วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ไข่ไก่ราคาแพงทั่วโลก

 ขณะที่ไข่ไก่ถูกมาเกือบสองปีภายหลังทำลายสถิติสูงเป็นประวัติศาสตร์มาแล้ว ราคาไข่ไก่ทั่วโลกยังไม่สามารถกลับไปสู่ช่วงเวลาก่อนที่ราคาถูกเหมือนเดิมได้

ราคาไข่ไก่ทั่วโลกคาดว่าจะยังคงเพิ่มสูงจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๗ เนื่องจาก การระบาดของโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาอาหารสัตว์แพง กฏระเบียบของภาครัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูง อ้างอิงตามบริษัทด้านการเงินราโบแบงค์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาไข่ไก่เริ่มต้นลดลงในบางตลาด เช่น สหรัฐฯ แต่ราคาไข่ไก่ในประเทศอื่นๆทั่วโลกส่วนใหญ่จะลอยตัวต่อไปจนถึงปีถัดมา ข้อยกเว้นที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งราคาไข่ไก่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ประเด็นสำคัญคือ ผู้บริโภคลดการบริโภคไข่ไก่ลงในช่วงที่มีการเปลี่ยนจากระบบการผลิตเป็นไม่ใช้กรงตับ ขณะที่ ระบบการผลิตแบบเดิมยังคงดำเนินการผลิตได้ ส่งผลให้ผลผลิตสูง ขณะเดียวกัน การระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มลดลงอย่างทันทีทันใดยิ่งทำให้ผลผลิตออกมาเกิดความคาดหมาย ราคาไข่ไก่คาดว่าจะฟื้นตัวในไม่ช้า เมื่อสมดุลตลาดกลับมาอีกครั้ง

สถานการณ์ในสหรัฐฯ ตรงกันข้ามกับประเทศอื่นๆทั่วโลก ราคาไข่ไก่ทั่วโลกยังคงสูง และลอยตัวในตลาด เนื่องจาก การระบาดของโรคไข้หวัดนก ต้นทุนอาหารสัตว์แพง และการเปลี่ยนแปลงของกฏระเบียบภาครัฐ ในตลาดอื่นๆ ราคาจะลดลงแต่จะไม่ลงจนถึงระดับก่อนปี พ.ศ.๒๕๖๔ ขณะที่ ต้นทุนสูงขึ้นอย่างช้าๆจะส่งผลให้ราคายังคงสูงขึ้น

ภายนอกสหรัฐฯ

               ผู้ผลิตไข่ไก่ทั่วโลกเผชิญหน้ากับปัญหาโรคระบาด ต้นทุนสูง และกฏระเบียบของภาครัฐ ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิต และต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น อ้างอิงตามราโบแบงค์ การระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง ในห้วงเวลาที่จำนวนแม่ไก่ไข่ยังคงน้อย เช่น ญี่ปุ่น ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ลอยตัวต่อไป

               ในอดีต เชื้อไวรัสมักหายไปในช่วงฤดูร้อนภายหลังการอพยพของนกป่า อย่างไรก็ตาม โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง ได้แพร่กระจายไปยังนกชนิดอื่นๆ และคงอยู่เป็นเวลานานกว่าที่คาดหมายเอาไว้มาก ราคาอาหารสัตว์คาดว่าจะทะยานสูงขึ้นตลอดปี ราโบแบงค์คาดการณ์ว่า พฤษภาคมนี้ ราคาอาหารสัตว์มีแนวโน้มลดลงร้อยละ ๑๐ จากปีที่แล้วที่ราคาแพง แต่ยังคงสูงกว่าปี พ.ศ.๒๕๖๓ ร้อยละ ๕๐

               อัตราเงินเฟ้อยังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ และการขยายตัวของอุตสาหกรรม นอกจากนั้น ราโบแบงค์เชื่อว่า การขยายตัวของอุตสาหกรรมจะลดลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฏระเบียบ เช่น การค้าในยุโรปปัจจุบันได้รับผลกระทบแล้วจากกฏระเบียบว่าด้วยการคัดทิ้งลูกไก่เพศผู้  นอกจากนั้น เนเธอร์แลนด์ก็ยังไม่สามารถขยายการผลิตต่อไปได้ เนื่องจาก กฏระเบียบว่าด้วยการลดการปลดปล่อยแก๊สไนโตรเจน ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อเยอรมัน เนื่องจาก เป็นผู้ผลิตหลักให้แก่เนเธอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน   

เอกสารอ้างอิง

Johnson M.  2023. US the exception to globally high egg prices through 2024. [Internet]. [Cited 2023 Jul 25]. Available from: https://www.wattagnet.com/egg/article/15542996/us-the-exception-to-globally-high-egg-prices-through-2024

ภาพที่ ๑ ไข่ไก่ราคาแพงทั่วโลก (แหล่งภาพ Slobo Mitic | iStockPhoto.com)



วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

แพลตฟอร์มใหม่วัคซีนสัตว์ปีก

โรคระบบทางเดินอาหารในสัตว์ปีก เช่น โรคบิด และลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย เป็นสิ่งท้าทายสำหรับกาผลิตเนื้อสัตว์ปีก และไข่อย่างยั่งยืนทั่วโลก ล่าสุด วิทยาลัยสัตวแพทย์พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย โดยอาศัยเวกเตอร์เป็นเชื้อบิดไส้ตัน

การผลิตเนื้อสัตว์ปีกที่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าตัวภายในสองทศวรรษ โดยเฉพาะ ประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง กระตุ้นให้เกิดการเลี้ยงฝูงสัตว์ปีกแบบเข้มข้น และสัตว์ปีกหลังบ้านที่มีความไวรับต่อการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิต โรคระบบทางเดินอาหารได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ สวัสดิภาพสัตว์ และมีโอกาสเกิดโรคติดต่อสู่คน

การอุบัติใหม่ของโรค

               การใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหารสำหรับควบคุมโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตายจากเชื้อ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวก และสร้างสปอร์ โรคนี้กลายเป็นโรคอุบัติใหม่ในภาคการผลิตสัตว์ปีกสหรัฐฯ ภายหลังการแบนยากันบิดกลุ่มไอโอโนฟอร์

               วิทยาลัยสัตวแพทย์ รายงาน การเพิ่มขึ้นของโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตายจาก ๖.๙ หมื่นบาทในปี พ.ศ.๒๕๔๓ เป็น ๒ แสนล้านบาทในปี พ.ศ. ๒๕๕๘

ปัจจัยโน้มน้ำที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมของระบบทางเดินอาหาร เป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ ให้เจริญเติบโต และก่อโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย ปัจจัยเหล่านี้รวมถึง การติดเชื้อร่วมกับเชื้อโรคอื่นๆ เช่น บิด ความเครียด การกดภูมิคุ้มกัน และโภชนาการ

