วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

อังกฤษเข้มหวัดนก สั่งงดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกทั้งหมด

 การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกที่มีการสัตว์มาอยู่ร่วมกันจำนวนมากถูกสั่งห้ามเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก

การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกถูกสั่งห้ามทั่วทั้งอังกฤษ สก๊อตแลนด์ และเวลส์ เนื่องจาก สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่อยู่ในระดับสูง หมายความว่า งานจำหน่ายสัตว์เลี้ยง งานแสดงสัตว์ปีก และการขายสัตว์ปีก หรือกิจกรรมใดๆที่มีการรวมตัวกันของสัตว์ปีกไม่สามารถจัดให้มีได้ คาดว่ามาตรการนี้จะดำเนินต่อไปจนฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่นขึ้น และการอพยพของนกเปลี่ยนแปลงไป ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานโรคไข้หวัดนก ๔ ครั้งที่เมืองยอร์คไชร์ คอร์นวอลล์ และเวอร์ราล จนถึงวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ เกิดการระบาดไปแล้ว ๒๘ ครั้ง

               สำนักงานสัตวแพทย์แห่งสหราชอาณาจักรได้ให้เหตุผลในการสั่งห้ามครั้งนี้ ก็เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ แอ็น ๑ ซึ่งสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้เช่นเดียวกับสัตว์ปีก ดังนั้น รัฐบาลจึงสั่งห้ามอย่างเข้มงวด แม้ว่าจะได้พยายามทำลายสัตว์ป่วย และควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเข้มงวด การสั่งห้ามจะสิ้นสุดต่อเมื่อความเสี่ยงต่อโรคได้ลดลงแล้ว เป็ดและห่านมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สูงมาก สำหรับไก่งวง ไก่ และนกการกีฬามีความเสี่ยงปานกลาง ขึ้นกับโอกาสที่จะสัมผัสกับสัตว์ป่าที่ติดเชื้อ

ลดความเสี่ยงสัมผัสกับนกป่าที่ติดเชื้อ

               การสัมผัสกับนกป่าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สหราชอาณาจักรพ่ายแพ้ต่อสงครามต่อโรคไข้หวัดนกฤดูกาลนี้ ความจริงแล้ว สถานการณ์การติดเชื้อลดลงอย่างมากเปรียบเทียบกับเมื่อสองสามปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงพบโรคเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่าวิตกกังวล สุขอนามัยและระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่ดีเยี่ยมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ปีก โดยเฉพาะ ลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับนกป่าที่ติดเชื้อ

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. UK bans bird gatherings to curb spread of avian influenza. [Internet]. [Cited 2025 Feb 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/ban-on-bird-flu-gatherings-comes-into-force-in-the-uk/

ภาพที่ ๑ การจัดกิจกรรมแสดงสัตว์ปีกที่มีการสัตว์มาอยู่ร่วมกันจำนวนมากถูกสั่งห้าม (แหล่งภาพ Herbert Wiggerman)



วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

สหรัฐฯทำลายไก่ไข่รวดเดียวสามล้านตัวจากหวัดนก

 เอฟิสรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมถึงทั้งฟาร์มไก่งวง ฟาร์มเป็ดในรัฐอินเดียนาและฟาร์มไก่ไข่ในรัฐโอไฮโอ 

ฟาร์มไก่ไข่สองแห่งในรัฐโอไฮโอเกิดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง โดยแห่งหนึ่งในนั้นมีไก่ไข่มากกว่า ๓ ล้านตัว กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ หรือยูเอสดีเอ สำนักตรวจสอบสุขภาพพืชและสัตว์ หรือเอฟิส ยืนยันโรคเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ในฟาร์มไก่ไข่ที่มีแม่ไก่ ๓,๐๙๐,๔๐๐ ตัว และอีกแห่งก็มีแม่ไก่ไม่น้อย ๘๔,๘๐๐ ตัว ถึงเวลานี้ในปี พ.ศ.๒๕๖๘ ผ่านมาไม่ถึงสองเดือน รัฐโอไฮโอสูญเสียฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกไปแล้วมากกว่า ๖๖ ล้านตัวจากโรคไข้หวัดนกโรคเดียวมากกว่ารัฐใดๆในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมดอยู่ในเมืองเมอร์เซอร์และดาร์ก ซึ่งทำลายสัตว์ปีกไปแล้ว ๔๓ และ ๒๐ แห่ง

