การระบาดของโรคไข้หวัดนกเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้องค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH) หรือโอไออี กำลังพิจารณาใหม่ในการให้วัคซีนสัตว์ปีก
จนถึงปัจจุบัน
การป้องกันโรคในสัตว์ปีกที่เลี้ยงเชิงพาณิชย์โดยใช้วัคซีนยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจาก
สัตว์ปีกที่ให้วัคซีนยังสามารถแพร่กระจายไปยังสัตว์ปีกตัวอื่นๆด้วย
และการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็วกว่าปรกติ
ทำให้การให้วัคซีนเกิดประโยชน์น้อยลง
สาเหตุประการอื่นๆ
รวมถึง การฉีดสัตว์ปีกหลายตัว ไม่สะดวกในทางปฏิบัติ วัคซีนยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
การจำแนกระหว่างสัตว์ที่ติดเชื้อจากสัตว์ที่ให้วัคซีนยังยากลำบาก
สวัสดิภาพสัตว์จากการจับสัตว์ฉีดวัคซีน
ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับผู้เลี้ยงจนทำให้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพหละหลวมลงไป
และประเด็นด้านการค้าขายสัตว์ปีกระหว่างประเทศ
ภาครัฐบาลกำลังพิจารณาการให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนก
ศาตราจารย์ คริสทีน มิดเดิลมิส
หัวหน้าสำนักงานกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และชนบท (Department for Environment Food &
Rural Affairs, Defra) อ้างว่า
การระบาดกว้างขวางออกไปหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ยุโรป เกิดการระบาดมากกว่า ๒,๓๐๐
ครั้ง และอเมริกาเหนือ รัฐบาลหลายประเทศกำลังพิจารณาการให้วัคซีน ในสหราชอาณาจักร
ฟาร์มมากกว่า ๑๖๐ แห่งเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๑ ในปีที่ผ่านมา
โดยส่วนใหญ่พบในอังกฤษมากกว่า ๑๓๕ ครั้ง
ครึ่งหนึ่งของฟาร์มเหล่านี้เป็นฟาร์มสัตว์ปีกขนาดใหญ่ ร้อยละ ๒๕
เป็นฝูงสัตว์ปีกหลีงบ้าน และร้อยละ ๒๐ เป็นฟาร์มขนาดเล็ก ดีฟรายังอ้างถึงสมาคมผู้ผลิตสัตว์ปีกปล่อยอิสระแห่งสหราชอาณาจักร
(British Free Range Egg Producers Association, Bfrepa) เรียกร้องให้องค์การสุขภาพสัตว์โลก พิจารณาทบทวนมาตรการให้วัคซีน
อย่างไรก็ตาม ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติมมากกว่านี้
เติมเต็มสิ่งที่ยังไม่รู้
ขณะนี้ โครงการของศาตราจารย์ เอียน
บราวน์ จากหน่วยสุขภาพสัตว์และพืช (Animal and Plant Health Agency) แห่งสหราชอาณาจักร
กำลังค้นคว้าวิจัยช่องว่างของความรู้เกี่ยวกับการวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสสับไทป์เอช
๕ เอ็น ๑ และวิธีที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายเข้าสู่ฟาร์มสัตว์ปีก
เมื่อโครงการนี้ไม่ได้มองไปที่วัคซีนไข้หวัดนก
งานวิจัยบางส่วนเป็นการศึกษาวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๑ สามารถช่วยในการพัฒนาวัคซีนในอนาคตได้
เป็นสิ่งที่สหภาพยุโรปกำลังให้ความสนใจ
กระทรวงเกษตรแห่งสหภาพยุโรป
บรรลุข้อตกลงเมื่อเดือนพฤษภาคมในการตัดสินใจใช้กลยุทธ์นำวัคซีนไข้หวัดนกสำหรับควบคุมโรค
เนื่องจาก ทั่วยุโรปทำลายสัตว์ปีกไปแล้วจำนวนมาก รัฐมนตรีเกษตรสเปน อ้างว่า
การทำลายสัตว์ปีกจำนวนมากขนาดนั้น เริ่มไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนแล้ว
นอกเหนือจาก ความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล
สภาอุตสาหกรรมไข่ไก่สหราชอาณาจักร (British Egg Industry Council, BEIC) อ้างถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมปรึกษาหารือถึงข้อดีของการใช้วัคซีน และเริ่มพิจารณากันแล้ว ประเด็นสำคัญในการถกเถียงกันคือ “ประเทศคู่ค้าในยุโรปเริ่มยอมรับลูกสัตว์ปีก หรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ปีก จากฝูงสัตว์ที่ให้วัคซีนหรือไม่” ทั้งนี้ BEIC ก็คาดหวังว่าผลการพิจารณาจะยอมรับการใช้วัคซีน
เอกสารอ้างอิง
Mcdougal T. 2022. Vaccinating for avian influenza
on the OIE agenda. [Internet]. [Cited 2022 Oct 10]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/45962-broiler-breeder-flock-arkansas-first-hpai-case-of-2022
ภาพที่ ๑ เป็ดตายจำนวนมากกำลังถูกเคลื่อนย้ายโดยรถขนสัตว์ปีกตายที่ฟาร์ม
ภายใต้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ เนื่องจาก การติดโรคไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๕ เอ็น
๑ (แหล่งภาพ Jo-Anne
McArthur, 2022)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น