วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ข้อดีข้อเสีย ไก่เนื้อระบบเพนเอนริชเมนต์

 ไก่เนื้อมักถูกเลี้ยงไว้ในพื้นที่จำกัดอยู่บนวัสดุรองพื้นภายในโรงเรือนเท่านั้น มหาวิทยาลัยวาเคอนิงเงิน ทดลองใช้ระบบเพนเอนริชเมนต์ แล้วเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย แม้ว่า เอนริชเมนต์ช่วยกระตุ้นการทำกิจกรรมของสัตว์ แต่ก็ทำให้การเจริญเติบโตลดลง และการแลกเปลี่ยนอาหารแย่ลงด้วย        

ผู้ผลิตสัตว์ปีกไม่ค่อยนิยมใช้เอนริชเมนต์ โดยเฉพาะ การเลี้ยงไก่เนื้อปรกติ แม้ว่า จะส่งผลเชิงบวกต่อสวัสดิภาพสัตว์ และสุขภาพขา การเตรียมเอนริชเมนต์ภายในโรงเรือน เช่น การจัดคอน หรือก้อนฟาง เพิ่มระยะทางไลน์อาหารและน้ำ และยกพื้นขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้ไก่เนื้อมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นแทนที่จะเอาแต่นอนอย่างเดียว 

การเพิ่มกิจกรรมช่วยให้เกิดผลเชิงบวกต่อสุขภาพขาไก่เนื้อ ทั้งรอยโรคฝ่าเท้าอักเสบ ผิวหนังอักเสบบริเวณเข่า ขาพิการ ผลของการให้เอนริชเมนต์ต่อการกระตุ้นให้ไก่ผ่อนคลายยังให้ผลที่แปรปรวน อาจสัมพันธ์กับหลายปัจจัยตั้งแต่พันธุ์ อัตราการเจริญเติบโต และปริมาณของเอนริชเมนต์

สุขภาพขาไก่มีความสัมพันธ์กับอัตราการเจริญเติบโตของไก่เนื้อ อัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้นก็เสี่ยงต่อความผิดปรกติของขาไก่ ดังนั้น เป็นไปได้ที่การจัดให้มีเอนริชเมนต์จะช่วยลดปัญหาความผิดปรกติขาได้อย่างมากในการเลี้ยงไก่เนื้อปรกติมากกว่าไก่เนื้อโตช้า สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยวาเคอนิงเงิน ทดลองศึกษาผลของการใช้เอนริชเมนต์ต่อการเจริญเติบโต และสุขภาพขาไก่ในระบบการเลี้ยงไก่เนื้อปรกติ และโตช้า

การทดลอง

               คณะผู้วิจัยแบ่งไก่ทดลองเป็นรอส ๓๐๘ จำนวน ๔๒๐ ตัว และฮับบาร์ด เจเอ ๗๕๗ จำนวน ๔๒๐ ตัว ลงในกรง จำนวน ๒๘ ชุดขนาด ๓ ตารางเมตร แต่ละกรงก็จะมีไก่เพศผู้พันธุ์รอส ๓๐ ตัว หรือฮับบาร์ด ๓๐ ตัว ทั้งสองสายพันธุ์ครึ่งหนึ่งก็จะให้เอนริชเมนต์ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งก็จัดคอนที่ปรับไม่ได้เท่านั้น โดยกรงที่จัดเตรียมเอนริชเมนต์ไว้มี ๕ ชนิด ได้แก่