โรคไข้หวัดนกในอินเดียนา

               เอฟิสยังรายงานการเกิดโรคอีกสองฟาร์มในรัฐอินเดียนาเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ โดยเป็นฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๑๙,๔๐๐ ตัวในเมืองวอชิงตัน และฟาร์มเป็ดพันธุ์ในเมืองเอล์คฮาร์ต ทั้งสองฝูงเคยรายงานสงสัยโรคต่อคณะกรรมการสุขภาพสัตว์แห่งรัฐอินเดียนามาก่อนแล้ว ในปีนี้ รัฐอินเดียนาเกิดความเสียหายในฟาร์มไปแล้ว ๑๑ ฟาร์ม

โรคไข้หวัดนกในมิสซูรี่

               เอฟิสยังเพิ่มข้อมูลการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มไก่งวงพันธุ์ในเมืองลอว์เรนซ์ ยืนยันโรคแล้วเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ในปีนี้ รัฐมิสซูรี่เกิดความเสียหาย ๒๑ ฟาร์ม

เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2025. Over 3 million hens in one flock lost to avian influenza. [Internet]. [Cited 2025 Feb 24]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/article/15738155/over-3-million-hens-in-one-flock-lost-to-avian-influenza 

ภาพที่ ๑ สหรัฐฯทำลายฟาร์มไก่ไข่สามล้านตัวจากหวัดนก (แหล่งภาพ South12th | Dreamstime.com)






วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ลมอยู่เบื้องหลังการระบาดหวัดนก

 การศึกษาล่าสุด บ่งชี้ว่า ระบบการระบายอากาศมีบทบาทมากต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านลม

ระบบการระบายอากาศมีบทบาทสำคัญต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะ โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงจากรายงานวิจัยล่าสุด

การระบาดของโรคโดยอาศัยลม เชื้อไวรัสสามารถเดินทางผ่านอากาศเป็นระยะทางไกล โดยนักวิจัยได้แสดงหลักฐานจากการศึกษาระดับพันธุกรรมเพื่อสนับสนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของโรคโดยอาศัยลม งานวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกที่ตั้งอยู่ห่างกัน ๕ ไมล์ ผลการทดสอบระดับโมเลกุล แสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง มีความเหมือนกันทั้งหมด หมายความว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกันนี้เองที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในฟาร์มทุกแห่งข้างต้น

การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมประกอบกับการวิเคราะห์เชิงระบาดวิทยา อุตุนิยมวิทยา และภูมิศาสตร์ ช่วยให้เห็นภาพเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่า ลมเป็นกลไกสำคัญในการแพร่ระบาดของเชื้อระหว่างฟาร์มสัตว์ปีกได้  สภาพอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างการติดเชื้อส่วนใหญ่ รวมถึง ลมที่นิ่งจากภาคตะวันตก เมฆก่อตัวหนาแน่นปกคลุมปิดกั้นไม่ให้แสดงยูวีผ่านลงมาฆ่าเชื้อโรคได้ และอุณหภูมิที่เย็นตัวลงช่วยปกป้องไวรัสไว้ สภาวะต่างๆเหล่านี้รวมกันเป็นสภาวะในอุดมคติสำหรับการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดนกผ่านอากาศได้  

บทบาทของระบบการระบายอากาศ

               ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า ระบบการระบายอากาศในโรงเรือนสัตว์ปีก เอื้อให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ทิศทางการแพร่กระจายโรคผ่านลมในฟาร์มต่างๆ ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า กลไกการติดเชื้อของโรงเรือนสัตว์ปีกอาจมีอิทธิพลของระบบการระบายอากาศแบบอุโมงค์ลมที่ส่งเสิรมให้เกิดการติดเชื้อต่อไปได้

