โรคกระดูกอ่อนเป็นปัญหาทางโภชนาการที่ส่งผลต่อความผิดปรกติของกระดูก
มีโอกาสพบได้บ่อยมากในสัตว์ปีกที่เลี้ยงหลังบ้าน และสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ
สัตว์ปีกทุกชนิด โดยเฉพาะ สัตว์ปีกที่เลี้ยงให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
หรือใช้เศษอาหารตามบ้านเลี้ยงสัตว์ปีกหลังบ้าน
ปัญหาโรคกระดูกอ่อนในคานาดา
ความผิดปรกติของกระดูกจากปัญหาโภชนาการในคานาดาพบได้บ่อยในสัตว์ปีกที่ไม่ได้เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป
ยิ่งพบได้บ่อยมากในนกสูงยาวเข่าดีอย่างนกกระจอกเทศ และอีมู
เพราะอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็ว และดุดันเสียเหลือเกิน รวมถึงสูตรอาหารแบบเชน
เชน
สูตรอาหารสำเร็จรูปที่มีการจำหน่ายเชิงพาณิชย์มีความสมดุลของโปรตีน
พลังงาน วิตามิน และเกลือแร่ เป็นอย่างดี โดยคำนวณให้เหมาะสมตามชนิดของสัตว์ อายุ
ตามความต้องการพื้นฐานสำหรับสัตว์ขณะที่มีการเจริญเติบโต และพัฒนาการ
สูตรอาหารแบบบ้านๆ มักให้สัตว์กินเมล็ดธัญพืชเต็มเมล็ด หรือเศษเมล็ดธัญพืช
โดยทั่วไปแล้ว ความสมดุลทางโภชนาการก็มักบกพร่องไปบ้าง โดยเฉพาะ ปริมาณแคลเซียม
และวิตามิน โดยเฉพาะ วิตามิน ดี ๓ หรือวิตามินเอ การเสียสมดุลของสัดส่วนแคลเซียม
และฟอสฟอรัสในอาหารยังมีผลต่อการพัฒนาความผิดปรกติของกระดูก
และระดับฟอสฟอรัสที่สูงในอาหารผิดปรกติ
แม้ว่าจะมีระดับแคลเซียมเป็นปรกติก็ทำให้เกิดโรคกระดูกได้เช่นเดียวกัน
ลักษณะของโรค
กระดูกของสัตว์อายุน้อยเจริญเติบโตรวดเร็วมาก
สัตว์ปีกที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก เช่น ไก่เนื้อ และไก่งวง
ที่เลี้ยงเชิงพาณิชย์ นกกระจอกเทศ และนกอีมู จะมีความไวรับต่อการเกิดโรคเป็นพิเศษ
แคลเซียม และฟอสฟอรัสเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และความแข็งแรงของกระดูก
การดูดซึมแร่ธาตุเหล่านี้
และความสามารถในการรวมเข้าสู่กระดูกที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นกับระดับของวิตามินดี ๓
ในร่างกายสัตว์
หากสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอในอาหารสัตว์
กระดูกก็จะไม่สามารถสะสมแร่ธาตุได้ตามความเหมาะสม และความแข็งแรงของกระดูกก็จะเกิดความบกพร่องได้
เมื่อสัตว์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น กระดูกก็จะนิ่มเหมือนยาง
เนื่องจากการสะสมแร่ธาตุบกพร่อง ดัดให้โค้ง และบิดได้อย่างง่ายดาย
รอยโรคนี้สร้างความเจ็บปวดทรมานมาก และสัตว์ก็มักขาพิการ ไม่อยากเดินไปไหน
เมื่อสัตว์เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และร่างกายบิดโค้งผิดปรกติก็จะไม่อยากเดินไปกินอาหาร
และน้ำ น้ำหนักก็จะลดลง และตายลงในที่สุด
เมื่อผ่าซากชันสูตร กระดูกก็จะบิด
และโค้ง เนื่องจาก เกิดการสะสมแคลเซียมของกระดูกได้ไม่ดี กระดูกจึงงอได้เหมือนยาง
หากใช้มีดปาดหัวกระดูกก็จะพบว่า พื้นที่สำหรับการเจริญเติบโตของกระดูกที่เรียกว่า โกรธเพลต (Growth
plate) จะกว้างกว่าปรกติ
ที่ซี่โครงสังเกตเห็นเป็นเม็ดโปนขึ้นมาเป็นลูกประคำที่ตรงรอยต่ำระหว่างซี่โครง
และกระดูกสันหลัง จงอยปากงอได้ง่าย
ลองดูต่อมพาราไทรอยด์ที่ปรกติหาดูได้ยากก็จะสังเกตง่ายขึ้น
เพราะขนาดที่โตกว่าปรกติ
การรักษา
การรักษาคือ
การแก้ไขสูตรอาหารให้เร็วที่สุดก่อนที่กระดูกที่ผิดปรกติจะรุนแรงจนกลับคืนไม่ได้
การเปลี่ยนอาหารเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้เหมาะสมตามอายุ
และชนิดของสัตว์ปีก รวมถึง การเสริมแคลเซียม เช่น ใช้ไดแคลเซียม/ฟอสเฟต
หรือเปลือกหอย โรยบนอาหาร และเติมวิตามินดี ๓ ในน้ำ จดจำไว้ว่า
สัตว์ปีกสามารถใช้ได้เฉพาะวิตามินดี ๓ เท่านั้น
ไม่ใช่รูปแบบอื่นๆสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
โดยทั่วไป หากสัตว์ปีกเกิดโรคกระดูกอ่อนจากการเลี้ยงด้วยอาหารบ้านๆ ดังนั้น
ก็เชื่อได้ว่า สัตว์น่าจะมีปัญหาขาดวิตามิน และเกลือแร่ชนิดอื่นๆด้วยเช่นกัน
การเสริมด้วยวิตามิน และแร่ธาตุจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพไก่มาก
อาหารที่เหมาะสมต่อชนิด และอายุของสัตว์ปีกมีความสำคัญต่อการเลี้ยงสัตว์ให้มีสุขภาพที่ดี
หลีกเลี่ยงการซื้อเศษเมล็ดธัญพืช หรือข้าวโพด การลงทุนโดยใช้อาหารสำเร็จรูป
หรือสูตรอาหารที่มีการคำนวณอย่างเหมาะสมจะสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการเจริญเติบโต
และสุขภาพสัตว์ที่ดีได้
เอกสารอ้างอิง
Hunter et al. B. 2017. Metabolic bone disease in growing poultry. [Internet]. [Cited 2017 Jul 20].
Available from: https://en.engormix.com/poultry-industry/articles/rickets-metabolic-bone-disease-t40357.htm
Available from: https://en.engormix.com/poultry-industry/articles/rickets-metabolic-bone-disease-t40357.htm
ภาพที่ ๑ กลุ่มไก่งวงรุ่นที่เกิดโรคกระดูกอ่อน ทุกตัวยังมีชีวิตดีอยู่ แต่ไม่ยอมยืน และเดิน เนื่องจาก ความเจ็บปวดร้าวรานที่กระดูก (Hunter et al., 2017)
ภาพที่ ๒ กระดูกซี่โครงจากเป็ดอายุน้อยที่เกิดโรคกระดูกอ่อน
สังเกตการงอ และบิดของกระดูกซี่โครง และบริเวณรอยต่อระหว่างกระดูกซี่โครง
และกระดูกสันหลังขยายใหญ่ขึ้นผิดปรกติ เรียกรอยโรคนี้ว่า “ริคเกตติก โรซารี (Ricketic rosary)”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น