การศึกษาล่าสุด บ่งชี้ว่า ระบบการระบายอากาศมีบทบาทมากต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสผ่านลม
ระบบการระบายอากาศมีบทบาทสำคัญต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
โดยเฉพาะ โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงจากรายงานวิจัยล่าสุด
การระบาดของโรคโดยอาศัยลม
เชื้อไวรัสสามารถเดินทางผ่านอากาศเป็นระยะทางไกล โดยนักวิจัยได้แสดงหลักฐานจากการศึกษาระดับพันธุกรรมเพื่อสนับสนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดของโรคโดยอาศัยลม
งานวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกที่ตั้งอยู่ห่างกัน
๕ ไมล์ ผลการทดสอบระดับโมเลกุล แสดงให้เห็นว่า
เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง มีความเหมือนกันทั้งหมด หมายความว่า
เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกันนี้เองที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในฟาร์มทุกแห่งข้างต้น
การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมประกอบกับการวิเคราะห์เชิงระบาดวิทยา
อุตุนิยมวิทยา และภูมิศาสตร์ ช่วยให้เห็นภาพเหตุการณ์ที่บ่งชี้ว่า
ลมเป็นกลไกสำคัญในการแพร่ระบาดของเชื้อระหว่างฟาร์มสัตว์ปีกได้ สภาพอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างการติดเชื้อส่วนใหญ่
รวมถึง ลมที่นิ่งจากภาคตะวันตก เมฆก่อตัวหนาแน่นปกคลุมปิดกั้นไม่ให้แสดงยูวีผ่านลงมาฆ่าเชื้อโรคได้
และอุณหภูมิที่เย็นตัวลงช่วยปกป้องไวรัสไว้ สภาวะต่างๆเหล่านี้รวมกันเป็นสภาวะในอุดมคติสำหรับการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไข้หวัดนกผ่านอากาศได้
บทบาทของระบบการระบายอากาศ
ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า
ระบบการระบายอากาศในโรงเรือนสัตว์ปีก
เอื้อให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ทิศทางการแพร่กระจายโรคผ่านลมในฟาร์มต่างๆ
ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า กลไกการติดเชื้อของโรงเรือนสัตว์ปีกอาจมีอิทธิพลของระบบการระบายอากาศแบบอุโมงค์ลมที่ส่งเสิรมให้เกิดการติดเชื้อต่อไปได้
เอกสารอ้างอิง
Doughman
E. 2025. Study identifies wind as likely culprit behind
HPAI spread. [Internet]. [Cited 2025 Feb 19]. Available
from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/news/15737841/study-identifies-wind-as-likely-culprit-behind-hpai-spread
ภาพที่ ๑ ลมอยู่เบื้องหลังการระบาดหวัดนก
(แหล่งภาพ South12th
| Dreamstime.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น