล้ว แต่สิ่งนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป น้ำยาทำความสะอาดสามารถทำลายไบโอฟิลม์ตามท่อได้ในช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ไบโอฟิลม์สามารถจับตัวกันใหม่จนกระทั่งยากที่จะฟลัชล้างออกไปได้ 
ไบโอฟิลม์คืออะไร และกำจัดได้อย่างไร
               ไบโอฟิลม์คือกลุ่มของเชื้อแบคทีเรีย รา และสาหร่ายที่จับรวมเข้าด้วยกันเป็นเมือกเกาะแน่นบนพื้นผิว และปกป้องไม่ให้สารต้านเชื้อแบคทีเรียทำลายได้ ดังนั้น เชื้อดังกล่าวก็จะสามารถเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้ 
               น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้กรดเปอร์อะเซติกมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไบโอฟิลม์ ขณะที่ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้ผลดีในการกำจัดไบโอฟิลม์ และสารอินทรีย์ แต่ไม่ว่าจะใช้น้ำยาเคมีประเภทใดก็ให้ปฏิบัติตามฉลากข้างขวด อย่างไรก็ตาม หากเชื้อแบคทีเรียระดับสูง ความเข้มข้นระดับ ๑ เปอร์เซ็นต์อาจไม่เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อได้ อาจต้องเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ ๒ ถึง ๓ เปอร์เซ็นต์ ให้ทบทวนกิจกรรมที่ได้ทำมาในรุ่นที่ผ่านมา หากมีการตรวจน้ำทางห้องปฏิบัติการ และไม่พบเชื้อใดๆที่น่าวิตกกังวล การใช้น้ำยาทำความสะอาดความเข้มข้นเพียง ๑ เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอ แต่ถ้ามีการให้ยา และวิตามินบ่อย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสารตกค้างคงอยู่ในท่อก็ควรจะเพิ่มความเข้มข้นน้ำยาทำความสะอาดขึ้นอีกสักหน่อย
การตรวจคุณภาพน้ำ
               คุณภาพน้ำจะมีผลต่อสุขภาพไก่ในโรงเรือนมากเท่าไรก็ขึ้นกับว่า ไก่กินน้ำเข้าไปมากเท่าไร โดยเฉพาะ พีเอช อาจส่งผลต่อรสชาด และการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียก่อโรคชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นด่าง ขณะที่ เชื้อแบคทีเรียที่ดีชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นกรด น้ำที่มีระดับพีเอชสูงยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ และวัคซีน ขณะที่ น้ำที่มีกรดมากเกินไปก็อาจทำให้ไก่ไม่ยอมกินน้ำ และกัดกร่อนอุปกรณ์การเลี้ยงในโรงเรือนได้อีกด้วย
ระดับพีเอชที่เหมาะสม
               พีเอชที่เหมาะควรอยู่ระหว่าง ๕ ถึง ๖ น้ำกระด้างต้องมีการบำบัดมากกว่าน้ำอ่อน ถ้าใช้น้ำบาดาลก็ควรตรวจวิเคราะห์เป็นประจำทุก ๖ ถึง ๑๒ เดือน เพื่อทำความเข้าใจแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อให้มากขึ้น เนื่องจาก ระดับของแร่ธาตุส่งผลกระทบต่อสุขภาพไก่ได้โดยตรง เช่น น้ำที่มีระดับโซเดียม และคลอไรด์สูงอาจทำให้วัสดุรองพื้นเปียกได้ เช่นเดียวกับแมกนีเซียม และซัลเฟต หรือซัลเฟต และโซเดียม เพียงใช้แผ่นดิปสติ๊กง่ายๆ หรืออุปกรณ์พกพาตรวจพีเอชของน้ำในท่อน้ำไก่กินอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้เรามีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของแร่ธาตุในแหล่งน้ำได้
อุปกรณ์บำบัดน้ำ
               อุปกรณ์บำบัดน้ำกระด้างให้เป้นน้ำอ่อนใช้หลักการของการแลกเปลี่ยนไอออนเพื่อกำจัดไอออนของแคลเซียม และแมกนีเซียม แล้วแทนที่ด้วยไอออนของโซเดียม อย่างไรก็ตาม ภายหลังการบำบัดก็จะทำให้ระดับของโซเดียมสูงขึ้นจนไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้น ผู้ผลิตควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์บำบัดน้ำอย่างรอบคอบ
ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
               เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อตัวของไบโอฟิลม์ไปจนตลอดรุ่นการเลี้ยง พิจารณาเลือกวิธีการบำบัดน้ำที่เหมาะสม ได้แก่ การกรองด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต น้ำอิเล็กโทรไลต์ คลอรีนไดออกไซด์ และคลอรีนเม็ด การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถใช้ขณะที่ยังมีการเลี้ยงไก่ในโรงเรือนในระดับที่ต่ำกว่าที่ใช้เวลาจับไก่ และได้ผลเป็นอย่างดีภายหลังการให้วิตามิน เกลือแร่ หรือยา   
กรดอินทรีย์
               ผู้ผลิตควรพิจารณากรดอินทรีย์ เพ่อเป็นแหล่งอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร เราไม่ต้องการเชื้อแบคทีเรียชนิดใดๆในน้ำที่อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ไก่มีความเสี่ยงภัยต่อสุขภาพ กรดอินทรีย์มีประโยชน์สำคัญ ๓ ประการ
               ๑. กรดอินทรีย์ช่วยทำความสะอาดน้ำ
               ๒. กรดอินทรีย์ช่วยลดตะกรันหินปูน
               ๓. กรดอินทรีย์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร
การลดพีเอชด้วยกรดอินทรีย์
               กรดอินทรีย์ลดพีเอชของน้ำ เมื่อใช้ร่วมกับสารทำความสะอาดชนิดอื่นๆ เช่น คลอรีน พีเอชที่เหมาะสมคือ ๕.๕ อย่างไรก็ตาม หากใช้กรดอินทรีย์อย่างเดียว ผู้ผลิตควรลดพีเอชลงให้ได้ระหว่าง ๓.๘ ถึง ๔.๒ เพื่อให้มีฤทธิ์กำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคจากน้ำ ไก่ชอบน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด และค่อนข้างทนทานต่อกรด แต่หากระดับพีเอชต่ำลงกว่า ๓.๕ ก็จะทำลายผนังลำไส้ได้เช่นกัน
การใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้
               สิ่งสำคัญในการใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะผ่านไปถึงลำไส้ในรูปแบบที่สมบูรณ์ กรดทำงานในลำไส้โดยผ่านผนังเซลล์ของแบคทีเรียจากนั้นจึงแตกตัว และลดพีเอชภายในเซลล์แบคทีเรีย เซลล์จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อพยายามปรับพีเอชไว้ ทำลายเมตาโบลิซึมของแบคทีเรีย และป้องกันแบคทีเรียก่อโรคมิให้รอดชีวิตต่อไป หากกรดไม่ถูกเคลือบป้องกันไว้ก็จะถูกทำละลายก่อนที่จะไปถึงลำไส้ และไม่สามารถออกฤทธิ์ต่อไปได้
               ชนิดของกรดอินทรีย์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายได้แก่ กรดฟอร์มิก และกรดโพรพิโอนิก มีประสิทธิภาพดีในการควบคุมเชื้อ อี. โคไล และซัลโมเนลลา ขณะที่ กรดแลคติก และกรดบิวไทริก มีความสำคัญต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแลคโตบาซิลลัสในลำไส้
ระบบการเติมยาอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
               กรด คลอรีน และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยอื่นๆ อาจเป็นอันตรายหากขาดความระมัดระวัง การลงทุนติดตั้งระบบการเติมยาอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคอยให้พนักงานคอยเติม และตวงชั่งด้วยมือ จะทำให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ประกอบการว่า สัตว์ปีกในโรงเรือนได้รับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในระดับที่ถูกต้องไปจนตลอดวงจรการเลี้ยง  การเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารที่ดีเพิ่มเติมได้โดยการใช้โปรไบโอติกในน้ำ หรืออาหาร เพื่อส่งเสริมความแข็งแรง และการทำหน้าที่ของภูมิคุ้มกัน
