พันธุกรรมจัดการเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในไก่

 นักวิจัยอังกฤษอ้างว่า ค้นพบตำแหน่งของยีนส์ที่อาจช่วยให้ประดิษฐ์ไก่ให้มีความต้านทานต่อเชื้อ แคมไพโลแบคเตอร์ ได้ 

ในแต่ละปี ชาวอังกฤษมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ รายป่วยจากการติดเชื้อ แคมไพโลแบคเตอร์ เชื้อแบคทีเรียสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราวสองพันล้านบาทต่อปี ผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่า รหัสพันธุกรรมของไก่มีความสัมพันธ์กับความชุกของเชื้อ แคมไพโลแบคเตอร์ ในลำไส้ไก่ แต่ก็ยังพบว่า ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และปัจจัยที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการระบาดของเชื้อ แคมไพโลแบคเตอร์ 

 นักวิจัยจากสถาบันโรสลิน สก๊อตแลนด์ ร่วมงานวิจัยกับบริษัทผู้ผลิตพันธุ์ไก่ อะเวียเจน (Aviagen) ค้นคว้าข้อมูลทางพันธุกรรมของไก่เนื้อ ๓,๐๐๐ ตัว เพื่อหารหัสพันธุกรรมที่เชื่อมโยงกับความต้านทานต่อการเจริญเติบโตของเชื้อ แคมไพโลแบคเตอร์ ตำแหน่งข้อมูลรหัสพันธุกรรมบางแห่งในจีโนมของสัตว์ถูกตรวจติดตาม ร่วมกับการวิเคราะห์การแสดงออกของยีนส์ในไก่ที่มีความต้านทาน หรือความไวรับต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ ลูกไก่ทุกตัวได้รับเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อม เพื่อจำลองสถานการณ์หาคำตอบว่า ไก่ได้รับเชื้อในฟาร์มจริงได้อย่างไรบ้าง

ข้อมูล

ศาสตราจารย์ มาร์ก สตีเวนส์ หัวหน้าโครงการพยาธิกำเนิดของเชื้อจุลินทรีย์ที่สถาบันโรสลิส กล่าวถึง ข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความต้านทานต่อการสร้างนิคมของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ มีความสัมพันธ์กับคุณลักษณะทางพันธุกรรมต่ำ ปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญมากกว่าสำหรับเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในไก่ นอกจากนั้น ตำแหน่งของจีโนมที่เกี่ยวข้องกับความต้านทานต่อการสร้างนิคมของเชื้อพบได้สูงในสายพันธุ์ไก่ที่กำลังศึกษาอยู่ 

ดร.ริชาร์ด ไบเลย์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพของอะเวียเจน เสริมว่า ผลการวิจัยแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของปัจจัยทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการสร้างนิคมของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ ปัจจัยดังกล่าวมีบทบาทน้อย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องศึกษาคุณลักษณะ และทำความเข้าใจถึงบทบาทที่ไม่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อแสวงหากลยุทธ์ควบคุมระดับของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในสัตว์ปีก

ซูเปอร์มาร์เก็ตรายงานเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์

ซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ รายงานระดับของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในไก่ให้กับสำนักงานมาตรฐานอาหาร (FSA) แอสด้า รายงานสถิติที่แย่ที่สุดของร้านค้าปลีกในอังกฤษ ระหว่างไตรมาสที่สามของปีที่แล้ว พ.ศ.๒๕๖๓ ร้อยละ ๗.๗ ของตัวอย่างไก่ให้ผลบวก โดยอยู่ในระดับการปนเปื้อนที่สูงที่สุด นับเป็นครั้งที่สองแล้วในรอบสามไตรมาสที่ห้างแอสด้ามีระดับเกินกว่ากำหนดของ FSA ที่กำหนดไว้ร้อยละ ๗ โดยมีระดับของเชื้อสูงเกินกว่า ๑ ๐๐๐ ซีเอฟยูต่อกรัมของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์

สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ ได้แก่ Lidl ร้อยละ ๔ เทสโก้ ร้อยละ ๒ แซนส์เบอร์รี ร้อยละ ๒ มาร์กแอนด์สเปนเซอร์ ร้อยละ ๒ เวทโทรสร้อยละ ๑ และโคออป ร้อยละ ๐.๙ มอร์ริสัน ร้อยละ ๐.๙ และอัลดี มีระดับต่ำที่สุด ร้อยละ ๐.๖ ของไก่ที่มีเชื้อสูงเกินกว่า ๑ ๐๐๐ ซีเอฟยูต่อกรัม  

เอกสารอ้างอิง

McDougal T. 2021. Genetic insights could help tackle campylobacter in chicken. [Internet]. [Cited 2021 Feb 3]. Available from: https://www.poultryworld.net/Genetics/Articles/2021/2/Genetic-insights-could-help-tackle-campylobacter-in-chicken-705095E/ 