วิทยาลัยสัตวแพทย์นำโดย เวอร์จิเนีย มารูแกน-เฮอร์นาเดส ตั้งสมมติฐานว่า การป้องกันปัจจัยโน้มนำสำคัญ เช่น บิดไส้ตัน ร่วมกับการให้วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับควบคุมโรคในไก่

กลยุทธ์ใหม่

               นักวิจัยสร้างวัคซีนต้นแบบ ๒ ชนิด สำหรับป้องกันเชื้อ ค. เพอร์ฟริงเจนส์ โดยการการดัดแปลงพันธุกรรมการถ่ายฝากยีนไปยังเชื้อบิดไส้ตัน เชื้อต้นแบบที่เป็นพาหะของเชื้อบิดสามารถผลิตแอนติเจนต่อเชื้อ ค. เพอร์ฟริงเจนส์ โดยกลไกการเพิ่มจำนวนเชื้อไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์เมื่อให้ด้วยทางปาก

               การตอบสนองทางภูมิคุ้มก้นต่อเชื้อ ค. เพอร์ฟริงเจนส์ เมื่อให้วัคซีนต้นแบบทางปาก ประสิทธิภาพของวัคซีนต้นแบบทัดเทียมกับระบบการ expression ด้วยวิธีอื่นๆ รวมถึง วิธีการให้ด้วยการฉีดอีกด้วย การให้วัคซีนต้นแบบทางปาก เชื่อว่า ช่วยให้การตอบสนองทางภูมิคุ้มกนดีขึ้นกว่าการฉีด เนื่องจาก เป็นการมุ่งเป้าหมายไปที่ลำไส้โดยตรง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เชื้อ ค. เพอร์ฟริงเจนส์ ก่อให้เกิดโรคลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตายตามธรรมชาติ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ดีขึ้น และเป็นวิธีการให้ในฝูงสัตว์จำนวนมากได้ง่ายและสะดวก 

               สำหรับพันธมิตรของโครงการอย่าง เอ็มเอสดี แอนนิมัลเฮลธ์ ผู้ผลิตวัคซีนปีกรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนต้นแบบในสัตว์ทดลองด้วยการป้อนเชื้อพิษทับ ข้อมูลจากการทดลองหลายครั้งกำลังออกมาและเปิดเผยให้เห็นถึงโอกาสของวัคซีนสัตว์ปีกชนิดใหม่ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในสัตว์จำนวนมากพร้อมกัน

               โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาวัคซีนโดยอาศัยเชื้อบิด เพื่อป้องกันไก่จากโรคอื่นๆ โดยนำร่องวัคซีนต้นแบบจากโรคอุบัติซ้ำอย่างลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย เชื่อว่าในอนาคตจะหันไปพัฒนาวัคซีนแบบเดียวกันสำหรับป้องกันเชื้อที่ติดต่อสู่มนุษย์ ซึ่งมีความสำคัญทั้งในประเทศรายได้สูง ปานกลาง และต่ำ เช่น แคมไพโลแบคเตอร์ และ ซัลโมเนลลา ต่อไปได้  

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T.  2023. Development of poultry vaccine platform. [Internet]. [Cited 2023 Jul 7]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/development-of-poultry-vaccine-platform/

ภาพที่ ๑ แพลตฟอร์มใหม่วัคซีนสัตว์ปีก (แหล่งภาพ Сергей)



วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

อียูพิจารณาใช้แบคเทอริโอฝาจลดเชื้อดื้อยาในสัตว์ปีก

เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฏาคมที่ผ่านมา กลุ่มฝาจอียู (PhageEU) ได้จัดการสัมมนาออนไลน์โดยระดมผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นต่อการใช้ฝาจในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก 

ในอนาคต การใช้เทคโนโลยีฝาจในสารเติมอาหารสัตว์กำลังได้รับการอนุญาตให้ใช้โดยคณะกรรมาธิการยุโรป เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ของฝาจในสัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงปศุสัตว์อื่นๆ การสัมมนาออนไลน์ครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะหารือกันถึงสิ่งท้าทายทางวิชาการต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์แบคเทอริโอฝาจ อุปสรรคด้านกฏระเบียบในยุโรปสำหรับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ รวมถึง การวิเคราะห์ข้อถกเถียงทางการเมืองล่าสุดในสภายุโรป และมุมมองต่ออนาคต

เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ

               ฝาจเป็นที่ยอมรับทางวิชาการว่าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการต่อสู้กับเชื้อดื้อยา จากรายงานของฝาจอียู (Phage EU) การสัมมนาออนไลน์มีประเด็นที่น่าสนใจต่อการใช้งานแบคเทอริโอฝาจเป็นส่วนหนึ่งของกรอบโครงการที่ท้าทายอย่างเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ และนโยบายสุขภาพหนึ่งเดียวในสหภาพยุโรป

อุปสรรคในการพัฒนาฝาจชนิดคอคเทล

               ดร.อะลิสัน ลอว์ จากสถาบันโรสลิน มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก แสดงความเห็นถึง การคัดเลือกฝาจสำหรับการควบคุมการติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างมีเป้าหมาย อาจเป็นอุปสรรคที่สำคัญสำหรับการบำบัดด้วยฝาจ นักวิจัยจากสถาบันโรสลินใช้เทคนิคด้านจีโนมิกสำหรับพยากรณ์ฝาจชนิดคอคเทลจากลำดับดีเอ็นเอที่สามารถติดเชื้อเข้าสู่แบคทีเรียได้

แบคเทอริโอฝาจชนิดคอคเทล เป้าหมายไปที่เชื้อ ซัลโมเนลลา ในสัตว์ปีก

               ดร.เอลินอร์ แมคคาร์ทนีย์ ผู้อำนวยการด้านวิชาการของ เพนแอนด์เทค คอนซัลติ้ง นำเสนอกรณีศึกษาของแบคเทอริโอฝาจสำหรับกระบวนการขึ้นทะเบียนของ บาฟาซาล ซึ่งเป็นคอคเทลของแบคเทอริโอฝาจผลิตโดยบริษัท โปรตีนออน ฟาร์มาซูติคอล และใช้เป็นสารเติมอาหารสัตว์เพื่อเป้าหมายที่เชื้อ ซัลโมเนลลา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสหภาพยุโรป

               ภายหลังการตรวจสอบอย่างละเอียดจากทั้งสำนักความปลอดภัยอาหารยุโรป หรือเอฟซา และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๖ เอฟซา สรุปความเห็นทางวิชาการยืนยันถึงประสิทธิภาพของ บาฟาซาลต่อเชื้อซัลโมเนลลา ได้หลากหลายซีโรไทป์ หลังจาก บาฟาซาล ได้รับรองในสหภาพยุโรปแล้ว ก็จะเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนานวัตกรรมแบคเทอริโอฝาจชนิดอื่นๆในสัตว์ปีก และปศุสัตว์อื่นๆต่อไป รวมถึง การควบคุมเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในสัตว์เลี้ยง และมนุษย์ 