               การใช้ยาฆ่าเชื้อในน้ำอย่างต่อเนื่องจะทำลายโปรไบโอติกส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงต้องหยุดใช้น้ำยาฆ่าเชื้อระหว่างการใช้โปรไบโอติก อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกในสหราชอาณาจักรที่ทนทานต่อคลอรีนได้
กรณีตัวอย่าง การใส่ใจต่อน้ำให้ผลผลิตที่ดี
               ฟาร์มไก่เนื้อที่มีปัญหาสุขภาพต่อเนื่องทุกรุ่น จำนวน ๕๔๒,๐๐๐ ตัว เริ่มบำบัดน้ำอย่างเข้มงวดเป็นเวลา ๓ ปีจากน้ำบ่อที่ใช้ในฟาร์ม มีการตรวจสอบเป็นประจำทุก ๖ เดือน และฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเล็ต น้ำมีระดับแมงกานีส เหล็ก และซัลเฟตสูง ดังนั้น จึงใช้รีเวิร์สออสโมซิสเพื่อกำจัดสารเหล่านี้ สุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่สุขอนามัยของน้ำมักถูกมองข้ามไป
               เมื่อจบการเลี้ยงแต่ละรุ่นก็มีการฟลัชล้างทุกไลน์น้ำ รวมถึง ท่อน้ำใต้ดินไหลออก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาศัยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ทิ้งไว้เป็นเวลา ๑๒ ชั่วโมงก่อนฟลัชทิ้งด้วยน้ำสะอาด แล้วทำซ้ำก่อนที่ลูกไก่รุ่นใหม่จะนำเข้ามาเลี้ยง จากนั้นใช้คลอรีน และกรดอินทรีย์เติมลงในน้ำโดยใช้ระบบการเติมยาอัตโนมัติช่วยปรับพีเอชลดลงจาก ๗.๔ ให้เป็น ๕.๒ ด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อย ผู้เลี้ยงก็จะได้ประโยชน์จากสุขภาพของลำไส้ที่ดี ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาวัสดุรองพื้นเสีย เมื่อไก่จับเข้าโรงฆ่าก็มีคะแนนรอยโรคของเท้าที่ดีมาก การทำความสะอาดไลน์น้ำ และอุปกรณ์การให้น้ำก่อนที่จะเกิดเมือกขึ้นมาเป็นการตัดปัญหาการเกิดไบโอฟิลม์  
น้ำสะอาดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เราใช้ในการเลี้ยงไก่ เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนของมวลร่างกายไก่ส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำ
โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์
               การใช้โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร และภูมิคุ้มกันในไก่ที่อายุ ๓ สัปดาห์เป็นเวลาที่ไก่กำลังเปลี่ยนสูตรอาหารสัตว์ บางฟาร์มกำลังให้วัคซีนกัมโบโร และเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต สภาวะดังกล่าวที่สร้างความเครียดต่อสุขภาพทางเดินอาหาร น้ำมันหอมระเหยช่วยสร้างความสมดุลให้กับลำไส้ และลดการรั่วไหลของแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด สามารถยับยั้งการเกาะยึดของเชื้อ อี. โคลัย ที่ฟิมเบรีย ตั้งแต่ลูกไก่แรกเลี้ยงอายุ ๑ วัน ช่วงเวลาการเลี้ยงไก่เล็กค่อนข้างสั้น ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมน้ำที่สะอาด และมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อมิให้เชื้อแบคทีเรียก่อโรคฉวยโอกาสเข้าไปในร่างกายของสัตว์ตั้งแต่ระยะแรก นอกจากนั้น ผลประโยชน์อื่นๆยังช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้เป็นอย่างมาก นั่นคือ การอยู่บนพื้นฐานของการป้องกันมากกว่าการคอยรักษาสัตว์ป่วย

