ผลการวิจัยประสิทธิภาพของลิเธียมคลอไรด์ต่อการหยุดยั้งเชื้อไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวสัตว์ปีกมิให้เพิ่มจำนวนในเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดซีอีเอฟ
บ่งชี้ว่า ลิเธียมคลอไรด์สามารถใช้เป็นสารต้านไวรัสเอแอลวีชนิดเจได้
การทดลองที่สถาบันเพอร์ไบร์ตเพื่อศึกษาฤทธิ์ของลิเธียมคลอไรด์ต่อการยับยั้งเชื้อไวรัส
โดยนักวิจัยประเมินประสิทธิภาพของลิเธียมคลอไรด์ต่อการติดเชื้อในเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดซีอีเอฟ
โดยใช้การวิเคราะห์ด้วยเรียลไทม์พีซีอาร์ การวิเคราะห์เวสเทิร์นบลอต ไอเอฟเอ
และการทดสอบอีไลซาต่อโปรตีนพี ๒๗ แสดงให้เห็นว่า จำนวนสำเนาอาร์เอ็นเอ
และระดับโปรตีนของเชื้อไวรัสลดลงอย่างมีนัยสำคัญแปรผันตามขนาดของสารเคมี
และเวลา
ผลการวิเคราะห์ยังพบว่า
ผลการต่อต้านเชื้อไวรัสยังเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อเซลล์เพาะเลี้ยงชนิดซีอีเอฟถูกบำบัดที่ระยะภายหลังการติดเชื้อเหนือกว่าที่ระยะการดูดซึมระยะแรก
หรือระยะก่อนการดูดซึม การทดลองต่อไป ยังแสดงให้เห็นว่า ลิเธียมคลอไรด์
ไม่มีผลต่อกระบวนการสัมผัส หรือการเข้าสู่เซลล์
แต่จะมีผลต่อการเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสระยะแรกมากกว่า นักวิจัยยังพบว่า
การยับยั้งการเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสด้วยลิเธียมคลอไรด์เกิดจากการลดระดับของเอ็มอาร์เอ็นเอของไซโตไคน์ชนิด
Proinflammatory cytokines
สารลิเธียมคลอไรด์
สารลิเธียมคลอไรด์เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคไบโพลาร์ในมนุษย์
โดยมีฤทธิ์ทางชีวภาพหลายประการ ได้แก่ การเหนี่ยวนำกระบวนการอะพอพโทซิส
การสังเคราะห์ไกลโคเจน และการอักเสบ ในหลายปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยตีพิมพ์ศึกษาการใช้ลิเธียมคลอไรด์ต่อการทำลายเชื้อก่อโรคหลายชนิดทั้งไวรัส
และแบคทีเรีย การออกฤทธิ์ของลิเธียมคลอไรด์ (LiCl) มีผลต่อการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสทั้งชนิดดีเอ็นเอ
และอาร์เอ็นเอมีการวิจัยก่อนหน้านี้แล้วทั้งต่อเชื้อไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอ ได้แก่
เชื้อไวรัสหลอดลมอักเสบติดต่อในสัตว์ปีก โรคติดเชื้อไวรัสทีจีอีในสุกร
และเชื้อไวรัสชนิดดีเอ็นเอ ได้แก่ เฮอร์ปีสซิมเพล็กไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย เช่น
ซูโดโมแนส แอโรจิโนซา และไมโคพลาสมา ไฮโอนิวโมนิอี
เอกสารอ้างอิง
McDougal T. 2018. Antiviral
effect of lithium chloride on avian leukosis virus. [Internet]. [Cited 2018 Feb 19]. Available
from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2018/2/Antiviral-effect-of-lithium-chloride-on-avian-leukosis-virus-249872E/
ภาพที่ ๑ ผลการวิจัย
พบว่า ลิเธียมคลอไรด์สามารถใช้เป็นสารต้านไวรัสเอแอลวีชนิดเจได้ (แหล่งภาพ Ronald Hissink)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น