แนวโน้มทั่วโลกในปัจจุบันคือผู้บริโภคเริ่มนิยมเนื้อไก่แบบชิ้นส่วนมากกว่าไก่ทั้งตัว เนื่องจากความสะดวกในการปรุงอาหาร โดยไม่ต้องแยกชิ้นส่วนเองที่บ้าน หากผ่านกระบวนการแปรรูปอย่างมีคุณภาพ เนื้อไก่แบบชิ้นส่วนจะให้ผลกำไรแก่ผู้ประกอบการมากกว่าไก่ทั้งตัว ดังนั้น โรงงานแปรรูปจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดการชิ้นส่วนไก่แต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยใช้ระบบตัดแบ่งที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของตลาดแต่ละแห่งได้
ระบบเอซีเอ็ม-เอ็นที
ของมาเรล มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับแต่งให้ตรงตามข้อกำหนดเฉพาะ
โดยเฉพาะโมดูลใหม่อย่างวิงส์มาสเตอร์ และอัลไพน์ สำหรับการจัดการปีกและขาไก่
ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลผลิตและผลกำไรสูงสุด
ชิ้นส่วนไก่
ชิ้นส่วนหลักของไก่ที่นิยมตัดแบ่งเพื่อจำหน่าย
ได้แก่ ปีก ขา และอก ซึ่งถือเป็นส่วนที่มีมูลค่าสูงสุดในการแปรรูป ส่วนอื่น ๆ เช่น
หาง ชิ้นหลังหรือกระดูกสันหลัง ไขมันแผ่น และกระดูกอก ถือเป็นผลพลอยได้ที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการอื่นตามความเหมาะสม
สำหรับปีกไก่ สามารถตัดได้หลายรูปแบบ ได้แก่ ปีกทั้งชิ้น ปีกแบบไม่มีปลายปีก
หรือแยกเป็นสามชิ้น ได้แก่ ปีกบน ปีกกลาง และปลายปีก โดยชิ้นที่มีมูลค่าสูงสุดคือ ปีกบน
และปีกกลาง เป็นข้อแรกและข้อที่สองของปีก ส่วน ปลายปีกนั้นมักมีมูลค่าต่ำและนิยมใช้ในการผลิตซุปหรืออาหารสัตว์
ขาไก่สามารถจำหน่ายได้ทั้งแบบขาทั้งชิ้น หรือแยกเป็นสะโพกและน่อง โดยการเลือกว่าจะใช้รูปแบบใดขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและมูลค่าที่สามารถสร้างได้จากแต่ละรูปแบบ ในส่วนของอกไก่ จะต้องผ่านการถอดกระดูกทุกครั้งก่อนเข้าสู่กระบวนการจำหน่าย โดยตลาดจะเป็นตัวกำหนดว่าอกไก่จะถูกตัดเป็นอกไก่ตอนบน (เบรสต์แคป) หรือชิ้นส่วนครึ่งตัวด้านหน้า (ฟรอนต์ฮาล์ฟ) แตกต่างจากปีกและขาไก่ที่สามารถจำหน่ายแบบมีหรือไม่มีการถอดกระดูกได้ อกไก่จะไม่ถูกจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ปลายทางแบบค้าปลีกโดยตรง แต่จะเข้าสู่ระบบการถอดกระดูกต่อเนื่องที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์อกไก่ โดยระบบเอฟเอชเอฟ เฟล็กซ์คอนโทรล ของมาเรล เหมาะสำหรับการจัดการ ฟรอนต์ฮาล์ฟ ในขณะที่เครื่องถอดกระดูกรุ่นเอเธนา และเอเอ็มเอฟ-ไอ เหมาะสำหรับ เบรสต์แคป
เหตุผลที่ต้องใช้การตัดแบบตามกายวิภาค
การตัดแบบตามแนวอวัยวะคือการตัดชิ้นส่วนไก่ตามข้อต่อธรรมชาติและแนวกล้ามเนื้อ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเศษกระดูก หรือชิ้นกระดูกแตกหลุดออกมาในระบบแปรรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพผู้บริโภคบางรายไม่ชอบเห็นไขกระดูกสีแดง หรือแม้แต่รอยขีดข่วนบนข้อต่อกลมของชิ้นส่วนที่ถูกตัด โดยต้องการชิ้นส่วนที่มีลักษณะกระดูกสมบูรณ์ไม่เสียหาย ดังนั้น การตัดจึงต้องมีความแม่นยำสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สะอาด ปลอดภัย และลดข้อร้องเรียนจากลูกค้า ซึ่งส่งผลให้การตรวจสอบกระดูกในระบบ เซนเซอร์เอ็กซ์ ที่อยู่ในขั้นตอนถัดไปต้องทำงานซ้ำลดลง
ภาพที่ ๑ โมดูลวิงส์มาสเตอร์ และอัลไพน์ รุ่นใหม่ของมาเรล สำหรับการแปรรูปปีกและขาไก่ได้รับการออกแบบให้ปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดและสร้างกำไรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ (แหล่งภาพ Marel)
นอกจากนี้ ระบบแปรรูปในขั้นตอนถัดไป เช่น ระบบการผลิตน่องและสันใน ก็ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้การตัดแบบตามแนวอวัยวะ เนื่องจากระบบนี้จะขูดเนื้อออกจากกระดูกโดยตรง เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด ข้อต่อกลมจะต้องคงสภาพสมบูรณ์ เพราะกล้ามเนื้อทุกมัดเชื่อมโยงกับจุดนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดแบบตามแนวอวัยวะอาจไม่จำเป็นในกรณีของการแปรรูปเพื่ออุตสาหกรรมอาหารจานด่วน เช่นที่ใช้ในร้านเคเอฟซี ให้ความสำคัญกับการจัดชิ้นส่วนให้มีน้ำหนักเท่ากันมากกว่าความสมบูรณ์ของแนวตัดตามอวัยวะ นอกจากนี้ ตลาดบางแห่งยังให้ความสำคัญกับการปกปิดผิวหนังมากกว่าการตัดแบบแม่นยำตามแนวอวัยวะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดแบ่งชิ้นส่วนไก่ตามความต้องการของตลาดนั้น ๆ
การตัดปีกแบบคิว-วิง
ในส่วนของการตัดปีกไก่ภายในระบบแปรรูป
มีตัวเลือกหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งมอบชิ้นส่วนปีกคุณภาพสูงให้กับลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะ
ในกรณีนี้ไม่ควรมีผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำปะปนอยู่ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพเมเรล จึงนำเสนอระบบคิว-วิง เป็นโซลูชันอัจฉริยะที่ผสานการทำงานของระบบกล้องตรวจสอบคุณภาพระบบจับภาพอัจฉริยะไอริส
ซอฟต์แวร์พีดีเอส โมดูลตัดปีกหลายชุดในระบบเอซีเอ็ม
รวมถึงระบบสายพานลำเลียงที่เชื่อมโยงกับสถานีบรรจุและสถานีแก้ไขงานกลางอย่างลงตัว
ระบบคิว-วิง
ใช้ข้อมูลคุณภาพจากการสแกนของกล้องไอริส เพื่อแยกชิ้นส่วนปีกเกรดเอ ออกจากปีกเกรดบี
โดยอัตโนมัติ
ซึ่งการแยกสายการผลิตตามคุณภาพนี้ช่วยให้เกิดข้อได้เปรียบด้านโลจิสติกส์อย่างชัดเจน
เนื่องจากปีกเกรดเอและบี ต้องเข้าสู่กระบวนการที่แตกต่างกัน ด้วยระบบคิว-วิง การตรวจสอบคุณภาพด้วยแรงงานคนจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป
โดยใช้พนักงานเพียงคนเดียวสำหรับการตรวจสอบขั้นสุดท้าย
ระบบสามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่เหนื่อยล้า
และไม่ถูกชักนำด้วยอคติเช่นที่อาจเกิดขึ้นกับการตรวจสอบโดยมนุษย์
นายฟาเบียน ทาเฟอร์เนอร์ จากบริษัทฮูเบอร์ส ลันด์เฮินเดิล กล่าวว่า “ในระบบคิว-วิง เราจัดการกับผลิตภัณฑ์สองระดับคุณภาพ ปีกที่ดูดีจะถูกจัดเป็นเกรดเอ ส่วนปีกที่มีรอยแตกหรือรอยช้ำจะถูกจัดเป็นเกรดบี” โดยการตัดสินใจว่าเป็นเกรดเอหรือบี จะดำเนินการโดยกล้องไอริสภายในระบบคิว-วิง
วิงมาสเตอร์
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบคิว-วิง สามารถทำงานแบบอิสระได้เช่นกัน คือ วิงมาสเตอร์โดยมีหน้าที่หลักในการตัดชิ้นส่วนกลางของปีกไก่ ให้ได้ผลผลิตสูงสุดและคุณภาพดีที่สุด หมายถึงการตัดที่แม่นยำตามแนวทางกายวิภาค และมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นสิ่งที่ วิงมาสเตอร์ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
วิงมาสเตอร์ยังสามารถปรับระดับการคลุมผิวหนังของชิ้นส่วนได้ เพื่อให้การนำเสนอของปีกกลาง และปีกบนดูสวยงาม และสามารถจัดการกับปีกไก่ที่มีหรือไม่มีปลายปีกได้ ระบบการตัดอัตโนมัติในสายการผลิตเอซีเอ็ม นี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานที่มีทักษะสูงในการคัดแยกและแก้ไขงาน ในกรณีที่ปีกซ้ายเกิดการแตกหักและต้องถูกส่งไปยังสายผลิตภัณฑ์คุณภาพ บี ระบบวิงมาสเตอร์ ที่อยู่ในชุด คิว-วิง ยังสามารถตัดชิ้นปีกกลางของปีกขวาได้ หรือจะเลือกไม่ตัดก็ได้เช่นกัน หลังจากการตัดแล้ว ระบบวิงมาสเตอร์ สามารถกระจายชิ้นปีกกลาง คุณภาพเอและบีไปยังสถานีบรรจุหรือสถานีแก้ไขงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตัดขาไก่
ภาพที่ ๒ โมดูลวิงส์มาสเตอร์ สำหรับการแปรรูปปีก (แหล่งภาพ Marel)
การได้ผลผลิตสูงสุดจากชิ้นส่วนขาไก่ต้องอาศัยความแม่นยำ
โดยเริ่มต้นจากบริเวณส่วนสะโพกไก่ เป็นจุดเริ่มต้นของการแปรรูป
สามารถนำไปตัดได้หลายรูปแบบ ได้แก่ ตัดเป็นขาไก่แบบควอเตอร์ ด้วยเครื่องสปลิต
คัตเตอร์ แยกออกเป็นน่องและสะโพก ด้วยเครื่องดรัมสติ๊ก
คัตเตอร์ ตัดเป็นขาไก่ตามแนวแบบกายวิภาคด้วยระบบอัลไพน์ เนื่องจากน้ำหนักของไก่ในตลาดปัจจุบันมีความหลากหลาย
ระบบตัดขาไก่จึงควรสามารถรองรับช่วงน้ำหนักที่กว้างโดยไม่ต้องปรับตั้งค่าเพิ่มเติม
ระบบอัลไพน์ของมาเรลสามารถรองรับขาไก่ที่ผ่านการแช่น้ำหรือแช่อากาศได้
แม้จะเป็นไก่ขนาดใหญ่พิเศษระดับ “ซูเปอร์เอชดี” ก็ยังสามารถจัดการได้
และแม้แต่ภายในฝูงเดียวกัน
ระบบนี้ก็สามารถรับมือกับความแตกต่างของน้ำหนักได้อย่างยอดเยี่ยม
ระบบอัลไพน์ สำหรับการตัดขาไก่แบบกายวิภาคมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต โดยมีเซนเซอร์ในตัวที่สามารถตรวจจับชิ้นส่วนหลังที่ไม่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมหน้าจอเอชเอ็มไอ ที่ผสานรวมอยู่ในระบบ ช่วยให้สามารถติดตามการทำงานและตรวจสอบการสูญเสียของผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง ระบบอัลไพน์ยังใช้ล้อแยกข้อสะโพกแบบพิเศษที่เรียกว่า ฮิฟ ดิสโลเคชัน วีล ควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อต่อสะโพกโดยไม่สร้างแรงกดบนขาไก่ ทำให้สามารถตัดขาได้อย่างสะอาดและแม่นยำ โดยตลอดกระบวนการ ขาไก่จะถูกยึดไว้อย่างมั่นคงในชุดจับ ส่งผลให้ได้ผลผลิตสูงและคุณภาพการตัดที่ดีเยี่ยม นายฮันเนส ลังเกน ผู้จัดการโครงการจากบริษัทเอมส์ลันด์ ฟริชเกอฟลือเกิลกล่าวว่าระบบอัลไพน์ เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแยกขาออกจากสะโพกแบบกายวิภาค ซึ่งช่วยให้ได้รอยตัดที่สะอาดบริเวณข้อต่อขาอย่างแท้จริง
เอกสารอ้างอิง
Marel. 2025. How to turn every piece of chicken into profit. [Internet]. [Cited 2025 Sep 1]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/processing/how-to-turn-every-piece-of-chicken-into-profit
ภาพที่ ๓ ผลผลิตจากคิว-วิง
สูงกว่าสำหรับทุกชิ้นส่วนของปีกอย่างชัดเจน และคุณภาพก็ดีกว่าอีกด้วย(แหล่งภาพ Marel)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น