วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568

ส่งออกไก่บราซิลยังสูงเกินความคาดหมาย

 การส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของบราซิล (ไก่ ไข่ และวัสดุพันธุกรรม) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้นำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของไข่จากบราซิลในเดือนมีนาคม

ผลลัพธ์นี้ได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนกในภูมิภาคที่เป็นผู้ผลิตหลัก และความไม่แน่นอนทางการค้าอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากนโยบายภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้น ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม การส่งออกไก่ของบราซิลมีปริมาณ ๑.๓๘๗ ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๗ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ.๒๕๖๗ รวมรายได้ในไตรมาสเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐.๘ เป็น ๘.๖ หมื่นล้านบาทในเดือนมีนาคม การส่งออกอยู่ที่ ๔๗๖,๐๐๐ ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๘ เมื่อเทียบเป็นรายปี) โดยมีรายได้ ๒.๙ หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘.๕) การระบาดของโรคไข้หวัดนกทั่วโลกได้เพิ่มความต้องการซัพพลายเออร์ จากบราซิลที่มีคุณสมบัติครบเครื่องทั้งปริมาณและคุณภาพ จีนยังคงเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ แต่ก็ยังเห็นความต้องการที่สม่ำเสมอจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตลาดอื่น ๆ

ไข่ไก่ส่งออกสู่สหรัฐอเมริกา การส่งออกไข่มีปริมาณ ๘.๖๕๔ ตันในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙๗.๒ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๑๖.๑ เป็น ๕๙๒ ล้านบาท ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว การจัดส่งสูงถึง ๓,๗๗๐ ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๔๒.๒ สร้างรายได้ ๒๘๘ ล้านดอลลาร์บาทคิดเป็นร้อยละ ๓๘๓ เมื่อเทียบเป็นรายปี เดือนนี้ได้เห็นผลกระทบที่ชัดเจนของการที่สหรัฐฯ เปิดตลาดสำหรับไข่แปรรูปจากบราซิล เนื่องจากการส่งออกคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ ๑ ของการผลิตโดยรวม เราจึงสามารถตอบสนองความต้องการภายนอกได้โดยไม่กระทบกับความพร้อมของตลาดภายในประเทศ

การส่งออกไข่เชื้อและลูกไก่

รายได้มากขึ้น ปริมาณน้อยลง ตลอด ๓ เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกไข่เชื้อและลูกไก่ มีรายได้ ๒.๑ พันล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๖ เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้ว่าปริมาณการจัดส่งจะลดลงร้อยละ ๒๗.๘ เป็น ๕,๖๖๘ ตัน ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว รายได้รวม ๗.๔ ร้อยล้านบาทคิดเป็นร้อยละ ๑๘.๔ ในขณะที่ปริมาณลดลงร้อยละ ๓๕.๑ เป็น ๑,๗๗๗ ตัน สังเกตได้ว่า ความสนใจเพิ่มขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านในการซื้อไข่เชื้อและลูกไก่เพื่อเพิ่มการผลิต แนวโน้มนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี พ.ศ.๒๕๖๗ เป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นระดับโลกในไข่เชื้อและลูกไก่ของบราซิล แม้ว่าปริมาณอาจผันแปรในแต่ละเดือน

ผลกระทบจากภาษี นอกจากนี้ ผลกระทบระดับโลกของสงครามภาษีอาจเปิดตลาดใหม่สำหรับการส่งออกของบราซิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยังจีนและเม็กซิโก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกที่สำคัญให้แก่ประเทศเหล่านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาคการผลิตสัตว์ปีกของบราซิลมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในเดือนข้างหน้า เนื่องจากภัยคุกคามจากโรคไข้หวัดนกที่ยังคงมีอยู่ทั่วโลก และความไม่แน่นอนทางการค้าอันเนื่องมาจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ การเปิดตลาดใหม่ เช่น สหรัฐฯ (สำหรับไข่แปรรูป) และเม็กซิโก (สำหรับผลิตภัณฑ์ไก่) ยิ่งเพิ่มความคาดหวังว่าซัพพลายเออร์จากบราซิลจะยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการตอบสนองความต้องการสัตว์ปีกทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เอกสารอ้างอิง

Azevedo D. 2025. Brazil’s exports of poultry products surpass expectations in Q1. [Internet]. [Cited 2025 Apr 23]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/brazils-exports-of-poultry-products-surpass-expectations-in-q1/

ภาพที่ ๑ ในช่วงเดือนมกราคม และมีนาคม การส่งออกไก่บราซิลแตะ ๑.๓๘๗ ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๗ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (แหล่งภาพ Canva)



วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2568

ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกรัสเซียขาดทุนหนัก

 เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกของรัสเซียได้รับความเสียหายในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการขายเนื้อไก่เนื้อและไข่ให้กับร้านค้าปลีกและผู้ค้าส่ง เนื่องจากภาวะอุปทานมากเกินกำลังครอบงำตลาด

ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ราคาขายส่งเฉลี่ยของซากไก่เนื้อในรัสเซียลดลงเล็กน้อยเหลือ ๕๗.๐๘ บาทต่อกิโลกรัมตามข้อมูลของ คุณเซร์เกย์ ลัคตูยคอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของสหพันธ์ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกแห่งชาติรัสเซีย ที่ให้ไว้กับสำนักข่าวท้องถิ่นอะโกรเอ็กซ์เพิร์ต โดยเฉลี่ยแล้ว เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกขาดทุน ๘.๑๒ บาทต่อกิโลกรัมในการขายเนื้อไก่เนื้อโดยตรงให้กับร้านค้าปลีก และขาดทุน ๑๖.๒๔ บาทต่อกิโลกรัมภายใต้สัญญากับผู้ค้าส่ง