การเมืองเรื่องของฝาจ

               ความสนใจต่อการบำบัดด้วยฝาจจากผู้มีอำนาจตัดสินในสหภาพยุโรป ได้รับการยืนยันจาก มาร์กาเร็ตตา พริสบีลา ที่ปรึกษาสหภาพยุโรป และตัวแทนกลุ่มฝาจอียู สืบเนื่องจากปัญหาแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพ และนโยบายสุขภาพหนึ่งเดียว ต่อยอดไปถึงการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และระบบการจัดการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน เป็นเป้าหมายสำคัญในสหภาพยุโรป จึงเป็นโอกาสของฝาจในการยกขึ้นมาหารือกันในกลุ่มฝาจอียู

                  ศาสตราจารย์ จารอสลอว์ แดสทิค ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท โปรตีนออน ฟาร์มาซูติคอล และสมาชิกผู้ร่วมก่อนตั้งฝาจอียู ย้ำว่าเมื่อผลิตภัณฑ์ได้รับการอนุญาต กระบวนการขึ้นทะเบียน และการถกเถียงทางการเมือง เรียบร้อยแล้ว อุปสรรคต่อไปคือ การยอมรับและการระมัดระวังในการใช้เทคโนโลยีของฝาจอย่างปลอดภัย  

เอกสารอ้างอิง

Kinsley. N.  2023. The brink of a phage paradigm shift in the EU?. [Internet]. [Cited 2023 Jul 18]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/the-brink-of-a-phage-paradigm-shift-in-the-eu/

ภาพที่ ๑ ทิศทางแบคเทอริโอฝาจในยุโรป  (แหล่งภาพ Hans Princes) 




วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

แค่เปลี่ยนเป็นระบบเลี้ยงกรงใหญ่ ไม่ได้ช่วยสวัสดิภาพสัตว์ดีไปด้วย

 การเปลี่ยนระบบการผลิตไข่ไก่ให้มีสวัสดิภาพสัตว์ต้องทำมากกว่าการยกเลิกขังกรง และเลี้ยงแม่ไก่ในระบบการเลี้ยงแบบกรงใหญ่ (aviary system) ยังมีสิ่งสำคัญต่างๆอีกหลายประการ รวมทั้ง นักสัตวบาลมืออาชีพ และการจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันประเด็นใหม่ด้านสวัสดิภาพสัตว์

นับตั้งแต่กรงตับถูกแบนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๕ เป็นต้นมา ผ่านมาแล้วสิบเอ็ดปี ผู้เลี้ยงไก่ไข่ในเนเธอร์แลนด์มีประสบการณ์ขึ้นอย่างมากในระบบโรงเรือนทางเลือกใหม่นี้ แม้ว่าระบบกรงตับ หรือเอนริชเคจ (enriched cage) ในอีกชื่อหนึ่งยังอนุโลมให้ใช้ได้ในเวลานั้น ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ก็หันไปใช้ระบบกรงใหญ่ หรือระบบอะเวียรี กันไปแล้ว การตัดสินใจใช้ระบบโรงเรือนที่ให้ความสำคัญกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่สูงขึ้นส่งผลต่อผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วโลก ปัญหาของหลักสวัสดิภาพสัตว์ใหม่นี้รออยู่ข้างหน้า ผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องเตรียมตัวคิดรับมือกับอุปสรรคไว้ล่วงหน้า 

ระบบการเลี้ยงไก่ไข่แบบกรงตับยังเป็นระบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการผลิตโปรตีน แต่ไม่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง ในเวลานี้ภาคสังคมในประเทศต่างๆทั่วโลกไม่ยอมรับระบบการเลี้ยงเช่นนี้อีกแล้ว ระบบการเลี้ยงไก่ไข่แบบกรงตับถูกแบนในยุโรป และกำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ยุโรปตะวันออก และสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ของโลกที่กำลังมั่งคั่งเพิ่มขึ้น เช่น ยุโรปตะวันออก เอเชีย และจีน ประชาชนเรียกร้องสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีขึ้น ประเทศสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มั่งคั่งอยู่แล้ว แต่หลักสวัสดิภาพสัตว์ยังได้รับการให้ความสำคัญในระดับรองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป ภายหลังการลดยาปฏิชีวนะลง หรือไม่ใช้แล้วเป็นประเด็นสำคัญในการผลิตไก่เนื้อ ภาคสังคมก็ต้องการให้ยกเลิกการเลี้ยงไก่ไข่ในระบบกรงตับได้แล้ว

ระบบการจัดการต่างๆ

               ผู้เลี้ยงไก่ไข่เปลี่ยนจากระบบกรงตับเป็นระบบกรงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีการเลี้ยงที่ไม่เป็นผลดีต่อสวัสดิภาพสัตว์นัก หากผู้เลี้ยงยังไม่เปลี่ยนวิธีการจัดการให้เหมาะสมไปด้วย เช่น ระยะการเลี้ยงแม่ไก่ต้องไปด้วยกันกับระบบและการจัดการของผู้เลี้ยง หากไม่เหมาะสมก็อาจพบปัญหาความเสียหายต่อกระดูกอก (keel bone damage) เป็นต้น

               แต่ถึงแม้ว่า แม่ไก่จะได้รับการฝึกอย่างดีตั้งแต่ในฟาร์มไก่รุ่น ก็ยังมีโอกาสพบได้ที่ระบบการเลี้ยงกรงใหญ่ หากแม่ไก่เผชิญอุปสรรคบางอย่างจากการจัดการที่ไม่ได้ปรับไปด้วย การเลี้ยงไก่ในกรงตับ แล้วย้ายไปสู่ระบบการเลี้ยงแบบกรงใหญ่เป็นต้นตำรับสำหรับความหายนะ ระบบการเลี้ยงกรงใหญ่ต้องเพิ่มความเอาใจใส่กับพฤติกรรมแม่ไก่อย่างมาก ความเสี่ยงต่อการจิกกันเอง หรือพฤติกรรมกินกันเองมีแนวโน้มสูง การเปลี่ยนระบบการเลี้ยงเป็นระบบใหม่นี้จึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะ ความแตกต่างอย่างมากระหว่างแม่ไก่ขนสีขาว และสีน้ำตาล ในตอนแรก ผู้เชี่ยวชาญก็เข้าใจไปว่า แม่ไก่สีขาวน่าจะเลี้ยงในระบบกรงใหญ่ได้ยากกว่าแม่ไก่สีน้ำตาลอย่างมาก แต่กลายเป็นตรงกันข้าม แม่ไก่ขนสีขาวปรับตัวให้เข้ากับระบบใหม่นี้ได้ง่ายกว่า พบไข่พื้นที่ฟาร์มน้อยกว่าแม่ไก่สีน้ำตาล เหตุผลมาจากแม่ไก่สีขาวเคลื่อนเข้าหารังไข่ได้ง่ายกว่า การฝึกกินน้ำระหว่างการเลี้ยงก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับไก่รุ่นสีน้ำตาล เพื่อให้มั่นใจว่า แม่ไก่ในระยะให้ผลผลิตจะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และราบรื่น

