นักวิจัยยืนยันว่า
การบริโภคไข่เพียงวันละฟองไม่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคสโตรค
จากผลการวิจัยในสแกนดิเนเวีย
สโตรค (Stroke)
หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่ทำให้สมองขาดเลือดจนทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
จนทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้าและ/หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย
พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว มุมปากตก น้ำลายไหล กลืนลำบาก ปวดศีรษะ เวียนศีรษะทันทีทันใด ตามัว
มองเห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก หรือตาบอดข้างเดียวทันทีทันใด เดินเซ ทรงตัวลำบาก
นักวิจยไม่พบความสัมพันธ์กับพาหะของฟีโนไทป์
“เอพีโออี ๔” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเมตาโบลิซึมของคอเลสเตอรอล
และพบได้บ่อยในประชากรชาวฟินแลนด์ ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ รายงาน
ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคอาหารที่มีคอเลสเตอรอล หรือไข่ไก่
และความเสี่ยงต่อสโตรคได้ถูกโต้แย้งจากรายงานการวิจัยจำนวนมากในปัจจุบัน
ผลวิจัยล่าสุดในประชากร ๓๐,๐๐๐ ราย เพิ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในสหรัฐฯ
พบว่า การกินไข่ไก่เฉลี่ย ๒ ฟองต่อวัน มีความเสี่ยงต่อหัวใจวาย และโรคตามระบบหัวใจ
และหลอดเลือดเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๗ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๔
แต่ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำ
American
Journal of Clinical Nutrition พบว่า การบริโภคไข่ไก่
หรืออาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงไม่มีความสัมพันธ์กับสโตรคที่เพิ่มขึ้น
ผลวิจัยที่น่าประหลาดใจ
การวิเคราะห์ข้อมูลโดยมหาวิทยาลัยฟินแลนด์ตะวันออกโดยใช้ข้อมูลด้านสุขภาพ
และโภชนาการจากชาย ๑ ๙๕๐ คน อายุระหว่าง ๔๒ ถึง ๖๐ ปี ที่ไม่มีประวัติโรคหัวใจ
และหลอดเลือด เป็นเวลาต่อเนื่องกว่า ๒๑ ปี มีผู้ป่วยสโตรค ๒๑๗ ราย
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายกินไข่ราว ๔.๕ ฟองต่อสัปดาห์
ได้รับคอเลสเตอรอล ๔๐๘ มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อพิจารณาพฤติกรรม และสุขภาพ
นักวิจัยพบว่า ไม่พบความแตกต่างของความเสี่ยงระหว่างผู้ชายที่กินไข่ไก่น้อยกว่า ๒
ฟองต่อสัปดาห์ และผู้ชายที่กินไข่ไก่มากกว่า ๖ ฟองต่อสัปดาห์
ผลวิจัยไม่สามารถตีความครอบคลุมถึงทุกคน ทุกประเทศได้
ผลวิจัย บ่งชี้ว่า การกินคอเลสเตอรอล หรือไข่ไก่
ปริมาณปานกลางไม่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงของสโตรค
แม้กระทั่งในคนที่มีกรรมพันธุ์เป็นปัจจัยโน้มนำที่จะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลจากการบริโภคอาหารสูงขึ้นกว่าคนปรกติก็ตาม
กลุ่มควบคุมที่กินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงที่สุด ๕๒๐ มิลลิกรัมต่อวัน
และกินไข่ไก่เฉลี่ยแล้ววันละฟอง โดยไม่สามารถทำให้สูงไปกว่าระดับนี้ได้
ไข่ไก่ ๑
ฟองประกอบด้วยคอเลสเตอรอลประมาณ ๒๐๐ มิลลิกรัม และจากการทดลองครั้งนี้
หนึ่งในสี่ของคอเลสเตอรอลทั้งหมดที่กินเข้าไปมาจากไข่ไก่
กินไข่ไก่แต่พอประมาณ
การศึกษาครั้งนี้
ย้ำให้นักวิจัยมุ่งไปที่คนที่ไม่เคยมีประวัติโรคหัวใจ และหลอดเลือดมาก่อน
และกลุ่มประชากรที่ศึกษาค่อนข้างน้อย นักวิจัยแนะนำให้การศึกษาในอนาคตควรขยายขนาดกลุ่มประชากรให้ใหญ่กว่านี้
รวมถึง ควรครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างประชากรที่เคยมีประวัติโรคหัวใจ และหลอดเลือด
และกำลังได้รับคำแนะนำให้จำกัดการกินคอลเลสเตอรอล และไข่ไก่
หัวหน้าคณะผู้วิจัย Jyrki Virtanen แห่งภาควิชาระบาดวิทยาที่มหาวิทยาลัยฟินแลนด์ตะวันออก
กล่าวกับนิวยอร์กไทม์ไว้ว่า การกินไข่ไก่แต่พอประมาณเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่มีปัญหาโรคหัวใจ หรือเบาหวาน การกินไข่ไก่ 1 ฟองต่อวันเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ
การศึกษาครั้งนี้ตีพิมพ์หลังจากรายงานจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
สหราชอาณาจักร วิเคราะห์ข้อมูลจากชาย และหญิงมากกว่า ๔๐๐,๐๐๐ รายในยุโรปเป็นเวลา
๑๒ ปี และพบว่า การเพิ่มการกินไข่ไก่ทุกร้อยละ ๒๐ (ประมาณครึ่งฟองต่อวัน)
ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
รายงานนี้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ American Heart Association Journal โดยยังพบผลดีจากการบริโภคโยเกิร์ต และชีส ขณะที่การบริโภคเนื้อแปรรูป
และเนื้อแดง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
เอกสารอ้างอิง
McDougal
T. 2019. Research shows egg consumption not linked to stroke risk. [Internet].
[Cited 2019 Mar 24]. Available from: https://www.poultryworld.net/Eggs/Articles/2019/5/Research-shows-egg-consumption-not-linked-to-stroke-risk-431673E/
ภาพที่ ๑ นักวิจัยยืนยันการกินไข่ไม่เกี่ยวกับสโตรค (แหล่งภาพ
Willem
Schouten)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น