อียูแบนเนื้อไก่ยูเครนจากหวัดนก

ยูเครนเองที่กล่าวว่า อียูระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากยูเครนแล้ว ภายหลังการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘ ในประเทศ

ตามประกาศของเวบไซต์ Ukrain's State Service on Food Safety and Consumer Protection โฆษกรัฐบาลกล่าวถึง เนื้อสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกแปรรูปที่ผ่านการให้ความร้อนถูกระงับการส่งออก แต่ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์ ยังไม่ถูกระงับการนำเข้า ยูเครนอ้างว่า การรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกเป็นไปตามข้อบังคับขององค์การโรคระบาดสัตว์โลก และองค์การค้าโลก

ขณะนี้ มาตรการควบคุมโรคได้ดำเนินการแล้วตามข้อกำหนดระหว่างประเทศ รวมถึง การกำหนดโซนป้องกันโรค และทำลายฝูงสัตว์ป่วยอย่างมีมนุษยธรรม โดยร่วมมือกับคู่ค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ การเจรจาต่อรองเริ่มด้วยการขอให้อียูยอมรับข้อตกลงทำความเข้าใจร่วมกันตามหลักการโซนนิ่งที่เป็นหนึ่งในข้อกำหนดขององค์การโรคระบาดสัตว์โลก    

ก่อนหน้านี้ ยูเครนเป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกรายสำคัญห้าลำดับแรกของโลก

เอกสารอ้างอิง

Davies  J. 2020. AI prompts EU to block poultry from Ukraine. [Internet]. [Cited 2020 Jan 24]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/1/AI-prompts-EU-to-block-poultry-from-Ukraine-531472E/?utm_source=tripolis&utm_medium=email&utm_term=&utm_content=&utm_campaign=poultry_world 

ภาพที่ ๑ อียูระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากยูเครนแล้ว ภายหลังการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘  (แหล่งภาพ pixabay)

กระแสตลาดพลิกกลับค้านไก่โตช้า

นับจากทศวรรษนี้เป็นต้นไป อุตสาหกรรมไก่เนื้อจะเผชิญหน้ากับปัญหาเดิมคือพันธุกรรมไก่เนื้อโตช้า แต่กระแสตลาดอาจพลิกกลับค้านการเลี้ยงไก่โตช้า

ผลการศึกษาใหม่

ปีนี้มหาวิทยาลัยกวัฟล์คาดว่าจะเผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีการศึกษาไก่เนื้อโตช้าจำนวนมาก คาดว่า จะช่วยเป็นกุญแจสำคัญให้กับการเลี้ยงไก่เนื้อตามหลักการสวัสดิภาพสัตว์ได้ดี โดยการศึกษาจะได้รับความสนใจจากผู้ผลิตสัตว์ปีกทั่วโลก รวมถึง องค์กรผู้ให้การรับรองระบบสวัสดิภาพสัตว์ โดยจะช่วยให้เข้าใจว่า ความเร็วในการเพิ่มน้ำหนักตัวไก่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพสัตว์โดยรวม และสวัสดิภาพสัตว์ได้อย่างไร สำหรับระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ไก่เนื้อโตช้าถูกวิจารณ์ว่า ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่สามารถใช้ได้ในทางปฏิบัติ ในทางปฏิบัติ ไก่เนื้อโตช้าจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าเพื่อผลิตให้ได้ปริมาณโปรตีนเท่าเทียมกัน เมื่อเปรียบเทียบแล้ว พันธุ์ไก่เนื้อ และโรงเรือนปรกติที่นิยมเลี้ยงกันในปัจจุบันช่วยลดการใช้ทรัพยากรสำหรับการผลิตโปรตีนได้ไปอีก ๖๐ ปี

การทดลองระดับเชิงพาณิชย์

ในสหรัฐฯ บริษัทรายหนึ่งได้พยายามเลี้ยงไก่เนื้อโตช้าด้วยตนเอง และเดินก้าวไปข้างหน้าต่อไป ได้แก่ ฟาร์มเมอร์ ไพรด์ อิงค์ เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ เบลล์ และอีวานส์ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ บริษัทได้เปลี่ยนมาใช้พันธุ์ไก่ลูกผสม เนื่องจาก ไม่สามารถเลี้ยงไก่เนื้อโตช้าในเชิงพาณิชย์ให้ประสบความสำเร็จได้

ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ บริษัท เบลล์ และอีวานส์ เริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเป็นไก่เนื้อโตช้า โดยเริ่มนำมาเลี้ยงในฟาร์มจริง ไก่มีปัญหาสุขภาพ และประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้บริษัทจำเป็นต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการเลี้ยงพันธุ์ไก่ลูกผสมในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ด้วยการใช้สายพันธุ์ใหม่ร่วมกับปรับการจัดการบางอย่างสำหรับไก่เนื้อโตช้า เจ้าของบริษัท และประธานบริษัท สก๊อต เซคเลอร์ กล่าวถึง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้การเลี้ยงไก่เนื้อโตช้าประสบความสำเร็จได้ ถึงเวลาที่ต้องจับขายแล้ว ไม่มีใครอยากจ่ายเงินเพิ่มสำหรับไก่เนื้อโตช้าในปัจจุบัน เบลล์ และอีวานส์ ต้องขายสินค้าขาดทุน

เบลล์ และอีวานส์ เริ่มตั้งแต่โรงฟักจนถึงการบรรจุสินค้า แล้วตั้งราคาเป็นสินค้าพรีเมียมที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถผลิตสินค้าที่เป็นไปได้ดีที่สุด

ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ประสบปัญหาแล้ว

เมื่อกลางทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมก็ประสบปัญหากับการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงเป็นไม่ขังกรง ผู้บริโภคต้องการซื้อ หรือจำหน่ายเฉพาะไข่ไก่จากฟาร์มที่เลี้ยงไม่ขังกรงเท่านั้น ดังนั้น ผู้ประกอบการฟาร์มไก่ไข่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงทั้งโรงเรือน และพันธุ์ไก่ไข่ ไข่ไก่ที่เลี้ยงไม่ขังกรงมีต้นทุนสูงสำหรับผู้ผลิต ไม่มีใครอยากจ่ายเพิ่มต้นทุน

โลกแห่งความฝัน และโลกแห่งความจริง

ในเวลานี้การเปลี่ยนพันธุ์ไก่เป็นสิ่งแรกที่ถูกกระตุ้นโดยแรงกดดันทางตลาดเทียมของนักเคลื่อนไหวด้านสวัสดิภาพสัตว์ ตัวอย่างของการเลี้ยงไก่ไม่ขังกรง กลุ่มนักเคลื่อนไหวประสบความสำเร็จในการเลือกสร้างแรงกดดันกับภาคส่วนที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการตอบสนองต่อแรงกดดันได้ดีที่สุด ในช่วงเวลาอันสั้น การเลี้ยงไก่ไข่โดยไม่ขังกรงมาจากผลิตภัณฑ์ผลประโยชน์เสริมให้กับมาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิตไข่ไก่ เป็นแผนที่นำทางที่กำหนดไว้ให้ได้ในอนาคต ทั้งไข่ไก่จากแม่ไก่เลี้ยงไม่ขังกรง และเนื้อไก่โตช้าขายได้ยาก เนื่องจาก ยังไม่มีความต้องการที่แท้จริงมากนักสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากนั้น ยังไม่มีความต้องการมากเพียงพอในตลาดที่จะจ่ายเงินเพิ่มสำหรับราคาสินค้าพรีเมียม จนมีพลังเพียงพอที่จะทำให้ผู้ประกอบการอยากผลิตสินค้าเหล่านี้

  ในระยะสั้น ถ้า และเมื่อผู้ประกอบการผลิตสัตว์ปีกนำสินค้าเหล่านี้ออกสู่ตลาด ก็จะกลายเป็นผู้แพ้ในตลาดอย่างแน่นอน ผู้ประกอบการจะต้องลงทุนเพิ่ม สร้างมลพิษมากขึ้น และถูกกดดันมากขึ้นให้ต้องทำโน่นทำนี้จ่ายเงินลงทุนไปเรื่อย ผู้ชนะจะเป็นนักเคลื่อนไหวรณรงค์สวัสดิภาพสัตว์เท่านั้น

เอกสารอ้างอิง

Alonzo  A. 2020. A new decade to resist slow-growing genetics. [Internet]. [Cited 2020 Jan 15]. Available from: https://www.wattagnet.com/blogs/47-us-poultry-industry-insights/post/39456-a-new-decade-to-resist-slow-growing-genetics

ภาพที่ ๑ นับจากทศวรรษนี้เป็นต้นไป อุตสาหกรรมไก่เนื้อจะเผชิญหน้ากับปัญหาเดิมคือพันธุกรรมไก่เนื้อโตช้า (แหล่งภาพ Bell & Evans)

หวัดนกยุโรปลามโรมาเนีย

โรมาเนียเป็นประเทศล่าสุดในยุโรปตะวันออกที่รายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘

โดยการระบาดครั้งล่าสุดใกล้กับเมือง Seini บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศใกล้กับพรมแดนฮังการีที่เกิดการระบาดมาแล้วช่งต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

กรมปศุสัตว์โรมาเนียแจ้งต่อองค์การสุขภาพสัตว์โลก หรือโอไออีว่า การระบาดได้เกิดขึ้นในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์จำนวน ๑๘,๐๐๐ ตัว ขณะนี้ กำลังดำเนินการทำลายสัตว์ป่วยทิ้งในฟาร์ม และควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค

การระบาดครั้งนี้ติดตามมาจากการระบาดระลอกใหม่ในยุโรปตะวันออกจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ที่รุกลามอย่างรวดเร็วในหลายฟาร์มของประเทศ โปแลนด์ ฮังการี และสัตว์ปีกหลังบ้านในสโลวาเกีย

 เอกสารอ้างอิง

Davies  J. 2020. Romania confirms H5N8. [Internet]. [Cited 2020 Jan 15]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/1/Romania-confirms-H5N8-AI-526810E/

ภาพที่ ๑ โรมาเนียเป็นประเทศล่าสุดในยุโรปตะวันออกที่รายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ (แหล่งภาพ Henk Riswick)

สงสัยหวัดนกในไอร์แลนด์เหนือ

ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกในไอร์แลนด์เหนือได้รับเตือนภัยระดับสูงภายหลังสงสัยติดเชื้อโรคไข้หวัดนกที่ฟาร์มสัตว์ปีกเทศมณฑลเฟอร์แมนา ห้องปฏิบัติการกำลังเร่งตรวจสอบว่า ฝูงสัตว์ปีกดังกล่าวเกิดโรคไข้หวัดนก หรือนิวคาสเซิลกันแน่

ขณะนี้ กระทรวงเกษตร สิ่งแวดล้อม และชนบท (DAERA) แห่งไอร์แลนด์เหนือ รายงานอ้างถึงสัตวแพทย์อิสระรายหนึ่งวิตกถึงการตายผิดปรกติของสัตว์ปีกในฟาร์มเมื่อวันที่ ๒ มกราคมที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า ผลการตรวจสอบสาเหตุของการตายสัตว์ปีกน่าจะออกภายในไม่กี่วันนี้

ถึงเวลานี้ในยุโรป โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงต่ำได้ระบาดในฟาร์มไก่พันธุ์ (เนื้อ) ที่มณฑลซัฟฟอล์กทางตะวันออกของเกาะอังกฤษเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในฟาร์มไก่งวงในโปแลนด์  

ขณะนี้ DAERA ได้จำกัดการเคลื่อนย้ายสัตว์ในฟาร์ม เก็บตัวอย่างส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบทั้งโรคไข้หวัดนก และนิวคาสเซิล

ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ

ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทั้งหมดได้รับการแจ้งเตือนให้ระมัดระวัง และหากสงสัยว่าสัตว์มีอาการของโรคในฝูง ต้องแจ้งให้กับ DAERA ทันที ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกรายในไอร์แลนด์เหนือถูกควบคุมโดยกฎหมายให้ขึ้นทะเบียนสัตว์กับ DAERA ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทั้งหมด ยังรวมถึง ฝูงสัตว์ปีกที่เลี้ยงหลังบ้าน และสัตว์ปีกที่เลี้ยงเพื่อใช้ในเกมส์กีฬา และสัตว์ปีกเลี้ยงดูเล่นจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และรักษาความปลอดภัยระดับสูงไว้ตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มของตนเอง สำหรับ DAERA ได้ใช้บริการเตือนภัยด้วยข้อความให้กับผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกรายได้รับทราบรายงานแจ้งเตือนการระบาดของโรค หรือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรค เพื่อให้ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเพื่อคุ้มครองฝูงสัตว์ปีกของตนเองล่วงหน้า โดยสามารถสมัครรับข้อมูลดังกล่าวได้โดยข้อความง่ายๆ "BIRDS" ต่อ ๖๗๓๐๐

เอกสารอ้างอิง

Davis  J. 2020. Suspected case of AI in Northern Ireland. [Internet]. [Cited 2020 Jan 8]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/1/Suspected-case-of-AI-in-Northern-Ireland-523311E/?utm_source=tripolis&utm_medium=email&utm_term=&utm_content=&utm_campaign=poultry_world%3E

ภาพที่ ๑ หวัดนกระบาดในไอร์แลนด์เหนือ (แหล่งภาพ Broker/Rex/Shutterstock)

Machine learning คัดแยกลูกไก่ไข่เพศผู้

เทคนิคใหม่การเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อพยากรณ์เพศลูกไก่ในไข่ฟักโดยอาศัยการวิเคราะห์สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือวีโอซี

บูรณาการเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องจักร และใยแก้วนำแสงจะช่วยให้อุตสาหกรรมไก่ไข่สามารถแยกเพศลูกไก่ได้ตั้งแต่ในไข่ เทคนิคนี้ถูกพัมนาในห้องปฏิบัติการของนักชีววิทยาคอมพิวเตอร์ อดัม ริเวอร์ ปฏิบัติงานใน ARS กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ โดยริเวอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของเครื่องจักร ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ ให้คอมพิวเตอร์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ และอัลกอริทึม เพื่อประกอบการตัดสินใจโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมให้ทำงานอีกต่อไป

เทคโนโลยีนี้อาศัยการสัมผัสกลิ่นของ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile organic compounds, VOCs) ในไข่ไก่ โดยนำสัญญาณจากกลิ่นไอระเหยของสารประกอบนี้กับวิธีการเรียนรู้ของเครื่องจักร หรือระบบคอมพิวเตอร์ แล้วพยากรณ์เพศ และการมีชีวิตของไข่ไก่ สำหรับวีโอซีนี้เป็นสารเคมีที่ปรากฏขึ้นตามธรรมชาติในสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตทุกชนิด การวิเคราะห์วีโอซีเคยนำมาใช้ตรวจสอบไบโอมาร์กเกอร์สำหรับโรคในทางการแพทย์มาแล้ว เช่น โรคเบาหวาน และมะเร็งปอด ก่อนที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการปรากฏให้เห็น 

 ปัจจุบัน วิธีนี้กำลังทดสอบในโครงการนำร่องขนาดเล็ก แต่ริเวอร์หวังว่าในไม่ช้าจะจับมือกับพันธมิตรธุรกิจในอุตสาหกรรมไข่ไก่ เพื่อนำเทคนิคที่จดทะเบียนสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้วนำมาใช้จริงกับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมไข่ไก่เชิงพาณิชย์

ชนะรางวัล เอ้กเทค

ผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้รางวัล ๑๒ ล้านบาทโดยมูลนิธิการวิจัยด้านการเกษตร และอาหาร (Foudation for Food and Agriculture Research, FFAR) โดยเป็นหนึ่งในรางวัลเอ้กเทคระยะที่ ๑ ที่ประกาศไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมานี้จากการประชุมสุดยอดเทคโนโลยีสัตว์ปีกที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐ ถึง ๒๒ เดือนพฤศจิกายนที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย  

เอกสารอ้างอิง

Doughman  E. 2020. Machine learning method could sort out male chicks. [Internet]. [Cited 2020 Jan 9]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/39433-machine-learning-method-could-sort-out-male-chicks 

ภาพที่ ๑ รเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องจักร และใยแก้วนำแสงจะช่วยให้อุตสาหกรรมไก่ไข่สามารถแยกเพศลูกไก่ได้ตั้งแต่ในไข่ (แหล่งภาพ nopow | iStockPhoto.com)

นิวคาสเซิลระบาดในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

รายงานโรคนิวคาสเซิลระบาดใหม่ ๖ ครั้ง โดยสี่ครั้งเกิดขึ้นในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เหลือในเมืองริเวอร์ไซด์ และลอสแอนเจลีส

โรคนิวคาสเซิลชนิดรุนแรง (virulent Newcastle disease, vND) มีรายงานในรัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างวันที่ ๒๐ ถึง ๒๖ ธันวาคม เป็นต้นมา ตามรายงานของหน่วยงานตรวจสอบด้านสุขภาพสัตว์ และพืช กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (APHIS, USDA) โดยการระบาด ๔ ครั้งพบในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย และอีกเมืองละ ๑ ครั้งในเมืองริเวอร์ไซด์ และลอสแอนเจลีส โดยสัตว์ปีกป่วยในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน และแคลิฟอร์เนียยืนยันแล้วว่าเป็นไก่เลี้ยงหลังบ้านสำหรับการแสดงประกวดสัตว์ ขณะที่ ในเมืองลอสแอนเจลลีสเป็นลูกไก่ในร้านค้าปลีกจำหน่ายอาหารสัตว์ ตัวอย่างจากฝูงสัตว์ถูกตรวจสอบที่ระบบห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัย และสุขภาพสัตว์แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Animal Health & Food Safety Laboratory System, CAHFS) และยืนยันที่ห้องปฏิบัติการบริการด้านสัตวแพทย์ระดับชาติในสังกัดของ APHIS ในเมืองเอมส์ รัฐไอโอวา

สัตว์ปีกป่วยทั้งหมดถูกทำให้เสียชีวิตทันทีตามรายงานจาก APHIS   

ก่อนหน้านี้รายงานการระบาด ๖ ครั้งข้างต้น มีรายงานการระบาดก่อนหน้านี้สองครั้งจาก vND ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และอีกสี่ครั้งยืนยันแล้วในเดือนพฤศจิกายน และในเดือนตุลาคมไม่มีรายงานการระบาดโรค

ขณะนี้ หน่วยงานกรมปศุสัตว์ของรัฐ และประเทศสหรัฐฯ กำลังเฝ้าระวังในพื้นที่ดังกล่าว

จนถึงวันที่ ๒๖ ธันวาคมที่ผ่านมา USDA ได้ยืนยันการเกิดโรค vND ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งหมด ๔๗๐ ฝูง ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย ๒๖๒ ฝูงอยู่ในเมืองริเวอร์ไซด์ และอีก ๑๕๘ ฝูงอยู่ในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน และอีก ๔๖ ฝูงในเมืองลอสแอนเจลีส มีเพียง แห่งละหนึ่งฟาร์มในเมืองเวนทูรา เมืองอะลามีดา และซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย นอกรัฐแคลิฟอร์เนีย ตรวจพบเชื้อไวรัสในเมืองยูทา และโคโคนิโน รัฐอะริโซนา  

สำหรับการระบาดครั้งนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เมื่อยืนยันการตรวจพบ vND ในไก่หลังบ้านสำหรับแสดงประกวดในเมืองลอสแอนเจลีส ก่อนหน้าปี พ.ศ. ๒๕๖๑ สหรัฐฯไม่เคยพบโรค vND เลย ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ผ่านมาสิบหกปีมาแล้ว

เอกสารอ้างอิง

Grabber R. 2019. Six new US virulent Newcastle disease cases confirmed. [Internet]. [Cited 2019 Dec 30]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/39384-six-new-us-virulent-newcastle-disease-cases-confirmed

ภาพที่ ๑ นิวคาสเซิลระบาดในสหรัฐฯ ๖ ครั้ง (แหล่งภาพ Dave Gostisha | Freeimages.com)

ซัลโมเนลลายังเป็นสาเหตุสำคัญโรคอาหารเป็นพิษในอียู

เกือบหนึ่งในสามของโรคอาหารเป็นพิษยังมีสาเหตุจากเชื้อ ซัลโมเนลลา ในสหภาพยุโรป ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามรายงานข้อมูลล่าสุด โดยเกือบทั้งหมด ร้อยละ ๖๗ ของผู้ป่วยด้วยเชื้อ ซัลโมเนลลา มีรายงานในสโลวาเกีย สเปน และโปแลนด์ โดยมีความเชื่อมโยงกับไข่ไก่

นิยามของคำว่า ระบาดของโรคอาหารเป็นพิษ หมายถึง อุบัติการณ์ที่มีผู้ป่วยอย่างน้อย ๒ คนมีอาการป่วยเหมือนกันจากอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อน เหมือนกัน ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป รายงานการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษแล้ว ๕,๑๔๖ ครั้ง โดยมีผู้ป่วย จำนวน ๔๘,๓๖๕ ราย

นักวิจัยจากเอฟซา (EFSA) มาร์ธา ฮูกาส แสดงความเห็นว่า รายงานจากยูโรบารอมิเตอร์ล่าสุดครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า พลเมืองยุโรปอย่างน้อยหนึ่งในสามประสบปัญหาโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรีย และยังจัดเป็นสุดยอด ๕ อันดับแรกของปัญหาด้านความปลอดภัยอาหารอีกด้วย