ชนิดของระบบการเลี้ยง

               ระบบ นิโว วาเรีย ที่มีให้เลือกหลากหลายในตลาดเป็นระบบที่ดีที่สุดสำหรับสอนแม่ไก่ให้ปรับตัวเข้ากับระบบกรงใหญ่ได้ ด้วยระบบเหล่านี้ ผู้เลี้ยงสามารถยกทุกสิ่งขึ้นไปได้ไม่ว่าจะเป็นระบบให้น้ำ ระบบให้อาหาร และพื้นโรงเรือน  ระบบ นิโว วาเรีย ยังสามารถทำงานได้กับพื้นที่พับเก็บได้ แต่ก็อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้น้อยลง ในกรณีที่ต้องยกระบบให้น้ำ ระบบให้อาหาร และพื้นโรงเรือน เนื่องจากใช้การยึดตรึงกับโครงสร้างโรงเรือนมากขึ้น

               ระบบการเลี้ยงแบบกรงใหญ่เป็นแถว (row aviaries) เป็นระบบที่ผู้เลี้ยงชาวดัทช์นิยมใช้สำหรับเลี้ยงไก่รุ่น ข้อดีของระบบนี้คือ เคลื่อนย้ายได้ง่าย และต้นทุนต่อตัวสัตว์ต่ำกว่า เนื่องจาก ผู้เลี้ยงสามารถลงไก่รุ่นต่อตารางเมตรบนพื้นโรงเรือนได้เพิ่มขึ้น

               ระบบกรงใหญ่ในยุโรปเพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยเฉพาะกับแม่ไก่สีน้ำตาล บางครั้งได้เพิ่มสะพานลอย เพื่อให้แม่ไก่สามารถเดินขึ้น และเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าเดิม มีการเพิ่มไลน์น้ำเหนือพื้นโรงเรือนที่ยกขึ้นลงได้ในพื้นที่คอกระหว่างระบบกรงใหญ่

               การติดตั้งไลน์น้ำพิเศษ เป็นการบังคับให้แม่ไก่ออกจากระบบนี้ และเดินหาที่กินน้ำแห่งอื่น ข้อด้อยคือ ส่งผลให้ความสม่ำเสมอของฝูงลดลง ระบบการเลี้ยงกรงใหญ่ล่าสุดเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรกับแม่ไก่มากขึ้นยังจำเป็นต้องพัฒนาต่อไป เช่น บิ๊กดัทช์แมน ได้พัฒนาระบบใหม่เป็นระบบกรงใหญ่แบบฟิเลีย ซึ่งสามารถยกขึ้นลงรางน้ำในระบบให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้      

               ความแตกต่างระหว่างแม่ไก่สีขาวและน้ำตาลสำหรับระบบกรงใหญ่ จะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะเลือกแม่ไก่ที่เหมาะสมกับระบบ แต่ความนิยมของตลาด และวัฒนธรรมการบริโภคที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศก็มีความสำคัญ มีทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ชื่นชอบไข่สีขาวมากกว่า และชื่นชอบไข่สีน้ำตาลมากกว่า ทั้งนี้เป็นความแตกต่างในแต่ละประเทศ หรือภูมิภาค เช่น ตอนกลางของเนเธอร์แลนด์ชื่นชอบไข่สีน้ำตาล ตอนใต้ของประเทศกลับผลิตไข่สีขาวมากกว่า เช่นเดียวกับเยอรมัน บางภูมิภาคก็ชอบไข่สีขาว บางภูมิภาคก็ชอบไข่สีน้ำตาล

ความเสี่ยงต่อโรค

               ข้อด้อยของการเลี้ยงไก่ไข่ในระบบกรงใหญ่คือ สัตว์มีโอกาสสัมผัสกับขี้ไก่ นั่นคือแม่ไก่มีความเสี่ยงต่อโรคแบคทีเรีย หรือปรสิตมากขึ้นกว่าระบบกรงตับอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ระบบกรงใหญ่มีโครงเหล็กจำนวนมาก ซึ่งมีซอกมุมที่ไรแดงสามารถซ่อนตัวอยู่ได้ ดังนั้น ระบบคิว-เพิร์ช จากเวนโคมาติกจึงได้พัฒนาขึ้นใช้ในยุโรป โดยใช้คอนเกาะที่มีลวดไฟฟ้าอยู่ข้างใน หากแม่ไก่นั่งอยู่ที่ชั้นบนสุดของระบบเวลากลางคืน ก็จะมีพื้นที่อย่างเพียงพอ และมีคอนคิว-เพิร์ชใช้อย่างเพียงพอ ไรแดงไม่สามารถเข้าถึงตัวแม่ไก่ได้ เนื่องจาก มีกระแสไฟฟ้าในลวด ข้อเสียของการยกเลิกกรงตับอีกประการหนึ่งคือ โรคที่เคยไปตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ กลับมาระบาดใหม่ในยุโรป เช่น โรคแบล็คเฮด อีริซิเพลาส พาสจูเรลลา หวัดหน้าบวม และพยาธิแคพิลลาเรีย เป็นต้น

               นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการแล้ว ยุโรปบางประเทศ เช่น สแกนดิเนเวีย เยอรมัน ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ก็ออกมาตรการยกรับสวัสดิภาพไก่ไข่ เช่น ยกเลิกการตัดปาก อย่างไรก็ตาม กลับไปส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์กลายเป็นสร้างปัญหาที่เลวร้ายไปอีกจากการจิกกันเอง และพฤติกรรมการกินกันเอง ผู้ผลิตจำเป็นต้องหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เช่น เพิ่มความหนาของนิปเปิ้ล เพื่อให้มีพื้นที่กินน้ำเพิ่มขึ้น และสัดส่วนของแม่ไก่ต่อนิปเปิ้ลน้อยลง หรือเริ่มต้นด้วยการใช้พลาซอง หรือรางน้ำ หรือใช้ถ้วยน้ำไปก่อน สัดส่วนของอุปกรณ์การให้น้ำมีความสำคัญสำหรับแม่ไก่ที่ถูกตัดปากอย่างมาก โครงสร้างของอาหารสัตว์ก็สำคัญเช่นกัน ไม่ควรมีความแตกต่างระหว่างส่วนอาหารสัตว์ที่ละเอียดและหยาบมากนัก หากไม่เป็นเช่นนั้น ไก่ก็อาจจะเลือกกิน และไม่ได้รับแร่ธาตุและวิตามินบางชนิดอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม หรือลดการไซร้ขน ที่สำคัญควรมีวัสดุที่ช่วยล่อใจแม่ไก่ เช่น บล็อกสำหรับจิก หรือก้อนหญ้าอัลฟาลฟา