ตลาดเนื้อไก่บดตกต่ำอย่างรุนแรง

ในส่วนของเนื้อไก่บด สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่า โดยราคาเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง ๑๐
๑๕ บาทต่อกิโลกรัม และในบางภูมิภาคลดลงถึง ๘.๑๒ บาทต่อกิโลกรัมเทียบกับปีที่แล้วที่ราคาอยู่ที่ประมาณ ๓๒.๔๗ บาทต่อกิโลกรัม “เกษตรกรบางรายระบุว่าการฝังเนื้อไก่บดทิ้งยังง่ายกว่าการเก็บรักษาและขาย” โดยผู้ผลิตไข่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ความสามารถในการทำกำไรโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรมไข่ก็อยู่ในเขตสีแดงเช่นกัน ขณะนี้ ราคาขายส่งไข่ในตลาดอยู่ที่ประมาณ ๑๐.๑๕ บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงถึง ๒๖.๓๘ บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของฟาร์ม ตามข้อมูลของปรึกษาผู้อำนวยการทั่วไปของฟาร์มสัตว์ปีก

ข้อจำกัดการส่งออกกำลังถูกพิจารณา

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกหวังพึ่งฤดูบาร์บีคิวที่จะเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งความต้องการเนื้อสัตว์ปีกและไข่มักจะเพิ่มขึ้นตามปกติ ในบริบทนี้ รองประธานสภาดูมา (สภาล่างของรัฐสภารัสเซีย) ได้ยื่นคำร้องไปยังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเสนอห้ามส่งออกเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงเนื้อไก่ชั่วคราว และคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยรักษาราคาให้ต่ำในช่วงความต้องการสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารในอุตสาหกรรมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการห้ามส่งออกในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับภาวะขาดทุน “ในทางตรงกันข้าม วงการอุตสาหกรรมกำลังคิดหาวิธีกระตุ้นการส่งออกเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาและลดความเสียหายของเกษตรกร” ผู้อำนวยการบริหารของสหพันธ์เนื้อสัตว์แห่งชาติรัสเซียกล่าว ผู้ประกอบการในตลาดเชื่อว่าหากมีการบังคับใช้ข้อจำกัดการส่งออก อาจทำให้วิกฤตในอุตสาหกรรมรุนแรงขึ้นได้

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในรัสเซียประสบปัญหาขาดทุนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการจำหน่ายเนื้อไก่และไข่แก่ผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งในตลาดที่มีอุปทานส่วนเกินอยู่ในระดับสูง ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ราคาขายส่งเฉลี่ยของซากไก่ในรัสเซียปรับลดลงเหลือ ๕๘.๒๒ บาทต่อกิโลกรัม เซอร์เกย์ ลักห์ตูคอฟ ผู้อำนวยการทั่วไปของสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ปีกแห่งชาติรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าว โดยเฉลี่ยแล้ว ชาวไร่สัตว์ปีกขาดทุน ๘.๒๒ บาทต่อกิโลกรัม เมื่อขายเนื้อไก่ตรงให้แก่ผู้ค้าปลีก และขาดทุน ๑๖.๔๐ บาทต่อกิโลกรัม เมื่อขายภายใต้สัญญากับผู้ค้าส่ง

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. Russian poultry industry’s profitability dives into red. [Internet]. [Cited 2025 Mar 16]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/russian-poultry-industrys-profitability-dives-into-red/

ภาพที่ ๑ ผลกำไรจากผู้ผลิตไข่ไก่เฉลี่ยก็อยู่ในเรดโซน (แหล่งภาพ Canva)



วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568

อียิปต์เปลี่ยนขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้เป็นอาหารสัตว์

 อียิปต์กำลังมีการหารือเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้กลายเป็นอาหารสัตว์

อียิปต์นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ร้อยละ ๙๐ โดยเฉพาะข้าวโพดและถั่วเหลือง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในตลาดอาหารสัตว์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ดร. โมห์เซ็น ชูกรา ผู้ประสานงานสภาวิจัยทรัพยากรสัตว์แห่งสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี กล่าวในงานอุตสาหกรรมล่าสุดว่า อียิปต์อาจใช้ประโยชน์จากขยะที่มีศักยภาพประมาณ ๖๕ ล้านตันต่อปีเพื่อทดแทนช่องว่างในตลาดอาหารสัตว์ ขยะเหล่านี้ประกอบด้วยขยะเกษตรประมาณ ๕๐ ล้านตัน และขยะจากโรงงานอาหารประมาณ ๑๕ ล้านตัน ซึ่งบางส่วนอาจได้รับการแปรรูปเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ปีก ปศุสัตว์ และปลา

การรีไซเคิลผลไม้และผัก

ผู้แปรรูปในอียิปต์กำลังพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการรีไซเคิลผลไม้และผัก ดร. โมฮาเหม็ด เอล ชาฟี สมาชิกคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมอาหารกล่าวในงานเดียวกัน โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ แผนการรวบรวมผลไม้และผักจากผู้ค้าปลีกเพื่อแปรรูปเป็นอาหารสัตว์อยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจชาติ วิสัยทัศน์ ๒๐๓๐ ของอียิปต์ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตั้งศักยภาพการแปรรูปที่จริงจัง

