เชื้อไวรัสไข้หวัดนกกำลังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภาคเกษตรกรรม ความมั่นคงทางอาหาร การค้า และระบบนิเวศ ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่การฉีดวัคซีนควรมีบทบาทมากขึ้นในการควบคุมโรคนี้?
หากคุณยังไม่แน่ใจว่า
ควรฉีดวัคซีนให้กับนกเพื่อต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกหรือไม่
คุณอาจต้องอ่านรายงานฉบับล่าสุดจาก องค์การสุขภาพสัตว์โลกในช่วงกว่า ๒๐
ปีที่ผ่านมาระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ถึง ๒๕๖๘ มีนกมากกว่า ๖๓๓ ล้านตัว ตายจากการติดเชื้อหรือจากการทำลายเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสดังกล่าว
ไวรัสนี้ไม่ได้เป็นเพียงภัยเฉพาะฤดูกาลหรือภูมิภาคอีกต่อไป
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕
เป็นต้นมา ไวรัสได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ติดเชื้อใน
นกป่าหลากหลายชนิดมากขึ้น
และเริ่มพบการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการติดเชื้อใน
มนุษย์เป็นครั้งคราว สร้างความกังวลว่าไวรัสอาจกลายพันธุ์จนกลายเป็นวิกฤตสาธารณสุขในวงกว้างในอนาคต
ท่าทีที่เข้มแข็งมากขึ้น
แม้ว่า
มาตรการด้านชีวอนามัย การเฝ้าระวังโรค
และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์จะยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่รายงานระบุว่า
การฉีดวัคซีนสามารถเสริมมาตรการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยช่วยลดการหมุนเวียนของไวรัสภายในและระหว่างฝูงสัตว์ปีก
ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อสู่สัตว์ป่าและมนุษย์
นอกจากนี้
เมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง องค์การสุขภาพสัตว์โลกยังชี้ให้เห็นว่า
การฉีดวัคซีนสอดคล้องกับมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกยังสามารถวางจำหน่ายในตลาดโลกได้
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ องค์การสุขภาพสัตว์โลก กล่าวถึง
การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในเครื่องมือควบคุมโรคไข้หวัดนก ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี พ.ศ.
๒๕๖๖ ในบทความชื่อ “ไข้หวัดนก:
ทำไมจึงไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการค้า” องค์การฯ ระบุว่า
จำเป็นต้องพิจารณามาตรการควบคุมโรคที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ ในบางสถานการณ์ทางระบาดวิทยา
การฉีดวัคซีนอาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมกลยุทธ์ควบคุมโรคแบบอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ที่น่าสนใจก็คือ น้ำเสียงและท่าทีของ องค์การสุขภาพสัตว์โลก ในปัจจุบันดูเหมือนจะเปลี่ยนไปในทางที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนมากขึ้น
ในรายงาน “สถานภาพสุขภาพสัตว์ของโลก
พ.ศ. ๒๕๖๘” ขององค์การสุขภาพสัตว์โลก
ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า โรคไข้หวัดนกระดับความรุนแรงสูง ไม่ใช่เพียงวิกฤตด้านสุขภาพสัตว์เท่านั้น
แต่เป็น ภาวะฉุกเฉินระดับโลก ที่กำลังบั่นทอนความมั่นคงของภาคเกษตรกรรม
ความมั่นคงทางอาหาร การค้า และระบบนิเวศ การรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
จำเป็นต้องอาศัย แนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนและรอบด้าน เพื่อปกป้องเศรษฐกิจ
วิถีชีวิตของผู้คน และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันของระบบ
ต่อการระบาดในอนาคต หากคุณยังคงไม่แน่ใจว่า ควรฉีดวัคซีนให้นกเพื่อป้องกันไข้หวัดนกหรือไม่
คุณอาจต้องลองอ่านรายงานล่าสุดจากองค์การสุขภาพสัตว์โลกฉบับนี้ดูอีกครั้ง
ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา
มีสัตว์ปีกมากกว่า ๖๓๓ ล้านตัว ที่สูญเสียไปจากการติดเชื้อ
หรือจากการกำจัดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส ไวรัสไข้หวัดนกไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลหรือเฉพาะพื้นที่อีกต่อไป
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เชื้อไวรัสได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ แล้วติดเชื้อในนกป่าหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้น
และยังพบการติดเชื้อใน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบางกรณียังมี
การติดเชื้อในมนุษย์ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าไวรัสอาจกลายพันธุ์จนกลายเป็น
วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงทราบสถานการณ์เหล่านี้
แม้อาจไม่ทราบตัวเลขนกที่สูญเสียไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ในรายงานสถานภาพสุขภาพสัตว์ของโลก
พ.ศ. ๒๕๖๘
องค์การสุขภาพสัตว์โลก ระบุว่า
ขนาดและความซับซ้อนของการระบาดในสัตว์ ที่ยังคงดำเนินอยู่
ต้องการการตอบสนองอย่างเร่งด่วนและรอบด้านมากกว่ามาตรการควบคุมแบบเดิม รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า
แม้จะมีความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
และเน้นว่าการฉีดวัคซีนได้กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีศักยภาพในการเสริมมาตรการเดิม
ช่วยลดทั้งการแพร่กระจายของไวรัสและความรุนแรงของการติดเชื้อ นอกจากนี้
ยังชี้ให้เห็นว่า มาตรการควบคุมตามหลักสุขอนามัยแบบดั้งเดิม เช่น
การทำลายนกจำนวนมาก ม้จะมีบทบาทสำคัญในการควบคุมโรค แต่กลับส่งผลกระทบ
ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง จนเกิดข้อกังวลเกี่ยวกับ
ความยั่งยืนของมาตรการเหล่านี้ในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
Clements M. 2025. Avian influenza now a global
emergency. [Internet]. [Cited 2025 Aug 4]. Available from:
https://www.wattagnet.com/blogs/poultry-around-the-world/blog/15752020/avian-influenza-now-a-global-emergency
ภาพที่ ๑ มาร์ก
คลีเมนต์ส เรียกร้องให้ยกระดับโรคไข้หวัดนกเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก (แหล่งภาพ Trend Design | Bigstock)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น