วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

วิจัยเชื้อราในไส้ตันไก่

เชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ยังเป็นสาเหตุหลักของโรคอาหารเป็นพิษในมนุษย์ แต่ละปีทั่วโลกต้องลงทุนใช้เงินหลายหมื่นล้านบาทเพื่อควบคุมเชื้อเหล่านี้ และกลยุทธสำคัญส่วนใหญ่ก็มีเป้าหมายที่เชื้อแบคทีเรียก่อโรคเหล่านี้ในทางเดินอาหาร
กลยุทธ์ในการป้องกันเชื้อซัลโมเนลลา และแคมไพโลแบคเตอร์ในการผลิตไก่เนื้อ รวมถึง การใช้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในรูปของซีอี หรือโปรไบโอติก แต่ก็ยังมีเชื้อชนิดอื่น เช่น รา และยีสต์ ที่มีฤทธิ์ป้องกัน และควบคุมเชื้อก่อโรคเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน
บทบาทของเชื้อรา และยีสต์ ยังไม่ทราบแน่ชัด
               เชื้อรา และยีสต์ เป็นจุลินทรีย์ไมโคฟลอราที่นักวิชาการยังไม่เข้าใจว่า มีความสัมพันธ์กับการผลิตสัตว์ปีกอย่างไรได้บ้าง เชื้อเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้ อย่างไรก็ตามก็มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า เชื้อราก็สามารถป้องกันสัตว์ปีกจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นเดียวกัน นักวิชาการทั่วโลกมักมองข้ามบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   
การปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน
               การศึกษาผลของเชื้อราที่เป็นประโยชน์ กับการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันภายใต้สภาวะการเลี้ยงไก่ปรกติ ความเครียด และการเกิดโรค ปัญหาประการหนึ่งในการทำงานวิจัยกับเชื้อราคือ การจำแนกจีนัส และชนิดของเชื้อรา เนื่องจาก ห้องปฏิบัติการเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีความสนใจเชื้อรา และยีสต์ ดังนั้น เป้าหมาของการศึกษาครั้งนี้คือ การจำแนกเชื้อราที่แยกได้จากทางเดินอาหารของไก่เนื้อ และไก่ไข่ เพื่อจัดทำเป็นข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราที่พบในไส้ตันของสัตว์ปีก แล้วใช้เทคนิค Automated repetitive sequence PCR เป็นเครื่องมือสำหรับการจำแนกชนิดกลุ่มประชากรเชื้อรา ผลการวิจัยครั้งนี้จะให้ข้อมูลพื้นฐานของประชากรเชื้อราภายใต้ระบบการเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะป็นสิ่งสำคัญสำหรับการศึกษาผลของเชื้อราต่อทางเดินอาหาร และสุขภาพสัตว์ปีกต่อไป
เอกสารอ้างอิง
J. Byrd A, Caldwell DY, and Nisbet DJ. 2017. Identifying fungi in commercial poultry caeca. [Internet]. [Cited 2017 Oct 2]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/10/Identifying-fungi-in-commercial-poultry-caeca-191500E/


ภาพที่ ๑  นักวิชาการกำลังสนใจบทบาทของเชื้อรา และยีสต์ต่อการผลิตสัตว์ปีก รวมถึง ความสัมพันธ์ของเชื้อรา และยีสต์กับแบคทีเรียในทางเดินอาหารของสัตว์ปีก   (แหล่งภาพ: Koos Groenewold)

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การทำให้น้ำเป็นกรดส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ไก่โตดี ลดการใช้ยา