จำนวนครั้งของการระบาด แสดงให้เห็นว่า ยังมีพื้นที่สำหรับกระตุ้นสังคมให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาโรคอาหารเป็นพิษกับผู้บริโภค สามารถป้องกันได้โดยการเพิ่มมาตรการด้านสุขอนามัย เมื่อสัมผัส และเตรียมอาหาร

โรคซัลโมเนลโลซิส เป็นโรคติดเชื้อที่กระเพาะและลำไส้มีความสำคัญลำดับสองในสหภาพยุโรป โดยมีรายงานการระบาด ๙๑,๘๕๗ ราย ตามหลังโรคแคมไพโลแบคเทอริโอซิส มีรายงานการระบาด ๒๔๖,๖๗๑ ราย   

เอกสารอ้างอิง

Davies J. 2019. Salmonella most common cause of foodborne outbreaks in EU. [Internet]. [Cited 2019 Dec 30]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2019/12/Salmonella-most-common-cause-of-foodborne-outbreaks-in-EU-521052E/

ภาพที่ ๑ ซัลโมเนลลา ยังเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษในสหภาพยุโรป 

ไข้หวัดนกเอช ๕ เอ็น ๘ ระบาดในโปแลนด์

ต้อนรับปีใหม่ กรมปศุสัตว์โปแลนด์ประกาศโรคไข้หวัดนกชนิดรุนแรง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ทางตะวันออกของประเทศแล้ว

เชื้อไวรัสถูกตรวจพบในฟาร์มไก่งวงขนาด ๔๐,๐๐๐ ตัว กรมปศุสัตว์ได้ออกมาตรการป้องกันฉุกเฉินเพื่อหยุดการระบาดของโรคแล้ว

แหล่งข่าวจากโปแลนด์ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกอีกกว่า ๓๕๐,๐๐๐ ตัวที่มีความเสี่ยงภายในโซนกักกันโรค รัศมี ๓ กิโลเมตร นายกสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ปีกพันธุ์ และสัตว์ปีกโปแลนด์ ยืนยันต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ฟาร์มทั้ง ๓ แห่ง มีโอกาสติดโรคได้ ขณะนี้ หน่วยงานสัตวแพทย์กำลังปฏิบัติงานตามกระบวนการกำจัดโรค โดยเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่ระบาดครั้งนี้ยืนยันทางห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วว่าเป็น ชนิดรุนแรง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ที่สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้

เอกสารอ้างอิง

Brockotter F. 2020. High pathogenic bird flu in Poland. [Internet]. [Cited 2020 Jan 2]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/1/High-pathogenic-bird-flu-in-Poland-521437E/

 ภาพที่ ๑ กรมปศุสัตว์โปแลนด์ประกาศโรคไข้หวัดนกชนิดรุนแรง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ทางตะวันออกของประเทศ (แหล่งภาพ Marcel van Hoorn)

สี่เทรนด์ที่เปลี่ยนโฉมการผลิตไก่เนื้อในทศวรรษที่ผ่านมา

พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ทำลายล้างธุรกิจอาหารระหว่างทศวรรษที่ ๒๐๑๐

การผลิตเนื้อไก่เติบโต และเป็นที่นิยมอย่างมากตลอดทศวรรษที่ ๒๐๑๐ เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่เพิ่งผ่านพ้นมา ชาวอเมริกันบริโภคเนื้อไก่เฉลี่ย ๔๓.๖ กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจาก ๓๗.๘ กิโลกรัมเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ การผลิตเนื้อไก่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรตลอดสิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๓

๑. ความโปร่งใสในการเลี้ยงสัตว์กลายเป็นสิ่งสำคัญ

กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์พยายามรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ใช้ผลิตเป็นอาหารเป็นกระแสสำคัญระหว่างทศวรรษที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ผลการสำรวจจากพันธมิตรฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐฯ พบว่า เกือบร้อยละ ๖๐ ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวตรงกันว่า สวัสดิภาพสัตว์กลายเป็นเงื่อนไขที่สำคัญอย่างมากที่ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ร้องขอข้อมูลจากผู้ประกอบการฟาร์มผลิตเนื้อสัตว์เกี่ยวกับขั้นตอนการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น ผู้ประกอบการผลิตสัตว์ปีก และร้านค้าปลีกจึงพยายามร่วมกันทำงานเพื่อสร้างความโปร่งใสเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับขั้นตอนการเลี้ยง การให้อาหาร และการดูแลจัดการสัตว์ในฟาร์ม

 ตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งคือ โครงการไข่ดี (Good Egg Project) โดยสมาคมไข่ไก่ในสหรัฐฯ เว็บไซต์ของสมาคมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ผู้บริโภคสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองว่าจะสืบค้นอย่างไรว่า ไข่ไก่ที่ตัวเองบริโภคมาจากฟาร์มไหน เลี้ยงดูอย่างไร เกษตรกรผู้เลี้ยงแม่ไก่พยายามดูแลเอาใจใส่แม่ไก่ ชุมชน และโลกใบนี้ให้เขียวสดใสในทุ่งลาเวนเดอร์ได้อย่างไรบ้าง

๒. เนื้อจากพืชโผล่ขึ้นทุกหนแห่ง

 เมื่อสิบปีที่แล้ว วีแกน และผู้บริโภคมังสวิรัติเป็นกลุ่มลูกค้าหลักสำหรับอาหารจากพืช วันนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว เกือบร้อยละ ๙๐ ของผู้บริโภคไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นวีแกน หรือผู้บริโภคมังสวิรัติอีกต่อไปแล้ว แต่ผันตัวเองกลายเป็น "ผู้บริโภคมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น หรือ เฟล็กซิทาเรียน (Flexitarians)" ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และเอาใจใส่สุขภาพ เพื่อมุ่งลดการบริโภคเนื้อสัตว์ไม่ใช่เลิกบริโภคเนื้อสัตว์

 ยอดจำหน่ายเนื้อสัตว์จากพืช ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง ๑.๓ แสนล้านบาท ทะยานสูงขึ้นทีเดียวร้อยละ ๓๑ เพียงระยะเวลาสองปีเท่านั้น

๓. เทคโนโลยีช่วยเปลี่ยนวิถีของอาหาร

เชื่อหรือไม่ว่า เพียงร้อยละ ๓๕ ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯเท่านั้นที่มีมือถือเป็นของตัวเองตั้งแต่ทศวรรษที่ ๒๐๑๐ เป็นต้นมา แต่วันนี้จำนวนผู้ใช้มือถือเพิ่มเป็นสองเท่าถึงร้อยละ ๘๑ แล้ว

โทรศัพท์มือถือได้รับความนิยม และพัฒนาแอพลิเคชันใหม่ๆให้ใช้ได้ง่าย และสะดวกขึ้นในการสั่งของใช้ที่ส่งตรงถึงบ้าน บริการรับส่งอาหาร และรายการอาหารจากภัตตาคารชั้นนำ วิถีชีวิตที่รวดเร็วกับตารางเวลาที่ยุ่งจนไม่มีเวลา ทำให้ผู้คนสนใจสั่งซื้ออาหารออกมาจากร้านผ่านทางมือถือคิดเป็นสัดส่วนของยอดจำหน่ายจากร้านอาหารมากกว่าร้อยละ ๒๕ 

๔. เนื้อไก่อินทรีย์ และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

ผู้บริโภคต้องการเนื้อสัตว์ปีกอินทรีย์ และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายอาหารอินทรีย์เพิ่มเป็นสองเท่าระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวอ้างอิงตามสมาคมผู้จำหน่ายสินค้าอินทรีย์ในสหรัฐฯ

ผู้บริโภควิตกกังวลแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะมากขึ้น และให้ความสำคัญอย่างมากกับการใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตสัตว์ปีกเป็นอาหาร ผู้ผลิตเนื้อไก่อย่างไทสันฟู้ดได้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของตนเองเป็น ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเลยทีเดียว (No Antibiotic Ever, NAE) และบริษัท Fieldale Farms ประกาศไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในกระบวนการผลิตในปี พ.ศ. ๒๕๕๗

เอกสารอ้างอิง

Doughman  E. 2019. 4 trends that changed poultry production in the last decade.. [Internet]. [Cited 2019 Dec 23]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/39343-trends-that-changed-poultry-production-in-the-last-decade

ภาพที่ ๑ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ทำลายล้างธุรกิจอาหารระหว่างทศวรรษที่ ๒๐๑๐ (แหล่งภาพ Monkey Business Images | Dreamstime.com)