ภาพที่ ๑ พันธุกรรมจัดการเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในไก่  (แหล่งภาพ  Mark Pasveer)

มาตรการล็อกดาวน์ในอังกฤษกระทบธุรกิจไก่ไข่

 รัฐบาลสหราชอาณาจักรตัดสินใจปิดโรงเรียนทันที เนื่องจาก การแพร่กระจายของเชื้อโควิดแวเรียนต์ ขณะนี้ได้สร้างปัญหากับผู้ผลิตไข่ไก่แล้ว 

การตัดสินใจปิดโรงเรียนเพียงไม่กี่วันก่อนที่นักเรียนจะกลับไปเริ่มเทอมใหม่ ส่งผลต่อผู้ผลิตไข่ไก่รับภาระไข่ไก่จำนวนมากที่ไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่มีแม่ไก่ ๑๓,๐๐๐ ตัว ที่ฟาร์มฟลัฟเฟตต์ ฟอร์ดินบริดจ์ ฮานตส์ ผลตไข่ไก่ที่เลี้ยงปล่อยอิสระให้กับโรงเรียน ๓๕๐ แห่งในเมือง ถูกระงับคำสั่งซื้อทันทีภายหลังโรงเรียนปิด การยกเลิกคำสั่งซื้อของโรงเรียนทำให้ผู้ประกอบการเหลือไข่ไก่ที่ไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ ๔,๐๐๐ ฟอง ร้านอาหาร และร้านเหล้าก็ปิด ไม่สามารถหาทางระบายไข่ไก่ที่เหลือได้ เมื่อไม่สามารถขายไข่ได้ ก็ไม่มีเงินไปซื้ออาหารให้ไก่ และต้องให้ทางเลือกอื่นๆแทน 

ผู้ผลิตรายย่อย 

กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสัตว์ปีกปล่อยอิสระรายเล็ก ที่ผลิตไข่ไก่ขนาดกลางสำหรับบริการต้อนรับ และจัดเลี้ยง รวมถึง อาหารในโรงเรียน การประกาศควบคุมโรคครั้งล่าสุด ผู้ผลิตรายย่อยพยายามเรียกร้องให้ผู้บริโภคหันมาสนับสนุนร้านค้าปลีกท้องถิ่น และเลือกซื้อไข่ไก่ขนาดกลาง ความจริงแล้วน้ำหนักต่างกันไม่กี่กรัมเท่านั้น   

เครือข่ายผู้ค้าปลีกก็กำลังพยายามสต๊อกไข่ไก่ขนาดกลางมากขึ้น เรียกร้องให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อไข่ไก่ เพื่อสร้างสมดุลของปริมาณไข่ไก่ไม่ให้อาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าอาหารต้องกลายเป็นขยะทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์  

การรณรงค์สต๊อกไข่ไก่ขนาดกลาง

ภาคการผลิตสัตว์ปีกแบบปล่อยอิสระ กำลังรณรงค์ให้ผู้ค้าปลีกสต๊อกไข่ไก่ขนาดกลาง จนถึงปลายปี เชนซูเปอร์มาร์เก็ต มอร์ริสัน ประกาศขยายกิจกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรให้ครอบคลุมไข่ไก่ การจำหน่าย "Chuckle eggs" จะเพิ่มราคาขึ้นอีก ๑ เพนนีคืนให้กับเกษตรกร โดยแบรนด์สินค้าดังกล่าวจะจำหน่ายเป็นกล่องบรรจุไข่ไก่จำนวน ๑๒ ฟอง 

นานมาแล้วที่ผู้บริโภคชาวอังกฟษคุ้นเคยกับไข่ไก่ฟองใหญ่ ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลด้านความต้องการสินค้าเปรียบเทียบกับไข่ไก่ที่มีหลายขนาดจากการที่แม่ไก่วางไข่ในแต่ละรอบ ผู้ผลิตรายย่อยยินดีอย่างมากที่ห้างมอร์ริสันให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้ผู้บริโภคหันมาซื้อไข่ไก่ขนาดกลาง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสวัสดิภาพสัตว์ และลดแรงกดดันทางการตลาดต่อไข่ไก่ฟองใหญ่ และเป็นการตอบแทนเกษตรกรที่ทำงานอย่างหนัก โดยการคืนเงินด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย  

เอกสารอ้างอิง

McDougal T. 2021. Corona lockdown UK schools poses problems for UK egg sector. [Internet]. [Cited 2021 Jan 22]. Available from: https://www.poultryworld.net/Eggs/Articles/2021/1/Corona-lockdown-UK-schools-poses-problems-for-UK-egg-sector-699337E/ 