พันธะสัญญา เบทเทอร์ชิกเก้น หรือบีซีซี  

               ผู้ผลิตทั่วโลกกำลังมองหาสิ่งที่ช่วยเพิ่มสวัสดิภาพสัตว์ หลายรัฐในสหรัฐฯ และยุโรป เกิดความตื่นตัวล่วงหน้าไปแล้ว แต่สหรัฐฯยังตามสหภาพยุโรปในบางประเด็นด้านสวัสดิภาพสัตว์ เมื่อภาคการผลิตไก่เนื้อเริ่มต้นแล้ว ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และสหภาพยุโรปใช้ระบบบีซีซี (Better Chicken Commitment, BCC) โดยบีซีซีมีนโยบาย ๖ จุดเพื่อเพิ่มสวัสดิภาพสัตว์ของไก่เนื้อในปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้ ถึงมิถุนายน ๒๕๖๓ บริษัทด้านอาหาร ๑๘๐ แห่งทั่วโลก ลงนามในพันธะสัญญาบีซีซีนี้แล้ว รวมถึง เคเอฟซี เบอร์เกอร์คิง ซับเวย์ ชิโปเล่ เดนนี้ เนสเล่ และกลุ่มบริษัทคอมพาส พันธะสัญญาบีซีซีนี้จะเริ่มต้นกับภาคการผลิตไก่ไข่ต่อไป

บริษัทผู้ผลิตพันธุ์สัตว์

                ในอนาคตเชื่อว่า ผลกระทบทางลบจากการเปลี่ยนจากกรงตับเป็นระบบกรงใหญ่จะคลี่คลายไปในที่สุดด้วยการปรับการจัดการที่ดี และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ผู้เล่นสำคัญ ๒ รายของโลก ได้แก่ กลุ่มเฮนดริกซ์ และอีดับบลิว เริ่มไปแล้ว ในอนาคตจะไม่ได้คัดเลือกพันธุ์สัตว์โดยใช้ข้อมูลด้านการให้ผลผลิต และแม่ไก่ที่แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังรวมเอาพฤติกรรมสัตว์ไว้ด้วย สังเกตได้ว่าแม่ไก่สีน้ำตาลจะสงบดีขึ้น ไม่ตื่นตกใจง่ายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากแม่ไก่สีน้ำตาลไม่ค่อยเคลื่อนไหว ก็จะได้ไข่พื้นเพิ่มขึ้น ทั้งการจัดการ การให้อาหารสัตว์ โครงสร้างโรงเรือน และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ ล้วนมุ่งหน้าไปสู่ระบบการจัดการสำหรับไก่ไข่ ต้องมีทั้งเงินลงทุนทั้งสูงและประหยัด เพื่อให้สวัสดิภาพสัตว์สำหรับแม่ไก่ที่ดีที่สุด           

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors.  2023. Welfare doesn’t come automatically with a switch to aviary systems. [Internet]. [Cited 2023 Jul 12]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/layers/welfare-doesnt-come-automatically-with-a-switch-to-aviary-systems/

ภาพที่ ๑ แค่เปลี่ยนเป็นระบบเลี้ยงกรงใหญ่ ไม่ได้ช่วยสวัสดิภาพสัตว์ดีไปด้วย (แหล่งภาพ Global Poultry Sector Authors)



วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

แนวโน้มเมล็ดพืชน้ำมันราคาแพง

 ถั่วเหลืองในชิคาโก และเรพซีดในปารีสราคาสูงขึ้นร้อยละ ๗ ถึง ๘ ในช่วงต้นสัปดาห์เปรียบเทียบกับกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะรายงานจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯเกี่ยวกับการหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองในสหรัฐฯเป็นแรงกระตุ้นให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น 

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เชื่อว่า พื้นที่เพาะปลูกของถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว รายงานใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า ความจริงเกิดขึ้นในทางตรงกันข้าม แทนที่จะมีถั่วเหลืองขึ้นเล็กน้อย ชาวอเมริกันกลับเพาะปลูกน้อยลงกว่าปีที่แล้วร้อยละ ๕ เป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด และส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น

ผลผลิตข้าวโพดสูงกว่าถั่วเหลือง

               เกษตรกรเองไม่ได้ประหลาดใจไปด้วยที่ข้าวโพดเพาะปลูกมากขึ้น และถั่วเหลืองน้อยลง หากสภาวะอากาศดีสำหรับการเพาะปลูกข้าวโพด ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจปลูกถั่วเหลือง เนื่องจาก ข้าวโพดน่าจะให้ผลผลิตสูงกว่าถั่วเหลือง และในคอร์เบล์ท (corn belt) ที่เหมาะสำหรับปลูกข้าวโพดในปีนี้ ก็ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ยกเว้น ในนอร์ธ ดาโกต้า

คาดการณ์สต๊อกใหม่

               อิทธิพลของพื้นที่เพาะปลูกใหม่ส่งผลต่อการคาดการณ์สต๊อกใหม่ แสดงให้เห็นว่า สต๊อกถั่วเหลืองสหรัฐฯน้อยลงร้อยละ ๑๘ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายนเทียบกับปีที่แล้ว ดังนั้น สต๊อกดังกล่าวน้อยลงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น

กดดันราคาเรพซีด

                  สำหรับพืชน้ำมันอีกชนิดอย่างเรพซีด คาดว่าจะเกิดแรงกดดันต่อราคา บางส่วนเป็นผลมาจากการเก็บเกี่ยวที่ใกล้เข้ามาในสหภาพยุโรป และปริมาณผลผลิตคาดว่าดีพอใช้ทั่วโลก เช่น พื้นที่เพาะปลูกในคานาคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

พยากรณ์ผลผลิตในสหภาพยุโรป

               การพยากรณ์ผลผลิตในสหภาพยุโรปมีแนวโน้มลดลง สำนักงานการตลาดฝรั่งเศส รายงานผลผลิตธัญพืชคาดว่าลดลงระหว่าง ๖๐๐,๐๐๐ ตันถึง ๑๙.๘ ล้านตัน โดยคาดการณ์ปรับใหม่ คณะกรรมาธิการยุโรป ตั้งเป้าผลผลิตไว้ ๑๙.๙๑ ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๙ หรือ ๑๙.๕๔ ล้านตันในปี พ.ศ.๒๕๖๕ แต่ต่ำลง ๐.๓ ล้านตันจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคมปีนี้

คานาดาเพิ่มการเพาะปลูกเรพซีด

               การเพาะปลูกเรพซีดในคานาดาคาดว่าจะขยายพื้นที่ขึ้นร้อยละ ๓.๒ ในปีนี้เป็น ๘.๙๔ ล้านเฮกเตอร์ จากรายงานข้อมูลทางสถิติในคานาดาโดย StatCan ทั้งนี้การขยายพื้นที่เพาะปลูกเรพซีดในคานาดาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้อย่างมาก ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า สภาวะอากาศในฤดูกาลเพาะปลูกจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อปริมาณผลผลิตในพื้นที่ คานาดาเป็นประเทศที่มีการผลิตเรพซีดมากที่สุดในโลก

