เด็กหญิงกัมพูชาวัย ๑๑
ขวบเสียชีวิตจากไข้หวัดนก และบิดาก็ผลบวก เชื่อว่า โรคไข้หวัดนกไม่น่าจะกลายพันธุ์
และระบาดในมนุษย์
ช่วงปลายปี
พ.ศ.๒๕๖๔ โลกต้องสัมผัสประสบการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เลวร้ายที่สุดทั่วโลก
สัตว์ปีกหลายสิบล้านตัวถูกทำลาย และนกป่าจำนวนมากตาย
และยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดโรคไข้หวัดนกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปลาโลมา หมี
แมว สุนัขจิ้งจอก และนาก ทำให้โลกต้องวิตกว่า โรคไข้หวัดนกกำลังแพร่กระจายเข้าสู่มนุษย์แล้ว
การเสียชีวิตของเด็กหญิงชาวกัมพูชาจากหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดไพรแวง
เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ไม่นานหลังผลการตรวจเป็นบวกต่อโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑
และเวลาต่อมา บิดาก็มีผลการตรวจเป็นบวกเช่นกัน ทำให้ต้องเตือนภัยทางสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา สอบสวนโรคทั้งบิดา
และบุตรสาวติดเชื้อจากสัตว์ปีกในหมู่บ้าน โดยไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า
เกิดการติดต่อจากบิดาสู่บุตรสาว
ทั้งนี้ข้อสรุปได้รับการสนับสนุนจากทั้งองค์การอนามัยโรค
และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ
อีริก
คาร์ลส์สัน สถาบันพาสเตอร์ในกัมพูชา
เป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้ตรวจสอบตัวอย่างส่งตรวจเช้อไวรัสจากเด็กหญิง
โดยบทสัมภาษณ์เผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ เนเจอร์ แปลกใจว่า
เด็กคนนี้เป็นรายแรกในประเทศที่ตรวจพบเอช ๕ เอ็น ๑ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๗
หรือในรอบเก้าปีมาแล้ว โดยอาจเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงโลกในการผลิตด้านเกษตรกรรม
เนื่องจาก การระบาดของโรคโควิด ซึ่งอาจทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย
แบบจำลองสถานการณ์
หลายประเทศแบ่งปันประสบการณ์ในการวางแผนต่อสู้กับโรคไข้หวัดนก
รวมถึง การสร้างแบบจำลองสถานการณ์ที่เชื้อไวรัสสามารถกลายพันธุ์ และก่อให้เกิดการระบาดในพลเมือง
สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพสหราชอาณาจักร หรือยูเคเอชเอสเอ ไม่นิ่งนอนใจ
เตรียมรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แม้ว่า หลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า เอช
๕ เอ็น ๑ ทั้งหมดไม่สามารถแพร่ระบาดในมนุษย์ได้ง่ายๆ แต่เชื้อไวรัสเกิดวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
จึงจำเป็นต้องระแวดระวังความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดในมนุษย์
และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรทางวิชาการ
แบบจำลองสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจากการระบาดคนสู่คน
กำลังเตรียมออกแบบเพื่อประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้ป่วยที่แสดงอาการรุนแรง
วิธีการทดสอบว่า ชุดทดสอบแบบรวดเร็วที่เรียกว่า แลทเทอรอลโฟลว์
และการตรวจเลือดอย่างไหนจะได้ผลดีกว่ากัน
และการกลายพันธุ์อย่างไรจึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า
ความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์เพิ่มขึ้นแล้ว
วัคซีนในมนุษย์
ขณะนี้ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะใช้วัคซีนในสัตว์ปีกดีหรือไม่
สำหรับในมนุษย์มีเชื้อไวรัส ๒ สายพันธุ์ที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเอช ๕
เอ็น ๑ ที่โรงงานผลิตวัคซีนสามารถใช้พัฒนาวัคซีนได้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า
บริษัท ๓ แห่ง ทั้งจีเอสเค ซีเอสแอล-ซีคัยรัส และโมเดอร์นา
กำลังพัฒนาวัคซีนที่ตรงกับซีโรไทป์ที่ระบาด และใกล้ระยะทดลองในมนุษย์แล้ว
ศาสตราจารย์ เซอร์
แอนดรูว์ โพลลาร์ด ซึ่งเป็นทีมวิจัยในการพัฒนาวัคซีนโควิดชนิดอ๊อกฟอร์ด
แอสตราเซเนก้า มีความเห็นว่า
โรคไข้หวัดนกมีโอกาสระบาดในมนุษย์ที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค
ประชากรมนุษย์ในเวลานี้ ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเอช ๕ เอ็น ๑ เนื่องจาก ไม่เคยระบาดในมนุษย์มาก่อนเลย
จึงไม่มีภูมิคุ้มกันสำหรับป้องกันโรคได้เลย ดังนั้น