การขยายการผลิตถั่วเหลืองในอียิปต์

ในช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๖๗ รัฐบาลอียิปต์ได้กำหนดแผนเพื่ออำนวยความสะดวกกระบวนการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ใหม่ ซึ่งอาจเปิดทางให้กับวัตถุดิบอาหารสัตว์ใหม่ ๆ ในตลาด ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๘ เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ท้องถิ่นได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภัยแล้งในบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายใหญ่ของประเทศ

นอกเหนือจากการรีไซเคิลขยะอาหาร หน่วยงานท้องถิ่นยังหวังฟื้นฟูการผลิตถั่วเหลืองเพื่อจัดการกับวิกฤตการขาดแคลน ในอียิปต์ การเพาะปลูกถั่วเหลืองลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา จาก ๓๘๗,๕๐๐ ไร่ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ เหลือเพียง ๘๗,๕๐๐ ไร่ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ อย่างไรก็ตาม ตามการพยากรณ์ของกระทรวงเกษตร พื้นที่ภายใต้การผลิตถั่วเหลืองควรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะถึง ๓,๑๒๕,๐๐๐ ไร่ในไม่กี่ปีข้างหน้า ยังคาดหวังการปรับปรุงผลผลิตเฉลี่ยของถั่วเหลืองในประเทศด้วย

เอกสารอ้างอิง

Vorotnikov V. 2025. Egypt to transform millions of tonnes of agri and food waste into animal feed. [Internet]. [Cited 2025 Apr 15]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/nutrition/egypt-plans-to-recycle-65-million-tonnes-of-food-waste-into-animal-feed/

ภาพที่ ๑ อียิปต์กำลังมีการหารือเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะเกษตรและอาหารหลายล้านตันให้กลายเป็นอาหารสัตว์ (แหล่งภาพ Canvas)



วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568

ดิจตอลแพลตฟอร์มใหม่ป้องกันและควบคุมโรคสัตว์ปีก

 ดิจิตอล แพลตฟอร์มในการพยากรณ์ การป้องกัน และควบคุมโรคสัตว์ปีก ได้ปล่อยแอพลิเคชันเกี่ยวกับการฟื้นฟูฟาร์มสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักรในช่วงที่กำลังเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก

ดิจิตอล แพลตฟอร์มนี้ออกแบบโดยไลฟ์เทค ชื่อว่า ไลฟสต๊อก โพรเทค จะช่วยให้ผู้ผลิตสัตว์ปีกใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงให้ทันต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วขึ้น ช่วยประกอบการตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานปกป้องฝูงสัตว์ และธุรกิจจากโรคร้ายแรง

แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง บริษัทรู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมา ด่านหน้าที่รับมือกับการระบาดของโรคไข้หวัดนก สิ่งท้าทายที่สำคัญกำลังเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถจัดการได้เลย รวมถึง การทำงานที่ยังอาศัยการบันทึกด้วยกระดาษอยู่ การเข้าถึงข้อมูลโรคระบาดได้ช้า ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่ไม่ดีพอ และไม่มีระบบการจัดการแบบเรียลไทม์จากส่วนกลาง

ภาคการผลิตสัตว์ปีกมีความจำเป็นต้องหันมามองหานวัตกรรมเชิงรุกสำหรับการจัดการโรคเชิงรุก ไลฟ์เทคได้สร้างระบบที่ช่วยแจ้งเตือนปัญหาอย่างทันเหตุการณ์โดยใช้ข้อมูลจากทางการ ทดแทนการบันทึกด้วยกระดาษด้วยเครื่องมือดิจิตอล การจัดการแบบอัตโนมัติตามเหตุการณ์สำหรับเร้ดแทร็กเตอร์ เอพีเอชเอ อาร์เอสพีซีเอ เป็นต้น สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ๒๔/๗ ผ่านมือถือและเว็บ เหมาะกับทุกภาคการผลิตทุกขนาดตั้งแต่ฝูงสัตว์ปีกหลังบ้านไปจนถึงฟาร์มขนาดใหญ่ของบริษัท

 

ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพและแผนฉุกเฉิน

              จูเลียน สปาร์รีย์ ผู้อำนวยการด้านวิชาการระบบไลฟ์เทค ชักชวนให้ผู้ผลิตสัตว์ปีกใช้ระบบนี้เป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพสำหรับฟาร์มและธุรกิจสัตว์ปีก ด้วยเครื่องมือนี้ได้ออกแบบขึ้นตามแนวหลักปฏิบัติระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และแผนฉุกเฉินที่ช่วยให้ลูกค้าเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่อโรคระบาด แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพของตนเอง แล้วนำมาปรับวิธีการป้องกันโรค เตรียมรับมือกับโรคระบาด และนำแผนที่มีประสิทธิภาพมาใช้ฟื้นฟูธุรกิจให้กลับสู่ปรกติได้

               แพลตฟอร์มไลฟ์สต๊อก โพรเทค นำเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ออกแบบให้การจัดการระบบความปลอดภัยทางชีวภาพง่ายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ผลิตสัตว์ปีก ลักษณะสำคัญ ได้แก่

·    แผนที่การระบาดโรค โดยแจ้งเตือนพื้นที่ระบาดแบบเรียลไทม์ การเฝ้าระวังนกป่า และข้อมูลการระบาดในอดีต

·    ระบบการประเมินระบบความปลอดภัยทางชีวภาพแบบอีเบส ที่คำนวณคะแนนความเสี่ยง และให้คำแนะนำอย่างเฉพาะเจาะจงกับฟาร์ม

