วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Better Chicken Commitment: สิ่งท้าทายสู่สวัสดิภาพไก่ที่ดีขึ้น

งานวิจัยล่าสุดของ Royal Veterinary College ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญซึ่งเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักรในการปรับใช้มาตรฐานสวัสดิภาพที่สูงขึ้นตามแนวทางของ Better Chicken Commitment

ความกังวลที่มีมายาวนานเกี่ยวกับสวัสดิภาพของไก่เนื้อแบบทั่วไป ที่ใช้ในการผลิตเนื้อไก่ได้นำไปสู่คำมั่นสัญญาจากผู้ค้าปลีก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการอาหารจำนวน ๑๐๔ รายในสหราชอาณาจักรว่า ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๙ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกของพวกเขาจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment รวมถึงการผลิตด้วยสายพันธุ์ที่เติบโตช้ากว่า ซึ่งให้ผลลัพธ์ด้านสวัสดิภาพที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในระดับกว้างเพื่อใช้สายพันธุ์เหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร

แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และช่องว่างระหว่างพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคกับความตระหนักรู้ได้ชะลอความก้าวหน้า แม้จะมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อแนวทางการปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ปีกก็ตาม

แม้ว่าไก่จะเป็นเนื้อสัตว์ที่มีการบริโภคมากที่สุดในสหราชอาณาจักร แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสวัสดิภาพที่สูงขึ้น Better Chicken Commitment ได้กำหนดแนวทางด้านสวัสดิภาพที่อิงหลักวิทยาศาสตร์สำหรับไก่เนื้อ โดยมุ่งแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับอัตราการเจริญเติบโตที่เร็ว สภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย ความหนาแน่นของการเลี้ยง และแนวทางปฏิบัติในการฆ่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในระดับอุตสาหกรรม

ความท้าทายในการยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพ

เพื่อศึกษาความท้าทายในการบรรลุมาตรฐานสวัสดิภาพที่สูงขึ้น Royal Veterinary College ได้สัมภาษณ์ตัวแทนในอุตสาหกรรมจำนวน ๓๐ รายที่คุ้นเคยกับ Better Chicken Commitment โดยเน้นศึกษาว่าทำไมการเปลี่ยนไปใช้ไก่เนื้อที่โตช้าจึงยังคงเป็นเรื่องยาก

การศึกษานี้ได้รับทุนสนับสนุนจาก Animal Welfare Foundation และ British Poultry Council โดยเผยให้เห็นถึงฉันทามติว่า ไก่สายพันธุ์โตช้ามีสวัสดิภาพที่ดีกว่าไก่เนื้อโตเร็วแบบดั้งเดิมเมื่อเลี้ยงภายใต้สภาพแวดล้อมเดียวกัน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญเกิดจากต้นทุนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความเต็มใจของผู้บริโภคในการจ่ายเงินเพิ่มเพื่อปรับปรุงสวัสดิภาพ

มุมมองต่อความยั่งยืนและแนวทางแก้ไข

มุมมองด้านความยั่งยืนส่งผลให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นไปได้ ผู้ค้าปลีกและตัวแทนอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net-Zero โดยมองว่าไก่ราคาถูกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และป้องกันการเปลี่ยนไปสู่การนำเข้าไก่ที่มีสวัสดิภาพต่ำ

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมองว่าไก่เนื้อโตช้าไม่สามารถทำได้ในเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และเสนอให้ปรับปรุงสวัสดิภาพของไก่เนื้อทั่วไป หรือใช้สายพันธุ์ที่มีอัตราการเติบโตปานกลาง เพื่อเป็นทางเลือกที่ประนีประนอม

อย่างไรก็ตาม องค์กรด้านสวัสดิภาพสัตว์ นักวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานรับรองมาตรฐาน มีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืน โดยรวมถึงข้อกังวลด้านมลพิษทางน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม มีเหตุผลว่าสวัสดิภาพสัตว์ควรเป็นส่วนสำคัญของการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เป็นลำดับความสำคัญที่แข่งขันกัน

ความสับสนของผู้บริโภคเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและฉลากสินค้า

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่า การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคไม่ได้สะท้อนถึงความต้องการที่แท้จริง เนื่องจากมีความสับสนเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการติดฉลากสินค้า ผู้เข้าร่วมการศึกษาย้ำถึงความจำเป็นในการปรับโครงสร้างระบบอาหารครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงแนวทางลดต้นทุนทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับไก่เนื้อโตช้า การปรับปรุงความชัดเจนของฉลากและการตลาดเพื่อให้การเลือกซื้อของผู้บริโภคสอดคล้องกับความต้องการมากขึ้น และแนวทาง "บริโภคน้อยลง แต่เลือกสิ่งที่ดีกว่า" ในการบริโภคเนื้อไก่

ดร. สิยอบัน อเบยซิงเฮ รองศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมสัตว์และวิทยาศาสตร์สวัสดิภาพสัตว์แห่ง Royal Veterinary College และผู้เขียนหลักของงานวิจัยกล่าวว่า "ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าเราจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความคาดหวังของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรต่อสวัสดิภาพของไก่เนื้อและการติดฉลากสวัสดิภาพ รวมถึงวิธีที่พวกเขาจัดลำดับความสำคัญของสวัสดิภาพเมื่อเทียบกับต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมและราคา นี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ขาดหายไป ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องเผชิญในการประเมินความสำคัญและความเป็นไปได้ของการปรับปรุงสวัสดิภาพไก่เนื้อกว่า หนึ่งพันล้านตัวต่อปีอย่างสมจริง หากการปรับปรุงสวัสดิภาพจะขับเคลื่อนโดยตลาด ผลประโยชน์ด้านสวัสดิภาพต้องมีความสำคัญเพียงพอสำหรับต้นทุนเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค และสมดุลกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนอื่น ๆ"

เทสโก้ตั้งเป้ายกระดับสวัสดิภาพสัตว์ปีก

ประเด็นนี้มีความซับซ้อนมาก และเทสโก้ได้ประกาศเสร็จสิ้นการปรับปรุงครั้งใหญ่ในกระบวนการสวัสดิภาพสัตว์ปีกของบริษัท แม้ว่าจะไม่ได้ลงนามใน Better Chicken Commitment แต่เทสโก้จะให้การสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมแก่ซัพพลายเออร์และเกษตรกรเป็นจำนวนประมาณ ๒,๒๑๖ ล้านบาทต่อปี เพื่อช่วยดำเนินการปรับปรุงสวัสดิภาพไก่และต้นทุนที่เกี่ยวข้อง

 การปรับปรุงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพทั่วทั้งอุตสาหกรรม และต่อยอดจากแบรนด์ที่มีมาตรฐานสวัสดิภาพสูงของ เทสโก้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เพิ่มพื้นที่ให้ไก่สามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้น นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังช่วยให้ไก่สามารถเข้าถึงสิ่งเร้าทางสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น เช่น ก้อนฟาง คอนเกาะ วัสดุสำหรับจิก และแสงธรรมชาติ

แคลร์ โลเรนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพและความยั่งยืนของ เทสโก้ กล่าวว่า "เราได้ทำงานร่วมกับเกษตรกรชาวอังกฤษอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าไก่สดของเราทุกตัวมีมาตรฐานสวัสดิภาพที่สูงขึ้น โดยมีพื้นที่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐ จากมาตรฐานอุตสาหกรรม คำมั่นสัญญานี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนภาคเกษตรกรรมของอังกฤษ แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักรอย่างมีนัยสำคัญ ผู้บริโภคสามารถซื้อไก่คุณภาพสูงได้ ในขณะที่ยังคงได้รับความคุ้มค่าที่ดีเยี่ยม"

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. Challenges facing the Better Chicken Commitment. [Internet]. [Cited 2025 Jun 6]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/challenges-facing-the-better-chicken-commitment/

ภาพที่ ๑ เพื่อศึกษาความท้าทายในการบรรลุมาตรฐานสวัสดิภาพที่สูงขึ้น Royal Veterinary College ได้สัมภาษณ์ตัวแทนจากอุตสาหกรรมที่มีความคุ้นเคยกับ Better Chicken Commitment โดยมุ่งเน้นไปที่สาเหตุที่ทำให้การเปลี่ยนไปใช้ไก่เนื้อที่เติบโตช้ากว่ายังคงเป็นเรื่องยาก (แหล่งภาพ Mark Pasveer)


วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ปิดโรงงานอาหารสัตว์ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

