ผู้เข้าร่วมเวทีประชุมองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ร่วมกันระดมความคิดและจัดทำข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนกอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้เข้าร่วมการประชุมระดับโลกว่าด้วยไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง
หรือเอชพีเอไอ ได้ร่วมกันระดมความคิดและจัดทำข้อเสนอแนะ ๖
แนวทางที่หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกสามารถนำไปใช้เพื่อรับมือกับการระบาดของเอชพีเอไอ อย่างรวดเร็ว
ในการประชุมสามวันภายใต้หัวข้อ “ร่วมกันรับมือไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง”
จัดโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ณ เมืองฟอซ โด อิกวาซู ประเทศบราซิล
ผู้เข้าร่วมได้แบ่งกลุ่มอภิปรายในช่วงบ่ายของวันที่ ๑๐ กันยายน และในเช้าวันถัดมา แกรี
ฟลอรี ผู้ก่อตั้งโครงการป้องกันและควบคุมโรคระบาดโลก ได้อ่านข้อสรุปบางส่วนที่ได้จากการระดมความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม
หนึ่งในข้อเสนอที่แกรี ฟลอรีนำเสนอเกี่ยวข้องกับบทบาทของรัฐบาลในการรับมืออย่างรวดเร็วต่อการระบาด
โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
๑.
การเข้าถึงงบประมาณฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว “เมื่อเกิดการระบาดขึ้น
ไม่ใช่เวลาที่เราจะเริ่มค้นหางบประมาณเพื่อรับมือ” ฟลอรีกล่าว “เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
โดยเสนอว่า รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า
โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน
และควรทำให้กองทุนเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุจำเป็น
๒.
การสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
ควรกำหนดแนวทางปฏิบัติ และจัดตั้งทีมเฉพาะสำหรับการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายใน
เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างราบรื่น ฟลอรีกล่าวว่า
การใช้ระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ดียิ่งขึ้น
และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
๓.
บุคลากรและทีมตอบสนองที่ผ่านการฝึกอบรม
บุคลากรที่มีหน้าที่รับมือกับการระบาดจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
และการฝึกอบรมเหล่านั้นควรดำเนินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ตอบสนอง เช่น สัตวแพทย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
มีความคุ้นเคยกับภารกิจที่ต้องปฏิบัติ นอกจากนี้
การจัดการฝึกซ้อมและจำลองสถานการณ์จริงก็มีความสำคัญ
เพื่อให้บุคลากรเหล่านั้นสามารถนำทักษะที่ได้รับจากการอบรมและฝึกภาคปฏิบัติไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง
๔.
การจัดซื้อและการสำรองอุปกรณ์
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และเครื่องมือจำเป็นอื่น ๆ
ไม่เพียงแต่ต้องมีพร้อมใช้งานเท่านั้น
แต่ยังต้องได้รับการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์
หน่วยงานภาครัฐควรจัดทำข้อตกลงระยะยาวเพื่อให้สามารถจัดซื้ออุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการระบาด
๕.
การใช้เทคโนโลยีข้อมูล มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีข้อมูลมาใช้เพื่อพัฒนาการวินิจฉัยโรค
หรือเพื่อการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ในลักษณะรวมศูนย์
๖.
การมีส่วนร่วมของชุมชน
รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจกับชุมชนผ่านการรณรงค์ด้านการศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้
โดยสามารถเผยแพร่ข้อความเหล่านี้ผ่านโรงเรียน โบสถ์ ผู้นำท้องถิ่น
และหน่วยส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์
เอกสารอ้างอิง
Graber R.
2025. 6 ways governments can aid with rapid response to
HPAI. [Internet]. [Cited 2025 Sep 10]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/news/15755092/6-ways-governments-can-aid-with-rapid-response-to-hpai
ภาพที่ ๑ การใช้สเปกโตรเมทรีอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการควบคุมสุขาภิบาลในกระบวนการผลิตสัตว์ปีก
(แหล่งภาพ DH
Saragih I Shutterstock.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น