·    แอคเซส โพรเทค ที่สามารถสอบย้อนกลับข้อมูลของแขกที่เข้าฟาร์มได้โดยอาศัยคิวอาร์

·    แชตบอตระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ พอลา ที่อาศัยกูเกิล เจมินี่ สำหรับให้คำแนะนำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพด้วยพื้นฐานความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของไลฟ์เทค

·     การคำนวณจำนวนสัตว์ที่ถูกทำลาย และสัตว์ที่ยังเลี้ยงอยู่เป็นแดชบอร์ด เพื่อสนับสนุนการรับมือกับแผนฉุกเฉิน

·    แผนการระบาดระดับชาติและเครื่องมือการรับมือฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานได้เตรียมรับมือกับโรคได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ถือเป็นผลความสำเร็จของปีนี้ด้านความรู้ ประสบการณ์ระดับแนวหน้า และความต้องการที่จะพิสูจน์การผลิตสัตว์ปีกในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ และนวัตกรรมที่อาศัยระบบดิจิตอล การทำงานร่วมกับสภาสัตว์ปีกสหราชอาณาจักรมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ๑,๗๔๗ แห่งจาก ๓,๙๖๕ แห่งที่ลงนามเข้าใช้ระบบนี้ด้วย รวมถึงฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อ ๒,๒๖๕ แห่ง และฟาร์มไก่ไข่ ๑,๗๐๐ แห่ง

 ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ออกแพคเกจ ๓ แบบเพื่อให้เหมาะกับความต้องการธุรกิจ รวมถึง แอพลิเคชันฟรีที่เปิดโอกาสทดลองให้เข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างได้ ขณะที่ยังมีแบบพรีเมียม และเอนเทอร์ไพรซ์ที่มีฟังก์ชันให้ใช้เพิ่มขึ้น สามารถเข้าถึงฟังก์ชันชนิดอีเบสที่เป็นระบบประเมินความปลอดภัยทางชีวภาพ ที่ให้เป็นคะแนนความเสี่ยงหนักเบาตามความสำคัญ และยังให้คำแนะนำที่จำเพาะสำหรับแต่ละฟาร์ม และยังมีฟังก์ชันชนิด แอคเซส โพรเท็กท์ ที่ช่วยให้สอบย้อนกลับข้อมูลแขกที่เข้าฟาร์มได้ สำหรับผู้ใช้แบบเอนเทอร์ไพรซ์ ยังรวมเอาเครื่องมือรับมือฉุกเฉิน เช่น การคำนวณจำนวนสัตว์ที่ต้องทำลาย และแดชบอร์ดการจัดการ สามารถเข้าถึงแผนรับมือการระบาดของโรคระดับชาติได้ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังสามารถซื้อเพิ่มเติมแบบเสริมสำหรับแพ็กเกจฟรีและพรีเมียมได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตมีความยืดหยุ่นในการสร้างแพ็กเกจที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการทางธุรกิจและระดับความเสี่ยงของตนเอง” สปาร์เรย์กล่าวเสริม

ไลฟ์สต๊อก โพรเทค ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการขยายการใช้งาน และขณะนี้ถูกใช้งานโดยผู้ผลิตและผู้ประกอบการขนาดใหญ่แล้ว ทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์ม iOS, Android และเว็บไซต์ แม้ในช่วงแรกเราจะมุ่งเน้นที่ภาคอุตสาหกรรมสัตว์ปีก แต่กำลังขยายความสามารถของแพลตฟอร์มนี้ไปยังภาคปศุสัตว์อื่น ๆ เช่น สุกร เพื่อความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมในวงกว้าง                               

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. Digital platform to predict, protect and respond to poultry disease threats. [Internet]. [Cited 2025 Apr 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/digital-platform-to-predict-protect-and-respond-to-poultry-disease-threats/

ภาพที่ ๑ ไลฟ์สต๊อก โพรเทค สร้างดิจิตอล แพลตฟอร์มขึ้นโดยคำนึงถึงความสามารถในการขยายตัว และได้ถูกใช้งานโดยผู้ประกอบการและผู้ผลิตในวงการขนาดใหญ่แล้ว และสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์ม iOS, Android และเว็บ (แหล่งภาพ supplied)



วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2568

ไข่ไก่ขาดตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ

 ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาที่สูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเยอรมันยังสำรองไว้ การผลิตสัตว์ปีกในตลาดโลกมีอย่างจำกัด เนื่องจาก การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ และนิวคาสเซิลในยุโรปตะวันออก รัสเซีย ยุโรป และเอเชีย  

ผลกระทบของการระบาดโรคไข้หวัดนกที่ชัดเจนที่สุดเกิดขึ้นในสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นมา การระบาดเกิดขึ้นแล้วมากกว่า ๑,๖๐๐ ครั้งในฟาร์มของชาวอเมริกัน และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นงานอดิเรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ไอโอวา หลุยเซียนา มิชิแกน มิสซูรี เนวาดา โอเรกอน เท็กซัส วอชิงตัน วิสคอนซิน และไวโอมิง ไก่มากกว่า ๑๖๖ ล้านตัวที่เกิดโรค นอกเหนือจาก โคนมที่ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐฯ

ผลกระทบต่อราคาไข่ไก่

                 การทำลายสัตว์ปีกจำนวนมากส่งผลต่อตลาดไข่ไก่ ราคาไข่ไก่ในสหรัฐฯสูงกว่าในยุโรปอย่างมาก นอกเหนือจากนั้นในปี พ.ศ.๒๕๖๖ ราคาในอเมริกายังต่ำกว่ายุโรป แต่พอถึงปี พ.ศ..๒๕๖๗ ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในสหรัฐฯยังคงมีสัตว์ที่ได้รับผลผลิตไข่ไก่ได้เฉลี่ยร้อยละ ๗๐ คิดเป็น ๑๓,๙๙๒ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัมเปรียบเทียบกับผู้ผลิตในยุโรป ๘,๒๔๘ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม แต่ส่วนต่างพุ่งทะยานขึ้นทำลายสถิติที่สูงอย่างคาดไม่ถึงในปีนี้ โดยราคาเฉลี่ยเป็น ๙,๔๖๗  บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม ไข่ไก่ในยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕ ในช่วง ๑๒ สัปดาห์แรกของปีนี้เทียบกับปีที่แล้ว แต่ไข่ไก่อเมริกันขึ้นมาไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๕๕ เทียบกับปีที่แล้ว ราคาไข่ไก่เฉลี่ยในไตรมาสแรกของปีนี้เป็น ๓๖,๖๓๕ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม และราคาสูงที่สุดเกือบ ๔๕,๗๑๔ บาทต่อ ๑๐๐ กิโลกรัม มากกว่า ๔.๕ เท่าของไข่ไก่ยุโรป

               ตอนนี้ ไข่ไก่ในสหรัฐฯ ตกลงแล้วหลังจากการแทรกแซงราคาของรัฐบาล เพื่อให้ราคาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคสามารถยอมรับได้ ขณะเดียวกันก็พยายามนำเข้าเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตไข่ไก่ดัทช์พยายามหาทางส่งให้สหรัฐฯ ผลลัพธ์ยังไม่ชัดจน แต่หากเกิดขึ้นแล้วก็จะสร้างความต้องการพิเศษขึ้นในยุโรปอีก       

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors. 2025. Market analysis: egg shortages and prices in Europe and the US. [Internet]. [Cited 2025 Apr 16]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/layers/market-analysis-egg-shortages-and-prices-in-europe-and-the-us/

ภาพที่ ๑ ราคาไข่ไก่ในสหรัฐฯสูงกว่ายุโรปมาก (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

ต้นทุนอาหารต่ำ ความต้องการเพิ่ม กระตุ้นการเติบโตไก่เนื้อปีที่แล้ว

 การเติบโตของแหล่งวัตถุดิบโปรตีนอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความหวังต่อความแข็งแกร่งต่อไปในปี พ.ศ.๒๕๖๘ 

ผลิตภัณฑ์ไก่มีผลประกอบการที่น่าประทับใจทั้งร้านค้าปลีกและภาคบริการอาหารในปี พ.ศ.๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ขณะที่ ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองยังคงต่ำ เป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับอุตสาหกรรมไก่เนื้อสหรัฐฯ 

               การสำรวจของบริษัทผู้ผลิตไก่เนื้อโดยสื่อ WATT Global Media ประจำปี แสดงให้เห็นว่า บริษัทชั้นนำด้านการผลิตไก่เนื้อผลิตไก่พร้อมปรุง (ready-to-cook, RTC) ได้ ๒๖ ล้านตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ สูงกว่าปี พ.ศ.๒๕๖๖ คิดเป็นร้อยละ ๐.๖๘

               เกือบครึ่งหนึ่งของ ๓๒ บริษัทที่อยู่ในบริษัทชั้นนำด้านการผลิตไก่เนื้อเพิ่มการผลิตอาร์ทีซีในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๖ ถึง ๒๕๖๗ โดย ๑๔ บริษัทเพิ่มการผลิต มีเพียง ๓ บริษัทที่ลดการผลิตลงเท่านั้น ที่เหลือไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าปีที่แล้วเป็นปีทองสำหรับบริษัทผู้ผลิตไก่เนื้อสหรัฐฯเลยทีเดียว โดยผู้ประกอบการได้ประโยชน์จากทั้งการลดลงของต้นทุนอาหารสัตว์ แม้ว่าต้นทุนอย่างอื่นอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง และมูลค่าผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ฟื้นตัวทั้งปีกและน่องไม่ว่าจะมีกระดูกหรือไม่มีก็ตาม ทำให้ผลประกอบการเป็นที่น่าประทับใจมาก    

               ปีกและน่องไก่เป็นเสาหลักของภาคร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ปีกไก่เป็นอาหารที่ผู้บริโภคนิยมมาก และมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการกีฬา โดยเฉพาะ ซูเปอร์โบวล์ ความนิยมน่องไก่เติบโตขึ้นเร็วๆนี้ โดยเฉพาะ ราคาที่ทะยานสูงขึ้น

 ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง

               หากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ถูกต้อง ผู้ผลิตสัตว์ปีกจะได้กำไรจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงอย่างน้อยในช่วง ๖ เดือนแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงโดยภาพรวมในปีที่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ตระหนักจนถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยว เมื่อราคาข้าวโพดมีราคาที่คงตัว และผลิตภัณฑ์สุดท้ายกลับตกลง ขณะที่ ตลาดกดดันตามฤดูกาล และมีการขยายตัวของอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคมนี้ รายงานการคาดหมายความต้องการและการผลิตสินค้าเกษตรกรรมโลก (World Agricultural Supply and Demand Estimates, WASDE) ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดหมายว่า ราคาข้าวโพดสำหรับรุ่นปี ๒๕๖๗ ถึง ๒๕๖๘ จะเป็น ๑๖๒.๕ เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ลดลงร้อยละ ๗ จากรุ่นปี พ.ศ.๒๕๖๖ ถึง ๒๕๖๗ ในรายงานฉบับเดียวกันนี้ กากถั่วเหลืองจะลดลงอีกร้อยละ ๑๙ หากราคาลดลง ต้นทุนเฉลี่ยของอาหารไก่เนื้อน่าจะอยู่ราว ๒๗ เหรียญสหรัฐฯต่อตันในช่วงหกเกือนแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงไก่เนื้อราว ๒ เซ็นต์ต่อปอนด์ และไก่งวงยิ่งมากไปกว่านี้