ภาพที่ ๑ มาตรการล็อกดาวน์ในอังกฤษก่อนที่นักเรียนจะกลับไปเรียนในภาคการศึกษาต่อไปไม่กี่วัน ได้ส่งกระทบต่อผู้ผลิตไข่ไก่อย่างมาก  (แหล่งภาพ Ton Kastermans)

เยอรมันแบนการทำลายลูกไก่เพศผู้ปีหน้า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตร Julia Klockner ว่า การทำลายลูกไก่เพศผู้อายุ ๑ วัน จะถือเป็นการผิดกฏหมายนับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป 

การแถลงข่าวเน้นย้ำจุดเริ่มต้นสัปดาห์สีเขียวระหว่างประเทศของเยอรมัน โดยรัฐมนตรีอ้างว่า คณะรัฐมนตรีได้ลงนามร่างกฏหมายห้ามการทำลายลูกไก่อายุ ๑ วัน และทำให้เยอรมันเป็นประเทศแรกในโลกที่ตัดสินใจออกมาตรการนี้ เป็นก้าวสำคัญสำหรับสวัสดิภาพสัตว์ ปัจจุบัน สวัสดิภาพสัตว์ยึดถือปฏิบัติกันทั่วโลก แต่บางประเด็นก็อาจยังไม่เป็นที่ยอมรับด้านจริยธรรม ดังนั้น เยอรมันตั้งใจจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฏหมายห้ามการทำลายลูกไก่  

เกษตรกรจะต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันลูกไก่เพศผู้กำเนิดตั้งแต่แรก โดยการแยกเพศสัตว์ก่อนที่จะฟักเป็นตัว นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๗ หรืออีกสามปีข้างหน้า ร่างกฏหมายนี้จะบังคับให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกใช้วิธีนี้ทั้งหมดสำหรับการจำแนกเพศตั้งแต่ในกระบวนการฟัก เพื่อป้องกันความเจ็บปวดสำหรับตัวอ่อนที่ยังไม่ฟักเป็นตัว ในปัจจุบัน ลูกไก่เพศผู้ราว ๔๕ ล้านตัวถูกทำลายในเยอรมันทุกปี เนื่องจาก ลูกไก่เพศผู้ไม่เหมาะสมสำหรับการผลิตเนื้อสัตว์ หรือใช้สำหรับอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ไข่ที่ต้องการเฉพาะลูกไก่เพศเมียเท่านั้น

ร่างกฎหมาย

ร่างกฏหมายผ่านจากศาลปกครองกลาง (Federal Administrative Court) แห่งเยอรมันเป็นเวลากว่า ๒ ปี โดยอ้างเหตุผลด้านสวัสดิภาพสัตว์เหนือกว่าด้านเศรษฐกิจ แม้ว่าอาจจะถูกแรงเสียดทานจากสมาคมสัตว์ปีกในเยอรมันบ้าง เนื่องจาก มีความเห็นแย้งว่า ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่สมบูรณ์ และยังก่อให้เกิดความสูญเสียความสามารถในการแข่งขันของเยอรมันอีกด้วย

สมาคมสัตว์ปีกเยอรมันเชื่อว่า กฏหมายนี้จะไม่ถูกบังคับใช้ในประเทศอื่นๆในยุโรป แม้ว่า รัฐมนตรีเกษตรฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่าจะใช้กฏหมายห้ามทำลายลูกไก่ไข่เพศผู้ภายในปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นี้ สวิสเซอร์แลนด์ก็ได้ห้ามการบดย่อยลูกไก่มีชีวิตแล้ว แต่ยังอนุโลมให้ใช้แก๊สได้ กลุ่มผู้บริโภคในเยอรมัน ฟู้ดวอทช์ (Foodwatch) ยังคงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้ โดยจะไม่ทนต่อการทำร้ายแม่ไก่ไข่ ในปัจจุบัน สหภาพยุโรปยังอนุญาตให้บดลูกไก่ที่มีอายุไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงได้ 

 เทคนิคใหม่

ปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งกำลังจับตามองหาเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขปัญหาการทำลายลูกไก่ไข่เพศผู้ เรสเปกท์ (Respeggt GmBH) ที่มีสำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน อ้างว่า มีเทคโนโลยีที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยกระบวนการ ๒ อย่าง

๑. การจำแนกเพศในไข่ฟัก

๒. การเลี้ยงลูกไก่ไข่เพศผู้ให้อ้วน

ไข่ เรสเปกท์ มีจำหน่ายแล้วในร้านค้าปลีกยุโรป รวมถึง คาร์ฟูล เรเว อีเดกา เพนนี และจัมโบ้ และบริษัทสตาร์ตอัพมาแรงในอิสราเอล เอ้กซิต (eggXYt) อ้างว่า สามารถแยกเพศไข่ฟักได้โดยใช้วิธีที่ไม่สร้างความเสียหายต่อตัวอ่อน คุ้มค่า และแม่นยำ  

เอกสารอ้างอิง

McDougal T. 2021. Germany to ban culling of day old male chicks next year. [Internet]. [Cited 2021 Jan 11]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2021/2/Germany-to-ban-culling-of-day-old-male-chicks-next-year-705887E/ 

ภาพที่ ๑ เยอรมันแบนการทำลายลูกไก่เพศผู้ปีหน้า  (แหล่งภาพ Ton Kastermans)

อาร์เจนตินาลดส่งออกข้าวโพด

 รัฐมนตรีเกษตร ปศุสัตว์ และประมงของประเทศอาร์เจนตินาได้สั่งจำกัดการส่งออกข้าวโพดไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ ตันต่อวันตั้งแต่ ๑ มกราคมถึง ๑ มีนาคมนี้ 

มาตรการนี้เป็นการป้องกันวัตถุดิบอาหารสัตว์ขาดแคลนอย่างเร่งด่วน เมื่อวันที่ ๓๐ ธันาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศให้หยุดการส่งออกข้าวโพดทั้งหมด แต่ผู้ประกอบการประท้วงทันทีเป็นเวลา ๗๒ ชั่วโมง จนรัฐบาลแสดงท่าทีผ่อนคลายมาตรการลง อ้างถึงคำสั่งดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมเนื้อสัตว์ภายในประเทศ เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ ไข่ และนม ภายในประเทศให้ผ่านช่วงฤดูร้อนไปจนถึงช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวระหว่างปี พ.ศ.๒๕๖๓ ถึง ๒๕๖๔ 

ความเห็นทั้งสองด้าน

ภาคสัตว์ปีกอาร์เจนตินามองเห็นสองด้านของประเด็นนี้ โรเบอร์โต โดเมเนช ประธานศูนย์กลางบริษัทด้านสัตว์ปีก และโรงเชือด (Center for Poultry Processing Companies, Cepa) ยืนยันว่า ตลอดเก้าสิบวันที่ผ่านมา ซื้อข้าวโพดมาใช้ในสูตรอาหารสัตว์ลำบากมาก ในสูตรมีข้าวโพดร้อยละ ๖๓ บริษัทผลิตไก่บางแห่ง ลดสัดส่วนของข้าวโพดลง ใช้เพียงร้อยละ ๔๐ ถึง ๔๕ เท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่า ผู้ผลิตข้าวโพดก็มีสิทธิ์ขายสินค้าของตัวเอง 

รัฐบาลไอ้อนุญาตให้ส่งออกข้าวโพดไปแล้ว ๓๔.๒๓ ล้านตันระหว่างฤดูกาล พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึง ๒๕๖๓ จากปริมาณข้าวโพดที่ส่งออกได้ ๓๘.๕ ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ ๘๙ รัฐบาลเองพยายามเก็บข้าวโพดไว้อย่างน้อย ๒,๔๗๐ ล้านตันสำหรับการบริโภคภายในประเทศ เพื่อรักษาปริมาณวัตถุดิบภายในประเทศไว้ให้ได้ตลอดฤดูร้อน

ผู้ผลิตข้าวโพดกังวลกับนโยบาลของรัฐบาล

ผู้ผลิตข้าวโพดวิตกกังวลกับมาตรการดังกล่าวของอาร์เจนตินา เนื่องจาก เคยมีประวัติการปกป้องผลประโยชน์ตัวเองของประธานาธิบดีคนก่อนจนขนานนามว่า "เคิร์ชเนอริซึม" จนผู้ผลิตข้าวโพด อ้างว่า นโยบายของรัฐบาลครั้งนี้จะทำลายตลาดเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง และอาจสร้างความเสียหายต่อผู้ผลิตข้าวโพดภายในประเทศกว่า ๓๐,๐๐๐ราย

อาร์เจนตินาเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ ๓ ของโลก อาร์เจนตินาส่งออกข้าวโพด ๓๖ ล้านตันในสิบเอ็ดเดือนก่อนหน้านี้ระหว่างมกราคม ถึงพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯคาดว่า จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตรอบปี พ.ศ.๒๕๖๓ ถึง ๒๕๖๔ ส่งออกไปแล้ว ๓๔ ล้านตัน ตามหลังสหรัฐฯ ๖๗.๓ ล้านตัน และบราซิล ๓๙ ล้านตัน  

เอกสารอ้างอิง

Azevedo D. 2021. Argentinian government limits corn exports. [Internet]. [Cited 2021 Jan 19]. Available from: https://www.poultryworld.net/Nutrition/Articles/2021/1/Argentinian-government-limits-corn-exports-698209E/ 

ภาพที่ ๑ รัฐบาลอาร์เจนตินาสั่งควบคุมการส่งออกข้าวโพด  (แหล่งภาพ Bart Nijs)

สลิมชิ้กเก้น แฟรนส์ไชส์ใหม่ในวิกฤติโควิด ๑๙

 แบรนด์ร้านอาหารแฟรนไชส์ใหม่กำลังขยายสาขามากกว่า ๖๐๐ แห่งในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ อีกเก้าปีข้างหน้า

สลิมชิ้กเก้นตกลงกับแฟรนไชส์ไปแล้วในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ แม้ว่าจะตกอยู่ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด ๑๙ ทั่่วโลก ข้อตกลงดังกล่าวได้ช่วยให้แบรนด์ไก่นี้เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วสหรัฐฯ รวมถึง จอร์เจีย ฟลอริดา นิวเม็กซิโก และนอร์ธ แคโรไลนา ท่ามกลางความผันผวนของตลาด บริษัทเริ่มต้นตั้งแต่มกราคมปีที่แล้วอย่างแข็งแกร่ง และแรงมากเทียบกับแบรนด์อื่นๆในธุรกิจเดียวกัน แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเดือนมีนาคม เมื่อบริษัทสามารถกำหนดเข็มทิศทางของบริษัท และสนับสนุนระบบแฟรนไชส์ ภายในสี่สัปดาห์ ยอดจำหน่ายก็มาจากหลายแห่งทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่า สลิมชิ้กเก้นเดินมาถูกทางแล้ว ถึงเวลานี้ได้ปิดบัญชีสรุปยอดจำหน่ายแล้ว บริษัทสลิมชิ้กเก้นตื่นเต้นกับผลงานในปีนี้ และเฝ้ารอการเติบโตต่อไปในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นี้ ในจอร์เจีย และนอร์ธ แคโรไลนา กำลังเปิดอีก ๑๒ หน่วยใหม่ สำหรับพื้นที่ใหม่ที่จะเปิดเป็นครั้งแรกก็จะวางแผนต่อไปอีกในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๔ 

การเติบโตในปี พ.ศ. ๒๕๖๔

สลิมชิ้กเก้น ประกาศแผนเปิดใหม่อีก ๕๐ แห่งในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสาขา ขณะนี้ บริษัทกำลังมองหากลุ่มแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพ และประสบการณ์เพื่อขยายต่อไปในฟลอริดา เพนซิลวาเนีย มิชิแกน มิเนโซตา และอะริโซนา ในปีที่แล้ว สลิมชิ้กเก้นเปิดร้านอาหารใหม่ ๑๕ แห่ง ทำให้รวมแล้วมีร้านอาหารทั้งหมด ๑๑๖ แห่งแล้ว ตอนแรก บริษัทมีแผนเปิดมากกว่า ๓๑ ร้าน อย่างไรก็ตาม แผนการขยายสาขาก็ถูกชะลอไป เนื่องจาก สถานการณ์ของโรคโควิด บริษัทมีแผนขยายสาขาให้ถึง ๖๐๐ ร้านในปี พ.ศ. ๒๕๗๔ 

เอกลักษณ์ของร้านสลิมชิ้กเก้นคือ เมนูที่ได้กลิ่นอายของอาหารรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ นำเสนอเนื้อสันในไก่คลุกบัตเตอร์มิลค์ ดิปซ๊อสที่มีให้เลือกได้ ๑๗ รสชาติ นอกเหนือจาก รายการแซนด์วิช ปีกไก่ ชิ้กเก้นแรป และวาฟเฟิล 

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2020. Slim Chickens inked agreements for 150 new units in 2020. [Internet]. [Cited 2021 Jan 11]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/41961-slim-chickens-inked-agreements-for-150-new-units-in-2020 

ภาพที่ ๑ สลิมชิ้กเก้น แฟรนส์ไชส์ใหม่ในวิกฤติโควิด ๑๙  (แหล่งภาพ https://www.wichitabyeb.com/2020/03/lets-review-slim-chickens.html)

ความสำคัญของความสม่ำเสมอฝูงไก่เนื้อ

ความสม่ำเสมอของฝูงกำลังถูกให้ความสำคัญสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ปีก และผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปการผลิต อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการกำหนดมาตรการ หรือเป้าหมายให้ชัดเจน

ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น และแรงกดดันจากห่วงโซ่การผลิตที่มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่มีความสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรม นักพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศได้ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นเพื่อสร้างระบบใหม่ขึ้นมาสำหรับผุ้ประกอบการโรงเชือด และร้านค้าปลีก กำหนดเป้าหมายให้กับผู้ผลิตในฟาร์ม   

ระบบอินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things, IoT) ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์เปรียบเทียบกับเป้าหมายด้านการผลิต และความสม่ำเสมอในการเลี้ยงแต่ละรุ่น และเปรียบเทียบเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นๆถึงเวลานี้เป็นไปได้แล้วโดยใช้อุปกรณ์ที่ทำงานแบบไร้สาย ช่วยให้ห่วงโซ่การผลิตที่จะรับสินค้าต่อไปมั่นใจว่าทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี เทคโนโลยี และข้อมูล จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถควบคุมภาคการผลิตในแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น คุณภาพอาหารสัตว์ หรืออุณหภูมิ จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิต และความสม่ำเสมอของผลผลิต เทคโนโลยีไร้สายภายในพื้นที่บริการจะช่วยสร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับการพัฒนาไปข้างหน้า

ผลของสิ่งแวดล้อมต่อสัตว์ปีก

 ตัวอย่าง การทดลองใช้ระบบเซนเซอร์ไร้สายครบชุด เพื่อตรวจติดตามความผันผวนของอุณหภูมิเพียง ๒ องศาเซลเซียสต่อผลการเลี้ยง ช่วยให้การตัดสินใจโดยพื้นฐานของหลักฐานเป็นไปอย่างถูกต้อง สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ การกินอาหาร และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ถูกวิเคราะห์ เมื่อข้อมูลแบบเรียลไทม์สร้างทางออกสำหรับอุตสาหกรรมโดยภาพรวม การมองตรวจตรา และควบคุมผลการเลี้ยง และความสม่ำเสมอของฝูงสัตว์ปีกก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมาก ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ และใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ 

เอกสารอ้างอิง

Beynon A. 2020. The importance of flock uniformity. [Internet]. [Cited 2020 Feb 7]. Available from: https://www.poultryworld.net/Meat/Articles/2020/2/The-importance-of-flock-uniformity-538050E/ 

ภาพที่ ๑ เทคโนโลยี และข้อมูลช่วยให้ผู้ผลิตสัตว์ปีกควบคุมผลการเลี้ยงได้ดีขึ้นอย่างมาก (แหล่งภาพ  OpenClipart-Vectors from Pixabay)

อิทธิพลของไมโครไบโอมต่อสุขภาพทางเดินอาหารสัตว์ปีก

เครื่องมือสำคัญเช่น การเสริมสารอาหาร โพร-และพรีไบโอติก ช่วยเสริมสุขภาพสัตว์ปีกให้มีความสมดุลของจุลินทรีย์ที่มีสุขภาพดีได้

ระบบทางเดินอาหารเป็นจุดตั้งต้นทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม สำหรับโรคสัตว์ปีกมากมาย ความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน และกลมกลืนระหว่างไมโครไบโอมในลำไส้ และโฮสต์มีบทบาทสำคัญต่อการทำหน้าที่ 

แบคทีเรียมากกว่า ๑,๐๑๒ สายพันธุ์อาศัยในลำไส้ไก่ ยังมีเชื้อไวรัส เชื้อรา และจุลินทรีย์อื่นๆ รวมกันเรียกว่า ไมโครไบโอมของลำไส้ ส่วนใหญ่แล้ว จุลินทรีย์ในลำไส้ทำงานร่วมกันเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของโฮสต์ อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของไมโครไบโอมคือ การกดประชากรของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ที่สามารถก่อให้สัตว์ป่วยต่อไปได้  

ตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่ เชื้อบิด เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดในการทำลายผนังลำไส้ของสัตว์ปีก การทำลายผนังลำไส้ ส่งผลให้เพิ่มโอกาสการเกิดโรคอื่นๆในสัตว์ปีก

อาณาจักรที่เป็นเอกลักษณ์

เชื้อจุลินทรีย์ทำให้ระบบทางเดินอาหารของสัตว์ปีกแต่ละตัวมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน และเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ฟักเป็นตัว เนื่องจาก เชื้อแบคทีเรียชนิดแรกที่เข้าสู่ทางเดินอาหารของลูกไก่เริ่มต้นมาจากแม่ไก่ สุขภาพของทางเดินอาหารจึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่พ่อแม่

ตัวบ่งชี้ของสุขภาพสัตว์

ไมโครไบโอมของสัตว์ปีกไม่เพียงมีความสำคัญต่อสุขภาพทางเดินอาหารเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่อสุขภาพสัตว์โดยภาพรวมอีกด้วย 

แม้ว่า งานวิจัยด้านไมโครไบโอมในสัตว์ปีกยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็มีหลักฐานจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า ไมโครไบโอมสามารถส่งผลต่อสุขภาพสัตว์ปีกได้ โครงการไมโครไบโอมในมนุษย์ได้เชื่อมโยงไมโครไบโอมในร่างกายมนุษย์กับโรค และความผิดปรกติจำนวนมาก รวมถึง โรคติดเชื้อ โรคตับ มะเร็งของระบบทางเดินอาหาร โรคเมตาโบลิก โรคทางเดินหายใจ ความผิดปรกติทางจิต และความผิดปรกติของภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง

การจัดการเพื่อเลี้ยงสัตว์ปีกไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

ในอดีต โรคจำนวนมากเริ่มต้นขึ้นในลำไส้สัตว์ปีก สามารถใช้ยาปฏิชีวนะรักษาได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตสัตว์ปีกส่วนใหญ่ได้ขยับตัวไปสู่ระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกโดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic-free หรือ no-antibiotics-ever) เพื่อสนองความใส่ใจของผู้บริโภคต่อปัญหาเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ 

ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสามารถช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีไว้ได้ในร่างกายของสัตว์ โดยการให้สาอาหารที่เหมาะสม และควบคุมเชื้อก่อโรคไว้ให้ได้ ในปัจจุบัน นักวิชาการให้ความสำคัญกับการจัดการสุขภาพระบบทางเดินอาหาร โดยเปลี่ยนจากความคิดต่อต้าน กลายเป็นการยอมรับในการทำงานร่วมกับไมโครไบโอม โดยการใช้พรีไบโอติก และโพรไบโอติก 

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2020. The microbiome’s crucial role in poultry gut health. [Internet]. [Cited 2021 Jan 8]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/41941-the-microbiomes-crucial-role-in-poultry-gut-health 

ภาพที่ ๑ อิทธิพลของไมโครไบโอมต่อสุขภาพทางเดินอาหารสัตว์ปีก 

หุ่นยนต์ในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปีก

 ผู้ผลิตสัตว์ปีกกำลังให้ความสนใจในระบบอัตโนมัติ และการใช้หุ่นยนต์ เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในช่วงไม่กี่ปีมานี้

ในสถานการณ์โรคโควิด ๑๙ และอุปสรรคด้านแรงงานสำหรับการผลิตอาหาร โน้มนำให้ผู้ประกอบการกลับมาสนใจระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ และการใช้หุ่นยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากข้อได้เปรียบด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และความปลอดภัยอาหาร เมื่อการใช้ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ เป็นการสร้างความปลอดภัยอาหารที่แท้จริง

 

คำตอบสำหรับสุขอนามัยที่ดี

โรงงานแปรรูปการผลิตอาหารต้องใช้มาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษ ดังนั้น ระบบอัตโนมัติ หรือหุ่นยนต์จึงเป็นทางออกที่สวยหรูมาก เนื่องจาก สุขอนามัยเป็นหัวใจของการผลิตในกระบวนการแปรรูปอาหาร การออกแบบการผลิตให้ดูแลด้านสุขอนามัยได้ง่ายเป็นการเริ่มต้นที่ดี เริ่มตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุพื้นผิวตั้งแต่พื้น ผนัง และเครื่องจักรต่างๆ การออกแบบระบบต่างๆ ช่วยเอื้ออำนวยให้การดูแลจัดการด้านสุขอนามัยเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น  

ความสำคัญของการใช้เครื่องจักร เพื่อลดการใช้แรงงานสัมผัสสินค้า

การใช้เครื่องมือ และเครื่องจักร เพื่อลดการสัมผัสสินค้า (End-of-arm tooling design) มีบทบาทมากต่อความสำเร็จของผู้ผลิตอาหาร อุปกรณ์ต่างๆยังต้องออกแบบเป็นพิเศษให้สอดคล้องกับอุณหภูมิ ลักษณะ และรูปร่างของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จ และประสิทธิภาพของหุ่นยนต์คือ การออกแบบให้ทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสัมผัสสินค้าโดยมนุษย์อีกเลย   

วิสัยของเครื่องจักร 

วิสัยของเครื่องจักร (Machine vision) เป็นความสามารถของเครื่องจักรในการมองเห็น และประมวลผลภาพที่ปรากฏด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของการพัฒนาหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติในการแปรรูปสินค้าประเภทโปรตีน ในระบบอัตโนมัติสมัยใหม่ จำเป็นต้องใช้ระบบวิสัยของเครื่องจักรเพื่อตรวจสอบ และสำรวจหาตำแหน่งของผลิตภัณฑ์เพื่อจัดการอย่างเหมาะสม การจำแนกผลิตภัณฑ์ที่ดี หรือชำรุด หรือตรวจสอบขนาด หรือสีของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย และผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน 

อินเตอร์เฟซสำหรับควบคุมที่่ง่ายต่อการใช้งาน

อินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้งานต้องดูง่าย และเข้าใจไม่ยาก ก่อนที่จะนำไปใช้กับหุ่นยนต์สำหรับการแปรรูปโปรตีน เป็นพื้นที่งานพัฒนาที่มีความสำคัญอย่างมาก นักพัฒนาเทคโนโลยีเองก็พยายามปรับไม่ให้ระบบยากต่อการทำความเข้าใจจนเกินไป ต้องง่าย และเข้าใจไม่ยากเอาไว้ก่อน    

เอกสารอ้างอิง

Doughman E. 2020. What the future of processing robotics could look like. [Internet]. [Cited 2021 Jan 11]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/41691-what-the-future-of-processing-robotics-could-look-like 

