วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568

FAO วอนเข้มคุมหวัดนก

 การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ สร้างความเสียหายให้สัตว์ปีกหลายร้อนล้านตัวทั่วโลก แล้วยังแพร่ไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเข้มงวดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ การตรวจติดตามและเฝ้าระวังโรค กลไกการตอบสนองต่อโรคอย่างรวดเร็ว และการสื่อสารด้านความเสี่ยงเพื่อสร้างความปลอดภัยต่อภาคการผลิตสัตว์ปีกและปกป้องอาชีพเกษตรกรรมและเศรษฐกิจ

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารสัตว์โลก ก๊อดฟรีย์ แม็กเวนซี่ แสดงความเห็นถึงการแพร่ระบาดของโรคที่กว้างขวางอย่างคาดไม่ถึง ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงทางอาหารในหลายประเทศ รวมถึง การสูญเสียโอกาสทางโภชนาการ งานและรายได้ ช๊อกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างภาระเพิ่มรายจ่ายให้กับผู้บริโภค

สิ่งท้าทายคือจะป้องกันระบบการผลิตสัตว์ปีกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการของประชากรหลายล้านคนที่ต้องพึ่งพาเนื้อสัตว์และไข่ได้อย่างไร สิ่งท้าทายเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ และการค้าขายที่ปลอดภัย และป้องกันผลกระทบทางสังคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก   

ความร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็น

               องค์การอาหารโลกเน้นย้ำถึงปัญหาระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยความร่วมมือของประเทศต่างๆทั่วโลก ตอนนี้องค์การอาหารโลกเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับไวรัสนี้มาเป็นเวลามากกว่า ๒๐ ปี สนับสนุนให้ภาครัฐบาลของประเทศต่างๆตรวจสอบ ป้องกัน และรับมือกับการระบาดของโรค

               เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือให้เกิดความเข้มแข็ง องค์การสุขภาพสัตว์โลก หรือโวอ้า ได้กำหนดกลยุทธ์สิบปีสำหรับการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกทั่วโลก บทบาทขององค์การอาหารโลกในการต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกเน้นย้ำความสำคัญของระบบสุขภาพสัตว์และสัตวแพทย์ที่เข้มแข็งในทุกประเทศ โซ่เส้นนี้จะเกิดความแข็งแรงเท่าใดขึ้นกับจุดเชื่อมต่อที่อ่อนแอที่สุด โดยการทำงานร่วมกัน จะช่วยลดผลกระทบของโรคไข้หวัดนกและป้องกันทั้งสุขภาพสัตว์และมนุษย์ทั้งในท้องถิ่นและทั่วโลกได้ ในสี่ปีที่ผ่านมา สังเกตการเปลี่ยนแปลงสำคัญของโรคไข้หวัดนกตามภูมิภาค และแพร่สู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกิดความเสียหายอย่างมากในการเลี้ยงสัตว์ปีก ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารและราคาสินค้าสัตว์ปีกที่สูงขึ้น  จำนวนสัตว์ปีกป่าที่ตายจากโรค ส่งผลร้ายความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างน้อยนกธรรมชาติ ๓๐๐ ชนิดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นมา

               องค์การอาหารโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆกำหนดมาตรการรับมือโรคไข้หวัดนก เพิ่มการเฝ้าระวังและรายงานโรค เพิ่มประสิทธิภาพห้องปฏิบัติการ พัฒนาและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ สนับสนุนการจัดการความเสี่ยงโดยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ พิจารณาการให้วัคซีนเพื่อลดความสี่ยง 

               พิจารณาบทบาทของการให้วัคซีนในการบรรเทาความเสี่ยง เสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับการระบาดของโรค ความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยการเฝ้าระวังโรคและรายงานโรค เพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการ พัฒนาและเตรียมแผนให้เกิดความต่อเนื่องทางธุรกิจต่อไปได้ ส่งเสริมการจัดการความเสี่ยงผ่านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

เอกสารอ้างอิง

Brockötter  F. 2025. FAO appeals for stronger action against the spread of H5N1. [Internet]. [Cited 2025 Mar 25]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/changes-proposed-to-poultry-catching-and-handling-in-uk/