น้ำที่ถูกเตรียมให้เป็นกรดเป็นกุญแจส่วนหนึ่งของการกำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ปเป็นประโยชน์ และสุขภาพของสัตว์ปีก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือสมดุลของชีวิตที่ถูกต้อง
               น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง ระดับของความสะอาด และสุขอนามัยมีอยู่หลายมาตรฐาน คนส่วนใหญ่คิดว่า เมื่อน้ำที่สกปรก สังเกตได้ความขุ่น และการปนเปื้อนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วน้ำที่ดูใสก็อาจซ่อนอันตรายไว้ได้เช่นกัน
คุณภาพน้ำ พื้นฐานสำคัญสำหรับสุขภาพสัตว์
               ตามปรกติ ไก่กินน้ำเป็นสองเท่าของอาหาร ดังนั้น น้ำจึงมีบทบาทสำคัญต่อการย่อยอาหาร การเคลื่อนย้ายสารอาหาร การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และการกำจัดของเสียจากร่างกาย น้ำมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพไก่ และผลการเลี้ยงฟาร์ม
               กุญแจสำคัญ ๒ ประการสำหรับการทำความสะอาดน้ำในฟาร์ม ได้แก่
               ๑. การทำความสะอาดฆ่าเชื้อหลังจบรุ่น (Terminal hygience at turnaround)
               ๒. บำบัดน้ำโดยใช้กรดอินทรีย์ (Ongoing water treatments like organic acids)
ภายหลังการจับไก่
               เกษตรกรมีการฟลัชล้างระบบน้ำทุกรุ่นหลังการจับไก่อยู่แล้ว แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กิจกรรมประจำรุ่นประสบความสำเร็จ ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แค่เพียงอ่านคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แล้วปฏิบัติตาม คนส่วนใหญ่คิดเพียงว่าปล่อยทิ้งไว้ในท่อให้นานขึ้นก็ช่วยให้ได้ผลดีแล้ว แต่สิ่งนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป น้ำยาทำความสะอาดสามารถทำลายไบโอฟิลม์ตามท่อได้ในช่วงแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ไบโอฟิลม์สามารถจับตัวกันใหม่จนกระทั่งยากที่จะฟลัชล้างออกไปได้ 
ไบโอฟิลม์คืออะไร และกำจัดได้อย่างไร
               ไบโอฟิลม์คือกลุ่มของเชื้อแบคทีเรีย รา และสาหร่ายที่จับรวมเข้าด้วยกันเป็นเมือกเกาะแน่นบนพื้นผิว และปกป้องไม่ให้สารต้านเชื้อแบคทีเรียทำลายได้ ดังนั้น เชื้อดังกล่าวก็จะสามารถเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนได้ 
               น้ำยาทำความสะอาดที่ใช้กรดเปอร์อะเซติกมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไบโอฟิลม์ ขณะที่ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้ผลดีในการกำจัดไบโอฟิลม์ และสารอินทรีย์ แต่ไม่ว่าจะใช้น้ำยาเคมีประเภทใดก็ให้ปฏิบัติตามฉลากข้างขวด อย่างไรก็ตาม หากเชื้อแบคทีเรียระดับสูง ความเข้มข้นระดับ ๑ เปอร์เซ็นต์อาจไม่เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อได้ อาจต้องเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ ๒ ถึง ๓ เปอร์เซ็นต์ ให้ทบทวนกิจกรรมที่ได้ทำมาในรุ่นที่ผ่านมา หากมีการตรวจน้ำทางห้องปฏิบัติการ และไม่พบเชื้อใดๆที่น่าวิตกกังวล การใช้น้ำยาทำความสะอาดความเข้มข้นเพียง ๑ เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอ แต่ถ้ามีการให้ยา และวิตามินบ่อย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสารตกค้างคงอยู่ในท่อก็ควรจะเพิ่มความเข้มข้นน้ำยาทำความสะอาดขึ้นอีกสักหน่อย
การตรวจคุณภาพน้ำ
               คุณภาพน้ำจะมีผลต่อสุขภาพไก่ในโรงเรือนมากเท่าไรก็ขึ้นกับว่า ไก่กินน้ำเข้าไปมากเท่าไร โดยเฉพาะ พีเอช อาจส่งผลต่อรสชาด และการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียก่อโรคชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นด่าง ขณะที่ เชื้อแบคทีเรียที่ดีชอบสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างเป็นกรด น้ำที่มีระดับพีเอชสูงยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ และวัคซีน ขณะที่ น้ำที่มีกรดมากเกินไปก็อาจทำให้ไก่ไม่ยอมกินน้ำ และกัดกร่อนอุปกรณ์การเลี้ยงในโรงเรือนได้อีกด้วย
ระดับพีเอชที่เหมาะสม
               พีเอชที่เหมาะควรอยู่ระหว่าง ๕ ถึง ๖ น้ำกระด้างต้องมีการบำบัดมากกว่าน้ำอ่อน ถ้าใช้น้ำบาดาลก็ควรตรวจวิเคราะห์เป็นประจำทุก ๖ ถึง ๑๒ เดือน เพื่อทำความเข้าใจแร่ธาตุที่อยู่ในบ่อให้มากขึ้น เนื่องจาก ระดับของแร่ธาตุส่งผลกระทบต่อสุขภาพไก่ได้โดยตรง เช่น น้ำที่มีระดับโซเดียม และคลอไรด์สูงอาจทำให้วัสดุรองพื้นเปียกได้ เช่นเดียวกับแมกนีเซียม และซัลเฟต หรือซัลเฟต และโซเดียม เพียงใช้แผ่นดิปสติ๊กง่ายๆ หรืออุปกรณ์พกพาตรวจพีเอชของน้ำในท่อน้ำไก่กินอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้เรามีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของแร่ธาตุในแหล่งน้ำได้
อุปกรณ์บำบัดน้ำ
               อุปกรณ์บำบัดน้ำกระด้างให้เป้นน้ำอ่อนใช้หลักการของการแลกเปลี่ยนไอออนเพื่อกำจัดไอออนของแคลเซียม และแมกนีเซียม แล้วแทนที่ด้วยไอออนของโซเดียม อย่างไรก็ตาม ภายหลังการบำบัดก็จะทำให้ระดับของโซเดียมสูงขึ้นจนไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้น ผู้ผลิตควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์บำบัดน้ำอย่างรอบคอบ
ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
               เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อตัวของไบโอฟิลม์ไปจนตลอดรุ่นการเลี้ยง พิจารณาเลือกวิธีการบำบัดน้ำที่เหมาะสม ได้แก่ การกรองด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต น้ำอิเล็กโทรไลต์ คลอรีนไดออกไซด์ และคลอรีนเม็ด การใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถใช้ขณะที่ยังมีการเลี้ยงไก่ในโรงเรือนในระดับที่ต่ำกว่าที่ใช้เวลาจับไก่ และได้ผลเป็นอย่างดีภายหลังการให้วิตามิน เกลือแร่ หรือยา   
กรดอินทรีย์