·      เพิ่มระยะห่างระหว่างรางอาหารและนิปเปิ้ลให้น้ำ ๓ เมตรแทนที่จะเป็น ๑ เมตร

·      จัดเตรียมพื้นให้อยู่ในแนวลาดเอียงทั้งสองข้ามตามแนวยาวของกรง

·      จัดเตรียมก้อนฟางไว้บริเวณกึ่งกลางกรง

·      จัดเตรียมคอนที่ปรับได้ไว้ทั้งสองข้างของบริเวณที่มีก้อนฟาง

·      ให้หนอนแมลงวันที่มีชีวิตทุกวันบริเวณที่มีกองฟาง 

ลูกไก่พันธุ์รอสถูกเลี้ยงไว้จนอายุ ๓๘ วัน และฮับบาร์ดจนกระทั่งวันที่ ๔๙ อุณหภูมิ ๓๔ องศาเซลเซียสตอนกกลูกไก่ แล้วลดลงจนเป็น ๑๘ องศาเซลเซียสตั้งแต่อายุ ๒๕ วันไปจนตลอดการเลี้ยง ในวันที่ลงลูกไก่จัดให้มีแสงสว่างตลอด ๒๔ ชั่วโมง ติดตามด้วย ๒๐ ชั่วโมงในอีก ๖ วันถัดมา แล้วปรับเป็น ๑๘ ชั่วโมงต่อวัน ลูกไก่ให้วัคซีนหลอดลมอักเสบติดต่อในวันลงลูกไก่ และนิวคาสเซิลในวันที่ ๑๑ ให้อาหารเต็มที่แบ่งเป็น ๓ ระยะ

ขณะที่ ลูกไก่ในกรงที่เอนริชเมนต์ได้รับหนอนแมลงวันทหาร ลูกไก่ในกรงที่ไม่ได้ให้เอนริชเมนต์ ชดเชยด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกัน โดยผสมลงในอาหารปรกติในเวลาเดียวกับการเติมหนอนแมลงวันในกรงที่เอนริชเมนต์

การประเมินผลทดลอง

               คณะผู้วิจัยชั่งน้ำหนักลูกไก่รายตัว ตั้งแต่วันลงไก่และชั่งเป็นประจำทุกวัน เก็บข้อมูลการกินอาหาร แล้วคำนวณเป็นเอฟซีอาร์ในช่วง ๐ ถึง ๑๔ วัน ๑๔ ถึง ๓๕ วัน ๓๕ ถึง ๔๙ วัน และตลอดการเลี้ยง ในวันที่ ๘ ๒๒ ๒๙ และ ๔๓ ให้คะแนนพฤติกรรมของลูกไก่ และสังเกตการใช้เอนริชเมนต์ ในวันที่ ๒๗ นักวิจัยประเมินคะแนนท่าเดินลูกไก่รอส ๔ ตัวต่อกรง เช่นเดียวกับลูกไก่ฮับบาร์ดในวันที่ ๓๕ โดยเฉลี่ยแล้ว ลูกไก่จากทั้งสองฟาร์มมีน้ำหนักใกล้เคียงกัน

               ในวันที่ ๓๘ (รอส) และ ๔๙ (ฮับบาร์ด) ลูกไก่ ๒ ตัวต่อกรงที่มีน้ำหนักเดียวกัน ฆ่าอย่างมีมนุษยธรรม แล้วประเมินความผิดปรกติของขาข้างซ้าย เช่น วารัส-วากัส เนื้อตายของกระดูกอ่อนจากเชื้อแบคทีเรีย (คอนโดรเนโครซิส) และไขสันหลังและกระดูกสันหลังอักเสบ ความผิดปรกติและความเสียหายของโกรธเพลต รวมถึง รอยโรคที่ฝ่าเท้า โดยนำกระดูกแข้งขวาออกแล้วประเมินความยาว ความหนา ปริมาตร ปริมาณและความเข้มข้นแร่ธาตุ หักกระดูกแล้วประเมินแรงที่ใช้ ยิ่งปริมาณแร่ธาตุสูงเท่าไร และแรงที่ใช้มากเท่าไรในการหักกระดูกก็บ่งชี้ถึง การพัฒนาของกระดูกที่ดี และสามารถค้ำจุนน้ำหนักลูกไก่ได้ดี