               ในปีที่ผ่านมา คานาดาผลิตเรพซีดได้รวมแล้ว ๑๘.๒ ล้านตัน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐซัสแคตเชวัน โดยมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ ๕๐ ของการผลิตรวม ราวร้อยละ ๓๐ ปลูกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในรัฐอัลเบอร์ตา และอีกร้อยละ ๑๕ ปลูกเพิ่มขึ้นในทางตะวันออกของมานิโตบา การขยายพื้นที่การเพาะปลูกเรพซีดในเมืองสำคัญอย่างรัฐซัสแคตเชวัน ขยายพื้นที่ขึ้นร้อยละ ๘.๘ คิดเป็น ๕ ล้านเฮกเตอร์เท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เป็นพื้นที่ขนาดเล็กๆ

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors. 2023. Oilseeds record significant price gains. [Internet]. [Cited 2023 Jul 6]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/market-trends-analysis-the-industrymarkets-2/oilseeds-record-significant-price-gains/

ภาพที่ ๑ เมล็ดพืชน้ำมันราคาแพง (แหล่งภาพ Canva)



วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ไมโครพลาสติกส่งผลเสียต่อสุขภาพไก่

 ผลการศึกษาใหม่ แสดงให้เห็นว่า ไมโครพลาสติก เหนี่ยวนำให้เกิดการเสียสมดุลจุลชีพในระบบทางเดินอาหาร และความผิดปรกติของระบบเมตาโบลิซึมในไก่เนื้อ นักวิจัยเตือนให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ทั่วโลกสำรวจการปรากฏของพลาสติกในวัตถุดิบอาหารสัตว์ และประเมินผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์

               รายงานการวิจัย แสดงให้เห็นถึง อันตรายของการปนเปื้อนด้วยไมโครพลาสติกต่อมนุษย์ และสัตว์ กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยหลายฉบับ บ่งชี้ว่า ไมโครพลาสติก สามารถปนเปื้อนตามห่วงโซ่อาหารไปยังสิ่งมีชีวิตในระดับที่สูงขึ้น หรือเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ รวมถึง ผ่านผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เนื้อสัตว์ และเกลือ ผลการศึกษาหลายครั้งสรุปได้ว่า การสะสมและการดูดซึมไมโครพลาสติกในสัตว์ชนิดต่างๆ ส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพ เช่น การกินไมโครพลาสติกส่งผลต่อความผิดปรกติของเมตาโบลิซึมในปลาม้าลาย และลดความสามารถในการสืบพันธุ์ของหอยออยสเตอร์ โดยวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีโอกาสปนเปื้อนสูง ได้แก่ ปลาป่น

               แม้ว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นถึง ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสรีรวิทยา และพฤติกรรมของสัตว์น้ำ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงผลกระทบต่อสัตว์ปีก ดังนั้น ล่าสุดนักวิจัยจึงทำการวิจัย และตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Science of the Total Environment  เพื่อศึกษาผลกระทบและกลไกของไมโครพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ โดยเฉพาะ ความสมดุลของเชื้อจุลชีพ และเมตาโบลิซึมในระบบทางเดินอาหาร  

การศึกษาไมโครพลาสติก

               เพื่อประเมินผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพทางเดินอาหารในไก่เนื้อ นักวิจัยได้ใช้ไก่เนื้อพันธุ์อาร์เบอร์ เอเคอร์อายุ ๑ วันเลี้ยงไปจนถึง ๒๘ วัน ลงลูกไก่ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมเป็นเวลา ๓ วัน เพื่อลดความเครียด ก่อนแบ่งออกเป็นกลุ่มการทดลอง ได้แก่ กลุ่มควบคุมลบ และกลุ่มที่ได้รับไมโครพลาสติก โดยเติมไมโครพลาสติกชนิดโพลีเอธิลีน (polyethylene microplastics) ขนาด ๒๐๐ มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ละกลุ่มมีไก่จำนวน ๓๐ ตัว 

การเจริญเติบโต และฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ

               ผลการศึกษา บ่งชี้ว่า การได้รับไมโครพลาสติก ทำให้การเจริญเติบโตของไก่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยสังเกตได้จากการลดน้ำหนักตัวในกลุ่มที่ได้รับไมโครพลาสติก นักวิจัยยังสังเกตเห็นฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ลดลงของไก่ โดยดูจากฤทธิ์การต่อต้านอนุมูลอิสระโดยรวมที่ลดลง และเอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระทั้ง ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมูเตส และ กลูตาธัยโอนเพอรอกซิเดส สอดคล้องกับผลการตรวจเครื่องหมายบ่งชี้ความเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) และสภาวะการต้านอนุมูลอิสระโดยใช้สาร มาลอนไดอัลดีไฮด์ (malondialdehyde, MDA) พบสูงขึ้นในไก่ที่ได้รับอาหารสัตว์ที่มีไมโครพลาสติก

               การเจริญเติบโตที่ลดลงเป็นผลมาจากไมโครพลาสติกที่ก่อให้เกิดความเครียดออกซิเดชัน และการเสียหน้าที่ของอวัยวะสำคัญ ได้แก่ ตับ ไต และม้าม

               การเปลี่ยนแปลงทางจุลพยาธิวิทยา แสดงให้เห็นว่า ตับ ไต และม้าม ในกลุ่มควบคุมมีโครงสร้างปรกติ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพ ขณะที่กลุ่มการทดลองที่ได้รับไมโครพลาสติกเกิดการอักเสบของตับ เกิดความผิดปรกติของการสร้างกลอเมอรูลัสที่ไต และส่วนไวต์พัลพ์ที่เป็นตำแหน่งของเม็ดเลือดขาวมีจำนวนเซลล์ลดลง ยิ่งกว่านั้น วิลไลที่ลำไส้ของไก่กลุ่มควบคุมยังเป็นปรกติ แตกต่างจากกลุ่มทดลองที่ได้รับไมโครพลาสติก พบว่า การจัดเรียงเซลล์หลวมๆ ไม่เป็นระเบียบ อย่างผิดปรกติ

ความสมดุลของเชื้อจุลชีพในลำไส้

               เชื้อจุลชีพในลำไส้มีหน้าที่หลายประการ เนื่องจาก ความหลากหลายของเชื้อจุลชีพ และเกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสมดุลของการทำงานระบบทางเดินอาหาร และสุขภาพสัตว์ ตามปรกติ เชื้อจุลชีพในลำไส้มีสภาวะที่สมดุล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลำไส้ที่จะทำหน้าที่ได้ตามปรกติ

               ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า การเสียสมดุลของเชื้อจุลชีพในลำไส้ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันที่เยื่อเมือกลำไส้เกิดความบกพร่อง และเกิดการเสียหน้าที่ของปราการสำคัญสำหรับป้องกันเชื้อโรค ทำให้มีความไวรับต่อเชื้อก่อโรค 

สอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ไก่ที่ได้รับไมโคพลาสติกเป็นเวลา ๒๘ วัน ส่งผลให้เชื้อจุลชีพในลำไส้เสียสมดุล ความหลากหลาย และปริมาณของเชื้อจุลชีพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อแบคทีเรียที่เปลี่ยนแปลงไปส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง เชื้อแบคทีเรีย ๑๔ จีนัสหายไปจากไมโครไบโอตาของไก่ทดลองที่ได้รับไมโครพลาสติก บ่งชี้ถึง ความล้มเหลวของเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ในการปรับตัวได้ภายในสิ่งแวดล้อมของลำไส้ ได้แก่ บิวไทริซิคอคคัส รูมิโนคอคคัส กลุ่มเชื้อ คริสเทนเซเนลลาซีอี อาร์ ๗ แลคโนสไปราซีอี_ยูซีจี_๐๑๐ แบคเทอรอยเดส เบลาเทีย ไบฟิโดแบคทีเรียม อินเทสทินิโมแนส และแลคโตคอคคัส ซึ่งเป็นเชื้อจุลชีพที่เป็นประโยชน์ในลำไส้

ไบฟิโดแบคทีเรียม และแลคโตบาซิลลัส เป็นที่ทราบกันดีถึงคุณสมบัติสำคัญทางชีววิทยา เช่น การส่งเสริมการย่อยสารอาหาร และการดูดซึม การหลั่งเปปไทด์ต่อต้านเชื้อจุลชีพ และเพิ่มภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโต ในเวลาเดียวกันเชื้อ เบลาเทีย รูมิโนคอคคัส และ แลคโนสไปราซีอี เป็นผู้ผลิตที่สำคัญของกรดไขมันสายสั้น ซึ่งช่วยให้พลังงาน ส่งเสริมการเพิ่มจำนวนเซลล์ เมตาโบลิซึมของลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ปีก

ผลการศึกษา แสดงให้เห็นว่า กรดไขมันสายสั้น สามารถควบคุมไมโครไบโอตาในลำไส้ และการทำหน้าที่เป็นปราการป้องกันของลำไส้ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับสุขภาพสัตว์ นอกจากนั้น เชื้อแบคทีเรียก่อโรค แอโรคอคคัส เอนเทอโรคอคคัส และ รูริซิแบคเทอร์ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไก่ที่ได้รับไมโครพลาสติก

เมตาโบลิซึมของระบบทางเดินอาหาร

               เชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ในลำไส้สามารถหลั่งสารเมตาโบไลต์ได้หลายชนิดที่มีหน้าที่จำเพาะ และมีบทบาทสำคัญในการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างไมโครไบตาในลำไส้ และเซลล์ของโฮสต์ สารเมตาโบไลต์เหล่านี้สามารถทำหน้าที่ได้ในอวัยวะต่างๆ ทั้งตับ ไต และสมอง ผ่านระบบไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกาย และเฉพาะแห่ง ดังนั้น จึงช่วยควบคุมสุขภาพสัตว์ให้เป็นปรกติ นักวิจัยพยายามศึกษาระบบเมตาโบโลมิกโดยไม่กำหนดเป้าหมาย เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสารเมตาโบไลต์ต่างๆในลำไส้ไก่ระหว่างที่ได้รับสารไมโครพลาสติก พบว่า การได้รับสารไมโครพลาสติกส่งผลทางลบต่อวิถีเมตาโบลิก ๕ ชนิดด้วยกัน ทั้งเมตาโบลิซึมของกรดอะมิโน ทรานส์พอร์เตอร์ชนิดเอบีซี การย่อยและดูดซึมวิตาม การดูดซึมแร่ธาตุ และเมตาโบลิซึมของฮิสติดีน

               นักวิจัยสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในวิถีเมตาโบลิซึมของกรดอะมิโน ร่วมกับการลดลงของระดับ แอล-เซอรีน และออร์นิธีน อย่างมีนัยสำคัญ แอล-เซอรีน มีหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับระบบเมตาโบลิซึมหลายอย่างในกระบวนการพัฒนาต่างๆ เช่น การให้พรีเคอร์เซอร์สำหรับการสังเคราะห์สารสื่อประสาท โปรตีน ฟอสโฟกลีเซอไรด์ สฟิงโกลิปิด และฟอสฟาทิดิลเซอรีน เป็นต้น และ ออร์นิธีน เป็นองค์ประกอบสำคัญของวงจรยูเรียน ช่วยลดแอมโมเนียในร่างกายสัตว์โดยการทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียที่ผลิตโดยกระบวนการเมตาโบลิซึมของกรดอะมิโน ดังนั้น จึงช่วยลดความเป็นพิษของแอมโมเนียต่อเซลล์

               นอกเหนือจากนั้น การได้รับไมโครพลาสติก ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในวิถีการดูดซึมวิตามินและเกลือแร่ และลดสารเมตาโบไลต์ที่เกี่ยวข้องหลายชนิด เช่น ไรโบฟลาวิน โดยไรโบฟลาวินเกี่ยวข้องกับเมตาโบลิซึมพลังงานของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน รวมถึง ปฏิกิริยารีด๊อกของลิปิดและกรดอะมิโน ซึ่งช่วยเพิ่มการใช้พลังงาน และรักษาสุขภาพสัตว์ให้เป็นปรกติ

               ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการลดลงของระดับแอล-กลูตามีน และคาร์โนไซน์ในไก่ที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยไมโครพลาสติก บ่งชี้ว่า แอล-กลูตามีน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน โดยเพิ่มการสำรองกลูตาธัยโอนในเซลล์เนื้อเยื่อและกระตุ้นการเพิ่มจำนวนลิมโฟไซต์ โดยคาร์โนไซน์ ช่วยเก็บกินอนุมูลอิสระ และอัลฟา-เบต้า อัลดีไฮด์ที่สร้างขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของกรดไขมันที่มีมากเกินไปในเยื่อหุ้มเซลล์ระหว่างที่เกิดความเครียดออกซิเดชัน แสดงให้เห็นถึง ความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งกว่าปรกติ ดังนั้น การลดลงของระดับแอล-กลูตามีน และคาร์โนไซน์ ในลำไส้ น่าจะมีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บของเซลล์ลำไส้ และการลดลงของความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระ

เป้าหมายในอนาคต

               สรุปได้ว่า การได้รับสารไมโครพลาสติกส่งผลกระทบทางลบต่อการเจริญเติบโตในไก่เนื้อ และขัดขวางภาวะสมดุลและเมตาโบลิซึมของเชื้อจุลินทรีย์ ในการศึกษาล่าสุดยังทดสอบเฉพาะไมโครพลาสติกเพียงชนิดเดียว ในอนาคตมีเป้าหมายที่จะเพิ่มชนิดของไมโครพลาสติก ค้นหากลไกการเคลื่อนย้ายสารไมโครพลาสติกในร่างกายสัตว์ และผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ผลวิจัยครั้งนี้เป็นการเตือนภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ทั่วโลก ให้ควบคุมการใช้และทิ้งผลิตภัณฑ์พลาสติก และลดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ได้  

เอกสารอ้างอิง

Wedzerai M. 2023. Microplastics affect chickens, too. [Internet]. [Cited 2023 Jun 27]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/microplastics-affect-chickens-too/

ภาพที่ ๑ ไมโครพลาสติกพบได้ในน้ำและดิน ในไก่เนื้อส่งผลต่อการเจริญเติบโตและรบกวนสมดุลและเมตาโบลิซึมของจุลินทรีย์ในลำไส้ (แหล่งภาพ Wedzerai M., 2023)



วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ยุโรปเพิ่มความเข้มงวดกฏระเบียบไบโอไซด์

 ความเข้มงวดกฏระเบียบไบโอไซด์ในยุโรปอาจส่งผลให้จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการควบคุม       

กฏระเบียบสำหรับการใช้สารฆ่าเชื้อชนิดไบโอไซด์ กำลังเพิ่มความเข้มงวดขึ้นทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ ไบโอไซด์ในยุโรปกำลังอยู่ตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ขณะที่ก่อนหน้านี้ แต่ละประเทศก็มีกฏระเบียบของประเทศตัวเอง รวมถึง หน่วยงานตรวจประเมิน สหภาพยุโรปเพิ่งเปลี่ยนแปลงระบบการขึ้นทะเบียนใหม่ที่เข้มงวด เพื่อสร้างบูรณาการทั่วทั้งสหภาพยุโรป ทั้งนี้นำโดย ECHA ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ออกกฏระเบียบ BPR (European Biocidal Product Regulation) ดังนั้น Intra Hydrocare จึงเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นสารฆ่าเชื้อในน้ำดื่มได้สำหรับสัตว์

ผลิตภัณฑ์เพอร์ออกไซด์ที่เป็นเอกลักษณ์

               กฏระเบียบ BPR มีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากด้านความปลอดภัย พิษวิทยา ความเป็นพิษต่อระบบนิเวศ และประสิทธิภาพของสารฆ่าเชื้อ ยิ่งกฏระเบียบใหม่นี้เป็นการรับประกันว่า ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยอย่างยิ่ง และยังมีประสิทธิภาพดีในการใช้งาน ในกฏระเบียบ BPR สามารถขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิดเรียกว่า PT-group สำหรับ Intra Hydrocare นี้ขึ้นทะเบียนสำหรับใช้ใน

1.)      PT02 สำหรับใช้ในครัวเรือน และการแพทย์

2.)      PT03 สำหรับใช้ในทางสัตวแพทย์

3.)      PT04 สำหรับอาหารและอาหารสัตว์

4.)      PT05 สำหรับน้ำให้สัตว์กิน

ในทางปฏิบัติ ขนาดของสารฆ่าเชื้อ ๕๐ พีพีเอ็ม หรือ ๕๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๑,๐๐๐ ลิตร ในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ สำหรับทะเบียน PT05 ผลิตภัณฑ์ Intra Hydrocare ได้รับรองให้ใช้ในขนาดที่สูงที่สุด ๒๕๐ พีพีเอ็ม เป็นผลิตภัณฑ์เพียงชนิดเดียวที่อนุญาตให้ใช้ในขนาดที่สูงระดับนี้ในน้ำให้สัตว์กิน หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีความปลอดภัยต่อสัตว์ปีกอย่างมาก

ความสำคัญของการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ

               ไบโอฟิล์มเกิดขึ้นในระบบน้ำตลอดเวลาระหว่างการเลี้ยง ดังนั้น จึงมีความสำคัญอย่างมากที่จะทำความสะอาด และฆ่าเชื้อระบบน้ำ ไม่ใช่ขณะที่ พักโรงเรือนเท่านั้น แต่รวมถึงขณะที่เลี้ยงสัตว์ภายในโรงเรือนด้วย การก่อตัวของไบโอฟิล์มในระบบการจ่ายน้ำได้รับการพิสูจน์แล้วจากรายงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก การใช้คลอรีนที่มีความเข้มข้นระดับต่ำ ปานกลาง หรือสูงก็ไม่สามารถป้องกันได้

               ไบโอฟิล์มในระบบน้ำกินเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพสัตว์ เมื่อให้วัคซีน อาหารเสริม และยาปฏิชีวนะในน้ำกิน ก็จะถูกดักจับไว้ด้วยไบโอฟิล์มทำให้สัตว์ได้รับไม่ครบถ้วน แต่ยังเป็นสารอาหารสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพสร้างไบโอฟิล์มต่อไปอีกด้วย เมื่อไบโอฟิล์มเจริญสมบูรณ์ เชื้อจุลชีพจะเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายไบโอฟิล์มที่สามารถแพร่กระจายไปได้ทั่วทั้งระบบน้ำ

               ฐานข้อมูลของ ECHA สามารถตรวจสอบยืนยันได้โดยใช้ผ่านรายชื่อสารฆ่าเชื้อตามลิงก์นี้ ซึ่งเป็นรื่อผลิตภัณฑ์ที่อนุญาตให้ใช้ได้ในตลาด EU/EEA  https://echa.europa.eu/nl/information-on-chemicals/biocidal-products หากผลิตภัณฑ์ใดไม่มีตามรายชื่อในฐานข้อมูลของ EU-BPR แสดงว่า ไม่อนุญาตให้ใช้ได้ ผู้ผลิตสัตว์ปีกจำเป็นต้องตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจส่งผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงได้

รักษาระบบน้ำให้สะอาดเสมอ

                ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ทั่วไปไม่สามารถป้องกันการก่อตัวของไบโอฟิลม์ได้ เนื่องจาก สารฆ่าเชื้อทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วเกินไปกับสิ่งปนเปื้อนตั้งแต่ช่วงแรกของระบบ ขณะที่ พื้นที่อันตรายปนเปื้อนสูงจะเป็นส่วนสุดท้ายของระบบ นอกจากนั้น ยังเป็นตำแหน่งภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ปีกที่มีอุณหภูมิน้ำสูงกว่า และความเร็วน้ำต่ำกว่าด้านหน้าโรงเรือน

               ผลิตภัณฑ์ Intra Hydrocare เป็นสารฆ่าเชื้อไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ ในเกรดเภสัชกรรม ที่ช่วยให้ระบบน้ำทั้งระบบปลอดจากไบโอฟิลม์ ใช้ได้ขณะที่มีสัตว์ในโรงเรือน เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ผลิตสัตว์ปีกที่จะต้องตรวจสอบผลิตภัณฑ์สารฆ่าเชื้อที่ใช้สอดคล้องกับกฏหมายความปลอดภัยทางชีวภาพของยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกคืนสินค้า

เอกสารอ้างอิง

Roijacker D. 2023. Stricter biocide regulations may lead to necessary measures. [Internet]. [Cited 2023 Jun 26]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/stricter-biocide-regulations-may-lead-to-necessary-measures/

ภาพที่ ๑ ยุโรปเพิ่มความเข้มงวดกฏระเบียบไบโอไซด์ (แหล่งภาพ Intracare)



วิวัฒนาการเชื้อไวรัสนิวคาสเซิล

  ขณะที่ วัคซีนช่วยลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคนิวคาสเซิล การระบาดก็ยังพบได้อยู่ โดยมีอัตราการตายสูง และกำจัดสัตว์ที่ติดเชื้อ มีผลกระทบเ...