 บริษัท อะโซซิเอเต็ดบริติชฟู้ดส์ กำลังพิจารณาหยุดการดำเนินงานหรืออาจปิดโรงงานไบโอเอทานอล วีเวอร์โก ในเมืองฮัลล์ ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตอาหารสัตว์ที่เป็นผลพลอยได้หลักจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ ตันต่อปี ต้องยุติลง ทำให้ วีเวอร์โก ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรหายไปจากตลาด

ประวัติของโรงงานวีเวอร์โก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๕๖ โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างเอบีเอฟ บีพี และดูปองต์ ซึ่งหวังให้ไบโอเอทานอลจากธัญพืชเป็นส่วนหนึ่งของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ วีเวอร์โก ใช้ข้าวสาลีอาหารสัตว์กว่า ๑.๑ ล้านตัน จากเกษตรกรเกือบเก้าร้อยราย ในภูมิภาคตะวันออกของอังกฤษ

การผลิตอาหารสัตว์สูงตั้งแต่แรกเปิดโรงงาน

ในช่วงเริ่มต้น วีเวอร์โก เป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยผลิตอาหารสัตว์คุณภาพสูง ๕๐๐,๐๐๐ ตัน ให้กับฟาร์มกว่า ๘๐๐ แห่ง ทั่วสหราชอาณาจักร แต่เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษไม่ได้เพิ่มสัดส่วนของไบโอเอทานอลในน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงการเลื่อนการใช้ อี๑๐ ทำให้โรงงานไม่สามารถดำเนินการได้อย่างคุ้มค่า เอบีเอฟจึงตัดสินใจหยุดดำเนินงานชั่วคราวในปี พ.ศ.๒๕๖๐ และปิดโรงงานในปี พ.ศ.๒๕๖๑

เปิดใหม่ในปี ๒๕๖๔ ท่ามกลางอนาคตที่ไม่แน่นอน

เอบีเอฟเปิดโรงงานอีกครั้งในปี พ.ศ.๒๕๖๔ เพื่อกลับมาผลิตอาหารสัตว์ให้กับฟาร์มหลายแห่งในสหราชอาณาจักร แต่ล่าสุดบริษัทได้ประกาศเป็นครั้งที่สามว่ากำลังพิจารณาหยุดหรือปิดโรงงานอีกครั้ง โดยระบุว่า กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงชีวภาพส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ แม้ว่ากำลังหารือกับรัฐบาลอยู่ แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าจะได้รับผลที่ต้องการ หมายความว่า ผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรจะหายไปจากตลาดอีกครั้ง ทั้งนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในขณะนี้

เอกสารอ้างอิง

Peijs R. 2025. UK’s largest feed supplier Vivergo faces shutdown. [Internet]. [Cited 2025 May 8]. Available from: https://www.allaboutfeed.net/the-industry/feed-companies/uks-largest-feed-supplier-vivergo-faces-shutdown/

ภาพที่ ๑ รัฐบาลอังกฤษไม่ได้เพิ่มสัดส่วนบังคับของไบโอเอทานอลและได้เลื่อนการนำ อี๑๐ มาใช้ ซึ่งทำให้โรงงานวีเวอร์โกไม่สามารถดำเนินการได้อย่างคุ้มทุน (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

สหรัฐฯอ้างหวัดนกระบาดเพราะอาวุธชีวภาพ

 หากข่าวลือเกี่ยวกับการโจมตีทางชีวภาพด้วยโรคปากและเท้าเปื่อยในประเทศฮังการีเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอาจเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาได้เช่นกัน

ขณะนี้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกของสหรัฐฯ และล่าสุดคืออุตสาหกรรมนม กำลังเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดนกชนิดรุนแรง เอช ๕ เอ็น ๑ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อทั้งอุตสาหกรรมและผู้ผลิต

ดร.แดน เฟรเซน ผู้ประสานงานฉุกเฉินด้านการเกษตร ประจำกรมปศุสัตว์รัฐโคโลราโด แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่บุคคลที่ไม่หวังดีจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก โดยระบุในที่ประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพันธมิตรด้านปศุสัตว์ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคมว่า “สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดคือการใช้เชื้อโรคเหล่านี้เป็นอาวุธ โดยเฉพาะโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน

ก่อนหน้านี้ในงานเดียวกัน ได้มีการพูดถึงเหตุการณ์บุคคลภายนอกบุกรุกฟาร์มและขโมยสัตว์ปีก ซึ่งมักเป็นฝีมือของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ที่ต้องการ “ช่วยเหลือ” สัตว์ออกไปจากระบบอุตสาหกรรม แต่เฟรเซนได้ตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากการบุกรุกและขโมยสัตว์เหล่านี้มีจุดประสงค์ที่เลวร้ายกว่านั้น เช่น การนำสัตว์ที่ติดเชื้อหรือเชื้อตัวอย่างไวรัสไปปล่อยยังฟาร์มอื่นๆ เพื่อให้เกิดการระบาด เหตุการณ์เช่นนี้เป็นไปได้ และอ้างถึงความสงสัยว่า การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในฮังการีอาจเป็นผลจากการโจมตีทางชีวภาพโดยจงใจแพร่เชื้อ “ถ้าเกิดการโจมตีทางชีวภาพในสหรัฐฯ มันจะไม่ใช่แค่การฆ่าไก่หรือวัวเท่านั้น แต่จะเป็นการบ่อนทำลายความไว้วางใจในอุตสาหกรรม และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจการเกษตรทั้งในระดับท้องถิ่น รัฐ และประเทศ”

โรคอื่น ๆ ที่น่ากังวล

คุณคาเรน ไมเดินบาวเออร์ ผู้ช่วยผู้จัดการโปรแกรมของโครงการป้องกันสารเคมี ชีวภาพ กัมมันตรังสี นิวเคลียร์ และวัตถุระเบิด หรือซีบีอาร์เอ็นอี รวมถึงหัวหน้ากลุ่มด้านความมั่นคงของอาหาร การเกษตร และสัตวแพทย์ แห่งห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์จอนส์ ฮอพกินส์ ได้แสดงความกังวลในประเด็นคล้ายกัน เมื่อถูกถามว่ากังวลเรื่องใดมากที่สุด เธอระบุว่า เป็นการระบาดของโรคสัตว์มากกว่าหนึ่งชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยกล่าวว่า “ตอนนี้แค่การรับมือกับโรคไข้หวัดนก ก็ส่งผลกระทบหนักต่อเจ้าหน้าที่ภาคสนามแล้ว หากมีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก”  มีภัยคุกคามเกิดใหม่หลายประเภทที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เช่น โรคพืช ซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยงานเดียวกัน ทำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเกิดภาวะเหนื่อยล้าและทรัพยากรมีจำกัด “เรากำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีแรงกดดันมหาศาลต่อเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่กำลังหมดแรงลงเรื่อย ๆ”

เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2025. Intentional spread of HPAI, other diseases a legitimate worry. [Internet]. [Cited 2025 May 6]. Available from: https://www.wattagnet.com/broilers-turkeys/diseases-health/news/15745079/intentional-spread-of-hpai-other-diseases-a-legitimate-worry

ภาพที่ ๑ สหรัฐฯอ้างหวัดนกระบาดเพราะอาวุธชีวภาพ (แหล่งภาพ designersart | BigStockPhoto.com)



วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ฟาร์มเป็ดฟัวกราส์ในฮังการีเจอหวัดนก

 การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในยุโรปมีแนวโน้มลดลง เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮังการีได้รายงานการระบาดของไข้หวัดนกชนิดรุนแรง สายพันธุ์เอช ๕ เอ็น ๑ เพิ่มอีก ๑๒ ครั้ง โดยทั้งหมดเกิดขึ้นในฟาร์มสัตว์ปีก ตามรายงานที่ส่งไปยังองค์การโรคสัตว์ระหว่างประเทศ การระบาด ๑๐ ครั้งเกิดขึ้นในเขตบาช-กิชกูน และอีกหนึ่งครั้งในเขตเบเกช และโชโกรด-ชานาด ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยในเขตบาช-กิชกูน พบว่าฝูงเป็ดฟัวกราส์เกี่ยวข้องกับการระบาด ๗ ครั้ง ในขณะที่อีกสามครั้งเกิดขึ้นในฟาร์มไก่งวง และหนึ่งครั้งเกิดขึ้นในฟาร์มที่เลี้ยงเป็ดเนื้อและห่านเนื้อ รายงานไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขนาดของฝูงสัตว์ ข้อมูลจากแหล่งข่าวเดียวกันระบุว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว มีการตรวจพบไวรัสไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสายพันธุ์นี้ในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ ๒๘๗ แห่งใน ๑๒ เขตของฮังการี โดยเขตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือบาช-กิชกูน ซึ่งมีฟาร์มติดเชื้อถึง ๒๒๒ แห่ง