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2025. Study identifies wind as likely culprit behind HPAI spread. [Internet]. [Cited 2025 Feb 19]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/news/15737841/study-identifies-wind-as-likely-culprit-behind-hpai-spread

ภาพที่ ๑ ลมอยู่เบื้องหลังการระบาดหวัดนก (แหล่งภาพ South12th | Dreamstime.com)



วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ความเสี่ยง ๖ ประการต่อโรคไข้หวัดนกในสหราชอาณาจักร

 รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศให้อังกฤษ เวลส์ และสก๊อตแลนด์ เป็นโซนป้องกันโรคไข้หวัดนก ตามมาตรการระดับภูมิภาคเพื่อป้องกันฝูงสัตว์ ขณะที่ การระบาดเพิ่มขึ้นทั่วเกาะอังกฤษ

โซนป้องกันโรคไข้หวัดนก หรือเอไอพีแซ็ต (Avian influenza prevention zone, AIPZ) ไม่ได้ครอบคลุมมาตรการระดับชาติ แต่ดีฟราได้นำมาใช้แล้วในบางพื้นที่ เช่น ยอร์ก ยอร์เชียร์เหนือ เป็นต้น  สหภาพฟาร์มเลี้ยงสัตว์เห็นด้วยกับมาตรการของภาครัฐ และสัตวแพทย์ที่เน้นย้ำให้เข้มงวดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ ข้อกำหนดทางกฏหมายให้ใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพไม่ควรให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟาร์มโดยไม่จำเป็น ให้เปลี่ยนน้ำยาจุ่มเท้าเป็นประจำให้มีความเข้มข้นที่ถูกต้อง และต้องใช้ยาฆ่าเชื้อที่ดีฟราให้คำแนะนำเท่านั้น  

ผู้ผลิตสัตว์ปีกควรฝึกให้สังเกตอาการทางคลินิกของโรคไข้หวัดนกได้ และปรึกษากับสัตวแพทย์ทันที ไม่ว่าจะเป็นประเด็นด้านสุขภาพหรือสวัสดิภาพสัตว์ก็ตาม หากสงสัยว่าเกิดโรคไข้หวัดนกขึ้นแล้ว และชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ๖ ประการ ได้แก่

๑.     การจัดการระบบระบายอากาศ ปัญหามักพบในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพวัสดุรองพื้น ระบบการระบายอากาศสามารถปรับได้ในโรงเรือนที่เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นเสีย ควรปรึกษากับบริษัทผู้ออกแบบระบบการระบายอากาศภายในโรงเรือน หากวัสดุรองพื้นเสียแล้วควรนำออกจากโรงเรือน แล้วเติมวัสดุรองพื้นใหม่ทดแทน

๒.    ป้องกันการจิกขน ปัญหานี้มักมีสาเหตุจากความเครียดที่ถูกขังอยู่ภายในโรงเรือน และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยากต่อการควบคุม การลดระดับความเข้มแสงภายในระดับที่กฏหมายควบคุมไว้เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ในการช่วยให้สัตว์สงบ และป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวต่อกัน นอกจากนั้น ของเล่นควรจัดไว้ให้ โดยเฉพาะ ก้อนฟางหญ้าอัลฟัลฟา และก้อนวัสดุสำหรับให้จิกเล่น เช่น ก้อนหินเพคสโตน หรือเวลล์บีอิ้ง นอกเหนือจากนั้น การหว่านกรวดปริมาณ ๗ กรัมต่อตัวต่อสัปดาห์บนพื้นที่คุ้ยเขี่ยจะช่วยให้วัสดุรองพื้นร่วน ขณะที่ สัตว์ปีกคุ้ยเขี่ยวัสดุรองพื้นเพื่อหาเศษกรวด

๓.    ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ การขังแม่ไก่ไว้ในโรงเรือนตลอดเวลา ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อก่อโรค เช่น หลอดลมอักเสบติดต่อ และไมโคพลาสมา และเป็นการกระตุ้นให้สัตว์แสดงอาการทางคลินิก แล้วแพร่กระจายโรคไปยังตัวอื่นๆ ฝูงสัตว์ปีกส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักรให้วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบติดต่อในช่วงออกไข่ และควรทำต่อไป ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีการสเปรย์ หรือละลายน้ำ