ผลการทดลอง

               ตั้งแต่วันที่ ๒๑ เป็นต้นไป ลูกไก่ในกรงที่ให้เอนริชเมนต์มีน้ำหนักต่ำกว่าลูกไก่ที่ไม่ให้เอนริชเมนต์ ในวันที่ ๓๕ น้ำหนักเฉลี่ย ระหว่างรอสและฮับบาร์ดแตกต่างกัน ๙๙ กรัม ขณะที่ ไก่ฮับบาร์ดในวันที่ ๔๙ ความแตกต่างกันเป็น ๙๓ กรัม การกินอาหารไม่แตกต่างกันระหว่างกรงที่ให้เอนริชเมนต์หรือไม่ให้ก็ตาม หมายความว่า ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๓๕ วันในกลุ่มที่ให้เอนริชเมนต์สูงขึ้น ๕ จุด (เปรียบเทียบรอสและฮับบาร์ด) และ ๖ จุด ระหว่างช่วง ๐ ถึง ๔๙ วัน สำหรับลูกไก่ฮับบาร์ดเท่านั้น เหตุผลที่กรงที่ให้เอนริชเมนต์มีการเติบโตที่ต่ำกว่า และเอฟซีอาร์สูงกว่าอาจเกิดจากความซับซ้อนของเอนริชเมนต์ เนื่องจาก ใส่ไปมากเกินไป เหตุผลอีกประการอาจเกี่ยวข้องกับการยกคอนสูงเกินไป ซึ่งลูกไก่ต้องข้ามไปกินอาหารและน้ำ กลายเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนที่ หรือมีจำนวนไก่จำนวนมากนั่งขวางทางผ่านข้ามไปมา  

               ทั้งไก่พันธุ์รอสและฮับบาร์ดในกรงที่ให้เอนริชเมนต์มีพฤติกรรมเล่นกองฟาง และความก้าวร้าวน้อยลงเปรียบเทียบกับกรงที่ไม่ให้เอนริชเมนต์ นอกจากนั้น ทั้งสองพันธุ์ในกรงเอนริชเมนต์ใช้เอนริชเมนต์จำนวนเท่ากัน โดยลูกไก่รอสใช้เวลาบนพื้นมากกว่า และลูกไก่ฮับบาร์ดใช้เวลามากขึ้นทั้งบนพื้นและคอนเกาะ หมายความว่า การใช้เอนริชเมนต์เกิดประโยชน์ทั้งในลูกไก่ปรกติ และลูกไก่โตช้า

               ปัญหาขาพบน้อยมากทั้งสองสายพันธุ์ และเปอร์เซ็นต์ไก่ที่เกิดปัญหาขาไม่แตกต่างกันระหว่างกรงที่ให้เอนริชเมนต์ และไม่ให้เอนริชเมนต์ หรือระหว่างทั้งสองสายพันธุ์ นักวิจัยพบว่า กระดูกแข้งแตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น แต่ลูกไก่ในกรงที่ให้เอนริชเมนต์จะมีปริมาตรกระดูกแข้งมากกว่า  ไม่พบความแตกต่างของน้ำหนัก ความหนาแน่นแร่ธาตุ หรือความแข็งของกระดูกต้นขาระหว่างกรงที่ให้และไม่ให้เอนริชเมนต์ อย่างไรก็ตาม น้ำหนักไก่เข้าเชือด กระดูกต้นขาของลูกไก่ฮับบาร์ดมีการพัฒนามากกว่าลูกไก่รอสสำหรับเกือบทุกคุณลักษณะของกระดูกแข้ง  

               การใช้เอนริชเมนต์ในรูปแบบต่างๆทั้งไก่เนื้อปรกติ และโตช้า เป็นไปตามความต้องการของลูกไก่ การให้เอนริชเมนต์ช่วยกระตุ้นทั้งสองพันธุ์ แต่ส่งผลให้โตช้าลง และเอฟซีอาร์แย่ลงไป คุณภาพกระดูกดีขึ้นในไก่โตช้าเปรียบเทียบกับไก่ปรกติ แต่ไม่พบปัญหาขาพิการทั้งไก่เนื้อปรกติและโตช้า

เอกสารอ้างอิง

van den Brand H. 2024. Pros and cons of pen enrichment for broilers. [Internet]. [Cited 2024 Feb 14]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/broilers/pros-and-cons-of-pen-enrichment-for-broilers/

ภาพที่ ๑ การใช้เอนริชเมนต์แบบต่างๆทั้งการเสริมพื้นยกระดับขึ้นมา การสร้างทางลาดให้ไก่เดิน (แหล่งภาพ Jan Willem Schouten, 2024)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ลดโปรตีนให้ผลการเลี้ยงไก่ดีขึ้น

  แม้ว่าจะลดโปรตีนในอาหารสัตว์ปีก ผลการเลี้ยงก็ยังดีขึ้นได้ และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ระดับโปรตีนที่สูงไม่จำเป็นแล้วในอาหารสัตว...