ประเทศเดียวในยุโรปที่รายงานการระบาดใหม่ในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ โปแลนด์ ในโปแลนด์ มีฟาร์มสัตว์ปีก ๕  แห่งที่ตรวจพบเชื้อเอช ๕ เอ็น ๑ ทำให้จำนวนการระบาดในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๘๑ ครั้ง มีสัตว์ปีกได้รับผลกระทบโดยตรงมากกว่า ๖.๖๗ ล้านตัว การระบาดล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน และเกิดขึ้นในจังหวัดเกรตเตอร์โปแลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ๓๔ การระบาดล่าสุดจาก ๓๕ ครั้งในประเทศ ฝูงสัตว์ที่ติดเชื้อนี้ประกอบด้วยไก่งวงเนื้อสองฝูง ไก่ไข่สองฝูง และเป็ดเนื้อหนึ่งฝูง ตามรายงานของสำนักงานสัตวแพทย์กลางของโปแลนด์

ฟาร์มในยุโรปพบโรคไข้หวัดนกถึง ๒๓๐ ครั้ง

ยุโรปยังคงเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง ในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ โดยจำนวนการระบาดในปี พ.ศ.๒๕๖๗ ได้เพิ่มขึ้นเป็น ๒๓๔ ครั้งใน ๑๖ ประเทศ ข้อมูลนี้มาจากคณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซี ณ วันที่ 23 เมษายน ซึ่งระบบข้อมูลโรคสัตว์ของอีซี ใช้ในการติดตามโรคสัตว์ที่มีรายชื่อในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศที่อยู่ใกล้เคียง

ในปี 2024 เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ในประชากรสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ทั้งหมด ๔๕๑ ครั้ง โดย ๒๐ ประเทศในภูมิภาครายงานการระบาดนี้ ฮังการีมีจำนวนการระบาดสูงสุดอยู่ที่ ๙๖ ครั้ง รองลงมาคือโปแลนด์ ๘๑ ครั้ง โดยจำนวนของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ๑๒ และ ๒ ครั้งตามลำดับเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ในระบบของอีซี กรณีการติดเชื้อไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในสัตว์ปีกเลี้ยง ได้แก่ ฝูงสัตว์ปีกในครัวเรือน สัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน และสวนสัตว์ จะถูกรายงานแยกต่างหากจากฟาร์มเชิงพาณิชย์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพียงเยอรมนีที่รายงานการระบาดใหม่ในกลุ่มนี้ โดยเพิ่มขึ้น ๒  ครั้ง ทำให้ยอดรวมของปี พ.ศ.๒๕๖๘ อยู่ที่ ๑๕ ครั้ง โปแลนด์มีการระบาดของไข้หวัดนกในสัตว์ปีกเลี้ยง ๑๗  ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดของประเทศในปีนี้ รองลงมาคือเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็กที่มี ๑๐ ครั้ง ตามระบบของอีซี พบว่า ๑๕ ประเทศได้รายงานการระบาดในกลุ่มนี้รวม ๖๕ ครั้งในปีนี้ ส่วนปี พ.ศ.๒๕๖๗ มีรายงานการระบาดทั้งหมด ๑๔๒ ครั้งใน ๑๗ ประเทศ

หกประเทศพบไข้หวัดนกเพิ่มขึ้นในนกป่า

ณ วันที่ ๒๓ เมษายน มี ๓๐ ประเทศที่ได้รายงานการระบาดของไข้หวัดนก HPAI ในประชากรนกป่าของตนผ่านระบบของคณะกรรมาธิการยุโรป ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๐๒๕ โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๕๒๑ ครั้ง ตัวเลขนี้รวมถึงการระบาดเพิ่มเติม ๑๔ ครั้งใน ๖ ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศได้รายงานการระบาดเพิ่มขึ้นระหว่าง ๑ ถึง ๕ ครั้งในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ และสวีเดน เพื่อเปรียบเทียบ ในปี พ.ศ. ๒๐๒๔ ระบบของอีซี ได้บันทึกการระบาดของไข้หวัดนกที่เกี่ยวข้องกับนกป่าจำนวน ๙๒๖ ครั้งจาก ๓๒ ประเทศ นอกจากนี้ หน่วยงานสัตวแพทย์ของเบลเยียม ฟินแลนด์ และลิทัวเนีย ยังได้แจ้งต่อองค์การโรคระบาดสัตว์โลก หรือโวอ้า ถึงจำนวนเล็กน้อยของกรณีเพิ่มเติมของไข้หวัดนก เอช ๕ เอ็น ๑ ในประชากรนกป่าของตน

สถานการณ์โรคในสหราชอาณาจักรไม่ได้ถูกติดตามในระบบของอีซีอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีนกป่าอีก ๙ ตัวที่ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑  ตามข้อมูลล่าสุดที่รายงานต่อโวอ้า โดยในจำนวนนั้นพบตำแหน่งการระบาดใหม่ ๒ แห่งในนอร์ทยอร์กเชอร์และซัฟโฟล์ก ทางตะวันออกของอังกฤษ นอกจากนี้ ในสหราชอาณาจักร มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมป่าอีก ๑ ตัวที่ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนก เอช ๕ เอ็น ๑ H5N1 ตามรายงานของกรมการเกษตรของรัฐบาลอังกฤษ หรือดีฟรา สัตว์ตัวนี้คือ "นากยูเรเชีย" ที่ถูกพบในที่ราบสูงสกอตแลนด์เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม

เอกสารอ้างอิง

Linden J. 2025. More Hungarian foie-gras farms hit by avian flu. [Internet]. [Cited 2025 Apr 28]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/article/15744160/more-hungarian-foiegras-farms-hit-by-avian-flu

ภาพที่ ๑ ฟาร์มผลิตฟัวกราส์ในฮังการีเจอหวัดนก (แหล่งภาพ Elionas | Bigstock)



วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

รัสเซียขึ้นแท่นผู้ส่งออกเนื้อไก่งวงแทนสหรัฐฯ

 รัสเซียกำลังเพิ่มการส่งออกเนื้อไก่งวง โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งมีการแข่งขันสูง

การส่งออกไก่งวงของรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ ๒๗,๐๐๐ ตันในปี พ.ศ.๒๕๖๗ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น ๓๕,๐๐๐ ตันในปี พ.ศ.๒๕๖๘ และ ๖๐,๐๐๐ ตันในปี พ.ศ.๒๕๗๓ ตามที่อนาโตลี เวลมาตอฟ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ผลิตไก่งวงแห่งชาติ เปิดเผยในงานประชุมอุตสาหกรรมที่มอสโก ประมาณร้อยละ ๖๐ ของไก่งวงที่รัสเซียส่งออกไปยังจีนสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากซัพพลายเออร์รายใหญ่อื่น ๆ ได้ “ในความเป็นจริง” เขากล่าว “เราสามารถเบียดซัพพลายเออร์รายใหญ่จากตลาดนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรืออเมริกาใต้” การส่งออกมีแนวโน้มจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมไก่งวงในรัสเซีย ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ เกษตรกรรัสเซียผลิตไก่งวงได้ ๔๓๘,๐๐๐ ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๘ เมื่อเทียบกับปีก่อน และในปี พ.ศ.๒๕๖๘ การผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ ๖ เป็น ๔๖๕,๐๐๐ ตัน ตามการคาดการณ์ของเวลมาตอฟ

ความต้องการลดลง

สถานการณ์ไข้หวัดนกที่เลวร้ายลงและการบริโภคที่ลดลงในตลาดสำคัญเป็นความท้าทายหลักที่อุตสาหกรรมไก่งวงของรัสเซียกำลังเผชิญ เวลมาตอฟกล่าว “นอกจากนี้ เรายังเห็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลดลงของการบริโภคเนื้อสัตว์โดยรวม ตัวอย่างเช่น ยุโรปกำลังเผชิญกับแนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์ทุกประเภทที่ลดลง นอกจากนี้ เนื้อสัตว์มักมีราคาสูงขึ้นจนผู้บริโภคเข้าถึงได้ยากขึ้น” เขากล่าว นอกเหนือจากนั้น ผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรืออีเอสจี และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงก็นับเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมเช่นกัน

ปัญหาไข่ฟักเกือบคลี่คลายแล้ว

ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ อุตสาหกรรมไก่งวงของรัสเซียอาจเติบโตได้มากกว่านี้ แต่โรคระบาดไข้หวัดนกส่งผลกระทบต่อการนำเข้าไข่ฟัก ซึ่งกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตของอุตสาหกรรม เวลมาตอฟ
กล่าว “เราได้นำเข้าไข่ฟักจากยุโรป อเมริกาเหนือ และแคนาดาเป็นหลัก ภายในสิ้นปี พ.ศ.๒๕๖๗ เราผลิตไข่ฟักได้ร้อยละ ๖๖ หรือประมาณ ๓๔ ล้านฟอง ในประเทศของเรา ซึ่งความต้องการในตลาดทั้งหมดคาดว่าจะอยู่ที่ ๕๒ ล้านฟอง” เขากล่าว ในปี พ.ศ.๒๕๖๘ เวลมาตอฟคาดว่าการผลิตไข่ฟักจะเพิ่มขึ้นเป็น ๓๘ ล้านฟอง ขณะที่ความต้องการในตลาดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น ๕๕ ถึง ๕๖ ล้านฟอง มีโครงการใหม่หลายโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ ซึ่งสามารถเพิ่มการผลิตไข่ฟักของรัสเซียได้อีกร้อยละ ๓๐ ถึง ๔๐ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. Russia overtakes US as top turkey meat exporter to China. [Internet]. [Cited 2025 May 1]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/russia-has-ousted-the-us-as-the-largest-turkey-meat-exporter-to-china/

ภาพที่ ๑ เนื้อไก่งวงร้อยละ ๖๐ ของรัสเซียส่งให้จีน (แหล่งภาพ Marcel van Hoorn)



วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

องค์การการค้าโลกเตือน!!! วิกฤตการค้าผลิตภัณฑ์เกษตรทั่วโลก

 การค้าระหว่างประเทศของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ และมาตรการตอบโต้จากจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ ตามรายงานขององค์การการค้าโลก

การค้าระหว่างประเทศของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมีแนวโน้มเติบโตได้ดีภายใต้กฎระเบียบที่มีเสถียรภาพและสามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งรัฐบาลแต่ละประเทศยึดถือปฏิบัติ ข้อมูลจากระบบข้อมูลตลาดสินค้าเกษตรที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ระบุเช่นนั้น

จีนและแคนาดายื่นเรื่องร้องเรียน

สงครามการค้ากลายเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับการเจรจาการค้าระดับโลก ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เลือกที่จะวางตัวห่างจากกระบวนการดังกล่าว ขณะที่จีนและแคนาดาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อการประชุมการค้าระดับโลก เกี่ยวกับมาตรการทางการค้าที่สหรัฐฯ ดำเนินการ ในการหารือขององค์การการค้าโลก หลายประเทศเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าผ่านการเจรจาและความร่วมมือภายใต้กรอบขององค์การการค้าโลก

ภาษีตอบโต้สร้างความตึงเครียดทวีความรุนแรง

การกำหนดอัตราภาษีของสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาจากหลายกลุ่มการค้า เช่น คณะกรรมาธิการยุโรปได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสินค้าต่างๆ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าว น้ำมันพืช เนื้อสัตว์ปีกและเนื้อวัว ผลไม้ ผัก ถั่ว ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และน้ำตาลจากสหรัฐฯ ภายในสหรัฐฯ กระทรวงเกษตรได้จัดสรรงบประมาณ ๓.๓ หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนภาคเกษตรกรรมซึ่งกำลังเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนของตลาด

ราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงขับเคลื่อนมูลค่าการค้า

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน แสดงความเห็นว่าการเคารพกฎการค้าระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากภาคอาหารและเกษตรกรรมมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจ รายงานจากองค์การการค้าโลก ระบุว่า ราคามีบทบาทเพียงเล็กน้อยต่อการเติบโตของมูลค่าการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วโลกในปีที่ผ่านมา การค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ ในด้านมูลค่า ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔ ของราคาเฉลี่ยสินค้าเกษตรทั่วโลกที่คำนวณเป็นดอลลาร์สหรัฐ ตามสถิติของธนาคารโลก การเพิ่มขึ้นของราคานี้มีสาเหตุหลักจากราคากาแฟ ชา และโกโก้ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ ๖๔ เมื่อปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมสินค้าดังกล่าว ราคาสินค้าเกษตรโดยรวมลดลงร้อยละ ๘ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มปริมาณการค้าสินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ

เอกสารอ้างอิง

Braakman J. 2025. WTO sounds alarm on global agricultural trade. [Internet]. [Cited 2025 Apr 30]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/wto-sounds-alarm-on-global-agricultural-trade/

ภาพที่ ๑ การค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศเติบโตอย่างมีสเถียรภาพ และคาดการณ์ได้จากภาครัฐบาล (แหล่งภาพ Canva)



วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ผู้ผลิตสัตว์ปีกโปแลนด์เสียหายหนักหลังยุโรปแบน

การห้ามนำเข้าสัตว์ปีกของโปแลนด์ของสหภาพยุโรป คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก ทำให้เกษตรกรต้องประสบกับความสูญเสียที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณาการห้ามส่งออกสัตว์ปีกจากหลายภูมิภาคของโปแลนด์ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดนกเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีแนวโน้มว่ามาตรการจำกัดดังกล่าวจะมีผลบังคับในวันที่ ๒๓ เมษายนนี้ แผนการของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งมีรายงานโดยสื่อท้องถิ่นหลายแห่ง ได้รับการยืนยันโดย นายเชสวาฟ ซีแคียร์สกี้ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของโปแลนด์ ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน โดยมีข้อเสนอให้ห้ามการส่งออกสัตว์ปีกจากพื้นที่ที่กำหนด แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของโปแลนด์

ยังไม่ได้แบนทั้งประเทศ

ข่าวเกี่ยวกับการห้ามการส่งออกของยุโรป ที่อาจเกิดขึ้นได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของโปแลนด์ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ธุรกิจในโปแลนด์ เดิมทีคณะกรรมาธิการยุโรปพิจารณาที่จะกำหนดมาตรการห้ามส่งออกสัตว์ปีกจากโปแลนด์โดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจา จุดสนใจได้เปลี่ยนไปเป็นการกำหนดข้อจำกัดเฉพาะบางภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไข้หวัดนก ซึ่งรวมถึงพื้นที่ทางตอนเหนือของมาซอเวีย และ วีลโคปอลสกาโดยทั้งสองภูมิภาคนี้มีสัดส่วนรวมกันถึงร้อยละ ๔๐ ของการผลิตสัตว์ปีกของโปแลนด์

ในปีที่แล้ว โปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดในยุโรป มีการผลิตสัตว์ปีก ๓.๕ ล้านตัน ซึ่ง ๒ ล้านตันถูกส่งออกไปยังลูกค้าต่างประเทศ โดยร้อยละ ๖๙ ของการส่งออกถูกส่งไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๗  พบการระบาดของไข้หวัดนกชนิดรุนแรง ๗๕ ครั้งในโปแลนด์ การระบาดเหล่านี้เป็นปัญหาสำคัญที่คณะกรรมาธิการยุโรปให้ความกังวลอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การพิจารณากำหนดข้อจำกัดการส่งออกสัตว์ปีกของโปแลนด์

ผลกระทบอย่างรุนแรง

ดาริอุซ กอชชินสกี้ ประธานหอการค้าสัตว์ปีกแห่งชาติของโปแลนด์ เตือนว่าข้อจำกัดชั่วคราวในการส่งออกสัตว์ปีกจากวีลโคปอลสกา จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของโปแลนด์ หากข้อจำกัดดังกล่าวได้รับการอนุมัติ จะถือเป็นมาตรการที่ไม่เคยมีมาก่อนของสหภาพยุโรป ไข้หวัดนกได้ระบาดมาแล้วหลายประเทศมาเป็นเวลาหลายปีด้วยความรุนแรงที่แตกต่างกัน แต่คณะกรรมาธิการยุโรปไม่เคยออกมาตรการจำกัดในระดับนี้มาก่อน ผลกระทบจะเลวร้ายมาก โดยคาดว่าความสูญเสียจะสูงนับหมื่นล้านบาท ผลจากมาตรการห้ามส่งออกนี้ โปแลนด์จะต้องกำจัดไข่จำนวนหลายล้านฟองที่พร้อมฟัก งดการเลี้ยงไก่ และระงับการผลิตในฟาร์มสัตว์ปีกหลายแห่งเป็นเวลาหลายเดือน โปแลนด์อาจสูญเสียตำแหน่งในตลาดโลก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เราทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการสร้างขึ้นมา และผู้รายอื่นจะเข้ามาแทนที่

