แนะนำให้เตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดของโรคไข้หวัดนกไปยังสปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีก
การประเมินความเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงล่าสุด
มีคำแนะนำอย่างกว้าง ๕ ข้อสำหรับเตรียมรับมือการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการติดต่อไปยังสปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีก
เชื้อไวรัสกำลังเป็นภัยคุกคาม
และการกลายพันธุ์ที่บ่อยทำให้โอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปติดต่อสู่สปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เป็นบทสรุปจากผลการศึกษาครั้งล่าสุดเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส
และผลลัพธ์ที่เป็นไปได้โดยสำนักความปลอดภัยอาหารยุโรป หรือเอฟซา
และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคยุโรป หรืออีซีดีซี นายเบิร์นฮาร์ด เอิร์ล
ผู้อำนวยการเอฟซา มองว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้ขยายวงการระบาดในปี พ.ศ.๒๕๖๖
ไปยังสัตว์หลายสปีชีส์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าสามารถติดเชื้อได้
การกลายพันธุ์มีความเชื่อมโยงกับโอกาสการแพร่กระจายไปสู่มนุษย์
จำเป็นต้องมีการตรวจสอบที่รวดเร็ว และการตอบสนองอย่างทันเหตุการณ์ การร่วมมือกันและแบ่งปันข้อมูลของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการกับปัญหาโรคไข้หวัดนกครั้งนี้
ผลการศึกษาการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส
ผู้เชี่ยวชาญจากเอฟซาพบเชื้อไวรัส ๓๔
สายพันธุ์ที่มีโอกาสติดเชื้อไปยังมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆได้
นอกเหนือจากนั้น
รายงานยังเตือนถึงปัจจัยบางประการที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของเชื้อไวรัสที่จะแพร่กระจายออกไปจากสัตว์สู่มนุษย์
ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การเลี้ยงฟาร์มอย่างหนาแน่น
ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่บกพร่อง การทำลายป่า การสร้างเมือง
และการค้าขายระหว่างประเทศ
การให้วัคซีน
ข้อแนะนำจากเอฟซาและอีซีดีซีจากผลการศึกษาครั้งนี้
-
ภายใต้หลักการของการป้องกันโรค แนะนำให้เข้มงวดด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
การฝึกอบรมพนักงาน แผนการรับมือกับการระบาดของโรค และการให้วัคซีนสัตว์ปีก
นอกจากนี้
คนงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อควรให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
และปฏิบัติตามแนวทางการให้ยาต้านไวรัส
-
สำหรับภาคสัตวแพทย์
การเฝ้าระวังโรคสัตว์เป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรค
และการยืนยันโรคระบาด แนะนำให้ตรวจติดตามสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ป่วยและตายที่มีโอกาสติดเชื้อจากนกป่า
และฟาร์มสัตว์ปีกได้
-
การตรวจสอบการกลายพันธุ์
และการปรับตัวของเชื้อไวรัสให้ติดต่อสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
จะอาศัยการตรวจลำดับสารพันธุกรรม เอฟซา/อีซีดีซี
กระตุ้นให้มีการลงทุนระบบที่ใช้ในการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงระดับพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนง่ายขึ้น
คำแนะนำอื่นๆอีก ๒
อย่างครอบคลุมด้านสาธารณสุข แนะนำว่า
การเฝ้าระวังโรคในมนุษย์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ ควรครอบคลุมชนิดของเชื้อไวรัส
และการเฝ้าระวังระหว่างช่วงเวลาที่มีการระบาดสูงที่สุด
โดยเรียกร้องให้ตื่นตัวมากขึ้นต่อโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