มองไปข้างหน้าปีนี้

               ยากสักหน่อยที่ปีนี้จะดีไปกว่าปีที่แล้วสำหรับการผลิตไก่เนื้อ แต่ไม่คิดว่าจะแย่เลยทีเดียว ตลาดอาหารสัตว์เริ่มสูงขึ้นอีกครั้งจากระดับราคาที่ถูกจนดูเหมือนจะไม่ยั่งยืน แต่การผลิตภายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ไม่เพียงภาคไก่เนื้อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ปีกรวมกัน         

การเปลี่ยนแปลงในการใช้ยาปฏิชีวนะ

               ไทสันฟู้ดส์คืนตำแหน่งอันดับ ๑ จากการสำรวจผู้ผลิตไก่เนื้อชั้นนำ โดยยอดผลิตอาร์ทีซีราว ๑ แสนตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ การเพิ่มขึ้นของอาร์ทีซีเป็นผลมาจากบริษัทเปลี่ยนนโยบายการใช้ยาปฏิชีวนะจากเอ็นเออีที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเลย เป็นเอ็นเอไอเอชเอ็ม ที่ไม่ใช้ยาที่มีความสำคัญทางการแพทย์ และนำยากันบิดกลับมาใช้อีกครั้งตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.๒๕๖๖ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เคิร์ต คาลาเวย์ ขึ้นดำรงตำแหน่งซีเอฟโอของไทสันฟู้ดส์ เดือนเดียวกันนั้น เดวิน โคล ให้เอมี ทู ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทไทสัน อินเตอร์เนชันแนล ก่อนหน้านี้ โคล ทำงานให้บริษัทตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ถึง ๒๕๕๗ ในเดือนพฤศจิกายน ไคล์ แนร์รอน ขึ้นมาในตำแหน่งประธานบริษัทไทสันพรีแพร์ฟู้ดส์ ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ ไทสันฟู้สด์พยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงในคอมเพล็กซ์ด้านสัตว์ปีก ตัดสินใจปิดคอมเพล็กซ์ในเมืองโคไรดอน รัฐอินเดียนา และขายทิ้งในเมืองเวียนนา รัฐจอร์เจียให้กับเฮาส์เรฟอร์ด ตอนนี้ข้อตกลงยังไม่บรรลุผล ขณะเดียวกัน ไทสันเฟรชมีทวางแผนปิดโรงงานในเอ็มโพเรีย รัฐคันซอในปี พ.ศ. ๒๕๖๙ นี้ โรงงานฯต่างๆจะรวมเข้าด้วยกันในแต่ละรัฐ ปลายปีที่แล้ว ไทสันประกาศปิดโรงงานอีกสองแห่งที่ร่วมกับธุรกิจของฟิลลี่ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟิลาเดเฟีย รัฐเพนน์ซิลวาเนีย ในปีนี้      

สิบอันดับผู้นำด้านการผลิตไก่เนื้อ

               พิลกริมส์ไพรด์ อยู่ในอันดับที่สอง ยอดผลิตอาร์ทีซี ๗.๓ หมื่นตันต่อสัปดาห์ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ เวย์แซนเดอร์สันรั้งอันดับที่สาม ยอดผลิต ๖.๗ หมื่นตันต่อสัปดาห์ เมาท์แทร์ฟาร์มอยู่ในอันดับที่สี่ ยอดผลิต ๓ ล้านตันต่อสัปดาห์ จ่อติดกันมาด้วยเพอร์ดูฟาร์ม ยอดผลิต ๒.๙ ล้านตันต่อสัปดาห์ และอันดับที่หก คอคฟู้ดส์ ยอดผลิต ๒๘.๑ ล้านตันต่อสัปดาห์

               ในไตรมาสที่ ๓ ของปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้ ประธานบริษัทและซีอีโอของเมาท์แทร์ ฟิลลิป พลายเลอร์ ประกาศเกษียณอายุการทำงาน ผู้ที่จะขึ้นมาแทนจะเป็นอะแมนดา เออร์วิน ก่อนหน้านี้เป็นซีโอโอ

