วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

วิจัยเตือนภัย!!! เชื้อดื้อยาในปุ๋ยมูลสัตว์

คนรักสวน ปุ๋ยมูลสัตว์ เช่น ปุ๋ยมูลไก่ ปุ๋ยมูลโคกระบือ นิยมใช้บำรุงดินในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตามกระแสความนิยมการเพาะปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ประหยัด และผูกพันกับธรรมชาติ แต่อีกด้านหนึ่ง การใช้ปุ๋ยมูลสัตว์มิได้สวยหรูอย่างที่เราคิด ดังผลการวิจัยตีพิมพ์ล่าสุดท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลเรื่องเชื้อดื้อยา  โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ จากตัวอย่างดินที่เก็บตัวอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๖ โดยนักวิจัยแสดงให้เห็นความพันธ์ระหว่างการใช้มูลสัตว์เป็นปุ๋ยบำรุงดิน และการปรากฏยีนส์ดื้อยาปฏิชีวนะในดิน
บทความตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางวิทยาศาสตร์ Nature Scientific Reports ฉบับนี้เป็นผลการศึกษาที่ใช้เวลายาวนานมาก ที่สถานีวิจัย Askov ในเดนมาร์ก โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ จากตัวอย่างดินที่เก็บตัวอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๖ โดยนักวิจัยแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการใช้มูลสัตว์เป็นปุ๋ยบำรุงดิน และการปรากฏยีนส์ดื้อยาปฏิชีวนะในดิน
ยีนส์ดื้อยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่า เมื่อใดที่การใช้ยาปฏิชีวนะใหม่เข้ามา ยีนส์ดื้อยาก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อยาปฏิชีวนะชนิดนั้นถูกเลิกใช้ ยีนส์ดื้อยาก็จะลดลง ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์ ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างระยะเวลาระหว่างการตรวจพบเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาล และการตรวจพบยีนส์ดื้อยาในดินภายหลังการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์บำรุงดิน ผู้เชี่ยวชาญ ศึกษายีนส์ดื้อยาปฏิชีวนะกลุ่มเบต้าแลคแตม โดยเฉพาะ ยาที่นิยมใช้ในทางการแพทย์ และเป็นยีนส์ดื้อยาชนิดแรกๆที่มีรายงานในระบบสุขภาพ
ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ยีนส์ดื้อยาพบได้ในระดับต่ำๆทั้งดินที่ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ และดินที่ใช้ปุ๋ยอนินทรีย์ โดยผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเพิ่มขึ้นของยีนส์ดื้อยาในดินที่ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ ในช่วงราวปี ๒๕๓๗ การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นสารเร่งเจริญเติบโตลดลง ในเวลาต่อมา จึงพบว่าดินมียีนส์ดื้อยาปฏิชีวนะกลุ่มเบต้า-แลคแตมลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ดินที่ใช้ปุ๋ยอนินทรีย์ก็มียีนส์ดื้อยาในระดับที่ต่ำมาก
               ความสัมพันธ์อีกประการหนึ่งคือ ยีนส์ดื้อยาเบต้า แลคแตม ในดินที่เพิ่มขึ้นก็มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการพบยีนส์ดื้อยาในโรงพยาบาล โดยช่วงเวลาที่เริ่มพบยีนส์ดื้อยาเป็นครั้งแรกสอดคล้องกับเวลาช่วงเวลาที่พบยีนส์ดื้อยาอย่างมากมายในดิน
               ระดับของอินทีกรอนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในดินที่ใช้ปุ๋ยมูลไก่ (Manured soil) ตัวอย่างจากในอดีต ยังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่น่าวิตก ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นต้นมา พบว่า ระดับของอินทีกรอนในดินที่ใช้ปุ๋ยมูลไก่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อินทีกรอน ช่วงเร่งให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่างเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้น จึงเร่งให้เชื้อเกิดภาวะดื้อยาอย่างรวดเร็ว ศ. เดวิด แกรมแฮม แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล อธิบายว่า ระดับของอินทีกรอนที่เพิ่มขึ้นหลังปี พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นต้นมา บ่งชี้ว่า แม้ว่าจะพยายามลดภาวะดื้อยาปฏิชีวนะ แต่ก็ยังคงมีการแลกเปลี่ยนยีนส์ดื้อยาได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ควรมีการศึกษาการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์อย่างใกล้ชิด

แหล่งข้อมูล เดวิด แกรมแฮม และเจน โดลฟิง (15/3/16)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิวัฒนาการเชื้อไวรัสนิวคาสเซิล

  ขณะที่ วัคซีนช่วยลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคนิวคาสเซิล การระบาดก็ยังพบได้อยู่ โดยมีอัตราการตายสูง และกำจัดสัตว์ที่ติดเชื้อ มีผลกระทบเ...