และบุคลากรทางการแพทย์ นอกเหนือจากนั้น แผนการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องพัฒนาและสื่อสารก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ในมนุษย์ในอนาคต
นอกเหนือจากความเห็นทางวิชาการที่เผยแพร่ไปแล้ว
เอฟซา/อีซีดีซี ยังได้ร่างแนวทางในการสอบสวนโรค และควบคุมโรคไข้หวัดนก
ด้วยความร่วมมือตามนโยบายสุขภาพหนึ่งเดียวครอบคลุมทั้งทางการแพทย์และสัตวแพทย์
มีวัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุนแผนระดับชาติของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป
แปดประเทศยุโรปรายงานการระบาดโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีก
ในช่วงวันที่
๒๒ ถึง ๒๙ มกราคม ห้าประเทศยุโรปได้รายงานการระบาดใหม่ ๑๒ ครั้งในฟาร์มสัตว์ปีก
ตามระบบการจัดการข้อมูลโรคสัตว์โดยคณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซีเมื่อวันที่ ๒๙
มกราคม จากช่องทางนี้ อีซีสามารถตรวจติดตามโรคสัตว์สำคัญในประเทศสมาชิกอียู
และประเทศข้างเคียงได้
อ้างอิงตามการระบาดใหม่นี้ในช่วงสัปดาห์ล่าสุด
โปแลนด์ อิตาลีพบเพิ่มอีก ๒ ฟาร์ม และอีกฟาร์มในเยอรมัน ฮังการี และลิธัวเนีย
โดยภาพรวม พบการระบาดเกิดขึ้นแล้ว ๔๓ ครั้งในสมาชิก ๘ ประเทศ โดยอิตาลีเหมาไป ๒๐
ครั้ง และโปแลนด์อีก ๑๐ ครั้ง การระบาดครั้งแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ มีรายงานในลิธัวเนีย
การระบาดเกิดจากเอช ๕
เอ็น ๑ ทั้งหมด
นอกเหนือจากนั้น
หน่วยงานด้านสัตวแพทย์ของประเทศยุโรป ๓
แห่งได้รายงานแจ้งให้กับโวอ้าเกี่ยวกับการระบาดที่เชื่อมโยงกับเชื้อไวรัสเดียวกันในฟาร์มสัตว์ปีก
โดยยังพบการระบาดต่อไปอีก ๔ แห่งในสหราชอาณาจักร และอีกอย่างละ ๑
แห่งในบัลกาเรียและเนเธอร์แลนด์
เกิดความวิตกกังวลต่อการเสียหายอย่างรุนแรง
ฟาร์มสัตว์ปีก และองค์การผู้เลี้ยงสัตว์ปีก
เรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรอนุญาตการใช้วัคซีนป้องกันสัตว์ปีกจากไข้หวัดนก
ปัจจุบัน การให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ทำในสัตว์ปีก สอดคล้องกับรายงานของบีบีซี
การให้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหราชอาณาจักร และการควบคุมโรคยังขึ้นกับการเข้มงวดระบบป้องกันโรค
และกำจัดสัตว์ป่วยที่ติดเชื้อ
การระบาดเพิ่มขึ้นในนกเลี้ยงในกรง
และสัตว์ป่า
การระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง
ยังคงพบในนกเลี้ยงในกรง ในสี่ประเทศในช่วงสัปดาห์ของวันที่ ๒๙ มกราคมที่ผ่านมา
ซึ่งนกเลี้ยงในกรง ยังรวมถึง สัตว์ปีกที่เลี้ยงหลังบ้าน สวนสัตว์ และโรงเรือนที่คล้ายกัน
โดยมีการระบาดเกิดขึ้นอีก ๗ ครั้งในเยอรมัน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และโปแลนด์ นอกจากนั้น
โวอ้ายังแจ้งเตือนการระบาดใหม่ในเบลเยียม เกาะอังกฤษ และฮังการี สำหรับประชากรนกป่าพบครั้งแรกของปี
พ.ศ.๒๕๖๘ จากเอช ๕ เอ็น ๑ ในเบลเยียม ลิธัวเนีย มอลโดวา และสโกวาเกีย อ้างอิงตามระบบอีซี
ขณะเดียวกัน เจ็ดประเทศในยุโรปตะวันตกยังพบการระบาดต่อไป
นอกเหนือจากนั้น
สัตว์ป่วยที่เป็นนกป่ารายแรกที่มีบันทึกในโวอ้าอยู่ในโปแลนด์ และจังหวัดทางตะวันตกของประเทศยูเครน
ขณะที่ เกาะอังกฤษ และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ยืนยันโรคแล้วในนกป่า ขณะเดียวกัน นกป่าอีก
๘ ตัวให้ผลบวกต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ แวเรียนต์ในไอซ์แลนด์ โวอ้ายังรายงานว่า
เชื้อไวรัสเดียวกันยังพบเป็นครั้งแรกในจิ้งจอกอาร์กติกอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
Linden J.
2025. Study: Avian flu seen as growing threat in Europe. [Internet]. [Cited 2025 Feb 5]. Available
from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/article/15736688/study-avian-flu-seen-as-growing-threat-in-europe
ภาพที่ ๑ หวัดนกกำลังเป็นภัยคุกคามในยุโรป