               เช่นเดียวกันกับ เควิน แมคอาดัมส์ ก็จะขึ้นมาแทนแรนดี้ เดย์ เป็นซีอีโอของเพอร์ดูฟู้ดส์ในเดือนกรกฏาคม ก่อนหน้านี้ แมคอาดัมส์ มีบทบาทนำที่บริษัทแจคลิงก์ ชวานส์คอนซูเมอร์แบรนด์ และพาสต์บรูวิ่ง โดยเดย์จะยังเป็นที่ปรึกษาให้กับเพอร์ดูไปจนตลอดปี พ.ศ.๒๕๖๗ เดือนเดียวกันนี้เอง เพอร์ดูฟู้ดส์ได้จ้างเกร็ก เอ็คเคอร์ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายซัพพลายเชนและการปฏิบัติการ ก่อนหน้านี้เอ็คเคอร์ทำงานกับซีเจชวานส์ และไทสันฟู้ดส์ เมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๖ บริษัทได้ขึ้นตำแหน่งให้กับจูลี แคทิแกรเป็นรองประธานบริษัทและเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖ คอคฟู้ดส์ได้ขยายธุรกิจในเมืองมอร์ตัน รัฐมิสซิสซิปปี โคงการนี้เป็นการเพิ่มกำลังการผลิตและการกระจายสินค้าในเมืองมอร์ตัน เพิ่มการลงทุนกว่า ๔.๘ พันล้านบาท อันดับที่เจ็ดคือ เพโคฟู้ดส์ มียอดผลิตอาร์ทีซี ๑.๖ หมื่นตันต่อสัปดาห์ อันดับที่แปด จอร์เจียฟู้ดส์ ๑.๕ หมื่นตันต่อสัปดาห์ เฮาส์ของเรฟอร์ดอิ้งค์ รั้งอันดับที่เก้าใกล้เคียงกันมาก สุดท้ายเป็นเอมิคฟาร์ม ๑.๒ หมื่นตันต่อสัปดาห์     

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2025. Low feed costs, high demand boost broiler growth in 2024. [Internet]. [Cited 2025 Apr 4]. Available from: https://www.wattagnet.com/top-poultry-companies/article/15712740/low-feed-costs-high-demand-boost-broiler-growth-in-2024

ภาพที่ ๑ การเติบโตของแหล่งวัตถุดิบโปรตีนอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความหวังต่อความแข็งแกร่งต่อไปในปี พ.ศ.๒๕๖๘ นี้ (แหล่งภาพ buh123 | BigStock.com)



วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568

FAO วอนเข้มคุมหวัดนก

 การระบาดของโรคไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๑ สร้างความเสียหายให้สัตว์ปีกหลายร้อนล้านตัวทั่วโลก แล้วยังแพร่ไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเข้มงวดระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ การตรวจติดตามและเฝ้าระวังโรค กลไกการตอบสนองต่อโรคอย่างรวดเร็ว และการสื่อสารด้านความเสี่ยงเพื่อสร้างความปลอดภัยต่อภาคการผลิตสัตว์ปีกและปกป้องอาชีพเกษตรกรรมและเศรษฐกิจ

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารสัตว์โลก ก๊อดฟรีย์ แม็กเวนซี่ แสดงความเห็นถึงการแพร่ระบาดของโรคที่กว้างขวางอย่างคาดไม่ถึง ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงทางอาหารในหลายประเทศ รวมถึง การสูญเสียโอกาสทางโภชนาการ งานและรายได้ ช๊อกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างภาระเพิ่มรายจ่ายให้กับผู้บริโภค

สิ่งท้าทายคือจะป้องกันระบบการผลิตสัตว์ปีกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการของประชากรหลายล้านคนที่ต้องพึ่งพาเนื้อสัตว์และไข่ได้อย่างไร สิ่งท้าทายเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ และการค้าขายที่ปลอดภัย และป้องกันผลกระทบทางสังคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก   

ความร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็น

               องค์การอาหารโลกเน้นย้ำถึงปัญหาระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยความร่วมมือของประเทศต่างๆทั่วโลก ตอนนี้องค์การอาหารโลกเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับไวรัสนี้มาเป็นเวลามากกว่า ๒๐ ปี สนับสนุนให้ภาครัฐบาลของประเทศต่างๆตรวจสอบ ป้องกัน และรับมือกับการระบาดของโรค

               เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือให้เกิดความเข้มแข็ง องค์การสุขภาพสัตว์โลก หรือโวอ้า ได้กำหนดกลยุทธ์สิบปีสำหรับการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกทั่วโลก บทบาทขององค์การอาหารโลกในการต่อสู้กับโรคไข้หวัดนกเน้นย้ำความสำคัญของระบบสุขภาพสัตว์และสัตวแพทย์ที่เข้มแข็งในทุกประเทศ โซ่เส้นนี้จะเกิดความแข็งแรงเท่าใดขึ้นกับจุดเชื่อมต่อที่อ่อนแอที่สุด โดยการทำงานร่วมกัน จะช่วยลดผลกระทบของโรคไข้หวัดนกและป้องกันทั้งสุขภาพสัตว์และมนุษย์ทั้งในท้องถิ่นและทั่วโลกได้ ในสี่ปีที่ผ่านมา สังเกตการเปลี่ยนแปลงสำคัญของโรคไข้หวัดนกตามภูมิภาค และแพร่สู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เกิดความเสียหายอย่างมากในการเลี้ยงสัตว์ปีก ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารและราคาสินค้าสัตว์ปีกที่สูงขึ้น  จำนวนสัตว์ปีกป่าที่ตายจากโรค ส่งผลร้ายความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างน้อยนกธรรมชาติ ๓๐๐ ชนิดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นมา

               องค์การอาหารโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆกำหนดมาตรการรับมือโรคไข้หวัดนก เพิ่มการเฝ้าระวังและรายงานโรค เพิ่มประสิทธิภาพห้องปฏิบัติการ พัฒนาและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ สนับสนุนการจัดการความเสี่ยงโดยระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ พิจารณาการให้วัคซีนเพื่อลดความสี่ยง 

               พิจารณาบทบาทของการให้วัคซีนในการบรรเทาความเสี่ยง เสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับการระบาดของโรค ความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยการเฝ้าระวังโรคและรายงานโรค เพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการ พัฒนาและเตรียมแผนให้เกิดความต่อเนื่องทางธุรกิจต่อไปได้ ส่งเสริมการจัดการความเสี่ยงผ่านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

