วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ยกระดับโรคไข้หวัดนกเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก

 เชื้อไวรัสไข้หวัดนกกำลังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภาคเกษตรกรรม ความมั่นคงทางอาหาร การค้า และระบบนิเวศ ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่การฉีดวัคซีนควรมีบทบาทมากขึ้นในการควบคุมโรคนี้?

หากคุณยังไม่แน่ใจว่า ควรฉีดวัคซีนให้กับนกเพื่อต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกหรือไม่ คุณอาจต้องอ่านรายงานฉบับล่าสุดจาก องค์การสุขภาพสัตว์โลกในช่วงกว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมาระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ถึง ๒๕๖๘ มีนกมากกว่า ๖๓๓ ล้านตัว ตายจากการติดเชื้อหรือจากการทำลายเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสดังกล่าว ไวรัสนี้ไม่ได้เป็นเพียงภัยเฉพาะฤดูกาลหรือภูมิภาคอีกต่อไป

ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นมา ไวรัสได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ติดเชื้อใน นกป่าหลากหลายชนิดมากขึ้น และเริ่มพบการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการติดเชื้อใน มนุษย์เป็นครั้งคราว สร้างความกังวลว่าไวรัสอาจกลายพันธุ์จนกลายเป็นวิกฤตสาธารณสุขในวงกว้างในอนาคต

ท่าทีที่เข้มแข็งมากขึ้น

แม้ว่า มาตรการด้านชีวอนามัย การเฝ้าระวังโรค และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์จะยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่รายงานระบุว่า การฉีดวัคซีนสามารถเสริมมาตรการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยช่วยลดการหมุนเวียนของไวรัสภายในและระหว่างฝูงสัตว์ปีก ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อสู่สัตว์ป่าและมนุษย์

นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง องค์การสุขภาพสัตว์โลกยังชี้ให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนสอดคล้องกับมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกยังสามารถวางจำหน่ายในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ องค์การสุขภาพสัตว์โลก กล่าวถึง การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในเครื่องมือควบคุมโรคไข้หวัดนก ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ในบทความชื่อ “ไข้หวัดนก: ทำไมจึงไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการค้า”  องค์การฯ ระบุว่า จำเป็นต้องพิจารณามาตรการควบคุมโรคที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ ในบางสถานการณ์ทางระบาดวิทยา การฉีดวัคซีนอาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมกลยุทธ์ควบคุมโรคแบบอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่น่าสนใจก็คือ น้ำเสียงและท่าทีของ องค์การสุขภาพสัตว์โลก ในปัจจุบันดูเหมือนจะเปลี่ยนไปในทางที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนมากขึ้น

ในรายงาน สถานภาพสุขภาพสัตว์ของโลก พ.ศ. ๒๕๖๘ ขององค์การสุขภาพสัตว์โลก ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า โรคไข้หวัดนกระดับความรุนแรงสูง ไม่ใช่เพียงวิกฤตด้านสุขภาพสัตว์เท่านั้น แต่เป็น ภาวะฉุกเฉินระดับโลก ที่กำลังบั่นทอนความมั่นคงของภาคเกษตรกรรม ความมั่นคงทางอาหาร การค้า และระบบนิเวศ การรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องอาศัย แนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนและรอบด้าน เพื่อปกป้องเศรษฐกิจ วิถีชีวิตของผู้คน และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันของระบบ ต่อการระบาดในอนาคต หากคุณยังคงไม่แน่ใจว่า ควรฉีดวัคซีนให้นกเพื่อป้องกันไข้หวัดนกหรือไม่ คุณอาจต้องลองอ่านรายงานล่าสุดจากองค์การสุขภาพสัตว์โลกฉบับนี้ดูอีกครั้ง

ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา มีสัตว์ปีกมากกว่า ๖๓๓ ล้านตัว ที่สูญเสียไปจากการติดเชื้อ หรือจากการกำจัดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส ไวรัสไข้หวัดนกไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลหรือเฉพาะพื้นที่อีกต่อไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เชื้อไวรัสได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ แล้วติดเชื้อในนกป่าหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้น และยังพบการติดเชื้อใน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบางกรณียังมี การติดเชื้อในมนุษย์ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าไวรัสอาจกลายพันธุ์จนกลายเป็น วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงทราบสถานการณ์เหล่านี้ แม้อาจไม่ทราบตัวเลขนกที่สูญเสียไป จึงไม่น่าแปลกใจที่ในรายงานสถานภาพสุขภาพสัตว์ของโลก พ.ศ. ๒๕๖๘

องค์การสุขภาพสัตว์โลก ระบุว่า ขนาดและความซับซ้อนของการระบาดในสัตว์ ที่ยังคงดำเนินอยู่ ต้องการการตอบสนองอย่างเร่งด่วนและรอบด้านมากกว่ามาตรการควบคุมแบบเดิม รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า แม้จะมีความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และเน้นว่าการฉีดวัคซีนได้กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีศักยภาพในการเสริมมาตรการเดิม ช่วยลดทั้งการแพร่กระจายของไวรัสและความรุนแรงของการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่า มาตรการควบคุมตามหลักสุขอนามัยแบบดั้งเดิม เช่น การทำลายนกจำนวนมาก ม้จะมีบทบาทสำคัญในการควบคุมโรค แต่กลับส่งผลกระทบ ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง จนเกิดข้อกังวลเกี่ยวกับ ความยั่งยืนของมาตรการเหล่านี้ในระยะยาว

เอกสารอ้างอิง

Clements M. 2025. Avian influenza now a global emergency. [Internet]. [Cited 2025 Aug 4]. Available from: https://www.wattagnet.com/blogs/poultry-around-the-world/blog/15752020/avian-influenza-now-a-global-emergency

ภาพที่ ๑ มาร์ก คลีเมนต์ส เรียกร้องให้ยกระดับโรคไข้หวัดนกเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก (แหล่งภาพ Trend Design | Bigstock)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตลาดสัตว์ปีกได้รับอิทธิพลจากภูมิรัฐศาสตร์และไข้หวัดนก

  ตามรายงานล่าสุดจากราโบรีเซิร์ช แนวโน้มของตลาดสัตว์ปีกทั่วโลกในปี พ.ศ.๒๕๖๘ จะถูกกำหนดโดยปัจจัย ด้านภูมิรัฐศาสตร์และการระบาดของโรคไข้หวัดนก ...