เอกสารอ้างอิง

Cooper O. 2017. How acidification of water improves gut health. [Internet]. [Cited 2016 Sep 19]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/9/How-acidification-of-water-improves-gut-health-186304E/

ภาพที่ ๑  น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง (แหล่งภาพ: Tim Scrivener)

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

แคมไพล์ระบาดจากร้านเพ็ตชอพมะกัน

หน่วยสุขภาพของรัฐโอไฮโอ CDC และ APHIS มากันให้หมด กำลังสอบสวนการระบาดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ที่เชื่อมโยงกับลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านร้านเพ็ตชอพ Petland ที่เป็นเชนร้านขายสัตว์เลี้ยงไปทั่วประเทศ ถึงเวลานี้มีผู้ป่วย ๓๙ รายใน ๗ รัฐ เข้าโรงพยาบาล ๙ ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต  
               การระบาดครั้งนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ๑๑ กันยายนพอดี ผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่ทารกไม่ถึงขวบดีไปจนถึงคนชราวัย ๖๔ ปี อายุเฉลี่ยเป็น ๒๒ ปี โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็น ๗๒ เปอร์เซ็นต์ ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ๒๓ เปอร์เซ็นต์ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อ หรือแสดงอาการของโรคใน ๗ รัฐ ได้แก่ ฟลอริดา คันซอ มิสซูรี โอโฮโอ เพนซิลวาเนีย เทนเนสซี และวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสกับลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านร้านเพตแลนด์ โดย ๑๒ รายเป็นลูกจ้างในร้านเพตแลนด์จาก ๔ รัฐ และ ๒๗ รายพึ่งซื้อลูกสุนัขจากร้านเพตแลนด์ แวะชมร้านเพตแลนด์ หรือพักอาศัย หรือแวะเที่ยวบ้านที่ซื้อลูกสุนัขผ่านร้านเพตแลนด์ก่อนเริ่มแสดงอาการป่วยหลักฐานทางระบาดวิทยา และห้องปฏิบัติการ บ่งชี้ว่า ลูกสุนัขขายจากร้านเพตแลนด์เป็นแหล่งของการระบาดครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ร้านเพตแลนด์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สุขภาพสัตว์ และสาธารณสุขเป็นอย่างดีในการสอบย้อนกลับหาแหล่งต้นตอการระบาด เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์สามารถแพร่กระจายจากการสัมผัสอุจจาระของสุนัข การตรวจลำดับสารพันธุกรรมทั้งจีโนม พบว่า เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์จากตัวอย่างลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านเพตแลนด์ในฟลอริดามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยในโอไฮโอ นั่นคือ ลูกสุนัข และสุนัขเป็นพาหะของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในการระบาดครั้งนี้ 
               คำแนะนำในการซื้อลูกสุนัข ควรเลือกลูกสุนัขที่แข็งแรง ตื่นตัว และขนเป็นเงา และควรนำลูกสุนัขใหม่ไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด ไม่เกิน ๑ สัปดาห์หลังจากรับเข้ามาเลี้ยง หากตรวจลูกสุนัขป่วย ให้ฝากให้กับสัตวแพทย์ ผู้ที่สัมผัสกับสุนัขป่วยควรล้างมือให้สะอาดอย่างทั่วถึงด้วยสบู่ เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ โดยเฉพาะ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก คนชรา ล้วนแต่มีความไวรับต่อการเกิดโรค อาการป่วยเริ่มตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียง บางครั้งมีเลือดปนในอุจจาระ และมีไข้ ผู้ป่วยควรพบแพทย์   

