ตัวอย่างของผู้เลี้ยงไก่เนื้อที่เปลี่ยนจากการผลิตตามปรกติเป็นมาตรฐานใหม่
“เบทเทอร์ ไลฟ์” หรือ “Beter Leven” ๑ ดาว โดยสร้างโรงเรือนใหม่หลังที่สามสำหรับเลี้ยงลูกไก่ ๗๕,๐๐๐
ตัวบนพื้นที่ ๘ พันตารางเมตร โรงเรือนใหม่มีการระบายอากาศจากเพดาน
ผู้ประกอบการรายนี้มีการลงทุนอย่างมากในธุรกิจการเลี้ยงไก่เนื้อ
เริ่มตั้งแต่แผงโซลาร์เซลล์ ๑,๘๕๐ ชุด กำลังการผลิต ๕ แสนกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
ขณะนี้ได้ผลกำไรจากการประหยัดพลังงาน นอกจากนั้น
เกษตรกรรายนี้ยังมีการเพาะปลูกพืชไร่อีกด้วย
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาภัยแล้งจำเป็นต้องมีการรดน้ำในพื้นที่ ๓๗๕ ไร่
โดยใช้ป๊มน้ำไฟฟ้า และน้ำจากบ่อบาดาลของตัวเอง ปั๊มน้ำมีประสิทธิภาพในการทำงาน ๖๕
ตารางเมตรต่อชั่วโมง ความดันลม ๑๖ บาร์
แต่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์บนโรงเรือนเลี้ยงไก่
เกษตรกรสามารถรดน้ำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในระหว่างวัน
ช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันดีเซลให้เกษตรกร ๙ พันบาทต่อวัน
มาตรฐานใหม่ เบทเทอร์ ไลฟ์
ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่แห้งแล้ง และอุณหภูมิสูงมาก เป็นสิ่งที่ผิดปรกติสำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์
แต่เกษตรกรรายนี้ไม่ต้องการกังวลกับความเป็นอยู่ที่ดีของไก่เนื้อในช่วงเวลาดังกล่าว
จึงตัดสินใจผลิตไก่ตามมาตรฐานใหม่ เบทเทอร์ ไลฟ์ ๑ ดาว
ที่เป็นโปรแกรมของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ในเนเธอร์แลนด์ เริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี
๒๕๕๙ และเปลี่ยนอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ความหนาแน่นการเลี้ยง ๙.๕
ตัวต่อตารางเมตร และสูงที่สุด ๒๕ กิโลกรัมของเนื้อต่อตารางเมตรที่อายุจับ
ทำให้ความหนาแน่นการเลี้ยงลดลงอย่างมาก ไก่ไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนเลย
หลายปีก่อนหน้านั้น เกษตรกรรายนี้เลี้ยงไก่ตามระบบปรกติ
ประสบปัญหากับสภาพอากาศเป็นประจำ
บางครั้งไก่ตายทีเดียวหลายพันตัวเมื่อห้าปีที่แล้ว
ก่อนที่จะหันมาเลี้ยงด้วยมาตรฐานใหม่นี้
ความวิตกกังวลก็คลี่คลายลงเมื่อเปลี่ยนเป็นลูกไก่สายพันธุ์โตช้า
การเลี้ยงไก่ง่ายขึ้น และต้องคอยควบคุมไม่ให้ลูกไก่น้ำหนักเกินกว่า ๒.๕ กิโลกรัม
เมื่อปรึกษากับโรงงานแปรรูปการณ์ผลิต
เกษตรกรรายนี้เปลี่ยนไปใช้มาตรฐานเบทเทอร์ ไลฟ์ ผลตอบแทนมากขึ้น แต่ทำงานน้อยลง
แนวความคิดการผลิตเนื้อสำหรับการตลาดใหม่กำลังเติบโต
และความต้องการมากขึ้นในเวลานั้น ฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อแห่งนี้ได้เปลี่ยนแผนการผลิตจาก
๖.๕ สัปดาห์เพิ่มเป็น ๙ สัปดาห์ จำนวนไก่ลดลงโดยทันที จากที่เคยเลี้ยงไก่ ๘๔,๐๐๐
ตัวต่อ ๔,๒๐๐ ตารางเมตร ตอนนี้มีไก่ ๗๕,๐๐๐ ตัวต่อ ๘,๐๐๐ ตารางเมตร
หลังจากเปลี่ยนไปใช้มาตรฐานเบทเทอร์
ไลฟ์ แล้วก็ต้องมีการปรับปรุงโรงเรือนหลายอย่าง ตั้งแต่การเตรียมช่องกระจกรับแสงสว่างบนหลังคา
การก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ปีกใหม่ ๙๕ ´ ๒๘ เมตรเป็นระบบโรงเรือนเลี้ยงไก่แบบใหม่เรียกว่า
“Sunbro
poultry house” ตามแนวความคิดของฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อเพื่อนบ้าน
แต่มีการดัดแปลงเล็กน้อยจนได้โรงเรือนเลี้ยงไก่ที่สวยงามแบบหนึ่ง
การลงทุนราว ๔
ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากระบบการระบายอากาศจากเพดานโรงเรือน
ช่วยตัดปัญหาระบบการระบายอากาศแบบเดิม อากาศบริสุทธิ์ถูกดูดเข้าสู่โรงเรือนเลี้ยงไก่จากหน้าโรงเรือน
อากาศที่ดูดเข้ามาถูกปรับโดยอัตโนมัติในท่ออากาศ และเติมความร้อนโดยระบบการแลกเปลี่ยนอากาศร้อนภายในโรงเรือน
ในสัปดาห์แรกของการเลี้ยง ระบบนี้ช่วยลดการใช้พัดลมลงน้อยที่สุด
อากาศร้อนที่เข้ามาในโรงเรือผ่านท่อที่แขวนไว้ระดับต่ำ ๒ ท่อ การระบายอากาศทางเพดานโรงเรือน
ผู้เลี้ยงสามารถระบายอากาศที่มีความดันเท่าๆกัน แต่ได้รับอากาศปริมาณมากเข้ามา
เพื่อลดอิทธิพลของอากาศแห้งผ่านลิ้นปล่อยอากาศออกไป ลูกไก่จะได้รับอากาศที่สบาย
และเหมาะสมกับสุขภาพมากกว่า เหมาะสำหรับการเลี้ยงลูกไก่ที่มีความหนาแน่นต่ำลง
เอกสารอ้างอิง
Poelsma B. 2018. ‘Better Life’ standard a healthy
choice. [Internet]. [Cited 2018 Oct 10]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2018/10/Better-Life-standard-a-healthy-choice-344391E/?cmpid=NLC|worldpoultry|2018-10-10|?Better_Life?_standard_a_healthy_choice
ภาพที่ ๑ โรงเรือนเลี้ยงไก่แบบใหม่สำหรับมาตรฐาน เบทเทอร์
ไลฟ์ ด้านหน้าโรงเรือนที่อากาศผ่านเข้าสู่โรงเรือนถูกทำเป็นกรอบด้วยไม้อย่างสวยงาม
(แหล่งภาพ:
Broiler farmers Tienus and Alie Berkepies)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น