ตามรายงานล่าสุดจากราโบรีเซิร์ช แนวโน้มของตลาดสัตว์ปีกทั่วโลกในปี พ.ศ.๒๕๖๘ จะถูกกำหนดโดยปัจจัย ด้านภูมิรัฐศาสตร์และการระบาดของโรคไข้หวัดนก
การค้าสัตว์ปีกทั่วโลก
ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๘
การค้าสัตว์ปีกทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ถือเป็นการเริ่มต้นปีที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม
ความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อแรงขับเคลื่อนนี้
โดยเฉพาะการระบาดของไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
ประกอบกับภาษีศุลกากรที่อาจถูกบังคับใช้ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน อาจเปลี่ยนแปลงทิศทางการค้าระหว่างประเทศ
การระบาดของไข้หวัดนกในบราซิลได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด
โดยประเทศผู้นำเข้าหลักได้สั่งระงับการนำเข้าสัตว์ปีกจากบราซิลประมาณร้อยละ ๔๐ ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด
การปรับประมาณการการผลิต
“แนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาด
เราจึงได้ปรับลดประมาณการการผลิตสัตว์ปีกทั่วโลกในปี พ.ศ.๒๕๖๘
จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ ๒.๕ ถึง ๓ เหลือเพียง ๒ ถึง ๒.๕ และอาจต้องปรับลดลงอีก
หากสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงทวีความรุนแรง” นักวิเคราะห์อาวุโสด้านโปรตีนจากสัตว์แห่งราโบรีเซิร์ช
การระบาดของโรคไข้หวัดนก
โรคไข้หวัดนกยังคงส่งแรงสั่นสะเทือนต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกทั่วโลก
หลังจากเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และบราซิล
โดยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน มีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรปตอนกลาง
โดยเฉพาะในประเทศโปแลนด์ ฮังการี และตอนเหนือของอิตาลี ได้รับผลกระทบอย่างหนัก การระบาดในรัฐรีโอกรันดีโดซูลของบราซิลได้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อการค้าสัตว์ปีกทั่วโลก
เนื่องจากบราซิลเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกสัตว์ปีกรายใหญ่ของโลก ในสหรัฐอเมริกา
อุตสาหกรรมไข่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
โดยราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรกของปี ในยุโรป
การระบาดในฝูงพ่อแม่พันธุ์ส่งผลให้ตลาดไข่ฟัก เดิมก็มีอุปทานจำกัดอยู่แล้ว
ยิ่งตึงตัวมากขึ้น และทำให้การฟื้นฟูฝูงสัตว์ปีกล่าช้าออกไป ราคาสินค้าสัตว์ปีก
ได้แก่ ไก่ เป็ด และไข่ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
โดยโปแลนด์ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการทำลายฝูงพ่อแม่พันธุ์ในวงกว้าง
ภาวะขาดแคลนอุปทานกำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วทั้งยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ
ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในระยะสั้น
ความตึงเครียดทางการค้า
จีน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา
กำลังเผชิญกับแนวโน้มที่ไม่แน่นอนที่สุดในด้านการค้าสัตว์ปีกระดับโลก
โดยภูมิภาคเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงที่สุด
และทิศทางของนโยบายการค้าในอนาคตอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และแตกต่างกันอย่างมากต่ออุตสาหกรรมไก่ในแต่ละประเทศ
“ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีความกังวลเพิ่มเติมว่า การที่สหรัฐฯ
เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าประมง อาจทำให้ปริมาณสินค้าประมงในประเทศเพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อตลาดสัตว์ปีกในท้องถิ่น”
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกำลังเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดโลกอีกระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกัน สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ ที่ยังดำเนินอยู่ อาจพัฒนาไปในสองทิศทาง
ได้แก่ การเกิดความขัดแย้งทางการค้าในระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการเรียกเก็บภาษีในวงกว้างและมาตรการตอบโต้
การลงนามข้อตกลงทวิภาคี ส่งเสริมการส่งออกสัตว์ปีกและการลงทุนจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางใด
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกทั่วโลกก็จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ภูมิรัฐศาสตร์และโรคระบาดเป็นปัจจัยไม่แน่นอนที่สำคัญ
ตลาดไก่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๘ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีแนวโน้มทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกจะยังอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบโดยรวม แต่แนวโน้มในอนาคตยังคงไม่แน่นอน โดยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และทิศทางการระบาดของโรคไข้หวัดนกทั่วโลก บทบาทของภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่มีสัดส่วนประมาณร้อยละ ๒๐ ของการค้าสัตว์ปีกทั่วโลก ถือเป็นภูมิภาคผู้นำเข้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านทวีความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเส้นทางการค้า และสร้างแรงกดดันต่อทั้งตลาดสัตว์ปีกโลกและเศรษฐกิจโดยรวม
เอกสารอ้างอิง
van
Es-Sahota S. 2025. Rabobank: Poultry
markets shaped by geopolitics and avian influenza. [Internet].
[Cited 2025 Jul 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/rabobank-poultry-markets-shaped-by-geopolitics-and-avian-influenza/
ภาพที่ ๑ ตามรายงานล่าสุดเกี่ยวกับตลาดสัตว์ปีกทั่วโลกแนวโน้มของตลาดสัตว์ปีกทั่วโลกจะถูกกำหนดโดยปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และการระบาดของโรคไข้หวัดนก
โดยตลาดสัตว์ปีกจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปในปี พ.ษ.๒๕๖๘ (แหล่งภาพ Canva)