ไวรัสไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูงและเชื้อโรคอื่น ๆ อาจกลายเป็นอาวุธร้ายแรงหากตกอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี
การปล่อยเชื้อโรคโดยเจตนาเพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพของสังคม
กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้น
แม้จะยังไม่ได้รับการตระหนักอย่างกว้างขวางเท่าที่ควร การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ถูกพูดถึงมาระยะหนึ่งแล้ว
แต่กลับพบว่ามีข้อมูลล่าสุดหรือแผนรับมือที่เปิดเผยต่อสาธารณะอยู่น้อยมาก สิ่งนี้เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจทั่วไปหรือไม่? อาจจะยังไม่มากเท่าที่ควร
ตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์
ผู้ก่อการร้ายมักมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานหรือสัญลักษณ์ของอำนาจ
มากกว่าการโจมตีปศุสัตว์ และเมื่อสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวปรากฏตัว
เป้าหมายก็มักจะเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ไก่ หมู หรือแกะ
อย่างไรก็ตาม
ตามคำกล่าวของ แดเนียล โดนาชี ผู้จัดการโครงการด้านการจัดการภาวะฉุกเฉินใน
องค์การสุขภาพสัตว์โลก หรือโวอ้า แผนกความพร้อมและความยืดหยุ่น เขาระบุว่า
ภาคเกษตรกรรมมีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและการเคลื่อนย้ายสัตว์ข้ามพรมแดน
เป็นเป้าหมายอ่อนที่ผู้ก่อการร้ายสามารถโจมตีได้ง่าย เขาเสริมว่า
ภัยก่อการร้ายทางเกษตร ไม่ใช่คำถามว่า “จะเกิดขึ้นหรือไม่” แต่เป็นคำถามว่า
“จะเกิดขึ้นเมื่อใด”
ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ปีก เราได้กลายเป็นผู้ที่คุ้นชินกับความสูญเสียมหาศาลที่ไวรัสไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูง สามารถก่อให้เกิดขึ้นได้อย่างน่าเศร้า แม้ว่าในปัจจุบันการระบาดของไวรัสจะไม่เป็นไปตามฤดูกาลอย่างที่เคยเป็น แต่ในหลายพื้นที่ทั่วโลก เราก็มีความพร้อมรับมือในระดับที่น่าพอใจ เรื่องของ ไวรัสไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูงจึงไม่ค่อยสร้างความประหลาดใจอีกต่อไป แต่ลองจินตนาการดูว่า... ถ้าไวรัสนี้ถูกปล่อยออกมาโดยเจตนา จะเกิดอะไรขึ้น?
ข้อเท็จจริงและจินตนาการ
โดนาชี
อ้างถึงนวนิยายเจมส์ บอนด์ปี ค.ศ. ๑๙๖๓ เรื่อง On Her Majesty’s Secret Service ตัวร้ายในเรื่องวางแผนทำลายเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรโดยการปล่อยเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย
เพื่อทำลายภาคปศุสัตว์ของประเทศนั้น จากนั้นเขากล่าวต่อว่า ไม่ถึง ๔๐
ปีหลังจากนั้น
สหราชอาณาจักรได้เผชิญกับการระบาดของโรคสัตว์ครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยโรคปากและเท้าเปื่อยส่งผลกระทบต่อฟาร์มมากกว่า ๒,๐๐๐ แห่ง
และแพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
สหราชอาณาจักรต้องฆ่าสัตว์มากกว่า
๖ ล้านตัว เพื่อควบคุมการระบาดของโรค โดยมีค่าใช้จ่ายมากกว่า ๓.๔ แสนล้านบาท นอกเหนือจากผลกระทบทางการเงินแล้ว
การระบาดครั้งนั้นยังส่งผลกระทบอย่างยาวนานต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะในด้านสุขภาพจิต การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในสหราชอาณาจักรครั้งนั้น
เป็นผลจากอาชญากรรมทางเกษตร ไม่ใช่การก่อการร้ายทางเกษตร เกิดจากเกษตรกรรายหนึ่งที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
หรือไม่รายงานผลกระทบทันที แต่ผู้เขียนตั้งคำถามว่า
หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นโดยเจตนา ผลกระทบจะรุนแรงเพียงใด? แม้ว่า
โรคปากและเท้าเปื่อยจะติดเชื้อในมนุษย์ได้ยาก
แต่ถ้าเป็นไวรัสที่สามารถแพร่จากสัตว์สู่คนล่ะ? อาชญากรรมทางเกษตรเกิดขึ้นทุกวัน
ในขณะที่ การก่อการร้ายทางเกษตรยังคงเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่ข้อเสียคือ ประเด็นนี้กลับได้รับความสนใจน้อยมาก
เมื่อเปรียบเทียบรายชื่อโรคสัตว์ขององค์การสุขภาพสัตว์โลก
กับบัญชีควบคุมเชื้อโรคสัตว์ของกลุ่มออสเตรเลีย เป็นกลุ่มความร่วมมือไม่เป็นทางการที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ประเทศผู้ส่งออกหรือขนส่งสินค้าลดความเสี่ยงในการสนับสนุนการแพร่กระจายอาวุธเคมีและชีวภาพ
พบว่า มีเชื้อโรคที่ตรงกันถึง ๓๒ ชนิด รวมถึงโรคปากและเท้าเปื่อย โรคแอนแทรกซ์
และไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูง โดนาชี ให้ความเห็นว่า รายชื่อโรคของโวอ้าอาจกลายเป็น
“รายการช้อปปิ้ง” สำหรับผู้ก่อการร้ายที่ต้องการใช้อาวุธชีวภาพ รัฐบาลและประชาคมโลกจำเป็นต้องเสริมสร้างความมั่นคงทางชีวภาพ
และเพิ่มทรัพยากรในการรับมือ โดยดำเนินมาตรการเพื่อพัฒนาระบบป้องกัน
และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ภาคเกษตรกรรมยังคงเป็นจุดเปราะบาง
ขณะที่ผู้ไม่หวังดีมีความซับซ้อนและก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ไม่ใช่คำถามว่า “จะเกิดขึ้นหรือไม่”
แต่เป็นคำถามว่า “จะเกิดขึ้นเมื่อใด”
เอกสารอ้างอิง
Clements
M. 2025. Are we prepared for agroterrorism?.
[Internet]. [Cited 2025 Nov 3]. Available from: https://www.wattagnet.com/blogs/poultry-around-the-world/blog/15770809/are-we-prepared-for-agroterrorism
ภาพที่ ๑ ภัยก่อการร้ายทางเกษตร
ไม่ใช่คำถามว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เป็นคำถามว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด (แหล่งภาพ DavidGallie | Pixabay)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น