               ผู้ผลิตควรพิจารณากรดอินทรีย์ เพ่อเป็นแหล่งอาหารของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร เราไม่ต้องการเชื้อแบคทีเรียชนิดใดๆในน้ำที่อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ไก่มีความเสี่ยงภัยต่อสุขภาพ กรดอินทรีย์มีประโยชน์สำคัญ ๓ ประการ
               ๑. กรดอินทรีย์ช่วยทำความสะอาดน้ำ
               ๒. กรดอินทรีย์ช่วยลดตะกรันหินปูน
               ๓. กรดอินทรีย์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร
การลดพีเอชด้วยกรดอินทรีย์
               กรดอินทรีย์ลดพีเอชของน้ำ เมื่อใช้ร่วมกับสารทำความสะอาดชนิดอื่นๆ เช่น คลอรีน พีเอชที่เหมาะสมคือ ๕.๕ อย่างไรก็ตาม หากใช้กรดอินทรีย์อย่างเดียว ผู้ผลิตควรลดพีเอชลงให้ได้ระหว่าง ๓.๘ ถึง ๔.๒ เพื่อให้มีฤทธิ์กำจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคจากน้ำ ไก่ชอบน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด และค่อนข้างทนทานต่อกรด แต่หากระดับพีเอชต่ำลงกว่า ๓.๕ ก็จะทำลายผนังลำไส้ได้เช่นกัน
การใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้
               สิ่งสำคัญในการใช้กรดเป็นบัฟเฟอร์ หรือเคลือบป้องกันไว้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะผ่านไปถึงลำไส้ในรูปแบบที่สมบูรณ์ กรดทำงานในลำไส้โดยผ่านผนังเซลล์ของแบคทีเรียจากนั้นจึงแตกตัว และลดพีเอชภายในเซลล์แบคทีเรีย เซลล์จำเป็นต้องใช้พลังงานเพื่อพยายามปรับพีเอชไว้ ทำลายเมตาโบลิซึมของแบคทีเรีย และป้องกันแบคทีเรียก่อโรคมิให้รอดชีวิตต่อไป หากกรดไม่ถูกเคลือบป้องกันไว้ก็จะถูกทำละลายก่อนที่จะไปถึงลำไส้ และไม่สามารถออกฤทธิ์ต่อไปได้
               ชนิดของกรดอินทรีย์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายได้แก่ กรดฟอร์มิก และกรดโพรพิโอนิก มีประสิทธิภาพดีในการควบคุมเชื้อ อี. โคไล และซัลโมเนลลา ขณะที่ กรดแลคติก และกรดบิวไทริก มีความสำคัญต่อการส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแลคโตบาซิลลัสในลำไส้
ระบบการเติมยาอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
               กรด คลอรีน และผลิตภัณฑ์สุขอนามัยอื่นๆ อาจเป็นอันตรายหากขาดความระมัดระวัง การลงทุนติดตั้งระบบการเติมยาอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคอยให้พนักงานคอยเติม และตวงชั่งด้วยมือ จะทำให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ประกอบการว่า สัตว์ปีกในโรงเรือนได้รับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในระดับที่ถูกต้องไปจนตลอดวงจรการเลี้ยง  การเสริมสร้างสุขภาพทางเดินอาหารที่ดีเพิ่มเติมได้โดยการใช้โปรไบโอติกในน้ำ หรืออาหาร เพื่อส่งเสริมความแข็งแรง และการทำหน้าที่ของภูมิคุ้มกัน
               การใช้ยาฆ่าเชื้อในน้ำอย่างต่อเนื่องจะทำลายโปรไบโอติกส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงต้องหยุดใช้น้ำยาฆ่าเชื้อระหว่างการใช้โปรไบโอติก อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกในสหราชอาณาจักรที่ทนทานต่อคลอรีนได้
กรณีตัวอย่าง การใส่ใจต่อน้ำให้ผลผลิตที่ดี
               ฟาร์มไก่เนื้อที่มีปัญหาสุขภาพต่อเนื่องทุกรุ่น จำนวน ๕๔๒,๐๐๐ ตัว เริ่มบำบัดน้ำอย่างเข้มงวดเป็นเวลา ๓ ปีจากน้ำบ่อที่ใช้ในฟาร์ม มีการตรวจสอบเป็นประจำทุก ๖ เดือน และฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเล็ต น้ำมีระดับแมงกานีส เหล็ก และซัลเฟตสูง ดังนั้น จึงใช้รีเวิร์สออสโมซิสเพื่อกำจัดสารเหล่านี้ สุขอนามัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่สุขอนามัยของน้ำมักถูกมองข้ามไป
               เมื่อจบการเลี้ยงแต่ละรุ่นก็มีการฟลัชล้างทุกไลน์น้ำ รวมถึง ท่อน้ำใต้ดินไหลออก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาศัยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ทิ้งไว้เป็นเวลา ๑๒ ชั่วโมงก่อนฟลัชทิ้งด้วยน้ำสะอาด แล้วทำซ้ำก่อนที่ลูกไก่รุ่นใหม่จะนำเข้ามาเลี้ยง จากนั้นใช้คลอรีน และกรดอินทรีย์เติมลงในน้ำโดยใช้ระบบการเติมยาอัตโนมัติช่วยปรับพีเอชลดลงจาก ๗.๔ ให้เป็น ๕.๒ ด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อย ผู้เลี้ยงก็จะได้ประโยชน์จากสุขภาพของลำไส้ที่ดี ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาวัสดุรองพื้นเสีย เมื่อไก่จับเข้าโรงฆ่าก็มีคะแนนรอยโรคของเท้าที่ดีมาก การทำความสะอาดไลน์น้ำ และอุปกรณ์การให้น้ำก่อนที่จะเกิดเมือกขึ้นมาเป็นการตัดปัญหาการเกิดไบโอฟิลม์  
น้ำสะอาดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เราใช้ในการเลี้ยงไก่ เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนของมวลร่างกายไก่ส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำ
โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์
               การใช้โปรไบโอติก และน้ำมันหอมระเหยในอาหารสัตว์ช่วยส่งเสริมสุขภาพของทางเดินอาหาร และภูมิคุ้มกันในไก่ที่อายุ ๓ สัปดาห์เป็นเวลาที่ไก่กำลังเปลี่ยนสูตรอาหารสัตว์ บางฟาร์มกำลังให้วัคซีนกัมโบโร และเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต สภาวะดังกล่าวที่สร้างความเครียดต่อสุขภาพทางเดินอาหาร น้ำมันหอมระเหยช่วยสร้างความสมดุลให้กับลำไส้ และลดการรั่วไหลของแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด สามารถยับยั้งการเกาะยึดของเชื้อ อี. โคลัย ที่ฟิมเบรีย ตั้งแต่ลูกไก่แรกเลี้ยงอายุ ๑ วัน ช่วงเวลาการเลี้ยงไก่เล็กค่อนข้างสั้น ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมน้ำที่สะอาด และมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อมิให้เชื้อแบคทีเรียก่อโรคฉวยโอกาสเข้าไปในร่างกายของสัตว์ตั้งแต่ระยะแรก นอกจากนั้น ผลประโยชน์อื่นๆยังช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้เป็นอย่างมาก นั่นคือ การอยู่บนพื้นฐานของการป้องกันมากกว่าการคอยรักษาสัตว์ป่วย

เอกสารอ้างอิง

Cooper O. 2017. How acidification of water improves gut health. [Internet]. [Cited 2016 Sep 19]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2017/9/How-acidification-of-water-improves-gut-health-186304E/

ภาพที่ ๑  น้ำที่สะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความจำเป็นต่อสุขภาพสัตว์ปีก แต่ไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างถูกต้อง (แหล่งภาพ: Tim Scrivener)

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

แคมไพล์ระบาดจากร้านเพ็ตชอพมะกัน

หน่วยสุขภาพของรัฐโอไฮโอ CDC และ APHIS มากันให้หมด กำลังสอบสวนการระบาดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ที่เชื่อมโยงกับลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านร้านเพ็ตชอพ Petland ที่เป็นเชนร้านขายสัตว์เลี้ยงไปทั่วประเทศ ถึงเวลานี้มีผู้ป่วย ๓๙ รายใน ๗ รัฐ เข้าโรงพยาบาล ๙ ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต  
               การระบาดครั้งนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ๑๑ กันยายนพอดี ผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่ทารกไม่ถึงขวบดีไปจนถึงคนชราวัย ๖๔ ปี อายุเฉลี่ยเป็น ๒๒ ปี โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็น ๗๒ เปอร์เซ็นต์ ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ๒๓ เปอร์เซ็นต์ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อ หรือแสดงอาการของโรคใน ๗ รัฐ ได้แก่ ฟลอริดา คันซอ มิสซูรี โอโฮโอ เพนซิลวาเนีย เทนเนสซี และวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสกับลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านร้านเพตแลนด์ โดย ๑๒ รายเป็นลูกจ้างในร้านเพตแลนด์จาก ๔ รัฐ และ ๒๗ รายพึ่งซื้อลูกสุนัขจากร้านเพตแลนด์ แวะชมร้านเพตแลนด์ หรือพักอาศัย หรือแวะเที่ยวบ้านที่ซื้อลูกสุนัขผ่านร้านเพตแลนด์ก่อนเริ่มแสดงอาการป่วยหลักฐานทางระบาดวิทยา และห้องปฏิบัติการ บ่งชี้ว่า ลูกสุนัขขายจากร้านเพตแลนด์เป็นแหล่งของการระบาดครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ร้านเพตแลนด์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สุขภาพสัตว์ และสาธารณสุขเป็นอย่างดีในการสอบย้อนกลับหาแหล่งต้นตอการระบาด เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์สามารถแพร่กระจายจากการสัมผัสอุจจาระของสุนัข การตรวจลำดับสารพันธุกรรมทั้งจีโนม พบว่า เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์จากตัวอย่างลูกสุนัขที่จำหน่ายผ่านเพตแลนด์ในฟลอริดามีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วยในโอไฮโอ นั่นคือ ลูกสุนัข และสุนัขเป็นพาหะของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในการระบาดครั้งนี้ 
               คำแนะนำในการซื้อลูกสุนัข ควรเลือกลูกสุนัขที่แข็งแรง ตื่นตัว และขนเป็นเงา และควรนำลูกสุนัขใหม่ไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด ไม่เกิน ๑ สัปดาห์หลังจากรับเข้ามาเลี้ยง หากตรวจลูกสุนัขป่วย ให้ฝากให้กับสัตวแพทย์ ผู้ที่สัมผัสกับสุนัขป่วยควรล้างมือให้สะอาดอย่างทั่วถึงด้วยสบู่ เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ โดยเฉพาะ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก คนชรา ล้วนแต่มีความไวรับต่อการเกิดโรค อาการป่วยเริ่มตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียง บางครั้งมีเลือดปนในอุจจาระ และมีไข้ ผู้ป่วยควรพบแพทย์   

สุนัขเป็นพาหะนำเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ติดต่อสู่มนุษย์ได้ โดยสุนัขจะไม่แสดงอาการ มีรายงานการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ๖ เปอร์เซ็นต์ของโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในมนุษย์มีสาเหตุจากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง แสดงว่า ไก่เริ่มมีคู่แข่งที่มาแรง และอาจแซงโค้งได้ในอนาคต บทบาทของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ต่อการเกิดโรคทางเดินอาหารในสุนัขยังไม่แน่ชัด บางงานวิจัยพบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างอาการท้องเสีย และการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ แสดงว่า เป็นเชื้อที่มีโอกาสพบได้เป็นปรกติในร่างกายสุนัข แต่บางงานวิจัยก็ให้ผลขัดแย้งกัน โดยพบความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขที่ติดเชื้อกับอาการป่วย โดยเฉพาะ ลูกสุนัข รอยโรคที่พบคือ การคั่งเลือด และบวมน้ำของลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่เลือดออกอย่างรุนแรง และต่อมน้ำเหลืองตามเยื่อแขวนลำไส้บวมน้ำ และยังมีรายงานลูกสุนัขแรกเกิดตายจากการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน เช่นกัน สุนัขสามารถเป็นพาหะของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ได้หลายชนิด โดย ค. เจจูไน เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด รองลงมาคือ ค. อัพซาเลียนซิส บางรายงานวิจัย พบการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ร่วมกันหลายชนิด ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เป็นที่แน่ชัดว่า สุนัขเป็นแหล่งของเชื้อชนิดนี้ที่สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้โดยตรง ความชุกของสุนัขที่เป็นพาหะของเชื้อ มีผลการสำรวจที่แตกต่างกันไปขึ้นกับประชากรสุนัขที่เก็บตัวอย่าง การออกแบบการศึกษษ และวิธีการตรวจสอบ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความชุกได้แก่ สิ่งแวดล้อม อายุ การปรากฏอาการท้องเสีย หรือโรคทางเดินอาหาร การเลี้ยงสุนัขอย่างแออัด การสัมผัสกับสัตว์อื่นๆ การเดินออกไปนอกพื้นที่การเลี้ยง และฤดูกาล
เอกสารอ้างอิง
ProMed. 2017. Campylobacteriosis-USA: canine, human, alert. [Internet]. [Cited 2016 Sep 11]. Available from: http://www.promedmail.org
ภาพที่ ๑ วิ่งส่ายก้นแพร่เชื้อในร้านเพ็ตช็อพ ๖ เปอร์เซ็นต์ของโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในมนุษย์มีสาเหตุจากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง  (แหล่งภาพ: https://pixabay.com/en/dog-shop-run-pet-fun-1673728/) 


   

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

ท้องเสียจากแคมไพล์ในอังกฤษ หลังปาร์ตี้ฉลองวันเกิด

โปรเมดเวบไซต์ตรวจติดตามโรคอุบัติใหม่รายงานการเกิดโรคแคมไพโลแบคเตอริโอซิสในสหราชอาณาจักร โดยแหล่งของโรคระบาดเกิดจากโรงแรม และร้านอาหาร สาธารณสุขแห่งอังกฤษ (PHE) เปิดเผยว่าเมนูอาหารจากตับไก่ Chicken liver parfait เป็นสาเหตุของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษที่โรงแรม Brockley Hall ใน Saltburn อย่างไรก็ตาม ไม่พบความผิดปรกติในกระบวนการผลิตอาหารรายการดังกล่าว ดังนั้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของการปนเปื้อนครั้งนี้ได้ ความจริงแล้ว นักวิจัยได้มีการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างเมนูอาหารชนิดนี้กับการเกิดโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์มาแล้ว แต่ความเอร็ดอร่อยในรสชาดคงเอาชนะความกลัวโรคอาหารเป็นพิษ
               จำนวนผู้ป่วยตามรายงานของ PHE รวมทั้งสิ้น ๘ ราย ในจำนวนนี้ ๖ รายมีผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเกิดโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ ส่วนอีก ๒ รายยังเป็นรายที่สงสัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่แสดงอาการป่วยภายหลังร่วมงานฉลองวันครบรอบวันเกิด ๔๐ ปีเมื่อวันที่ ๗ กรกฏาคมที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ ๓ รายต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงหญิงเจ้าของงานวันเกิดต้องนอนหยอดน้ำเกลือร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนๆด้วยเช่นกัน ขณะนี้ รายงานการระบาดได้ส่งไปยังสภา Redcar and Cleveland Council โดยผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตั้งแต่การสอบสอน และปฏิบัติตามคำแนะนำในการควบคุม และการจัดการโรคระบาด หลังจากการตรวจเยี่ยมซ้ำ ผู้ประกอบการก็ได้ดำเนินการแก้ไขจนไม่พบความเสี่ยงต่อผู้บริโภค และอนุญาตให้ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารต่อไปได้ แม้ว่าจะไม่พบความผิดปรกติในการผลิตอาหารรายการนี้ แต่ก็เชื่อได้ว่า การปนเปื้อนข้ามของตับบดทาขนมปังนี้จะเกิดขึ้นภายหลังการปรุงสุก หรืออาจเป็นผลมาจากปรุงไม่สุกเพียงพอจนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ    
               สำหรับปัญหาโรคติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก การบริโภคตับที่ปรุงไม่สุกเพียงพอ รวมถึง เมนูพิเศษที่แนะนำโดยพ่อครัวชั้นเยี่ยม เสริฟรายการตับที่ใช้เวลาปรุงสั้นๆ สียังเป็นสีชมพูอยู่เลย ระหว่างปี ค.ศ.๒๐๑๕ มีคณะวิจัยเคยศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างตับดิบ และการอยู่รอดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ แล้วใช้ภาพถ่ายประเมินพ่อครัวตัวดีว่า สามารถสังเกตได้หรือไม่ว่า ตับไก่ปรุงสุกเป็นอย่างดีปลอดภัยแล้วสำหรับผู้บริโภค หลังจากทำการศึกษาความปลอดภัยทางทางจุลชีววิทยาของตับที่พ่อครัวพร้อมจะเสริฟให้กับลูกค้า ผู้วิจัยยังได้จำลองการอยู่รอดของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในตับไก่ที่ติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ที่อุณหภูมิต่างๆกัน พบว่า พ่อครัวส่วนใหญ่สามารถจำแนกตับไก่ปรุงสุกที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ก็เป็นระดับที่สุกเกินไปสำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบความดิบ ผู้วิจัยพบว่า ๑๙ ถึง ๕๒ เปอร์เซ็นต์ของตับที่เสริฟในเมนูอาหารสุดยอดเหล่านี้ปรุงไม่ถึงอุณหภูมิ ๗๐ องศาเซลเซียส และคาดว่า อัตราการรอดชีวิตของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ยังคงเป็น ๔๘ ถึง ๙๘ เปอร์เซ็นต์ ผลการวิจัยครั้งนี้บ่งชี้ว่า พฤติกรรมการประกอบอาหารในเมนูพิเศษนี้มีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในผู้บริโภคสหราชอาณาจักร  
เอกสารอ้างอิง
Jones AK, Rigby D, Burton M, et al: Restaurant cooking trends and increased risk for Campylobacter infection. Emerg Infect Dis. 2016;22: 1208-15. Available at: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4918174/

ภาพที่ ๑มนูอาหารจากตับไก่ Chicken liver parfait เป็นสาเหตุของผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษที่โรงแรม Brockley Hall (แหล่งภาพ: https://stocksnap.io/photo/I2FJ6Y4RPV) 



วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

วิถีหวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ สไตล์อาหรับ

กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางมีประชากรไก่เนื้อ ๓ พันล้านตัว ไก่ไข่ ๑๓๗ ล้านตัว ไก่พันธุ์ ๓๐ ล้านตัว เริ่มประสบปัญหาไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๙๙ ในสไตล์ต่างๆตั้งแต่ ไข่ลดมีอัตราการไข่พีคแค่ ๖๒ เปอร์เซ็นต์ รูปร่างไข่ผิดรูป ผิวขรุขระ อัตราการตายปานกลาง ไก่ไข่ และไก่พันธุ์จะแสดงอาการทางระบบหายใจร่วมด้วย ขณะที่ ไก่เนื้อมีอัตราการตายหนักหน่อย บางรายหายนะมากกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ภายในสามอาทิตย์เท่านั้น นักวิชาการชาวอาหรับสำรวจโรคจากการเก็บตัวอย่างซีรัม และเนื้อเยื่อทั่วตะวันออกกลาง พบว่า การเกิดโรคไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ มักไม่ฉายเดียว แต่มีพ่วงหลอดลมอักเสบติดต่อ หรือนิวคาสเซิล มาด้วยเสมอ สำหรับชาวอาหรับ ไม่ยอมหลับ ตัดสินใจใช้วัคซีนเชื้อตายควบคุมโรคที่ ๑๒ และ ๑๖ สัปดาห์ สามารถควบคุมความเสียหายจากโรคได้
               โรคไข้หวัดนกเอช ๙ เอ็น ๒ ไม่ใช่เพิ่งมาเจอกัน แต่พบครั้งแรกในไก่งวงสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้วในปี ค.ศ. ๑๙๖๖ แต่หลังจากนั้นก็ไปเตร็ดเตร่อยู่แถวนกชายหาด และเป็ดแมลลาร์ด อย่างไรก็ตามหลังจากวิวัฒนาการเป็นเวลานานกว่าห้าสิบปี เชื้อไวรัสแพร่กระจายข้ามโลก วนไปในนกป่า และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั่วโลก ถึงเวลาของไวรัสเอช ๙ เอ็น ๒ ที่สั่งสมประสบการณ์มาเป็นเวลานานก็พร้อมจะแผลงฤทธิ์ให้โลกได้ประจักษ์แล้ว อาละวาดฟาดไปทั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ในไก่น้อยก็ตายกันมาก ในไก่ไข่ ไก่พันธุ์ก็ทำให้ไข่ลดลงจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจตอนต้น ร่วมกับเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆผสมโรง และในคนก็อันตรายไม่น้อย เพราะเชื้อไวรัสเอช ๗ เอ็น ๙ ที่โลกกลัวติดคนแล้ว อัตราตาย ๔๐ เปอร์เซ็นต์ก็สร้างสรรค์โดยยีนส์ ๖ ท่อนจากรุ่นพี่เอช ๙ เอ็น ๒ นี่เอง
หกสิบเปอร์เซ็นต์ของไก่มีผลเลือดเป็นบวก
               ตัวอย่างเลือด ๑๗๙๐ ตัวอย่างที่เก็บจากฟาร์มหลายแห่งในตะวันออกกลาง พบว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ให้ผลเลือดเป็นบวกต่อโรคไข้หวัดนกด้วยวิธีเอจีพี และอีไลซา จากนั้นก็ต้องใช้แอนติเจนของจีดีที่จำเพาะต่อเอช ๙ และไอบี ๔ ทับ ๙๑ ใช้เทคนิคเอชไอก็พบว่าเป็นบวกเช่นกัน เป็นอันยืนยันว่า การเกิดโรคมักเป็นการร่วมด้วยช่วยกันของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก และหลอดลมอักเสบติดต่อ ยิ่งไปกว่านั้น ผลการตรวจแยกเชื้อไวรัสมักพบการติดเชื้อร่วมกันของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก และเชื้อท้องถิ่นไวรัสนิวคาสเซิล
เสียดายที่ยังไม่มีการสำรวจในคน และสัตว์เลี้ยงแดนอาหรับบ้าง อย่างในทางตอนใต้ของจีนเป็นเสมือนสรวงสวรรค์สำหรับเชื้อไวรัสไข้หวัดนก พบเชื้อไวรัสในสุนัขสูงขึ้นเรื่อยๆจาก ๒๐.๑ เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ.๒๐๑๐ เป็น ๔๔.๘๕ เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ.๒๐๑๒ เรียกได้ว่า แดนสวรรค์แห่งนี้ สุนัขเดินมา ๒ ตัวต้องมี ๑ ตัวที่เคยติดเชื้อไวรัส เอช ๙ เอ็น ๒ มาแล้ว  สำหรับในมนุษย์ องค์การอนามัยโลก เชื่อว่า จะมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ   
  
เอกสารอ้างอิง
Bakri H. 2016. Avian influenza H9N2 in the middle east countries. [Internet]. [Cited 2016 Nov 11]. Available from: https://en.engormix.com/poultry-industry/articles/avian-influenza-h9n2-middle-t39878.htm


ภาพที่ ๑ ไข่จากฟาร์มที่ติดเชื้อเอช ๙ เอ็น ๒ ในตะวันออกกลาง แม่เจ้า...นี่มันไข่หรือหินแม่น้ำเนี่ย? (เครดิตบัง Bakri, 2016)  

หวัดนกเอช ๗ เอ็น ๙ ยังมีผู้เสียชีวิตต่อเนื่องในจีน

คณะวางแผนครอบครัว และสุขภาพแห่งชาติจีนรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๗ เอ็น ๙ ในเจียงซู
ผู้ป่วยชายวัย ๕๘ ปี ในมณฑลเจ้อเจียงเสียชีวิตภายหลังการรับเชื้อจากตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตก่อนแสดงอาการ นับตั้งแต่ปี ค.ศ.๒๐๑๓ สี่ปีผ่านมาแล้วที่จีนต้องเผชิญกับปัญหาโรคไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๗ เอ็น ๙ มีรายงานผู้ป่วยแล้ว ๑,๕๑๖ ราย โดยเมื่อปีที่แล้วปีเดียวก็ปาเข้าไป ๗๖๓ รายจึงดูเหมือนว่า แนวโน้มจะแพร่ระบาดมากขึ้นทุกปี ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีประวัติสัมผัสกับโรคไข้หวัดนกสับไทป์เอช ๗ เอ็น ๙ จากสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ หรือสิ่งแวดล้อมที่มีการปนเปื้อน โดยเฉพาะ ตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต เมื่อเชื้อไวรัสยังคงตรวจพบในสัตว์ และสิ่งแวดล้อมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และยังคงค้าขายไก่มีชีวิตกันอยู่ในตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ก็ยังเชื่อได้ว่า จะยังคงมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เช่น ผู้ป่วยในวอร์ดเดียวกัน แต่หลักฐานทางระบาดวิทยา และไวรัสวิทยายังบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสยังไม่สามารถถ่ายทอดจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ นักท่องเที่ยวเยือนประเทศที่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ควรหลีกเลี่ยงฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก การสัมผัสกับตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต การเข้าสู่พื้นที่ที่สัตว์ปีกอาจถูกทำลาย หรือสัมผัสกับพื้นผิวที่มีการปนเปื้อนด้วยมูลจากสัตว์ปีก หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ นักท่องเที่ยวควรล้างมือด้วยสบู่ และน้ำ และปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยที่ดี และสุขศาสตร์อาหารสัตว์ที่เหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
Herriman R. 2017. Outbreak News Today [edited]. [Internet]. [Cited 2017 Sep 2]. Available from: http://outbreaknewstoday.com/china-reports-h7n9-avian-flu-death-jiangsu-39614/

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

คานาดาวิจัยโปรไบโอติกทดแทนยาปฏิชีวนะ

งานวิจัย และนวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญสำหรับค้นหาทางเลือกทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ และยาต้านเชื้อจุลชีพ นักวิจัยที่วิทยาลัยสัตวแพทย์ออนตาริโอ มหาวิทยาลัยกวัฟล์ กำลังศึกษาการใช้โปรไบโอติกเป็นทางเลือกทดแทนการใช้ยาต้านเชื้อจุลชีพ เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคทั้ง ซัลโมเนลลา แคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน และคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์
               ห้องปฏิบัติการของ ดร. Shayan Sharif วิทยาลัยสัตวแพทย์ออนตาริโอ มหาวิทยาลัยกวัฟล์ กำลังมุ่งมั่นพัฒนาสูตรโปรไบโอติกเพื่อต่อสู้กับเชื้อซัลโมเนลลา ขณะนี้ นักวิจัยได้ใช้ส่วนผสมของเชื้อแลคโตบาซิลลัส หรือเชื้อแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกหลายชนิด พบว่า สามารถลดการสร้างนิคม หรือความเสียหายจากเชื้อซัลโมเนลลาได้อย่างมีนัยสำคัญ และตอนนี้กำลังหันมาสนใจเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน เชื้อแบคทีเรียสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาลำไส้อักเสบในมนุษย์ เนื่องจาก โรคอาหารเป็นพิษ ตามรายงานของสาธารณสุขแห่งคานาดา
สิ่งคุกคามสุขภาพมนุษย์
               ไก่เป็นพาหะสำคัญของเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในลำไส้ โดยไม่แสดงอาการทางคลินิก เชื้อแอบแฝงอยู่ภายในร่างกายของไก่ไปได้ตลอดชีวิต นั่นหมายความว่า ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องใส่ใจต่อเชื้อชนิดนี้ เพราะเชื้อไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสุขภาพไก่แต่อย่างใด แต่ข้อวิตกกังวลคือ ผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ต่างหาก เนื่องจาก เชื้อแบคทีเรียสามารถถ่ายทอดสู่มนุษย์ผ่านเนื้อไก่ที่ปรุงไม่สุก มาตรการควบคุมที่พยายามวิจัยกันมาทั้งการใช้วัคซีน ความเข้มงวดความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสิ้นคิด ไม่สามารถทำอะไรเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นทั้งเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน และซัลโมเนลลา ยังเก็บ และถ่ายทอดยีนดื้อยาต้านเชื้อจุลชีพได้อีกด้วย
               กลุ่มนักวิจัยได้วางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบเริ่มตั้งแต่การจำแนกเชื้อ และการทดสอบเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ไก่ที่สุขภาพดี โดยมีความสามารถต่อต้านเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถส่งเสริมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในไก่ได้อีกด้วย เป้าหมายคือ การใช้แบคทีเรียเหล่านี้ หรือร่วมกับการให้วัคซีนเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ยังคิดถึงการฉีดโปรไบโอติกผ่านไข่ฟักตั้งแต่ตัวอ่อนที่อายุ ๑๘ วัน ผลการวิจัยนำร่องพบว่า ตัวอ่อนลูกไก่กินโปรไบโอติก และเชื้อสามารถสร้างนิคมในร่างกายของไก่ได้
ลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย
                  เป้าหมายถัดไปของนักวิจัยคือ เชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ ที่ทำให้เกิดปัญหาลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย โดยเฉพาะการอักเสบของลำไส้ในสัตว์ปีก ตามปรกติการเกิดลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตายมักมีเชื้อจุลชีพชนิดอื่นๆร่วมด้วยนั่นคือ บิด เชื้อทั้งสองชนิดจูงมือกันก่อโรคในสัตว์ เชื้อบิดสามารถควบคุมได้โดยใช้ยากันบิด แต่หากเกิดความผิดพลาดใดๆก็จะพัฒนาโรคกลายเป็นโรคบิด และลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตาย ทั้งสองโรคเหนี่ยวนำให้ผลผลิตลดลง และอัตราการตายเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน หลายแห่งอาจใช้วัคซีนควบคุมบิดได้ดี แต่ลำไส้อักเสบแบบมีเนื้อตายไม่มีวัคซีนใช้
               โปรไบโอติกเป็นทางเลือกทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการลดความเสียหายจากเชื้อก่อโรคเหล่านี้ในสัตว์ปีก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาดื้อยา และยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสัตว์อีกด้วย คณะผู้วิจัยยังศึกษาต่อไปถึงผลการใช้โปรไบโอติกต่อสุขภาพสัตว์ ภูมิคุ้มกัน สวัสดิภาพสัตว์ และผลผลิต รวมถึง ความคุ้มทุนในทางเศรษฐกิจ งานวิจัยโปรไบโอติกที่แสนธรรมดามีเกลื่อนทั่วไปในตลาดคงไม่ธรรมดาแล้ว หากได้รับทุนวิจัยจากกระทรวงเกษตร อาหาร และชีบน สภาวิจัยสัตว์ปีกคานาดา สภาอุตสาหกรรมสัตว์ปีก และสภาวิจัยด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติของคานาดา 

เอกสารอ้างอิง
Montel K. 2017. Probiotics may offer alternative approach to antimicrobials. [Internet]. [Cited 2017 Aug 7]. Available from: http://www.poultryworld.net/Nutrition/Articles/2017/8/Probiotics-may-offer-alternative-approach-to-antimicrobials-168123E/  

ภาพที่ ๑ ดร. Shayan Sharif และหนึ่งในผู้ร่วมวิจัยที่ห้องปฏิบัติการวิทยาลัยสัตวแพทย์ออนตาริโอ มหาวิทยาลัยกวัฟล์ กำลังพัฒนาสูตรโปรไบโอติก (แหล่งภาพ: University of Guelph)  

วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...