เอกสารอ้างอิง

Brockötter  F. 2025. FAO appeals for stronger action against the spread of H5N1. [Internet]. [Cited 2025 Mar 25]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/changes-proposed-to-poultry-catching-and-handling-in-uk/

ภาพที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคมที่ผ่านมา  ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารสัตว์โลก ก๊อดฟรีย์ แม็กเวนซี่ เรียกร้องให้เข้มมาตรการควบคุมการระบาดเอช ๕ เอ็น ๑ (แหล่งภาพ FAO/Cristiano Minichiello)



วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

UK แก้กฎหมายการจับสัตว์ปีกสำหรับการขนส่ง

 ร่างกฎหมายปรับเปลี่ยนวิธีการจับและควบคุมสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักรสำหรับการขนส่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นการเอาใจผู้เลี้ยงสัตว์ปีก

ดีฟราได้เปิดเผยข้อเสนอให้แก้ไขการจับสัตว์ปีกโดยอนุญาตให้จับแม่ไก่ไข่และไก่เนื้อ ตั้งแต่การยกและการอุ้มในเวลาขึ้นและถ่ายลงจากรถขนส่ง เพื่อให้กฎหมายเกิดความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น ผู้เลี้ยงจะสามารถจับสัตว์ด้วยขาทั้งสองข้างได้ตามหลักเกณฑ์สวัสดิภาพสัตว์

        บทบัญญัติตามดีฟรากำหนดไว้สำหรับสวัสดิภาพสัตว์แม่ไก่ไข่และไก่รุ่น รวมถึง สวัสดิภาพสัตว์ของไก่เนื้อและไก่พันธุ์เนื้อ ทั้งในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ ครอบคลุมการจับขาทั้งสองข้างของไก่พร้อมกันเป็นวิธีที่เหมาะสมและยอมรับได้   

ไม่อนุญาตในสหภาพยุโรป

               ข้อเสนอนี้จะทำให้หลักการของสหราชอาณาจักรขัดแย้งกับสหภาพยุโรป โดยกฏหมายสหภาพยุโรปในปัจจุบันตามกฏระเบียบ ๑/๒๐๐๕ ว่าด้วยการป้องกันสัตว์ระหว่างการขนส่ง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกัน ไม่ได้อนุญาตให้ยกและจับสัตว์ขึ้นรถขนส่งด้วยขาทั้งสองข้างได้  

               ดีฟรากล่าวถึงข้อเสนอให้แก้ไขกฎระเบียบ ๑/๒๐๐๕ เพื่ออนุโลมให้การจับไก่รวบสองขาได้ แต่จะไม่ให้จับขาเดียว ซึ่งเป็นการช่วยให้อุตสาหกรรมไข่ไก่และเนื้อไก่ของสหราชอาณาจักร และบริษัทรับบริการจับไก่ เกิดความชัดเจนต่อข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับใช้กับกิจกรรมการจับสัตว์ปีก และสร้างความเชื่อมั่นว่า ไก่ยังสามารถขนส่งระหว่างโรงเรือน และนำส่งไปยังโรงงานแปรรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันเหตุการณ์ โดยไม่ส่งผลให้มาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ต่ำลง

งานวิจัยในอนาคต

               ภาครัฐบาลยังมองหางานวิจัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบผลลัพธ์ของสวัสดิภาพสัตว์ และพารามิเตอร์ต่างๆด้านโลจิสติกจากการจับไก่ด้วยวิธีต่างๆ รวมถึง การจับไก่โดยการอุ้มและการรวบสองขา เมื่อต้องปฏิบัติในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อการปรับแก้ไขกฏหมาย หรือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไปในระยะยาวได้ โดยการรวบรวมข้อมูลเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาในการจับไก่ด้วยวิธีการต่างๆในระบบโรงเรือนที่แตกต่างกัน    

·      วิธีการจับไก่งวง

·      วิธีการรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการจับ จำนวนคนในทีมจับไก่และสวัสดิภาพสัตว์

เมื่อปีที่แล้ว คณะกรรมการสวัสดิภาพสัตว์ของรัฐบาลได้รายงานข้อเสนอให้จับไก่ด้วยขา จนกระทั่ง มูลนิธิกฎหมายสัตว์ในสหราชอาณาจักรแย้งว่า กฏหมายปัจจุบันและการจับไก่อย่างขาดมนุษยธรรมในสหราชอาณาจักรทำให้ต้องทบทวนความจำเป็นต่อการลำดับความสำคัญของสวัสดิภาพสัตว์ในสังคมอีกครั้ง  

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2025. Changes proposed to poultry catching and handling in the UK. [Internet]. [Cited 2025 Mar 28]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/changes-proposed-to-poultry-catching-and-handling-in-uk/

ภาพที่ ๑ กฎระเบียบยุโรป ๑/๒๐๐๕ ห้ามการยกหรือจับสัตว์ด้วยขา เนื่องจากเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวดหรือบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น คำสั่งห้ามนี้ใช้กับสัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิดรวมถึงสัตว์ปีก ระหว่างการขนส่ง (แหล่งภาพ Ton Kastermans Photography)





Better Chicken Commitment: สิ่งท้าทายสู่สวัสดิภาพไก่ที่ดีขึ้น

งานวิจัยล่าสุดของ Royal Veterinary College ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญซึ่งเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักรในการปรับใช...