สหภาพผู้บริโภคในนิวยอร์กเรียกร้องให้มีการลดการใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตปศุสัตว์ เนื่องจาก การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปส่งเสริมให้มีการขยายตัวของเชื้อดื้อยาซูเปอร์บั๊ก และทำให้การใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการรักษามีประสิทธิภาพลดลง
เมื่อสองปีที่แล้ว ดร.โทมัส ไฟร์เดน ผู้อำนวยการ CDC ได้ชี้ให้เห็นถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการใช้ยาปฏิชีวนะในปศุสัตว์ และการดื้อยาในมนุษย์ ขณะนี้ องค์กรต่างๆด้านสาธารณสุขทั้งสมาคมแพทย์อเมริกา สมาคมสาธารณสุขอเมริกา ชมรมโรคติดเชื้อแห่งอเมริกา และองค์การอนามัยโลยได้ตกลงให้มีการลดการใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตสัตว์ที่ใช้สำหรับเป็นอาหาร เนื่องจาก เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำบัดรักษาโรคทางการแพทย์สูงขึ้น ผู้ป่วยต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลนานขึ้น และเสียชีวิตมากมาย โดย CDC ประเมินว่า ประชากรกว่า ๑๐๐,๐๐๐ รายต่อปีเสียชีวิตจากโรคที่ติดมาจากโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ทางการแพทย์ ในต้นปีนี้ US FDA ได้ขอให้บริษัทยา และผู้เลี้ยงสัตว์ให้ยกเลิกการใช้ยาปฏิชีวนำสำหรับส่งเสริมการเจริญเติบโตทั้งหมดภายในสามปี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหภาพผู้บริโภคได้รณรงค์การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปราศจากยา เพื่อให้ร้านค้าไม่นำเนื้อสัตว์ และเนื้อไก่ที่ยังใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับส่งเสริมการเจริญเติบโตของสัตว์ โดยเริ่มจาก Trader Joe’s ที่กลายเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้คุ้มครองสุขภาพผู้บริโภค และรักษาประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะไว้โดยการจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงโดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเท่านั้น
แหล่งที่มา Meat and Poultry (12/11/12)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น