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. European import restrictions promise a catastrophe for Poland’s poultry industry. [Internet]. [Cited 2025 Apr 25]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/european-import-restrictions-promise-a-catastrophe-for-polands-poultry-industry/

ภาพที่ ๑ ร่างระเบียบยุโรปแบนการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกจากโปแลนด์ (แหล่งภาพ Canva)


 

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568

ส่งออกไก่บราซิลยังสูงเกินความคาดหมาย

 การส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของบราซิล (ไก่ ไข่ และวัสดุพันธุกรรม) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้นำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของไข่จากบราซิลในเดือนมีนาคม

ผลลัพธ์นี้ได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนกในภูมิภาคที่เป็นผู้ผลิตหลัก และความไม่แน่นอนทางการค้าอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากนโยบายภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้น ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม การส่งออกไก่ของบราซิลมีปริมาณ ๑.๓๘๗ ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๗ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ.๒๕๖๗ รวมรายได้ในไตรมาสเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐.๘ เป็น ๘.๖ หมื่นล้านบาทในเดือนมีนาคม การส่งออกอยู่ที่ ๔๗๖,๐๐๐ ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๘ เมื่อเทียบเป็นรายปี) โดยมีรายได้ ๒.๙ หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘.๕) การระบาดของโรคไข้หวัดนกทั่วโลกได้เพิ่มความต้องการซัพพลายเออร์ จากบราซิลที่มีคุณสมบัติครบเครื่องทั้งปริมาณและคุณภาพ จีนยังคงเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ แต่ก็ยังเห็นความต้องการที่สม่ำเสมอจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตลาดอื่น ๆ

ไข่ไก่ส่งออกสู่สหรัฐอเมริกา การส่งออกไข่มีปริมาณ ๘.๖๕๔ ตันในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙๗.๒ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๑๖.๑ เป็น ๕๙๒ ล้านบาท ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว การจัดส่งสูงถึง ๓,๗๗๐ ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๔๒.๒ สร้างรายได้ ๒๘๘ ล้านดอลลาร์บาทคิดเป็นร้อยละ ๓๘๓ เมื่อเทียบเป็นรายปี เดือนนี้ได้เห็นผลกระทบที่ชัดเจนของการที่สหรัฐฯ เปิดตลาดสำหรับไข่แปรรูปจากบราซิล เนื่องจากการส่งออกคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ ๑ ของการผลิตโดยรวม เราจึงสามารถตอบสนองความต้องการภายนอกได้โดยไม่กระทบกับความพร้อมของตลาดภายในประเทศ

การส่งออกไข่เชื้อและลูกไก่

รายได้มากขึ้น ปริมาณน้อยลง ตลอด ๓ เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกไข่เชื้อและลูกไก่ มีรายได้ ๒.๑ พันล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๖ เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้ว่าปริมาณการจัดส่งจะลดลงร้อยละ ๒๗.๘ เป็น ๕,๖๖๘ ตัน ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว รายได้รวม ๗.๔ ร้อยล้านบาทคิดเป็นร้อยละ ๑๘.๔ ในขณะที่ปริมาณลดลงร้อยละ ๓๕.๑ เป็น ๑,๗๗๗ ตัน สังเกตได้ว่า ความสนใจเพิ่มขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านในการซื้อไข่เชื้อและลูกไก่เพื่อเพิ่มการผลิต แนวโน้มนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี พ.ศ.๒๕๖๗ เป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นระดับโลกในไข่เชื้อและลูกไก่ของบราซิล แม้ว่าปริมาณอาจผันแปรในแต่ละเดือน

ผลกระทบจากภาษี นอกจากนี้ ผลกระทบระดับโลกของสงครามภาษีอาจเปิดตลาดใหม่สำหรับการส่งออกของบราซิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังจีนและเม็กซิโก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกที่สำคัญให้แก่ประเทศเหล่านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาคการผลิตสัตว์ปีกของบราซิลมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในเดือนข้างหน้า เนื่องจากภัยคุกคามจากโรคไข้หวัดนกที่ยังคงมีอยู่ทั่วโลก และความไม่แน่นอนทางการค้าอันเนื่องมาจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ การเปิดตลาดใหม่ เช่น สหรัฐฯ (สำหรับไข่แปรรูป) และเม็กซิโก (สำหรับผลิตภัณฑ์ไก่) ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าซัพพลายเออร์จากบราซิลจะยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการตอบสนองความต้องการสัตว์ปีกทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เอกสารอ้างอิง

Azevedo D. 2025. Brazil’s exports of poultry products surpass expectations in Q1. [Internet]. [Cited 2025 Apr 23]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/brazils-exports-of-poultry-products-surpass-expectations-in-q1/

ภาพที่ ๑ ในช่วงเดือนมกราคม และมีนาคม การส่งออกไก่บราซิลแตะ ๑.๓๘๗ ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๗ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (แหล่งภาพ Canva)



วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2568

ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกรัสเซียขาดทุนหนัก

 เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกของรัสเซียได้รับความเสียหายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการขายเนื้อไก่เนื้อและไข่ให้กับร้านค้าปลีกและผู้ค้าส่ง เนื่องจากภาวะอุปทานมากเกินกำลังครอบงำตลาด

ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ราคาขายส่งเฉลี่ยของซากไก่เนื้อในรัสเซียลดลงเล็กน้อยเหลือ ๕๗.๐๘ บาทต่อกิโลกรัมตามข้อมูลของ คุณเซร์เกย์ ลัคตูยคอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของสหพันธ์ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกแห่งชาติรัสเซีย ที่ให้ไว้กับสำนักข่าวท้องถิ่นอะโกรเอ็กซ์เพิร์ต โดยเฉลี่ยแล้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกขาดทุน ๘.๑๒ บาทต่อกิโลกรัมในการขายเนื้อไก่เนื้อโดยตรงให้กับร้านค้าปลีก และขาดทุน ๑๖.๒๔ บาทต่อกิโลกรัมภายใต้สัญญากับผู้ค้าส่ง

ตลาดเนื้อไก่บดตกต่ำอย่างรุนแรง

ในส่วนของเนื้อไก่บด สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่า โดยราคาเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง ๑๐
๑๕ บาทต่อกิโลกรัม และในบางภูมิภาคลดลงถึง ๘.๑๒ บาทต่อกิโลกรัมเทียบกับปีที่แล้วที่ราคาอยู่ที่ประมาณ ๓๒.๔๗ บาทต่อกิโลกรัม “เกษตรกรบางรายระบุว่าการฝังเนื้อไก่บดทิ้งยังง่ายกว่าการเก็บรักษาและขาย” โดยผู้ผลิตไข่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ความสามารถในการทำกำไรโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรมไข่ก็อยู่ในเขตสีแดงเช่นกัน ขณะนี้ ราคาขายส่งไข่ในตลาดอยู่ที่ประมาณ ๑๐.๑๕ บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงถึง ๒๖.๓๘ บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของฟาร์ม ตามข้อมูลของปรึกษาผู้อำนวยการทั่วไปของฟาร์มสัตว์ปีก

ข้อจำกัดการส่งออกกำลังถูกพิจารณา

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกหวังพึ่งฤดูบาร์บีคิวที่จะเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งความต้องการเนื้อสัตว์ปีกและไข่มักจะเพิ่มขึ้นตามปกติ ในบริบทนี้ รองประธานสภาดูมา (สภาล่างของรัฐสภารัสเซีย) ได้ยื่นคำร้องไปยังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเสนอห้ามส่งออกเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อไก่ชั่วคราว และคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยรักษาราคาให้ต่ำในช่วงความต้องการสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารในอุตสาหกรรมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการห้ามส่งออกในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับภาวะขาดทุน “ในทางตรงกันข้าม วงการอุตสาหกรรมกำลังคิดหาวิธีกระตุ้นการส่งออกเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาและลดความเสียหายของเกษตรกร” ผู้อำนวยการบริหารของสหพันธ์เนื้อสัตว์แห่งชาติรัสเซียกล่าว ผู้ประกอบการในตลาดเชื่อว่าหากมีการบังคับใช้ข้อจำกัดการส่งออก อาจทำให้วิกฤตในอุตสาหกรรมรุนแรงขึ้นได้

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในรัสเซียประสบปัญหาขาดทุนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการจำหน่ายเนื้อไก่และไข่แก่ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งในตลาดที่มีอุปทานส่วนเกินอยู่ในระดับสูง ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ราคาขายส่งเฉลี่ยของซากไก่ในรัสเซียปรับลดลงเหลือ ๕๘.๒๒ บาทต่อกิโลกรัม เซอร์เกย์ ลักห์ตูคอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ปีกแห่งชาติรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าว โดยเฉลี่ยแล้ว ชาวไร่สัตว์ปีกขาดทุน ๘.๒๒ บาทต่อกิโลกรัม เมื่อขายเนื้อไก่ตรงให้แก่ผู้ค้าปลีก และขาดทุน ๑๖.๔๐ บาทต่อกิโลกรัม เมื่อขายภายใต้สัญญากับผู้ค้าส่ง

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. Russian poultry industry’s profitability dives into red. [Internet]. [Cited 2025 Mar 16]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/russian-poultry-industrys-profitability-dives-into-red/

ภาพที่ ๑ ผลกำไรจากผู้ผลิตไข่ไก่เฉลี่ยก็อยู่ในเรดโซน (แหล่งภาพ Canva)



วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568

อียิปต์เปลี่ยนขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้เป็นอาหารสัตว์

 อียิปต์กำลังมีการหารือเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้กลายเป็นอาหารสัตว์

อียิปต์นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ร้อยละ ๙๐ โดยเฉพาะข้าวโพดและถั่วเหลือง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในตลาดอาหารสัตว์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ดร. โมห์เซ็น ชูกรา ผู้ประสานงานสภาวิจัยทรัพยากรสัตว์แห่งสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี กล่าวในงานอุตสาหกรรมล่าสุดว่า อียิปต์อาจใช้ประโยชน์จากขยะที่มีศักยภาพประมาณ ๖๕ ล้านตันต่อปีเพื่อทดแทนช่องว่างในตลาดอาหารสัตว์ ขยะเหล่านี้ประกอบด้วยขยะเกษตรประมาณ ๕๐ ล้านตัน และขยะจากโรงงานอาหารประมาณ ๑๕ ล้านตัน ซึ่งบางส่วนอาจได้รับการแปรรูปเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ปีก ปศุสัตว์ และปลา

การรีไซเคิลผลไม้และผัก

ผู้แปรรูปในอียิปต์กำลังพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการรีไซเคิลผลไม้และผัก ดร. โมฮาเหม็ด เอล ชาฟี สมาชิกคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมอาหารกล่าวในงานเดียวกัน โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ แผนการรวบรวมผลไม้และผักจากผู้ค้าปลีกเพื่อแปรรูปเป็นอาหารสัตว์อยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจชาติ วิสัยทัศน์ ๒๐๓๐ ของอียิปต์ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตั้งศักยภาพการแปรรูปที่จริงจัง

การขยายการผลิตถั่วเหลืองในอียิปต์

ในช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๖๗ รัฐบาลอียิปต์ได้กำหนดแผนเพื่ออำนวยความสะดวกกระบวนการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ใหม่ ซึ่งอาจเปิดทางให้กับวัตถุดิบอาหารสัตว์ใหม่ ๆ ในตลาด ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๘ เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ท้องถิ่นได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภัยแล้งในบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของประเทศ

นอกเหนือจากการรีไซเคิลขยะอาหาร หน่วยงานท้องถิ่นยังหวังฟื้นฟูการผลิตถั่วเหลืองเพื่อจัดการกับวิกฤตการขาดแคลน ในอียิปต์ การเพาะปลูกถั่วเหลืองลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา จาก ๓๘๗,๕๐๐ ไร่ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ เหลือเพียง ๘๗,๕๐๐ ไร่ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ อย่างไรก็ตาม ตามการพยากรณ์ของกระทรวงเกษตร พื้นที่ภายใต้การผลิตถั่วเหลืองควรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะถึง ๓,๑๒๕,๐๐๐ ไร่ในไม่กี่ปีข้างหน้า ยังคาดหวังการปรับปรุงผลผลิตเฉลี่ยของถั่วเหลืองในประเทศด้วย

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. Egypt to transform millions of tonnes of agri and food waste into animal feed. [Internet]. [Cited 2025 Apr 15]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/nutrition/egypt-plans-to-recycle-65-million-tonnes-of-food-waste-into-animal-feed/

ภาพที่ ๑ อียิปต์กำลังมีการหารือเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้กลายเป็นอาหารสัตว์ (แหล่งภาพ Canvas)



วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568

ดิจตอลแพลตฟอร์มใหม่ป้องกันและควบคุมโรคสัตว์ปีก

 ดิจิตอล แพลตฟอร์มในการพยากรณ์ การป้องกัน และควบคุมโรคสัตว์ปีก ได้ปล่อยแอพลิเคชันเกี่ยวกับการฟื้นฟูฟาร์มสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักรในช่วงที่กำลังเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก

ดิจิตอล แพลตฟอร์มนี้ออกแบบโดยไลฟ์เทค ชื่อว่า ไลฟสต๊อก โพรเทค จะช่วยให้ผู้ผลิตสัตว์ปีกใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงให้ทันต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วขึ้น ช่วยประกอบการตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานปกป้องฝูงสัตว์ และธุรกิจจากโรคร้ายแรง

แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง บริษัทรู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมา ด่านหน้าที่รับมือกับการระบาดของโรคไข้หวัดนก สิ่งท้าทายที่สำคัญกำลังเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถจัดการได้เลย รวมถึง การทำงานที่ยังอาศัยการบันทึกด้วยกระดาษอยู่ การเข้าถึงข้อมูลโรคระบาดได้ช้า ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่ไม่ดีพอ และไม่มีระบบการจัดการแบบเรียลไทม์จากส่วนกลาง

ภาคการผลิตสัตว์ปีกมีความจำเป็นต้องหันมามองหานวัตกรรมเชิงรุกสำหรับการจัดการโรคเชิงรุก ไลฟ์เทคได้สร้างระบบที่ช่วยแจ้งเตือนปัญหาอย่างทันเหตุการณ์โดยใช้ข้อมูลจากทางการ ทดแทนการบันทึกด้วยกระดาษด้วยเครื่องมือดิจิตอล การจัดการแบบอัตโนมัติตามเหตุการณ์สำหรับเร้ดแทร็กเตอร์ เอพีเอชเอ อาร์เอสพีซีเอ เป็นต้น สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ๒๔/๗ ผ่านมือถือและเว็บ เหมาะกับทุกภาคการผลิตทุกขนาดตั้งแต่ฝูงสัตว์ปีกหลังบ้านไปจนถึงฟาร์มขนาดใหญ่ของบริษัท

 

ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและแผนฉุกเฉิน

              จูเลียน สปาร์รีย์ ผู้อำนวยการด้านวิชาการระบบไลฟ์เทค ชักชวนให้ผู้ผลิตสัตว์ปีกใช้ระบบนี้เป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพสำหรับฟาร์มและธุรกิจสัตว์ปีก ด้วยเครื่องมือนี้ได้ออกแบบขึ้นตามแนวหลักปฏิบัติระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และแผนฉุกเฉินที่ช่วยให้ลูกค้าเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่อโรคระบาด แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพของตนเอง แล้วนำมาปรับวิธีการป้องกันโรค เตรียมรับมือกับโรคระบาด และนำแผนที่มีประสิทธิภาพมาใช้ฟื้นฟูธุรกิจให้กลับสู่ปรกติได้

               แพลตฟอร์มไลฟ์สต๊อก โพรเทค นำเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ออกแบบให้การจัดการระบบความปลอดภัยทางชีวภาพง่ายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ผลิตสัตว์ปีก ลักษณะสำคัญ ได้แก่

·    แผนที่การระบาดโรค โดยแจ้งเตือนพื้นที่ระบาดแบบเรียลไทม์ การเฝ้าระวังนกป่า และข้อมูลการระบาดในอดีต

·    ระบบการประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพแบบอีเบส ที่คำนวณคะแนนความเสี่ยง และให้คำแนะนำอย่างเฉพาะเจาะจงกับฟาร์ม

·    แอคเซส โพรเทค ที่สามารถสอบย้อนกลับข้อมูลของแขกที่เข้าฟาร์มได้โดยอาศัยคิวอาร์

·    แชตบอตระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ พอลา ที่อาศัยกูเกิล เจมินี่ สำหรับให้คำแนะนำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพด้วยพื้นฐานความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของไลฟ์เทค

·     การคำนวณจำนวนสัตว์ที่ถูกทำลาย และสัตว์ที่ยังเลี้ยงอยู่เป็นแดชบอร์ด เพื่อสนับสนุนการรับมือกับแผนฉุกเฉิน

·    แผนการระบาดระดับชาติและเครื่องมือการรับมือฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานได้เตรียมรับมือกับโรคได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ถือเป็นผลความสำเร็จของปีนี้ด้านความรู้ ประสบการณ์ระดับแนวหน้า และความต้องการที่จะพิสูจน์การผลิตสัตว์ปีกในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ และนวัตกรรมที่อาศัยระบบดิจิตอล การทำงานร่วมกับสภาสัตว์ปีกสหราชอาณาจักรมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ๑,๗๔๗ แห่งจาก ๓,๙๖๕ แห่งที่ลงนามเข้าใช้ระบบนี้ด้วย รวมถึงฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อ ๒,๒๖๕ แห่ง และฟาร์มไก่ไข่ ๑,๗๐๐ แห่ง

 ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ออกแพคเกจ ๓ แบบเพื่อให้เหมาะกับความต้องการธุรกิจ รวมถึง แอพลิเคชันฟรีที่เปิดโอกาสทดลองให้เข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างได้ ขณะที่ยังมีแบบพรีเมียม และเอนเทอร์ไพรซ์ที่มีฟังก์ชันให้ใช้เพิ่มขึ้น สามารถเข้าถึงฟังก์ชันชนิดอีเบสที่เป็นระบบประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพ ที่ให้เป็นคะแนนความเสี่ยงหนักเบาตามความสำคัญ และยังให้คำแนะนำที่จำเพาะสำหรับแต่ละฟาร์ม และยังมีฟังก์ชันชนิด แอคเซส โพรเท็กท์ ที่ช่วยให้สอบย้อนกลับข้อมูลแขกที่เข้าฟาร์มได้ สำหรับผู้ใช้แบบเอนเทอร์ไพรซ์ ยังรวมเอาเครื่องมือรับมือฉุกเฉิน เช่น การคำนวณจำนวนสัตว์ที่ต้องทำลาย และแดชบอร์ดการจัดการ สามารถเข้าถึงแผนรับมือการระบาดของโรคระดับชาติได้ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังสามารถซื้อเพิ่มเติมแบบเสริมสำหรับแพ็กเกจฟรีและพรีเมียมได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตมีความยืดหยุ่นในการสร้างแพ็กเกจที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการทางธุรกิจและระดับความเสี่ยงของตนเอง” สปาร์เรย์กล่าวเสริม

ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการขยายการใช้งาน และขณะนี้ถูกใช้งานโดยผู้ผลิตและผู้ประกอบการขนาดใหญ่แล้ว ทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์ม iOS, Android และเว็บไซต์ แม้ในช่วงแรกเราจะมุ่งเน้นที่ภาคอุตสาหกรรมสัตว์ปีก แต่กำลังขยายความสามารถของแพลตฟอร์มนี้ไปยังภาคปศุสัตว์อื่น ๆ เช่น สุกร เพื่อความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมในวงกว้าง                               

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. Digital platform to predict, protect and respond to poultry disease threats. [Internet]. [Cited 2025 Apr 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/digital-platform-to-predict-protect-and-respond-to-poultry-disease-threats/

ภาพที่ ๑ ไลฟ์สต๊อก โพรเทค สร้างดิจิตอล แพลตฟอร์มขึ้นโดยคำนึงถึงความสามารถในการขยายตัว และได้ถูกใช้งานโดยผู้ประกอบการและผู้ผลิตในวงการขนาดใหญ่แล้ว และสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์ม iOS, Android และเว็บ (แหล่งภาพ supplied)



วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2568

ไข่ไก่ขาดตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ

 ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาที่สูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเยอรมันยังสำรองไว้ การผลิตสัตว์ปีกในตลาดโลกมีอย่างจำกัด เนื่องจาก การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ และนิวคาสเซิลในยุโรปตะวันออก รัสเซีย ยุโรป และเอเชีย  

ผลกระทบของการระบาดโรคไข้หวัดนกที่ชัดเจนที่สุดเกิดขึ้นในสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นมา การระบาดเกิดขึ้นแล้วมากกว่า ๑,๖๐๐ ครั้งในฟาร์มของชาวอเมริกัน และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นงานอดิเรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ไอโอวา หลุยเซียนา มิชิแกน มิสซูรี เนวาดา โอเรกอน เท็กซัส วอชิงตัน วิสคอนซิน และไวโอมิง ไก่มากกว่า ๑๖๖ ล้านตัวที่เกิดโรค นอกเหนือจาก โคนมที่ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐฯ

ผลกระทบต่อราคาไข่ไก่

                 การทำลายสัตว์ปีกจำนวนมากส่งผลต่อตลาดไข่ไก่ ราคาไข่ไก่ในสหรัฐฯสูงกว่าในยุโรปอย่างมาก นอกเหนือจากนั้นในปี พ.ศ.๒๕๖๖ ราคาในอเมริกายังต่ำกว่ายุโรป แต่พอถึงปี พ.ศ..๒๕๖๗ ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในสหรัฐฯยังคงมีสัตว์ที่ได้รับผลผลิตไข่ไก่ได้เฉลี่ยร้อยละ ๗๐ คิดเป็น ๑๓,๙๙๒ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัมเปรียบเทียบกับผู้ผลิตในยุโรป ๘,๒๔๘ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม แต่ส่วนต่างพุ่งทะยานขึ้นทำลายสถิติที่สูงอย่างคาดไม่ถึงในปีนี้ โดยราคาเฉลี่ยเป็น ๙,๔๖๗  บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม ไข่ไก่ในยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕ ในช่วง ๑๒ สัปดาห์แรกของปีนี้เทียบกับปีที่แล้ว แต่ไข่ไก่อเมริกันขึ้นมาไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๕๕ เทียบกับปีที่แล้ว ราคาไข่ไก่เฉลี่ยในไตรมาสแรกของปีนี้เป็น ๓๖,๖๓๕ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม และราคาสูงที่สุดเกือบ ๔๕,๗๑๔ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม มากกว่า ๔.๕ เท่าของไข่ไก่ยุโรป

               ตอนนี้ ไข่ไก่ในสหรัฐฯ ตกลงแล้วหลังจากการแทรกแซงราคาของรัฐบาล เพื่อให้ราคาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคสามารถยอมรับได้ ขณะเดียวกันก็พยายามนำเข้าเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตไข่ไก่ดัทช์พยายามหาทางส่งให้สหรัฐฯ ผลลัพธ์ยังไม่ชัดจน แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็จะสร้างความต้องการพิเศษขึ้นในยุโรปอีก       

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors. 2025. Market analysis: egg shortages and prices in Europe and the US. [Internet]. [Cited 2025 Apr 16]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/layers/market-analysis-egg-shortages-and-prices-in-europe-and-the-us/

ภาพที่ ๑ ราคาไข่ไก่ในสหรัฐฯสูงกว่ายุโรปมาก (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

ต้นทุนอาหารต่ำ ความต้องการเพิ่ม กระตุ้นการเติบโตไก่เนื้อปีที่แล้ว

 การเติบโตของแหล่งวัตถุดิบโปรตีนอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความหวังต่อความแข็งแกร่งต่อไปในปี พ.ศ.๒๕๖๘ 

ผลิตภัณฑ์ไก่มีผลประกอบการที่น่าประทับใจทั้งร้านค้าปลีกและภาคบริการอาหารในปี พ.ศ.๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ขณะที่ ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองยังคงต่ำ เป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับอุตสาหกรรมไก่เนื้อสหรัฐฯ 

               การสำรวจของบริษัทผู้ผลิตไก่เนื้อโดยสื่อ WATT Global Media ประจำปี แสดงให้เห็นว่า บริษัทชั้นนำด้านการผลิตไก่เนื้อผลิตไก่พร้อมปรุง (ready-to-cook, RTC) ได้ ๒๖ ล้านตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ สูงกว่าปี พ.ศ.๒๕๖๖ คิดเป็นร้อยละ ๐.๖๘

               เกือบครึ่งหนึ่งของ ๓๒ บริษัทที่อยู่ในบริษัทชั้นนำด้านการผลิตไก่เนื้อเพิ่มการผลิตอาร์ทีซีในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๖ ถึง ๒๕๖๗ โดย ๑๔ บริษัทเพิ่มการผลิต มีเพียง ๓ บริษัทที่ลดการผลิตลงเท่านั้น ที่เหลือไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าปีที่แล้วเป็นปีทองสำหรับบริษัทผู้ผลิตไก่เนื้อสหรัฐฯเลยทีเดียว โดยผู้ประกอบการได้ประโยชน์จากทั้งการลดลงของต้นทุนอาหารสัตว์ แม้ว่าต้นทุนอย่างอื่นอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง และมูลค่าผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ฟื้นตัวทั้งปีกและน่องไม่ว่าจะมีกระดูกหรือไม่มีก็ตาม ทำให้ผลประกอบการเป็นที่น่าประทับใจมาก    