ภาพที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคมที่ผ่านมา  ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารสัตว์โลก ก๊อดฟรีย์ แม็กเวนซี่ เรียกร้องให้เข้มมาตรการควบคุมการระบาดเอช ๕ เอ็น ๑ (แหล่งภาพ FAO/Cristiano Minichiello)



วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

UK แก้กฎหมายการจับสัตว์ปีกสำหรับการขนส่ง

 ร่างกฎหมายปรับเปลี่ยนวิธีการจับและควบคุมสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักรสำหรับการขนส่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นการเอาใจผู้เลี้ยงสัตว์ปีก

ดีฟราได้เปิดเผยข้อเสนอให้แก้ไขการจับสัตว์ปีกโดยอนุญาตให้จับแม่ไก่ไข่และไก่เนื้อ ตั้งแต่การยกและการอุ้มในเวลาขึ้นและถ่ายลงจากรถขนส่ง เพื่อให้กฎหมายเกิดความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น ผู้เลี้ยงจะสามารถจับสัตว์ด้วยขาทั้งสองข้างได้ตามหลักเกณฑ์สวัสดิภาพสัตว์

        บทบัญญัติตามดีฟรากำหนดไว้สำหรับสวัสดิภาพสัตว์แม่ไก่ไข่และไก่รุ่น รวมถึง สวัสดิภาพสัตว์ของไก่เนื้อและไก่พันธุ์เนื้อ ทั้งในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ ครอบคลุมการจับขาทั้งสองข้างของไก่พร้อมกันเป็นวิธีที่เหมาะสมและยอมรับได้   

ไม่อนุญาตในสหภาพยุโรป

               ข้อเสนอนี้จะทำให้หลักการของสหราชอาณาจักรขัดแย้งกับสหภาพยุโรป โดยกฏหมายสหภาพยุโรปในปัจจุบันตามกฏระเบียบ ๑/๒๐๐๕ ว่าด้วยการป้องกันสัตว์ระหว่างการขนส่ง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ได้อนุญาตให้ยกและจับสัตว์ขึ้นรถขนส่งด้วยขาทั้งสองข้างได้  

               ดีฟรากล่าวถึงข้อเสนอให้แก้ไขกฎระเบียบ ๑/๒๐๐๕ เพื่ออนุโลมให้การจับไก่รวบสองขาได้ แต่จะไม่ให้จับขาเดียว ซึ่งเป็นการช่วยให้อุตสาหกรรมไข่ไก่และเนื้อไก่ของสหราชอาณาจักร และบริษัทรับบริการจับไก่ เกิดความชัดเจนต่อข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้กับกิจกรรมการจับสัตว์ปีก และสร้างความเชื่อมั่นว่า ไก่ยังสามารถขนส่งระหว่างโรงเรือน และนำส่งไปยังโรงงานแปรรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันเหตุการณ์ โดยไม่ส่งผลให้มาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ต่ำลง

งานวิจัยในอนาคต

               ภาครัฐบาลยังมองหางานวิจัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบผลลัพธ์ของสวัสดิภาพสัตว์ และพารามิเตอร์ต่างๆด้านโลจิสติกจากการจับไก่ด้วยวิธีต่างๆ รวมถึง การจับไก่โดยการอุ้มและการรวบสองขา เมื่อต้องปฏิบัติในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อการปรับแก้ไขกฏหมาย หรือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไปในระยะยาวได้ โดยการรวบรวมข้อมูลเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาในการจับไก่ด้วยวิธีการต่างๆในระบบโรงเรือนที่แตกต่างกัน    

·      วิธีการจับไก่งวง

·      วิธีการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการจับ จำนวนคนในทีมจับไก่และสวัสดิภาพสัตว์

เมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการสวัสดิภาพสัตว์ของรัฐบาลได้รายงานข้อเสนอให้จับไก่ด้วยขา จนกระทั่ง มูลนิธิกฎหมายสัตว์ในสหราชอาณาจักรแย้งว่า กฏหมายปัจจุบันและการจับไก่อย่างขาดมนุษยธรรมในสหราชอาณาจักรทำให้ต้องทบทวนความจำเป็นต่อการลำดับความสำคัญของสวัสดิภาพสัตว์ในสังคมอีกครั้ง  

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. Changes proposed to poultry catching and handling in the UK. [Internet]. [Cited 2025 Mar 28]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/changes-proposed-to-poultry-catching-and-handling-in-uk/

ภาพที่ ๑ กฎระเบียบยุโรป ๑/๒๐๐๕ ห้ามการยกหรือจับสัตว์ด้วยขา เนื่องจากเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น คำสั่งห้ามนี้ใช้กับสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิดรวมถึงสัตว์ปีก ระหว่างการขนส่ง (แหล่งภาพ Ton Kastermans Photography)





วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568

จีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้ และเนื้อไก่งวงบด

 ผู้บริโภคที่ใช้ยาจีแอลดี-วัน มองหาอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันน้อย สอดรับกับทางเลือกที่น่าสนใจกับเนื้อไก่งวงบด กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ความต้องการผลิตภัณฑ์เนื้อไก่งวงบดเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง ปัจจัยหนึ่งที่ดูเหมือนจะสนับสนุนให้เกิดเป็นกระแสความนิยมเพิ่มมากขึ้นมาจากกลุ่มผู้บริโภคที่ฮอร์เมลฟู้ดส์ เรียกว่า จีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้ ยาจีแอลพี-วัน เป็นยาที่ไปหลอกให้ฮอร์โมนส่งสัญญาณไปยังสมองว่า กระเพาะของเราอิ่มแล้ว การย่อยอาหารช้าลง และลดความอยากอาหาร เช่น ยาโอเซมพิก และวีโกวี้ ผู้บริโภคที่ใช้ยานี้ก็จะเลือกสันอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่งวง

เนื้อสัตว์ปีก โดยเฉพาะ เนื้อไก่งวงบด ไปกันได้ดีกับความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพอย่างมาก ดังนั้น ผู้บริโภคจึงค้นหาแหล่งโปรตีนที่มีไขมันน้อย เนื้อสัตว์ปีกเป็นตัวเลือกที่ตรงเป๋ง กลุ่มผู้บริโภคหนึ่งที่ต้องถูกใจก็เป็นจีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้ ทั้งนี้ชุมชนสังคมใหม่นี้เพิ่มเกิดขึ้นมา ยังมีสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับพฤติกรรมการบริโภคของ จีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้ แต่งานวิจัยเบื้องต้น บ่งชี้ว่า ให้เพิ่มอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก หรือผลไม้สด เนื้อสัตว์ปีกและเนื้อปลา เป็นรายการอาหารที่กำลังเติบโตสูงที่สุด เริ่มได้สัมผัสกับการเลือกซื้อเพิ่มขึ้นในกลุ่มจีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้   

ฮอร์เมลฟู้ดส์เป็นบริษัทแม่ของร้านเจนนี่-โอ เตอร์กี้ เป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อไก่งวงบดในสหรัฐฯ ทั้งนี้ เจนนี่-โอ มีตำแหน่งทางการตลาดที่โดดเด่นสอดรับกับตลาดที่กำลังเติบโต ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ยอดขายเนื้อไก่งวงบดเพิ่มขึ้นร้อละ ๖ ความต้องการสินค้าแข็งแกร่งสอดรับกับความต้องการที่สูงขึ้น   

เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2025. GLP-1 community and ground turkey a good match, Hormel says. [Internet]. [Cited 2025 Mar 3]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-future/consumer-trends/news/15738815/glp1-community-and-ground-turkey-a-good-match-hormel-says

ภาพที่ ๑ จีแอลพี-วัน คอมมิวนิตี้ และเนื้อไก่งวงบด (แหล่งภาพ Hormel Foods)



วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2568

ยูเครนส่งออกเนื้อไก่พุ่ง ๒๐ เปอร์เซ็นต์

 ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ การส่งออกยูเครนกระโดดสูงขึ้นอีกร้อยละ ๒๐.๔ แตะยอดสูงที่สุด ๓.๑๖ หมื่นล้านบาท ปริมาณการส่งออกสูงขึ้นร้อยละ ๕.๗ เป็น ๔๔๘,๘๐๐ ตัน

ในปีที่ผ่านมา เนเธอร์แลนด์ยังคงเป็นผู้นำเข้าเนื้อไก่รายใหญ่ที่สุดของยูเครน มีสัดส่วนร้อยละ ๒๓.๒ ขณะที่ ซาอุดิอาระเบียรั้งตำแหน่งที่ ๒ คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๑ และลำดับที่สาม สโลวาเกีย ร้อยละ ๘.๕ นอกจากนั้น ยูเครนยังสามารถส่งออกไข่ไก่ได้อีก ๗๗,๘๐๐ ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๙.๔ หรือคิดเป็นจำนวนเงิน ๒.๕๓ พันล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๕ โดยมีผู้นำเข้ารายสำคัญ ได้แก่ อิสราเอลร้อยละ ๑๔.๑ โปแลนด์ ๑๑.๗ และอิตาลี ๑๑.๑

สัญญาณบวก

               การส่งออกเติบโต บ่งชี้ถึง ความสามารถในการแข่งขันของสินค้ายูเครนสูงขึ้นในตลาดระหว่างประเทศ และการผลิตภายในประเทศที่มีประสิทธิภาพดี การขยายพื้นที่การเลี้ยงสัตว์ได้เพิ่มขึ้น และความต้องการเนื้อไก่และไข่ไก่ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงคุณภาพและความสอดคล้องกับมาตรฐานโลก สัญญาณบวกของการผลิตในปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงอนาคตของอุตสาหกรรมการผลิตไก่เนื้อยูเครน คาดการณ์ว่า การส่งออกของยูเครนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุนต่อไปได้

ความผันผวนเศรษฐกิจปีนี้

               ในปี พ.ศ.๒๕๖๘ ปัจจัยหลายประการที่คาดว่าจะกำหนดการผลิตสัตว์ปีกของยูเครน เชื่อว่า โควตาการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปได้รับรองแล้วจนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘ และจะยังคงใช้ไปจนถึงสิ้นปี ทั้งนี้ขึ้นกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนจะสามารถเจรจาต่อรองทางการค้าเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกไปยังสหภาพยุโรปสำเร็จหรือไม่

               ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จนี้มาจากอุตสาหกรรมสัตว์ปีกสามารถพลิกกลับมาผลิตเนื้อสัตว์ปีกและไข่ได้จนถึงระดับก่อนสงคราม ซึ่งจะส่งผลต่อสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดไปตลอดปี และความสามารถในการสร้างกำไรของธุรกิจ การส่งออกกำลังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก โดยเฉพาะ การลดลงของความต้องการตลาดภายในประเทศ

               การหดตัวและสถานการณ์ที่แย่ลงของสุขภาพทางการเงินโดยภาพรวมของผู้บริโภคชาวยูเครน ส่งผลต่อยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกยูเครนในปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ในปีนี้ กำลังการซื้อของประชากรยังจำกัดจะส่งผลต่อการบริโภค แม้ว่า เนื้อไก่จะยังคงเป็นโปรตีนที่จับต้องได้ง่ายที่สุดในตลาด    

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors. 2025. Ukraine: poultry exports reached nearly $1 billion in 2024. [Internet]. [Cited 2025 Feb 26]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/ukraines-poultry-exports-reached-nearly-1-billion-in-2024/

ภาพที่ ๑ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและไข่จากยูเครนจะยังคงเติบโตต่อไปได้ (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

อังกฤษเข้มหวัดนก สั่งงดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกทั้งหมด

 การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกที่มีการสัตว์มาอยู่ร่วมกันจำนวนมากถูกสั่งห้ามเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก

การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกถูกสั่งห้ามทั่วทั้งอังกฤษ สก๊อตแลนด์ และเวลส์ เนื่องจาก สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่อยู่ในระดับสูง หมายความว่า งานจำหน่ายสัตว์เลี้ยง งานแสดงสัตว์ปีก และการขายสัตว์ปีก หรือกิจกรรมใดๆที่มีการรวมตัวกันของสัตว์ปีกไม่สามารถจัดให้มีได้ คาดว่ามาตรการนี้จะดำเนินต่อไปจนฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่นขึ้น และการอพยพของนกเปลี่ยนแปลงไป ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานโรคไข้หวัดนก ๔ ครั้งที่เมืองยอร์คไชร์ คอร์นวอลล์ และเวอร์ราล จนถึงวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ เกิดการระบาดไปแล้ว ๒๘ ครั้ง

               สำนักงานสัตวแพทย์แห่งสหราชอาณาจักรได้ให้เหตุผลในการสั่งห้ามครั้งนี้ ก็เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ แอ็น ๑ ซึ่งสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้เช่นเดียวกับสัตว์ปีก ดังนั้น รัฐบาลจึงสั่งห้ามอย่างเข้มงวด แม้ว่าจะได้พยายามทำลายสัตว์ป่วย และควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเข้มงวด การสั่งห้ามจะสิ้นสุดต่อเมื่อความเสี่ยงต่อโรคได้ลดลงแล้ว เป็ดและห่านมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สูงมาก สำหรับไก่งวง ไก่ และนกการกีฬามีความเสี่ยงปานกลาง ขึ้นกับโอกาสที่จะสัมผัสกับสัตว์ป่าที่ติดเชื้อ

ลดความเสี่ยงสัมผัสกับนกป่าที่ติดเชื้อ

               การสัมผัสกับนกป่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สหราชอาณาจักรพ่ายแพ้ต่อสงครามต่อโรคไข้หวัดนกฤดูกาลนี้ ความจริงแล้ว สถานการณ์การติดเชื้อลดลงอย่างมากเปรียบเทียบกับเมื่อสองสามปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงพบโรคเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าวิตกกังวล สุขอนามัยและระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่ดีเยี่ยมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ปีก โดยเฉพาะ ลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับนกป่าที่ติดเชื้อ

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. UK bans bird gatherings to curb spread of avian influenza. [Internet]. [Cited 2025 Feb 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/ban-on-bird-flu-gatherings-comes-into-force-in-the-uk/

ภาพที่ ๑ การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกที่มีการสัตว์มาอยู่ร่วมกันจำนวนมากถูกสั่งห้าม (แหล่งภาพ Herbert Wiggerman)



วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

สหรัฐฯทำลายไก่ไข่รวดเดียวสามล้านตัวจากหวัดนก

 เอฟิสรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมถึงทั้งฟาร์มไก่งวง ฟาร์มเป็ดในรัฐอินเดียนาและฟาร์มไก่ไข่ในรัฐโอไฮโอ 

ฟาร์มไก่ไข่สองแห่งในรัฐโอไฮโอเกิดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง โดยแห่งหนึ่งในนั้นมีไก่ไข่มากกว่า ๓ ล้านตัว กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ หรือยูเอสดีเอ สำนักตรวจสอบสุขภาพพืชและสัตว์ หรือเอฟิส ยืนยันโรคเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ในฟาร์มไก่ไข่ที่มีแม่ไก่ ๓,๐๙๐,๔๐๐ ตัว และอีกแห่งก็มีแม่ไก่ไม่น้อย ๘๔,๘๐๐ ตัว ถึงเวลานี้ในปี พ.ศ.๒๕๖๘ ผ่านมาไม่ถึงสองเดือน รัฐโอไฮโอสูญเสียฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกไปแล้วมากกว่า ๖๖ ล้านตัวจากโรคไข้หวัดนกโรคเดียวมากกว่ารัฐใดๆในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมดอยู่ในเมืองเมอร์เซอร์และดาร์ก ซึ่งทำลายสัตว์ปีกไปแล้ว ๔๓ และ ๒๐ แห่ง

โรคไข้หวัดนกในอินเดียนา

               เอฟิสยังรายงานการเกิดโรคอีกสองฟาร์มในรัฐอินเดียนาเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ โดยเป็นฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๑๙,๔๐๐ ตัวในเมืองวอชิงตัน และฟาร์มเป็ดพันธุ์ในเมืองเอล์คฮาร์ต ทั้งสองฝูงเคยรายงานสงสัยโรคต่อคณะกรรมการสุขภาพสัตว์แห่งรัฐอินเดียนามาก่อนแล้ว ในปีนี้ รัฐอินเดียนาเกิดความเสียหายในฟาร์มไปแล้ว ๑๑ ฟาร์ม

โรคไข้หวัดนกในมิสซูรี่

               เอฟิสยังเพิ่มข้อมูลการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มไก่งวงพันธุ์ในเมืองลอว์เรนซ์ ยืนยันโรคแล้วเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ในปีนี้ รัฐมิสซูรี่เกิดความเสียหาย ๒๑ ฟาร์ม

เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2025. Over 3 million hens in one flock lost to avian influenza. [Internet]. [Cited 2025 Feb 24]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/article/15738155/over-3-million-hens-in-one-flock-lost-to-avian-influenza 

ภาพที่ ๑ สหรัฐฯทำลายฟาร์มไก่ไข่สามล้านตัวจากหวัดนก (แหล่งภาพ South12th | Dreamstime.com)






วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ลมอยู่เบื้องหลังการระบาดหวัดนก

 การศึกษาล่าสุด บ่งชี้ว่า ระบบการระบายอากาศมีบทบาทมากต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านลม

ระบบการระบายอากาศมีบทบาทสำคัญต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะ โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงจากรายงานวิจัยล่าสุด

การระบาดของโรคโดยอาศัยลม เชื้อไวรัสสามารถเดินทางผ่านอากาศเป็นระยะทางไกล โดยนักวิจัยได้แสดงหลักฐานจากการศึกษาระดับพันธุกรรมเพื่อสนับสนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของโรคโดยอาศัยลม งานวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกที่ตั้งอยู่ห่างกัน ๕ ไมล์ ผลการทดสอบระดับโมเลกุล แสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง มีความเหมือนกันทั้งหมด หมายความว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกันนี้เองที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในฟาร์มทุกแห่งข้างต้น

การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมประกอบกับการวิเคราะห์เชิงระบาดวิทยา อุตุนิยมวิทยา และภูมิศาสตร์ ช่วยให้เห็นภาพเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่า ลมเป็นกลไกสำคัญในการแพร่ระบาดของเชื้อระหว่างฟาร์มสัตว์ปีกได้  สภาพอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างการติดเชื้อส่วนใหญ่ รวมถึง ลมที่นิ่งจากภาคตะวันตก เมฆก่อตัวหนาแน่นปกคลุมปิดกั้นไม่ให้แสดงยูวีผ่านลงมาฆ่าเชื้อโรคได้ และอุณหภูมิที่เย็นตัวลงช่วยปกป้องไวรัสไว้ สภาวะต่างๆเหล่านี้รวมกันเป็นสภาวะในอุดมคติสำหรับการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดนกผ่านอากาศได้  

บทบาทของระบบการระบายอากาศ

               ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า ระบบการระบายอากาศในโรงเรือนสัตว์ปีก เอื้อให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ทิศทางการแพร่กระจายโรคผ่านลมในฟาร์มต่างๆ ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า กลไกการติดเชื้อของโรงเรือนสัตว์ปีกอาจมีอิทธิพลของระบบการระบายอากาศแบบอุโมงค์ลมที่ส่งเสิรมให้เกิดการติดเชื้อต่อไปได้

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2025. Study identifies wind as likely culprit behind HPAI spread. [Internet]. [Cited 2025 Feb 19]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/news/15737841/study-identifies-wind-as-likely-culprit-behind-hpai-spread

ภาพที่ ๑ ลมอยู่เบื้องหลังการระบาดหวัดนก (แหล่งภาพ South12th | Dreamstime.com)



FAO วอนเข้มคุมหวัดนก

  การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ สร้างความเสียหายให้สัตว์ปีกหลายร้อนล้านตัวทั่วโลก แล้วยังแพร่ไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เป็นเรื่อง...