ภาพที่ ๑ อนาคตของหุ่นยนต์ในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปีก (แหล่งภาพ Anton Mislawsky | shutterstock.com)

นวัตกรรมใหม่ใช้เลเซอร์ไล่นกป่ากันหวัดนก

 ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกปล่อยอิสระใช้เลเซอร์ไล่นกป่า เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกในฟาร์ม

นักวิจัยได้ทดลองใช้ลำแสงเลเซอร์เพื่อขับไล่นกป่ามานานแล้วตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เริ่มจากการป้องกันนกชนเครื่องบิน ต่อมาก็ใช้ไล่นกป่าที่เข้าไปทำลายพืชไร่ ดร.อาร์มิน เอลเบอร์ นักระบาดวิทยาอาวุโสที่มหาวิทยาลัยวาเคอนิงเงิน กำลังวิจัยใช้แสงเลเซอร์ทำให้เป็ดป่า และนกป่าตกใจ ที่ตำแหน่ง ๖ เมตรเหนือระดับพื้นดิน การทดลองใช้ลำแสงเลเซอร์ในช่วงเวลา ๑๗.๐๐ น. ถึง ๑๐.๐๐ น. ในพื้นที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าห่างออกไป ๖๐๐ เมตร 

ผลการศึกษาเบื้องต้น ไม่พบนกป่าตลอดวันในพื้นที่ทุ่งหญ้าโดยรอบ เมื่อเลเซอร์กำลังทำงาน ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทึ่งกับผลการทดลองใช้งาน เพราะไม่มีห่านบินไปมาอีกเลย นกพิราบยุโรป และเป็ดป่าหนีห่างออกไปราว ๒๕๐ เมตรจากบริเวณเลี้ยงสัตว์ปล่อยอิสระ ต้นหญ้าในทุ่งงอกงามมากขึ้นเนื่องจากไม่มีห่านป่ามากิน และเมื่อปิดเลเซอร์แล้ว เป็ดป่ากลับมาอย่างรวดเร็ว ภายหลังใช้งานคืนเดียว ขณะใช้เลเซอร์ไม่มีเป็ดป่า แต่เมื่อหยุดใช้เลเซอร์แล้ว เป็ดป่าก็กลับมาทุกคืน  

มาตรการอื่นๆ

นักวิจัยกลุ่มอื่นๆก็พยายามคิดหาวิธีการต่างๆควบคุมโรค รวมถึง การใช้แป้งเรืองแสงโดยนอกโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ปีก เช่น บริเวณพื้นคอนกรีตรอบพื้นที่เลี้ยง บนหลังคา รางระบายน้ำบนหลังคา เพื่อให้สังเกตรอยมูลนกป่าได้ง่าย การใช้กล้องวีดีโอตรวจติดตามภายในและภายนอกโรงเรือนก็กำลังนิยมใช้ในเนเธอร์แลนด์เพื่อตรวจสอบการปรากฏของหนู รวมถึง คนงานและอุปกรณ์ที่เข้ามาภายในโรงเรือนเลี้ยงไก่ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพเพิ่มขึ้นอีก

แรงกดดันโรคไข้หวัดนกระบาด 

 ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกชาวดัทช์ยอมรับว่า โรคไข้หวัดนกพบเป็นประจำ เนื่องจาก พื้นที่ของประเทศเต็มไปด้วยแม่น้ำลำคลอง ที่เป็นแหล่งอาศัย และขยายพันธุ์ของสัตว์ปีกตามธรรมชาติ สมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในประเทศก็พยายามร่วมมือกับภาครัฐ และมหาวิทยาลัยเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงในฟาร์มมีความเสี่ยงต่อโรค อย่างน้อยก็มีการกำหนดแผนปฏิบัติการควบคุมโรคไข้หวัดนก ๒๘ ประเด็นสำหรับผู้ผลิต ครอบคลุมตั้งแต่ความปลอดภัยทางชีวภาพ การตรวจติดตามโรค สัญญาณเตือน ทางเลือกของการใช้วัคซีน และการลดความเสียหาย และการนำโรคเข้าสู่ฟาร์ม เป็นต้น  

เอกสารอ้างอิง

McDougal T. 2020. AI prevention and innovative biosecurity measures. [Internet]. [Cited 2020 Dec 30]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/12/AI-prevention-and-innovative-biosecurity-measures-685526E/ 

ภาพที่ ๑ ฟาร์มแห่งหนึ่งได้เริ่มทดลองใช้เลเซอร์เพื่อไล่นกป่า ในสหราาชอาณาจักร ขณะนี้ เครื่องมือนี้ได้เริ่มนำมาใช้ในเนเธอร์แลนด์อย่างรวดเร็ว (แหล่งภาพ Bird Control Group, Agrilaser)