๔.    ป้องกันไม่ให้สัตว์สุมรวมกันจนขาดอากาศตาย ควรตรวจฝูงสัตว์ปีกในช่วงเวลาปรกติที่เปิดประตูให้สัตว์ออกมาภายนอกโรงเรือน และคอยเดินกวนบริเวณที่สัตว์มักสุมรวมกัน การวางแรมพ์ หรือวัสดุอื่นๆเพื่อป้องกันไม่ให้แม่ไก่สุมรวมกันในบางบริเวณก็สามารถช่วยป้องกันสิ่งเหล่านี้ได้

๕.    สุขภาพทางเดินอาหาร ระบบทางเดินอาหารของไก่อายุน้อยเป็นเสมือนเครื่องจักร หากสุขภาพทางเดินอาหารไม่เหมาะสม สัตว์ก็ไม่สามารถสกัดเอาสารอาหารที่จำเป็นสำหรับต่อสู้กับโรค แม้กระทั่ง การรักษาการทำหน้าที่ของร่างกายตามปรกติ หรือผลิตไข่ที่มีคุณภาพเองก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เอบีซี พีเอช สามารถช่วยลดผลกระทบจากปริมาณเชื้อแบคทีเรียได้ ปัญหาคุณภาพเปลือกไข่อาจได้รับผลกระทบในช่วงที่ไก่ขังอยู่ภายในโรงเรือน โดยเฉพาะ หากสัตว์เกิดความเครียดระหว่างที่ถูกอยู่ภายในโรงเรือน สำหรับสัตว์ที่อายุมากขึ้น ผลิตภัณฑ์อย่าง ๕๐ วีคพลัส ก็ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับแม่ไก่ในช่วงครึ่งที่สองของระยะการไข่ และลดความเสี่ยงต่อปัญหาคุณภาพเปลือกไข่ที่อาจพบได้ในสัตว์ที่อยู่ภายใต้ความเครียด เฮอร์บิวิตพลัสก็เป็นสารเสริมที่ดีเยี่ยมสำหรับสัตว์ปีกอายุน้อย และช่วยให้น้ำหนักตัวได้ดีขึ้นในไก่รุ่น

๖.     การจัดการปรสิต สิ่งที่สำคัญที่ควรตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องเป็นปัญหาพยาธิและปรสิตระหว่างการเลี้ยงภายในโรงเรือน การตรวจนับไข่พยาธิ และการให้ยาถ่ายพยาธิควรจัดการอย่างต่อเนื่องในระหว่างนี้ สัตว์อาจจะพบพยาธิได้แม่ว่าจะอยู่ภายในโรงเรือนก็ตาม ในช่วงที่เลี้ยงสัตว์ไว้ภายในโรงเรือนก็จะง่ายต่อการให้ยาถ่ายพยาธิโดยการละลายน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำกินอย่างเดียว และไม่มีความเสี่ยงต่อการไปกินน้ำที่ไม่ได้ผสมยาจากแหล่งอื่นๆ ไรแดงก็เป็นปัญหาที่ควรจับตามอง อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นในโรงเรือนเมื่อประตูน้อยที่เปิดออกให้ไปเดินเล่นภายนอกโรงเรือนถูกปิด ก็จะเป็นโอกาสของไรแดงได้ขยายพันธุ์กว่าปรกติในช่วงฤดูหนาว หากไรแดงเป็นปัญหาในไก่อายุน้อย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา  

สิ่งสำคัญ ผู้ผลิตสัตว์ปีกควรคุ้นเคยกับอาการทางคลินิกของโรคไข้หวัดนก และปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพื่อสุขภาพสัตว์ และสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี

เอกสารอ้างอิง

Errington H. 2025. A vet’s view – 6 areas of risk when dealing with avian influenza. [Internet]. [Cited 2025 Feb 5]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/a-vets-view-6-areas-of-risk-when-dealing-with-avian-influenza/

ภาพที่ ๑ ความเสี่ยง ๖ ประการต่อโรคไข้หวัดนกในสหราชอาณาจักร (แหล่งภาพ Alena Ozihilevich | Bigstock)



วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ผลการศึกษาล่าสุด: หวัดนกกำลังเป็นภัยคุกคามในยุโรป

 แนะนำให้เตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดของโรคไข้หวัดนกไปยังสปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีก

การประเมินความเสี่ยงต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงล่าสุด มีคำแนะนำอย่างกว้าง ๕ ข้อสำหรับเตรียมรับมือการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการติดต่อไปยังสปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีก เชื้อไวรัสกำลังเป็นภัยคุกคาม และการกลายพันธุ์ที่บ่อยทำให้โอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปติดต่อสู่สปีชีส์อื่นๆที่ไม่ใช่สัตว์ปีกเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้เป็นบทสรุปจากผลการศึกษาครั้งล่าสุดเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส และผลลัพธ์ที่เป็นไปได้โดยสำนักความปลอดภัยอาหารยุโรป หรือเอฟซา และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคยุโรป หรืออีซีดีซี นายเบิร์นฮาร์ด เอิร์ล ผู้อำนวยการเอฟซา มองว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้ขยายวงการระบาดในปี พ.ศ.๒๕๖๖ ไปยังสัตว์หลายสปีชีส์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าสามารถติดเชื้อได้

 การกลายพันธุ์มีความเชื่อมโยงกับโอกาสการแพร่กระจายไปสู่มนุษย์ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบที่รวดเร็ว และการตอบสนองอย่างทันเหตุการณ์ การร่วมมือกันและแบ่งปันข้อมูลของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการกับปัญหาโรคไข้หวัดนกครั้งนี้  

 ผลการศึกษาการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ผู้เชี่ยวชาญจากเอฟซาพบเชื้อไวรัส ๓๔ สายพันธุ์ที่มีโอกาสติดเชื้อไปยังมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆได้

               นอกเหนือจากนั้น รายงานยังเตือนถึงปัจจัยบางประการที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของเชื้อไวรัสที่จะแพร่กระจายออกไปจากสัตว์สู่มนุษย์ ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การเลี้ยงฟาร์มอย่างหนาแน่น ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่บกพร่อง การทำลายป่า การสร้างเมือง และการค้าขายระหว่างประเทศ

การให้วัคซีน

               ข้อแนะนำจากเอฟซาและอีซีดีซีจากผลการศึกษาครั้งนี้

-            ภายใต้หลักการของการป้องกันโรค แนะนำให้เข้มงวดด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ การฝึกอบรมพนักงาน แผนการรับมือกับการระบาดของโรค และการให้วัคซีนสัตว์ปีก นอกจากนี้ คนงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อควรให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และปฏิบัติตามแนวทางการให้ยาต้านไวรัส

-             สำหรับภาคสัตวแพทย์ การเฝ้าระวังโรคสัตว์เป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรค และการยืนยันโรคระบาด แนะนำให้ตรวจติดตามสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ป่วยและตายที่มีโอกาสติดเชื้อจากนกป่า และฟาร์มสัตว์ปีกได้

-            การตรวจสอบการกลายพันธุ์ และการปรับตัวของเชื้อไวรัสให้ติดต่อสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จะอาศัยการตรวจลำดับสารพันธุกรรม เอฟซา/อีซีดีซี กระตุ้นให้มีการลงทุนระบบที่ใช้ในการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงระดับพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายจากสัตว์สู่คนง่ายขึ้น

คำแนะนำอื่นๆอีก ๒ อย่างครอบคลุมด้านสาธารณสุข แนะนำว่า การเฝ้าระวังโรคในมนุษย์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ ควรครอบคลุมชนิดของเชื้อไวรัส และการเฝ้าระวังระหว่างช่วงเวลาที่มีการระบาดสูงที่สุด โดยเรียกร้องให้ตื่นตัวมากขึ้นต่อโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และบุคลากรทางการแพทย์ นอกเหนือจากนั้น แผนการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องพัฒนาและสื่อสารก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ในมนุษย์ในอนาคต

นอกเหนือจากความเห็นทางวิชาการที่เผยแพร่ไปแล้ว เอฟซา/อีซีดีซี ยังได้ร่างแนวทางในการสอบสวนโรค และควบคุมโรคไข้หวัดนก ด้วยความร่วมมือตามนโยบายสุขภาพหนึ่งเดียวครอบคลุมทั้งทางการแพทย์และสัตวแพทย์ มีวัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุนแผนระดับชาติของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป

แปดประเทศยุโรปรายงานการระบาดโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีก

               ในช่วงวันที่ ๒๒ ถึง ๒๙ มกราคม ห้าประเทศยุโรปได้รายงานการระบาดใหม่ ๑๒ ครั้งในฟาร์มสัตว์ปีก ตามระบบการจัดการข้อมูลโรคสัตว์โดยคณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม จากช่องทางนี้ อีซีสามารถตรวจติดตามโรคสัตว์สำคัญในประเทศสมาชิกอียู และประเทศข้างเคียงได้

               อ้างอิงตามการระบาดใหม่นี้ในช่วงสัปดาห์ล่าสุด โปแลนด์ อิตาลีพบเพิ่มอีก ๒ ฟาร์ม และอีกฟาร์มในเยอรมัน ฮังการี และลิธัวเนีย โดยภาพรวม พบการระบาดเกิดขึ้นแล้ว ๔๓ ครั้งในสมาชิก ๘ ประเทศ โดยอิตาลีเหมาไป ๒๐ ครั้ง และโปแลนด์อีก ๑๐ ครั้ง การระบาดครั้งแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ มีรายงานในลิธัวเนีย

การระบาดเกิดจากเอช ๕ เอ็น ๑ ทั้งหมด

               นอกเหนือจากนั้น หน่วยงานด้านสัตวแพทย์ของประเทศยุโรป ๓ แห่งได้รายงานแจ้งให้กับโวอ้าเกี่ยวกับการระบาดที่เชื่อมโยงกับเชื้อไวรัสเดียวกันในฟาร์มสัตว์ปีก โดยยังพบการระบาดต่อไปอีก ๔ แห่งในสหราชอาณาจักร และอีกอย่างละ ๑ แห่งในบัลกาเรียและเนเธอร์แลนด์  

               เกิดความวิตกกังวลต่อการเสียหายอย่างรุนแรง ฟาร์มสัตว์ปีก และองค์การผู้เลี้ยงสัตว์ปีก เรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรอนุญาตการใช้วัคซีนป้องกันสัตว์ปีกจากไข้หวัดนก ปัจจุบัน การให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ทำในสัตว์ปีก สอดคล้องกับรายงานของบีบีซี การให้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในสหราชอาณาจักร และการควบคุมโรคยังขึ้นกับการเข้มงวดระบบป้องกันโรค และกำจัดสัตว์ป่วยที่ติดเชื้อ

การระบาดเพิ่มขึ้นในนกเลี้ยงในกรง และสัตว์ป่า

               การระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง ยังคงพบในนกเลี้ยงในกรง ในสี่ประเทศในช่วงสัปดาห์ของวันที่ ๒๙ มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนกเลี้ยงในกรง ยังรวมถึง สัตว์ปีกที่เลี้ยงหลังบ้าน สวนสัตว์ และโรงเรือนที่คล้ายกัน โดยมีการระบาดเกิดขึ้นอีก ๗ ครั้งในเยอรมัน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และโปแลนด์ นอกจากนั้น โวอ้ายังแจ้งเตือนการระบาดใหม่ในเบลเยียม เกาะอังกฤษ และฮังการี สำหรับประชากรนกป่าพบครั้งแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ จากเอช ๕ เอ็น ๑ ในเบลเยียม ลิธัวเนีย มอลโดวา และสโกวาเกีย อ้างอิงตามระบบอีซี ขณะเดียวกัน เจ็ดประเทศในยุโรปตะวันตกยังพบการระบาดต่อไป

               นอกเหนือจากนั้น สัตว์ป่วยที่เป็นนกป่ารายแรกที่มีบันทึกในโวอ้าอยู่ในโปแลนด์ และจังหวัดทางตะวันตกของประเทศยูเครน ขณะที่ เกาะอังกฤษ และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ยืนยันโรคแล้วในนกป่า ขณะเดียวกัน นกป่าอีก ๘ ตัวให้ผลบวกต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ แวเรียนต์ในไอซ์แลนด์ โวอ้ายังรายงานว่า เชื้อไวรัสเดียวกันยังพบเป็นครั้งแรกในจิ้งจอกอาร์กติกอีกด้วย  

เอกสารอ้างอิง

Linden J. 2025. Study: Avian flu seen as growing threat in Europe. [Internet]. [Cited 2025 Feb 5]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/article/15736688/study-avian-flu-seen-as-growing-threat-in-europe

ภาพที่ ๑ หวัดนกกำลังเป็นภัยคุกคามในยุโรป 







วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

อังกฤษยกเลิกแบนวัตถุดิบโปรตีนจากไก่หมู

 สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณายกเลิกการสั่งห้ามใช้โปรตีนแปรรูปจากสัตว์ปีกละสุกร หรือพีเอพี อ้างอิงตามรายงานจากเอฟปรา ซึ่งป็นผู้แทนของอุตสาหกรรมผลพลอยได้จากสัตว์ในยุโรป

ช่วงปลายปีที่แล้ว สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณายกเลิกแบนโปรตีนแปรรูปจากสัตว์ปีกและสุกร หรือพีเอพี (poultry and pig processed animal proteins, PAPs) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนและก่อให้เกิดการระบาดของโรควัวบ้า หรือบีเอสอีในช่วงปี พ.ศ.๒๕๒๓ ทำให้ทำลายสัตว์เคี้ยวเอื้องไป ๔ ล้านตัว และมีผู้เสียชีวติ ๑๗๘ รายจากโรคครอยตส์เฟลดต์-จาค็อบ หรือซีเจดี  

การผสมพีเอพีในอาหารสัตว์

สหภาพยุโรปแก้ไขกฎหมายเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ อนุญาตให้ใช้โปรตีนแปรรูปจากสัตว์ปีกและสุกร โดยโปรตีนแปรรูปจากเนื้อสัตว์ปีกสามารถใช้กับอาหารสุกรได้ ขณะที่ โปรตีนแปรรูปจากเนื้อสุกรก็สามารถใช้กับอาหารสัตว์ปีกได้เช่นเดียวกัน อัตราการผสมในอาหารสัตว์โดยทั่วไปร้อยละ ๕ ถึง ๑๐

โปรตีนแปรรูปจากสัตว์ปีกและสุกรมีปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าวัตถุดิบแหล่งโปรตีนจากพืชที่นิยมใช้กัน เช่น เรพซีด ถั่วเหลือง และถั่วลูพิน ทั้งนี้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตจากวัตถุดิบกลุ่มที่ ๓ เหมาะสำหรับมนุษย์บริโภค ณ ขณะที่ถูกฆ่า และมาจากระบบการผลิตที่สามารถสอบย้อนกลับได้อย่างครอบคลุมตลอดทุกขั้นตอน เพื่อกำจัดความเสี่ยงจากการกินเนื้อสัตว์ชนิดเดียวกัน หรือกินกันเอง (intra-species consumption)

ยังเร็วเกินไป

               เอเดรียน เคสเตอร์สัน ที่ปรึกษาด้านวิชาการของสมาคมการค้าผลพลอยได้จากสัตว์ หรือฟาบรา แห่งสหราชอาณาจักร ยังเห็นว่าเร็วเกินไปที่จะคิดว่าสหราชอาณาจักรจะเดินตามสหภาพยุโรปในการยกเลิกการแบนครั้งนี้ เวลานี้ยังต้องปรึกษากับสก๊อตแลนด์ในการอนุโลมพีเอพีสัตว์ปีกใช้ผสมในอาหารสุกร และพีเอพีสุกรใช้ในอาหารสัตว์ปีกได้ ทั้งนี้อาจต้องครอบคลุมการใช้แมลงป่นและเจลาตินจากสัตว์เคี้ยวเองในอาหารสัตว์ด้วย วาระการปรึกษาที่คล้ายคลึงกันนี้วางแผนไว้สำหรับอังกฤษและเวลส์ถัดไปจากนี้ หากผลการปรึกษาหารือกันนี้เป็นบวก รัฐบาลก็จะเริ่มร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องใช้เวลา ในความเป็นจริง กฎหมายนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๖๙ อย่างเร็วที่สุด   

  ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้ผลิตอาหารสัตว์ควรเข้าถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้เหมือนกับในยุโรป ทัศนคติความเชื่อของผู้บริโภคและผู้ค้าปลีกเป็นสิ่งที่ยากต่อการไปตัดสินใจแทน แต่ผู้บริโภคสหราชอาณาจักรก็ไม่แตกต่างกันมากกับยุโรป และไม่มีปรากฏการณ์สะท้อนกลับที่รุนแรงในยุโรป ตั้งแต่กฏหมายยุโรปเปลี่ยนไปในปี พ.ศ.๒๕๖๔ เป็นต้นมา

ความเสี่ยงของโรควัวบ้าและการประเมินความเสี่ยง

               อังกฤษ เวลส์ และสก๊อตแลนด์ ได้รายงานต่อองค์การสุขภาพสัตว์โลกเปลี่ยนสถานะความเสี่ยงของโรควัวบ้าจากภายใต้สถานการณ์ควบคุมโรคไปเป็นไม่ใช่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอีกต่อไป ซึ่งเป็นการช่วยการส่งออกเนื้อและผลพลอยได้จากสัตว์ คาดว่า องค์การสุขภาพสัตว์โลกจะพิจารณาข้อเสนอภายในปีนี้ แม้ว่าหากอนุโลมแล้ว ก็จำเป็นต้องทบทวนกฎหมายด้วย

               การประเมินความเสี่ยงจากสำนักสุขภาพพืชและสัตว์ หรือเอพีเอชเอ บ่งชี้ว่า ความเสี่ยงในสหราชอาณาจักรจากการระบาดของโรควัวบ้า หรือทีเอสอี หรือบีเอสอี จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่า ร่างกฏหมายพีเอพีจะมีใช้จริงแล้วก็ตาม สมาคมสัตวแพทย์บริทิชได้ส่งคำขอปรึกษาร่วมกับสก๊อตแลนด์เพื่อพิจารณาสนับสนุนให้ยกเลิกการแบนพีเอพี แต่ก็ยังแสดงความห่วงใยต่อความเสี่ยงต่อโรคที่มีผลต่อสุขภาพสัตว์ เช่น อหิวาต์แอฟริกันในสุกร อหิวาต์สุกร หรือโรคพีอีดี ขณะที่ เอ็นจีโอ คอมพาสชันอินเวิล์ดฟาร์มมิ่ง ก็สนับสนุนการให้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์กับสัตว์กลุ่มโอมนิวอร์ เช่น สุกร และไก่ แต่ยังคงกังวงกับการใช้แมลง   

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025.  UK considers lifting ban on pig and poultry PAPs in animal feed. [Internet]. [Cited 2025 Jan 22]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/uk-considers-lifting-ban-on-pig-and-poultry-paps-in-animal-feed/

ภาพที่ ๑ อังกฤษเลิกแบนการใช้โปรตีนแปรรูปจากไก่หมู (แหล่งภาพ Canva)



ยูเครนส่งออกเนื้อไก่พุ่ง ๒๐ เปอร์เซ็นต์

  ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ การส่งออกยูเครนกระโดดสูงขึ้นอีกร้อยละ ๒๐.๔ แตะยอดสูงที่สุด ๓.๑๖ หมื่นล้านบาท ปริมาณการส่งออกสูงขึ้นร้อยละ ๕.๗ เป็น ๔๔๘,๘๐๐ ต...