วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568

องค์การอาหารแนะหกขั้นภาครัฐรับมือหวัดนก

 ผู้เข้าร่วมเวทีประชุมองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ร่วมกันระดมความคิดและจัดทำข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนกอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เข้าร่วมการประชุมระดับโลกว่าด้วยไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง หรือเอชพีเอไอ ได้ร่วมกันระดมความคิดและจัดทำข้อเสนอแนะ ๖ แนวทางที่หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกสามารถนำไปใช้เพื่อรับมือกับการระบาดของเอชพีเอไอ อย่างรวดเร็ว ในการประชุมสามวันภายใต้หัวข้อ “ร่วมกันรับมือไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง” จัดโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ณ เมืองฟอซ โด อิกวาซู ประเทศบราซิล ผู้เข้าร่วมได้แบ่งกลุ่มอภิปรายในช่วงบ่ายของวันที่ ๑๐ กันยายน และในเช้าวันถัดมา แกรี ฟลอรี ผู้ก่อตั้งโครงการป้องกันและควบคุมโรคระบาดโลก ได้อ่านข้อสรุปบางส่วนที่ได้จากการระดมความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม หนึ่งในข้อเสนอที่แกรี ฟลอรีนำเสนอเกี่ยวข้องกับบทบาทของรัฐบาลในการรับมืออย่างรวดเร็วต่อการระบาด โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

๑.     การเข้าถึงงบประมาณฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว “เมื่อเกิดการระบาดขึ้น ไม่ใช่เวลาที่เราจะเริ่มค้นหางบประมาณเพื่อรับมือ” ฟลอรีกล่าว “เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” โดยเสนอว่า รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน และควรทำให้กองทุนเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุจำเป็น

๒.    การสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ควรกำหนดแนวทางปฏิบัติ และจัดตั้งทีมเฉพาะสำหรับการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายใน เพื่อให้การประสานงานเป็นไปอย่างราบรื่น ฟลอรีกล่าวว่า การใช้ระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ดียิ่งขึ้น และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

๓.    บุคลากรและทีมตอบสนองที่ผ่านการฝึกอบรม บุคลากรที่มีหน้าที่รับมือกับการระบาดจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม และการฝึกอบรมเหล่านั้นควรดำเนินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ตอบสนอง เช่น สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีความคุ้นเคยกับภารกิจที่ต้องปฏิบัติ นอกจากนี้ การจัดการฝึกซ้อมและจำลองสถานการณ์จริงก็มีความสำคัญ เพื่อให้บุคลากรเหล่านั้นสามารถนำทักษะที่ได้รับจากการอบรมและฝึกภาคปฏิบัติไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

๔.    การจัดซื้อและการสำรองอุปกรณ์ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และเครื่องมือจำเป็นอื่น ๆ ไม่เพียงแต่ต้องมีพร้อมใช้งานเท่านั้น แต่ยังต้องได้รับการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ หน่วยงานภาครัฐควรจัดทำข้อตกลงระยะยาวเพื่อให้สามารถจัดซื้ออุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการระบาด

๕.    การใช้เทคโนโลยีข้อมูล มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีข้อมูลมาใช้เพื่อพัฒนาการวินิจฉัยโรค หรือเพื่อการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ในลักษณะรวมศูนย์

๖.     การมีส่วนร่วมของชุมชน รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจกับชุมชนผ่านการรณรงค์ด้านการศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้ โดยสามารถเผยแพร่ข้อความเหล่านี้ผ่านโรงเรียน โบสถ์ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์

เอกสารอ้างอิง

Graber R. 2025. 6 ways governments can aid with rapid response to HPAI. [Internet]. [Cited 2025 Sep 10]. Available from: https://www.wattagnet.com/poultry-meat/diseases-health/avian-influenza/news/15755092/6-ways-governments-can-aid-with-rapid-response-to-hpai

ภาพที่ ๑ การใช้สเปกโตรเมทรีอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการควบคุมสุขาภิบาลในกระบวนการผลิตสัตว์ปีก (แหล่งภาพ DH Saragih I Shutterstock.com)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...