สุนัขเป็นพาหะนำเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ติดต่อสู่มนุษย์ได้ โดยสุนัขจะไม่แสดงอาการ มีรายงานการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ๖ เปอร์เซ็นต์ของโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในมนุษย์มีสาเหตุจากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง แสดงว่า ไก่เริ่มมีคู่แข่งที่มาแรง และอาจแซงโค้งได้ในอนาคต บทบาทของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ต่อการเกิดโรคทางเดินอาหารในสุนัขยังไม่แน่ชัด บางงานวิจัยพบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างอาการท้องเสีย และการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ แสดงว่า เป็นเชื้อที่มีโอกาสพบได้เป็นปรกติในร่างกายสุนัข แต่บางงานวิจัยก็ให้ผลขัดแย้งกัน โดยพบความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขที่ติดเชื้อกับอาการป่วย โดยเฉพาะ ลูกสุนัข รอยโรคที่พบคือ การคั่งเลือด และบวมน้ำของลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่เลือดออกอย่างรุนแรง และต่อมน้ำเหลืองตามเยื่อแขวนลำไส้บวมน้ำ และยังมีรายงานลูกสุนัขแรกเกิดตายจากการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน เช่นกัน สุนัขสามารถเป็นพาหะของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ได้หลายชนิด โดย ค. เจจูไน เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด รองลงมาคือ ค. อัพซาเลียนซิส บางรายงานวิจัย พบการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ร่วมกันหลายชนิด ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เป็นที่แน่ชัดว่า สุนัขเป็นแหล่งของเชื้อชนิดนี้ที่สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้โดยตรง ความชุกของสุนัขที่เป็นพาหะของเชื้อ มีผลการสำรวจที่แตกต่างกันไปขึ้นกับประชากรสุนัขที่เก็บตัวอย่าง การออกแบบการศึกษษ และวิธีการตรวจสอบ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความชุกได้แก่ สิ่งแวดล้อม อายุ การปรากฏอาการท้องเสีย หรือโรคทางเดินอาหาร การเลี้ยงสุนัขอย่างแออัด การสัมผัสกับสัตว์อื่นๆ การเดินออกไปนอกพื้นที่การเลี้ยง และฤดูกาล
เอกสารอ้างอิง
ProMed. 2017. Campylobacteriosis-USA: canine, human, alert. [Internet]. [Cited 2016 Sep 11]. Available from: http://www.promedmail.org
ภาพที่ ๑ วิ่งส่ายก้นแพร่เชื้อในร้านเพ็ตช็อพ ๖ เปอร์เซ็นต์ของโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในมนุษย์มีสาเหตุจากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง  (แหล่งภาพ: https://pixabay.com/en/dog-shop-run-pet-fun-1673728/) 


   

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

ท้องเสียจากแคมไพล์ในอังกฤษ หลังปาร์ตี้ฉลองวันเกิด

โปรเมดเวบไซต์ตรวจติดตามโรคอุบัติใหม่รายงานการเกิดโรคแคมไพโลแบคเตอริโอซิสในสหราชอาณาจักร โดยแหล่งของโรคระบาดเกิดจากโรงแรม และร้านอาหาร สาธารณสุขแห่งอังกฤษ (PHE) เปิดเผยว่าเมนูอาหารจากตับไก่ Chicken liver parfait เป็นสาเหตุของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษที่โรงแรม Brockley Hall ใน Saltburn อย่างไรก็ตาม ไม่พบความผิดปรกติในกระบวนการผลิตอาหารรายการดังกล่าว ดังนั้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของการปนเปื้อนครั้งนี้ได้ ความจริงแล้ว นักวิจัยได้มีการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างเมนูอาหารชนิดนี้กับการเกิดโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์มาแล้ว แต่ความเอร็ดอร่อยในรสชาดคงเอาชนะความกลัวโรคอาหารเป็นพิษ
               จำนวนผู้ป่วยตามรายงานของ PHE รวมทั้งสิ้น ๘ ราย ในจำนวนนี้ ๖ รายมีผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเกิดโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ ส่วนอีก ๒ รายยังเป็นรายที่สงสัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่แสดงอาการป่วยภายหลังร่วมงานฉลองวันครบรอบวันเกิด ๔๐ ปีเมื่อวันที่ ๗ กรกฏาคมที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ ๓ รายต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงหญิงเจ้าของงานวันเกิดต้องนอนหยอดน้ำเกลือร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนๆด้วยเช่นกัน ขณะนี้ รายงานการระบาดได้ส่งไปยังสภา Redcar and Cleveland Council โดยผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตั้งแต่การสอบสอน และปฏิบัติตามคำแนะนำในการควบคุม และการจัดการโรคระบาด หลังจากการตรวจเยี่ยมซ้ำ ผู้ประกอบการก็ได้ดำเนินการแก้ไขจนไม่พบความเสี่ยงต่อผู้บริโภค และอนุญาตให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารต่อไปได้ แม้ว่าจะไม่พบความผิดปรกติในการผลิตอาหารรายการนี้ แต่ก็เชื่อได้ว่า การปนเปื้อนข้ามของตับบดทาขนมปังนี้จะเกิดขึ้นภายหลังการปรุงสุก หรืออาจเป็นผลมาจากปรุงไม่สุกเพียงพอจนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ    
               สำหรับปัญหาโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก การบริโภคตับที่ปรุงไม่สุกเพียงพอ รวมถึง เมนูพิเศษที่แนะนำโดยพ่อครัวชั้นเยี่ยม เสริฟรายการตับที่ใช้เวลาปรุงสั้นๆ สียังเป็นสีชมพูอยู่เลย ระหว่างปี ค.ศ.๒๐๑๕ มีคณะวิจัยเคยศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างตับดิบ และการอยู่รอดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ แล้วใช้ภาพถ่ายประเมินพ่อครัวตัวดีว่า สามารถสังเกตได้หรือไม่ว่า ตับไก่ปรุงสุกเป็นอย่างดีปลอดภัยแล้วสำหรับผู้บริโภค หลังจากทำการศึกษาความปลอดภัยทางทางจุลชีววิทยาของตับที่พ่อครัวพร้อมจะเสริฟให้กับลูกค้า ผู้วิจัยยังได้จำลองการอยู่รอดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในตับไก่ที่ติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ที่อุณหภูมิต่างๆกัน พบว่า พ่อครัวส่วนใหญ่สามารถจำแนกตับไก่ปรุงสุกที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ก็เป็นระดับที่สุกเกินไปสำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบความดิบ ผู้วิจัยพบว่า ๑๙ ถึง ๕๒ เปอร์เซ็นต์ของตับที่เสริฟในเมนูอาหารสุดยอดเหล่านี้ปรุงไม่ถึงอุณหภูมิ ๗๐ องศาเซลเซียส และคาดว่า อัตราการรอดชีวิตของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ยังคงเป็น ๔๘ ถึง ๙๘ เปอร์เซ็นต์ ผลการวิจัยครั้งนี้บ่งชี้ว่า พฤติกรรมการประกอบอาหารในเมนูพิเศษนี้มีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในผู้บริโภคสหราชอาณาจักร  
เอกสารอ้างอิง
Jones AK, Rigby D, Burton M, et al: Restaurant cooking trends and increased risk for Campylobacter infection. Emerg Infect Dis. 2016;22: 1208-15. Available at: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4918174/

ภาพที่ ๑มนูอาหารจากตับไก่ Chicken liver parfait เป็นสาเหตุของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษที่โรงแรม Brockley Hall (แหล่งภาพ: https://stocksnap.io/photo/I2FJ6Y4RPV) 



วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

วิถีหวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ สไตล์อาหรับ

กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางมีประชากรไก่เนื้อ ๓ พันล้านตัว ไก่ไข่ ๑๓๗ ล้านตัว ไก่พันธุ์ ๓๐ ล้านตัว เริ่มประสบปัญหาไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๙๙ ในสไตล์ต่างๆตั้งแต่ ไข่ลดมีอัตราการไข่พีคแค่ ๖๒ เปอร์เซ็นต์ รูปร่างไข่ผิดรูป ผิวขรุขระ อัตราการตายปานกลาง ไก่ไข่ และไก่พันธุ์จะแสดงอาการทางระบบหายใจร่วมด้วย ขณะที่ ไก่เนื้อมีอัตราการตายหนักหน่อย บางรายหายนะมากกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ภายในสามอาทิตย์เท่านั้น นักวิชาการชาวอาหรับสำรวจโรคจากการเก็บตัวอย่างซีรัม และเนื้อเยื่อทั่วตะวันออกกลาง พบว่า การเกิดโรคไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ มักไม่ฉายเดียว แต่มีพ่วงหลอดลมอักเสบติดต่อ หรือนิวคาสเซิล มาด้วยเสมอ สำหรับชาวอาหรับ ไม่ยอมหลับ ตัดสินใจใช้วัคซีนเชื้อตายควบคุมโรคที่ ๑๒ และ ๑๖ สัปดาห์ สามารถควบคุมความเสียหายจากโรคได้
               โรคไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ ไม่ใช่เพิ่งมาเจอกัน แต่พบครั้งแรกในไก่งวงสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้วในปี ค.ศ. ๑๙๖๖ แต่หลังจากนั้นก็ไปเตร็ดเตร่อยู่แถวนกชายหาด และเป็ดแมลลาร์ด อย่างไรก็ตามหลังจากวิวัฒนาการเป็นเวลานานกว่าห้าสิบปี เชื้อไวรัสแพร่กระจายข้ามโลก วนไปในนกป่า และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั่วโลก ถึงเวลาของไวรัสเอช ๙ เอ็น ๒ ที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นเวลานานก็พร้อมจะแผลงฤทธิ์ให้โลกได้ประจักษ์แล้ว อาละวาดฟาดไปทั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ในไก่น้อยก็ตายกันมาก ในไก่ไข่ ไก่พันธุ์ก็ทำให้ไข่ลดลงจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจตอนต้น ร่วมกับเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆผสมโรง และในคนก็อันตรายไม่น้อย เพราะเชื้อไวรัสเอช ๗ เอ็น ๙ ที่โลกกลัวติดคนแล้ว อัตราตาย ๔๐ เปอร์เซ็นต์ก็สร้างสรรค์โดยยีนส์ ๖ ท่อนจากรุ่นพี่เอช ๙ เอ็น ๒ นี่เอง
หกสิบเปอร์เซ็นต์ของไก่มีผลเลือดเป็นบวก
               ตัวอย่างเลือด ๑๗๙๐ ตัวอย่างที่เก็บจากฟาร์มหลายแห่งในตะวันออกกลาง พบว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ให้ผลเลือดเป็นบวกต่อโรคไข้หวัดนกด้วยวิธีเอจีพี และอีไลซา จากนั้นก็ต้องใช้แอนติเจนของจีดีที่จำเพาะต่อเอช ๙ และไอบี ๔ ทับ ๙๑ ใช้เทคนิคเอชไอก็พบว่าเป็นบวกเช่นกัน เป็นอันยืนยันว่า การเกิดโรคมักเป็นการร่วมด้วยช่วยกันของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก และหลอดลมอักเสบติดต่อ ยิ่งไปกว่านั้น ผลการตรวจแยกเชื้อไวรัสมักพบการติดเชื้อร่วมกันของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก และเชื้อท้องถิ่นไวรัสนิวคาสเซิล
เสียดายที่ยังไม่มีการสำรวจในคน และสัตว์เลี้ยงแดนอาหรับบ้าง อย่างในทางตอนใต้ของจีนเป็นเสมือนสรวงสวรรค์สำหรับเชื้อไวรัสไข้หวัดนก พบเชื้อไวรัสในสุนัขสูงขึ้นเรื่อยๆจาก ๒๐.๑ เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ.๒๐๑๐ เป็น ๔๔.๘๕ เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ.๒๐๑๒ เรียกได้ว่า แดนสวรรค์แห่งนี้ สุนัขเดินมา ๒ ตัวต้องมี ๑ ตัวที่เคยติดเชื้อไวรัส เอช ๙ เอ็น ๒ มาแล้ว  สำหรับในมนุษย์ องค์การอนามัยโลก เชื่อว่า จะมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ   
  
เอกสารอ้างอิง
Bakri H. 2016. Avian influenza H9N2 in the middle east countries. [Internet]. [Cited 2016 Nov 11]. Available from: https://en.engormix.com/poultry-industry/articles/avian-influenza-h9n2-middle-t39878.htm


ภาพที่ ๑ ไข่จากฟาร์มที่ติดเชื้อเอช ๙ เอ็น ๒ ในตะวันออกกลาง แม่เจ้า...นี่มันไข่หรือหินแม่น้ำเนี่ย? (เครดิตบัง Bakri, 2016)  

ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...