จึงถือว่าเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดการระบาดทั่วไปได้ ดังนั้น
จึงมีความสำคัญที่จะต้องเฝ้าระวังโรคนี้อย่างใกล้ชิด
เซอร์ เจเรมี ฟาร์ราร์
นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก มีความเห็นที่สอดคล้องกัน การระบาดของเอช ๕
เอ็น ๑ ในสัตว์ปีกเวลานี้ เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอย่างมาก ในประวัติศาสตร์
เคยทำให้คนเสียชีวิตในอัตราสูงถึงร้อยละ ๓๐ เราไม่ต้องการเห็นภาพเช่นนี้กลับมาอีก
แต่หากปล่อยให้เชื้อไวรัสจากสัตว์ปีกหมุนเวียนอยู่เรื่อยๆแล้วขยายวงไปยังมิ้งค์
หรือแมวน้ำ ก้าวข้ามสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จนเกิดการกลายพันธุ์
ก็จะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่สามารถคำนวณเป็นตัวเลขได้
ถ้ายังไม่มีวัคซีนเอช ๕ เอ็น ๑ ก็ควรเดินหน้าต่อไปได้แล้ว
คำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
องค์การอนามัยโลกเห็นว่า
เมื่อไรก็ตามที่เชื้อไวรัสหมุนเวียนต่อไปในสัตว์ปีก
ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้เป็นครั้งคราว
และกลุ่มผู้ติดเชื้อเล็กๆเท่านั้นที่สัมผัสกับสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ
หรือสิ่งปนเปื้อนตามสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงที่เกิดการติดต่อสู่คนยกระดับขึ้น
เนื่องจาก การแพร่กระจายของเชื้อวรัสในสัตว์ปีกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ความเสี่ยงต่อการระบาดอย่างกว้างขวางจากเอช ๕
ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ประเทศสมาชิกยังคงระแวดระวังต่อไป
และพิจารณาวางแผนขั้นตอนลดโอกาสที่มนุษย์จะได้รับเชื้อจากสัตว์ป่วย
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดต่อสู่มนุษย์เพิ่มเติม เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ยืนยันความเสี่ยงที่เอช ๕
ติดคนยังคงอยู่ในความสำคัญ
และการติดต่อจากสัตว์ปีกสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคติดเชื้อ
มหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศคานาดา เชื่อว่า
กุญแจสำคัญที่ช่วยหยุดเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายคือ
การป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสมีโอกาสกลายพันธุ์ ผู้ที่พบสัตว์ปีกหรือสัตว์ป่าตาย
ความเสี่ยงเกิดจากการไปสัมผัสสัตว์เหล่านี้ ดังนั้น
ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสก็จะเป็นการดีที่สุด
การรับมือของอุตสาหกรรมสัตว์ปีก
องค์กรสุขภาพสัตว์โลก
หรือโวอ้า
แนะนำให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกสร้างความร่วมมือเป็นเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด
เพื่อประเมินความเสี่ยงทั้งสัตว์และมนุษย์ ในฤดูใบไม้ผลินี้ ประเทศสมาชิกควรมีมาตรการ
ดังนี้
· เฝ้าระวังโรคทั้งในสัตว์ปีกในฟาร์ม
และสัตว์ปีกป่า
· ป้องกันโรคโดยใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเข้มงวดในฟาร์ม
โดยเฉพาะ รอบฟาร์มมิ้งค์ เพื่อป้องกันไม่ให้นำเชื้อไวรัสเข้าฟาร์ม
· ควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงที่มีความไวรับต่อโรค
และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค
· ป้องกันไม่ให้มนุษย์สัมผัส
หรือจับสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ป่าป่วย หากจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะ
ขณะที่กำลังสอบสวนการตาย หรือการระบาดของโรค
· ตรวจติดตามสัตว์เลี้ยง
และสัตว์ป่าที่ไวรับต่อโรค สอบสวนโรคทุกครั้งที่สัตว์ตายเพิ่มขึ้นผิดปรกติ
· รายงานโรคไข้หวัดนกต่อองค์กรสุขภาพสัตว์โลกผ่านระบบวาฮิส
ตามมาตรฐานการจัดการระหว่างประเทศ การรายงานให้ทันเหตุการณ์และโปร่งใสเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์ของโรค
และป้องกันไม่ให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด
· แบ่งปันลำดับสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในฐานข้อมูลต่อสาธารณะ
องค์กรสุขภาพสัตว์โลก
พร้อมสนับสนุนประเทศสมาชิกที่จะลดความเสี่ยงจากผลกระทบของโรคไข้หวัดนก
และกระชับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างพันธมิตรสุขภาพหนึ่งเดียว
และเครือข่ายพรมแดนโรคสัตว์ทั่วโลก ให้ข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์ตลอดเวลา
กฏระเบียบ
การระบาดของโรคโควิด
ส่งผลให้การทำฟาร์มสัตว์ปีกหลังบ้านจำนวนเพิ่มขึ้นจนน่าวิตก
รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลัง
พยายามผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสัตว์ปีกสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์เชิงพาณิชย์มากขึ้น
ให้ครอบคลุมรายย่อยที่มีสัตว์ปีกไว้ในครอบครัว
ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมโรคไข้หวัดนก ปัจจุบันนี้ ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปีกมากกว่า
๕๐ ตัวเท่านั้นที่กำหนดไว้ตามกฏหมายที่จะต้องขึ้นทะเบียนไว้
และต้องแจ้งข้อมูลปัจจุบันเป็นประจำทุกปี
การขึ้นทะเบียนสัตว์ปีกกับสำนักสุขภาพพืชและสัตว์ (เอพีเอชเอ)
เกษตรกรจะได้รับข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการระบาดของโรคในพื้นที่ต่างๆ
และกฏระเบียบด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ เพื่อช่วยป้องกันสัตว์ของตัวเองจากโรคไข้หวัดนก
การให้วัคซีนสัตว์ปีก
ปัจจุบัน
ผู้ผลิตสัตว์ปีกรายใหญ่ที่สุดในโลกส่วนใหญ่ไม่ใช้วัคซีน เนื่องจาก
กลัวว่าการฉีดวัคซีนจะเป็นอุปสรรคทางการค้า และบดบังการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
บางรายเชื่อว่า การเลือกใช้นโยบายการให้วัคซีนเท่ากับยอมรับว่า
โรคนี้เป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว หรืออาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ดังนั้น
การทำลายสัตว์ปีกจึงยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่า
การให้วัคซีนไข้หวัดนกได้ถูกยกเป็นประเด็นเรียกร้องทั่วโลกแล้ว
ฝรั่งเศสเริ่มให้วัคซีนในฟาร์มตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะนี้ เอกวาดอร์วางแผนให้วัคซีนอย่างน้อย
๒ เดือน ทางการในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนให้วัคซีนไข้หวัดนก
และสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในการกำหนดกลยุทธ์การให้วัคซีน โดยต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง
และความปลอดภัยทางชีวภาพ
ผู้อำนวยการด้านสุขภาพสำหรับสัตว์เห็นว่า
ประเทศส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการทำลายสัตว์ป่วย แต่เวลานี้สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไป
กลยุทธ์นี้อาจใช้ได้ดีในอดีต แต่อาจใช้ไม่ได้อีกแล้ว หากพิจารณาจากความรุนแรงของการระบาด
และทางเลือกอื่นๆนอกเหนือจากการทำลายสัตว์ป่วย
หรือเก็บสัตว์ไว้ภายในโรงเรือนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคก็มีแต่การให้วัคซีน
ประเทศใหญ่ๆที่กำลังเสียหายจากโรคไข้หวัดนก
กำลังเปลี่ยนใจอย่างเงียบๆไปแล้วในเวลานี้
ประเทศอื่นๆในตะวันออกไกลได้ให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกแล้ว
โดยประสบความสำเร็จแตกต่างกันไป อินโดนีเซียถูกโจมตีว่า การใช้วัคซีนไม่มีเป้าหมาย
แต่ใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นเอง ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในประเทศ
นับตั้งแต่นั้น จำนวนสัตว์ป่วยลดลง และจำนวนผู้ติดเชื้อก็ต่ำลงอีกด้วย
จีนให้วัคซีนไข้หวัดนกมาเกือบ ๒๐
ปีแล้ว อ้างว่าช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ จากการให้วัคซีนเชื้อตายเอช ๗ เอ็น ๙ ช่วยให้การระบาดลดลงมากกว่าร้อยละ
๙๐ และลดจำนวนผู้ติดเชื้ออีกด้วย บ่งชี้ว่า
การให้วัคซีนสัตว์ปีกเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพต่อการลดการติดเชื้อในมนุษย์
สุดท้ายแล้ว
วัคซีนช่วยควบคุมเชื้อไวรัส และลดปริมาณเชื้อไวรัสลงได้
แต่ไม่สามารถหยุดการระบาดได้ ความปลอดภัยทางชีวภาพยังเป็นทางเดียวในการป้องกันโรค
เอกสารอ้างอิง
Mcdougal T. 2023. Avian
influenza: Health officials are preparing for the worst.
[Internet]. [Cited 2023 Apr 20]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/health-officials-are-preparing-for-the-worst/
ภาพที่
๑
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ประเทศสมาชิกรักษาความเข้มงวดลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ
(แหล่งภาพ ANP)