วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สหราชอาณาจักรเผชิญเชื้อ อี.โคไล ดื้อยาปฏิชีวนะ

อัตรากาตรวจพบ เชื้อ อี.โคไล ดื้อยา จากชิ้นส่วนของไก่ในสหราชอาณาจักรจากห้างซูเปอร์มาร์เก็ตพบว่า หากหยิบขึ้นมา ๔ ชิ้นจะพบเชื้อดื้อยา ๑ ชิ้น 
               นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ตรวจสอบเชื้อ อี. โคไล ดื้อยาจากสัตว์ปีกในซูเปอร์มาร์เก็ต ๗ แห่ง ตั้งแต่ เทสโค แอสดา มอร์ริสัน เซนส์เบอรี อัลดี โคออพ และไวโทรส พบว่า ตัวอย่างเนื้อสัตว์ปีก และเนื้อสุกร ๒๔ เปอร์เซ็นต์ให้ผลบวกต่อเชื้อ อี.โคลัย ดื้อยาที่เรียกว่า อีเอสบีแอล ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มที่รู้จักกันดีคือ เซฟาโลสปอริน ที่ใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยระยะวิกฤติ
               ผลการตรวจสอบในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ โดยนักวิจัยคณะเดียวกัน พบว่า ตัวอย่างเนื้อสัตว์ปีก ๖ เปอร์เซ็นต์ และเนื้อสุกร ๔ เปอร์เซ็นต์ มีการปนเปื้อนด้วยเชื้อ อี.โคลัย ดื้อยา อีเอสบีแอล นักวิจัยอ้างว่า แนวโน้มการตรวจพบเชื้อดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเนื้อสัตว์ปีก เชื้อ อี. โคลัย เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของชาวอังกฤษ ๕,๕๐๐ รายเมื่อปีที่แล้วอ้างอิงตามข้อมูลจากสาธารณสุขอังกฤษ เชื้อชนิดนี้พบได้บ่อยมากจากการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และอาจทำให้เกิดปัญหาเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้   
               รายงานการวิจัย สรุปได้ว่า มีการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินความจำเป็นในฟาร์มของสหราชอาณาจักรกำลังส่งผลให้โอกาสในการรักษาโรคติดเชื้อ อี. โคไล ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ลง สภาสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักร (British Poultry Council, BPC) อ้างว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินความจำเป็นในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ปีก แม้ว่า จะพยายามลดการใช้ยาปฏิชีวนะลงถึง ๔๔ เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๒
               วิสัยทัศน์ของสภาสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับทั้งสุขภาพสัตว์ปีก และความรับผิดชอบต่อการใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ยังต้องการค้นคว้าหาความรู้ต่อไป การใช้ยาปฏิชีวนะน้อยลงเป็นการลดความกดดันต่อเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนห่วงโซ่การผลิตอาหารสัตว์ที่จะพัฒนาเชื้อดื้อยา และเรายังมีโอกาสเห็นเชื้อดื้อยาที่ลดลงได้

การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรอบคอบ
               หลักเกณฑ์การใช้ยาปฏิชีวนะในการเกษตรกรรม (Responsible Use of Medicines in Agriculture Alliance, Ruma) ตระหนักถึงแนวโน้มเชื้อดื้อยาที่กำลังเพิ่มขึ้น แต่ยังเชื่อกันว่า การดื้อยาในมนุษย์ส่วนใหญ่มาจากการใช้ยาทางการแพทย์เอง
               Ruma อ้างผลการศึกษาเร็วๆนี้ ยืนยันว่า การใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มมีส่วนรับผิดชอบต่อผู้ป่วยเพียง ๑ รายใน ๓๗๐ รายเท่านั้น และให้ความสำคัญกับสุขอนามัยในครัวที่ดี ล้างมือภายหลังการจับเนื้อดิบ และปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึงสามารถป้องกันการถ่ายทอดเชื้อดื้อยาจากเนื้อสัตว์ไปยังมนุษย์ลงได้เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ถึงกระนั้น อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาด้วยเช่นกัน
               การจำหน่ายยากลุ่มฟลูโอโรคิโนโลน และยาปฏิชีวนะกลุ่มเซฟาโลสปอรินรุ่นที่ ๓ และ ๔ ที่เป็นยาปฏิชีวนะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งมีการใช้กันน้อยมากในสหราชอาณาจักรเพียง ๐.๙ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ในฟาร์ม
               ระบบฟาร์มที่สนับสนุนให้สัตว์สุขภาพดี โดยไม่ต้องพึ่งพายาปฏิชีวนะมีความสำคัญต่อสุขภาพมนุษย์ เกษตรกรเกษตรอินทรย์ได้ประสบความสำเร็จมาแล้วเป็นเวลาหลายสิบปี ซูเปอร์มาร์เก็ตต้องร่วมกันคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค และสนับสนุนให้เกษตรกรเปลี่ยนระบบฟาร์ม

เอกสารอ้างอิง

Case, 2016. UK chicken: Rise in antibiotic-resistant E. coli. [Internet]. [Cited 2017 Feb 4]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2016/9/UK-chicken-Rise-in-antibiotic-resistant-E-coli-2885555W/

















ภาพที่ ๑ การทดสอบความไวรับต่อยาต้านเชื้อจุลชีพบนจานเลี้ยงเชื้อ นักวิจัย พบว่า เชื้อแบคทีเรียกำลังดื้อยาเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้ยาไม่ถูกต้อง และขาดความรอบคอบ (แหล่งภาพ: Jarun Ontakrai) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิวัฒนาการเชื้อไวรัสนิวคาสเซิล

  ขณะที่ วัคซีนช่วยลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคนิวคาสเซิล การระบาดก็ยังพบได้อยู่ โดยมีอัตราการตายสูง และกำจัดสัตว์ที่ติดเชื้อ มีผลกระทบเ...