               ปีกและน่องไก่เป็นเสาหลักของภาคร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ปีกไก่เป็นอาหารที่ผู้บริโภคนิยมมาก และมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการกีฬา โดยเฉพาะ ซูเปอร์โบวล์ ความนิยมน่องไก่เติบโตขึ้นเร็วๆนี้ โดยเฉพาะ ราคาที่ทะยานสูงขึ้น

 ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง

               หากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ถูกต้อง ผู้ผลิตสัตว์ปีกจะได้กำไรจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงอย่างน้อยในช่วง ๖ เดือนแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงโดยภาพรวมในปีที่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ตระหนักจนถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยว เมื่อราคาข้าวโพดมีราคาที่คงตัว และผลิตภัณฑ์สุดท้ายกลับตกลง ขณะที่ ตลาดกดดันตามฤดูกาล และมีการขยายตัวของอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคมนี้ รายงานการคาดหมายความต้องการและการผลิตสินค้าเกษตรกรรมโลก (World Agricultural Supply and Demand Estimates, WASDE) ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดหมายว่า ราคาข้าวโพดสำหรับรุ่นปี ๒๕๖๗ ถึง ๒๕๖๘ จะเป็น ๑๖๒.๕ เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ลดลงร้อยละ ๗ จากรุ่นปี พ.ศ.๒๕๖๖ ถึง ๒๕๖๗ ในรายงานฉบับเดียวกันนี้ กากถั่วเหลืองจะลดลงอีกร้อยละ ๑๙ หากราคาลดลง ต้นทุนเฉลี่ยของอาหารไก่เนื้อน่าจะอยู่ราว ๒๗ เหรียญสหรัฐฯต่อตันในช่วงหกเกือนแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงไก่เนื้อราว ๒ เซ็นต์ต่อปอนด์ และไก่งวงยิ่งมากไปกว่านี้

มองไปข้างหน้าปีนี้

               ยากสักหน่อยที่ปีนี้จะดีไปกว่าปีที่แล้วสำหรับการผลิตไก่เนื้อ แต่ไม่คิดว่าจะแย่เลยทีเดียว ตลาดอาหารสัตว์เริ่มสูงขึ้นอีกครั้งจากระดับราคาที่ถูกจนดูเหมือนจะไม่ยั่งยืน แต่การผลิตภายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ไม่เพียงภาคไก่เนื้อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ปีกรวมกัน         

การเปลี่ยนแปลงในการใช้ยาปฏิชีวนะ

               ไทสันฟู้ดส์คืนตำแหน่งอันดับ ๑ จากการสำรวจผู้ผลิตไก่เนื้อชั้นนำ โดยยอดผลิตอาร์ทีซีราว ๑ แสนตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ การเพิ่มขึ้นของอาร์ทีซีเป็นผลมาจากบริษัทเปลี่ยนนโยบายการใช้ยาปฏิชีวนะจากเอ็นเออีที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเลย เป็นเอ็นเอไอเอชเอ็ม ที่ไม่ใช้ยาที่มีความสำคัญทางการแพทย์ และนำยากันบิดกลับมาใช้อีกครั้งตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.๒๕๖๖ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เคิร์ต คาลาเวย์ ขึ้นดำรงตำแหน่งซีเอฟโอของไทสันฟู้ดส์ เดือนเดียวกันนั้น เดวิน โคล ให้เอมี ทู ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทไทสัน อินเตอร์เนชันแนล ก่อนหน้านี้ โคล ทำงานให้บริษัทตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ถึง ๒๕๕๗ ในเดือนพฤศจิกายน ไคล์ แนร์รอน ขึ้นมาในตำแหน่งประธานบริษัทไทสันพรีแพร์ฟู้ดส์ ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ ไทสันฟู้สด์พยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงในคอมเพล็กซ์ด้านสัตว์ปีก ตัดสินใจปิดคอมเพล็กซ์ในเมืองโคไรดอน รัฐอินเดียนา และขายทิ้งในเมืองเวียนนา รัฐจอร์เจียให้กับเฮาส์เรฟอร์ด ตอนนี้ข้อตกลงยังไม่บรรลุผล ขณะเดียวกัน ไทสันเฟรชมีทวางแผนปิดโรงงานในเอ็มโพเรีย รัฐคันซอในปี พ.ศ. ๒๕๖๙ นี้ โรงงานฯต่างๆจะรวมเข้าด้วยกันในแต่ละรัฐ ปลายปีที่แล้ว ไทสันประกาศปิดโรงงานอีกสองแห่งที่ร่วมกับธุรกิจของฟิลลี่ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟิลาเดเฟีย รัฐเพนน์ซิลวาเนีย ในปีนี้      

สิบอันดับผู้นำด้านการผลิตไก่เนื้อ

               พิลกริมส์ไพรด์ อยู่ในอันดับที่สอง ยอดผลิตอาร์ทีซี ๗.๓ หมื่นตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ เวย์แซนเดอร์สันรั้งอันดับที่สาม ยอดผลิต ๖.๗ หมื่นตันต่อสัปดาห์ เมาท์แทร์ฟาร์มอยู่ในอันดับที่สี่ ยอดผลิต ๓ ล้านตันต่อสัปดาห์ จ่อติดกันมาด้วยเพอร์ดูฟาร์ม ยอดผลิต ๒.๙ ล้านตันต่อสัปดาห์ และอันดับที่หก คอคฟู้ดส์ ยอดผลิต ๒๘.๑ ล้านตันต่อสัปดาห์

               ในไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้ ประธานบริษัทและซีอีโอของเมาท์แทร์ ฟิลลิป พลายเลอร์ ประกาศเกษียณอายุการทำงาน ผู้ที่จะขึ้นมาแทนจะเป็นอะแมนดา เออร์วิน ก่อนหน้านี้เป็นซีโอโอ

               เช่นเดียวกันกับ เควิน แมคอาดัมส์ ก็จะขึ้นมาแทนแรนดี้ เดย์ เป็นซีอีโอของเพอร์ดูฟู้ดส์ในเดือนกรกฏาคม ก่อนหน้านี้ แมคอาดัมส์ มีบทบาทนำที่บริษัทแจคลิงก์ ชวานส์คอนซูเมอร์แบรนด์ และพาสต์บรูวิ่ง โดยเดย์จะยังเป็นที่ปรึกษาให้กับเพอร์ดูไปจนตลอดปี พ.ศ.๒๕๖๗ เดือนเดียวกันนี้เอง เพอร์ดูฟู้ดส์ได้จ้างเกร็ก เอ็คเคอร์ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายซัพพลายเชนและการปฏิบัติการ ก่อนหน้านี้เอ็คเคอร์ทำงานกับซีเจชวานส์ และไทสันฟู้ดส์ เมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๖ บริษัทได้ขึ้นตำแหน่งให้กับจูลี แคทิแกรเป็นรองประธานบริษัทและเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖ คอคฟู้ดส์ได้ขยายธุรกิจในเมืองมอร์ตัน รัฐมิสซิสซิปปี โคงการนี้เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตและการกระจายสินค้าในเมืองมอร์ตัน เพิ่มการลงทุนกว่า ๔.๘ พันล้านบาท อันดับที่เจ็ดคือ เพโคฟู้ดส์ มียอดผลิตอาร์ทีซี ๑.๖ หมื่นตันต่อสัปดาห์ อันดับที่แปด จอร์เจียฟู้ดส์ ๑.๕ หมื่นตันต่อสัปดาห์ เฮาส์ของเรฟอร์ดอิ้งค์ รั้งอันดับที่เก้าใกล้เคียงกันมาก สุดท้ายเป็นเอมิคฟาร์ม ๑.๒ หมื่นตันต่อสัปดาห์     

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2025. Low feed costs, high demand boost broiler growth in 2024. [Internet]. [Cited 2025 Apr 4]. Available from: https://www.wattagnet.com/top-poultry-companies/article/15712740/low-feed-costs-high-demand-boost-broiler-growth-in-2024

ภาพที่ ๑ การเติบโตของแหล่งวัตถุดิบโปรตีนอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความหวังต่อความแข็งแกร่งต่อไปในปี พ.ศ.๒๕๖๘ นี้ (แหล่งภาพ buh123 | BigStock.com)



Better Chicken Commitment: สิ่งท้าทายสู่สวัสดิภาพไก่ที่ดีขึ้น

งานวิจัยล่าสุดของ Royal Veterinary College ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญซึ่งเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักรในการปรับใช...