วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กลไก Human-Gyrovirus-Apoptin เหนี่ยวนำกระบวนการ Mitochondrial Death Pathway อาศัย Nu77 สำหรับกระตุ้นอะพอพโทซิส



โปรตีน Human gyrovirus derived protein apoptin (HGV-Apoptin) มีคุณสมบัติเป็นโฮโมโลกัสกับโปรตีนอะพอพทินจากเชื้อไวรัสเลือดจางในไก่ (CAV-Apoptin) โปรตีนที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งได้สูง และกระตุ้นให้เฉพาะเซลล์มะเร็งเกิดอะพอพโทซิสได้ ในการวิจัยครั้งนี้ HGV-Apoptin ทำงานโดยไม่ผ่านกระบวนการ Death receptor pathway ในเซลล์ Jurkat cells ที่มี และปราศจาก FADD (Fas-associated death domain) หรือ caspase-8 (โมเลกุลสำคัญสำหรับ extrinsic pathway) โดย HGV-apoptin เหนี่ยวนำให้เกิดอะพอพโทซิสได้โดยอาศัยการกระตุ้น Mitochondrial intrinsic pathway โดยเหนี่ยวนำให้มีการผ่านเข้าออกเยื่อหุ้มผนังไมโตคอนเดรียทั้งภายใน และภายนอก ทำให้ปลดปล่อยโมเลกุลของ Pro-apoptotic molecules ได้แก่ apoptosis-inducing factor และ cytochrome c
      HGV-apoptin ทำงานผ่าน Apoptosome โดยการปราศจากการแสดงออกของ Apoptotic protease-activating factor 1 ในเซลล์ Murine embryonic fibroblast ช่วยปกป้องเซลล์จากกระบวนการอะพอพโทซิสที่เหนี่ยวนำโดย HGV-Apoptin นอกเหนือจากนั้น QVD-oph เป็นยายับยั้งการทำงานของเอนไซม์แคสเปสหลายชนิด (Broad-spectrum caspase inhibitor) ส่งผลให้เซลล์ตายจาก HGV-Apoptin ช้าลง ขณะเดียวกัน การแสดงออกของ Anti-apoptotic BCL-XL มากเกินไป ทำให้เกิดความต้านทานต่อการตายของเซลล์ที่เหนี่ยวนำโดย HGV-Apoptin ในทางตรงข้าม เซลล์ที่ไม่มีการแสดงออกของ Pro-apoptotic BAX และ BAK จะถูกป้งอกันจากกระบวนการอะพอพโทซิสที่เหนี่ยวนำโดย HGV-Apoptin นอกเหนือจากนั้น HGV-Apoptin สามารถทำงานได้โดยไม่ขึ้นกับสัญญาณจาก p53 แต่กระตุ้นให้มีการเคลื่อนย้ายของ Nur77 จากไซโตพลาสซึมได้ ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า HGV-Apoptin ทำงานผ่าน mitochondrial pathway ตามขั้นตอน caspase-dependent manner แต่ไม่ขึ้นกับ death receptor pathway



Chaabane, W., Pobuda, A.C., Gazzah, M.E., Jain, M.V., Wolny, J.R., Rafat, M., Stetefeld, J., Ghavami, S. and Los, M.J. 2014. Human-Gyrovirus-Apoptin triggers mitochondrial death pathway-Nur77 is requied for apoptosis triggering. Neoplasia. 16(9): 679-693.  

โครงการเนื้อไก่ปลอดยาตกค้างในโรงเรียน



โครงการเนื้อไก่ปลอดยาตกค้างในโรงเรียนเป็นการจับมือกันของโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ในเมืองนิวยอร์ก ลอสแอนเจลลิส ชิคาโก ไมอามี ดัลลัส และออร์แลนโด ได้ประกาศมาตรฐานสำหรับการผลิตเนื้อไก่ปลอดยาปฏิวนะสำหรับโรงเรียน
                มาตรฐานที่โครงการนี้เรียกร้องจากผู้ผลิตคือ การพัฒนาคุณภาพของเนื้อไก่ที่ตามปรกติพวกเราซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น การเคลื่อนไหวนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารโครงการอาหารสำหรับโรงเรียนหลายแห่งในประเทศให้ความตระหนักถึงสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียน โดยเริ่มจากเนื้อไก่ เนื่องจากเป็นรายการอาหารที่นิยมมากที่สุดในโรงอาหารให้เป็นไปตามมาตรฐานของ USDA รวมถึง การไม่ใช้ผลพลอยได้สัตว์ในอาหารสัตว์ ใช้เฉพาะวัตถุดิบอาหารจากพืชเท่านั้น และการเลี้ยงไก่ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสวัสดิภาพสัตว์ของสภาไก่แห่งชาติ มีเป้าหมายคือให้เด็กวัยเรียนบริโภคอาหารที่มีคุณค่า และปลอดภัยเริ่มจากไก่ที่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุดโดยเฉพาะด็กในวัยเรียน ยกตัวอย่างเช่น อาหารเช้า และกลางวัน การใช้เนื้อไก่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเด็กในการได้รับโปรตีนที่มีคุณภาพสูงระหว่างเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เชื้อดื้อยาเป็นประเด็นสำคัญ และซับซ้อน การประเมินความเสี่ยงแสดงให้เห็นว่า เชื้อดื้อยาเกิดขึ้นในสัตว์ แต่การแพร่กระจายสู่มนุษย์ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ยาปฏิชีวนะที่ FDA ให้การรับรองสำหรับใช้ในการเลี้ยงไก่ ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ในทางการแพทย์ ดังนั้น จึงไม่ได้ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อยาในมนุษย์ นอกเหนือจากนั้น การใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับส่งเสริมการเจริญเติบโตในการเลี้ยงไก่ก็ได้ลดลงตามข้อกำหนดของ FDA และการควบคุมโดยสัตวแพทย์ผ่านใบสั่งยา       
                เนื้อไก่ทั้งหมดเป็นเนื้อไก่ปลอดยาปฏิชีวนะ หากมีการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มก็จะมีกฏระเบียบสำหรับงดยาปฏิชีวนะก่อนการนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูปการผลิต การรับรองสถานะปลอดยาปฏิชีวนะนั้น FDA และ USDA มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และมีโปรแกรมการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเพื่อสร้างความมั่นใจว่า อาหารในร้านจำหน่ายอาหารในโรงเรียนไม่มีการตกค้างของยาปฏิชีวนะอย่างแน่นอน
แหล่งที่มา:            World Poultry (10/12/14) 

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

โรงงานไก่สหรัฐฯมีอุบัติเหตุจากการทำงานลดลง



อุบัติเหตุ และความเจ็บป่วยจากการประกอบอาชีพภายในโรงฆ่า และโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกในสหรัฐฯลดลง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ในรอบ ๒๐ ปีที่ผ่านมา และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องตามรายงานการบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯใน ปี พ.ศ.๒๕๕๖ ที่ผ่านมา
                ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ โรงงานแปรรูปสัตว์ปีกจัดอยู่ในระดับ ๔.๕ โดยมีอัตราการลดลงของอุบัติเหตุถึง ๘๐.๒ เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับปี ๒๕๔๗ เป็นข้อมูลที่เก่าที่สุดของฝ่ายสถิติ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เนื่องจาก การปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยโดยสภาไก่แห่งชาติ (NCC, National Chicken Council) โดยรวมอัตราการบาดเจ็บ และเจ็บป่วยในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ปีกในปี พ.ศ.๒๕๕๖ ประมาณ ๔.๕ รายต่อ ๑๐๐ พนักงานที่ทำงานเต็มเวลาต่อปี ลดลงจาก ๔.๙ รายในปี พ.ศ.๒๕๕๕ สำหรับการบาดเจ็บต่อพนักงานที่ทำงานเต็มเวลา อุตสาหกรรมสัตว์ปีกมีอัตราอยู่ที่ ๔.๕ รายลดลงจาก ๕.๗ รายสำหรับโรงฆ่า และโรงงานแปรรูปของสัตว์ทุกชนิด และสูงกว่าเล็กน้อยจากอัตรา ๔.๐ สำหรับภาคการผลิตทั้งหมดในทุกอุตสาหกรรม   
                อุตสาหกรรมสัตว์ปีกมีกฏบังคับสำหรับพนักงาน เพื่อกำหนดให้พนักงานผลิตอาหารสำหรับประชาชนสหรัฐฯ และพลเมืองโลก จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนการผลิต และกระบวนการเพื่อกำจัดอันตรายจากการทำงาน สังเกตได้จากการลดลงอย่างชัดเจน และต่อเนื่องของอัตราการบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยในสถานประกอบการตลอดช่วงเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมาเป็นทิศทางที่ชัดเจนของพันธกิจสำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ปีกต่อความปลอดภัยในการทำงาน
แหล่งที่มา:            World Poultry (15/12/14) 

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การจัดการโรงฟักส่งผลต่อชีวิตไก่เนื้อทั้งชีวิต



การย้ายขั้นตอนการฟักลูกไก่ไปยังฟาร์ม ภายหลังการฟักไข่เป็นเวลา ๑๘ วันในโรงฟัก สามารถลดขั้นตอนการขนส่งสัตว์มีชีวิต และการรักษาสวัสดิภาพสัตว์ นอกเหนือจากนั้น การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมจากระบบนี้สามารถส่งผลบวกต่อสุขภาพ และการผลิตไก่เนื้อไปจนตลอดชีวิต ระบบ X-Treck system ของบริษัท Vencomatic นำขั้นตอนการฟักเข้ามายังโรงเรือนเลี้ยงไก่ การเปลี่ยนแปลงการจัดการนี้ สามารถลดความกดดันจากโรค รักษาสวัสดิภาพสัตว์ และส่งผลบวกต่อสุขภาพ และการผลิตไก่เนื้อ   
                ระบบการฟักลูกไก่ที่ฟาร์มภายในโรงเรือนเลี้ยงไก่เนื้อที่อายุ ๑๘ วันภายหลังการฟักในตู้ฟัก และถูกฟักเป็นตัวในสิ่งแวดล้อมเดียวกันกับที่ลูกไก่จะต้องใช้เวลาตลอดชีวิตในโรงเรือน ระบบการจัดการใหม่นี้สามารถกำจัดขั้นตอนการขนส่งลูกไก่วันแรก และช่วยให้ไก่เนื้อสามารถเข้าหาอาหาร และน้ำได้โดยตรงทันที ระบบการฟักที่ฟาร์ม แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างด้านการพัฒนาในระยะแรกของชีวิต และผลผลิตไก่เนื้อ อัตราการตาย และประสิทธิภาพการแลกเนื้อลดลง และน้ำหนักตัวรวม และอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อวันดีขึ้นจากเดิม การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า การฟักลูกไก่ที่ฟาร์มลดอัตราการคัดทิ้งลงได้ถึง ๓๓ เปอร์เซ็นต์ และการตายของไก่ที่โรงเชือด (DOA) ลดลงถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึง สุขภาพไก่เนื้อที่ดีขึ้น เนื่องจาก ลูกไก่สามารถเข้าถึงน้ำ และอาหารได้ทันที  
                ตู้ฟักแบบอุตสาหกรรมมีสิ่งท้าทายมากมายสำหรับลูกไก่ เช่น ฝุ่น เสียง การรมควันฟอร์มัลดีไฮด์ การจับลูกไก่ การขนส่ง รวมถึง การอดอาหาร และน้ำ ผลกระทบเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพ และการพัฒนาการของไก่เนื้อ ขณะนี้ กลุ่มบริษัท Vencomatic Group ร่วมกับมหาวิทยาลัย Wageningen University กำลังศึกษาสภาวะดังกล่าว และผลกระทบต่อสุขภาพ และผลผลิตไก่เนื้อ
ผลกระทบจากฝุ่น
                ระหว่างการฟักลูกไก่ ลูกไก่ตัวแรกที่ฟักเป็นตัวตั้งแต่อายุ ๑๙ วัน จากนั้น อัตราการฟักเป็นตัวจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนกระทั่งประมาณ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ ลูกไก่ฟักเป็นตัวในช่วงท้ายของวันที่ ๒๐ ความหนาแน่นของลูกไก่ที่ค่อยๆแออัดยัดเยียดในตู้จนกระทั่งประมาณ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ของลูกไก่ฟักเป็นตัวในวันที่ ๒๐ 
แหล่งที่มา: Pieter de Gouw, Poultry Specialist at the R&D department of Vencomatic Group

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รัสเซียยืดเวลาแบนเนื้อไก่จากสหรัฐ



สำนักงานเฝ้าระวังอาหารรัสเซีย (Rosselkhoznadzor) สั่งห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากสหรัฐฯการจำกัดการนำเข้าครั้งนี้เป็นผลมาจากความบกพร่องด้านสุขศาสตร์ของบริษัทในอเมริกา และเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกของตลาดรัสเซีย โดยการห้ามนำเข้ามีผลทั้งเนื้อสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์ รวมถึง ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงจากสัตว์ปีกอีกด้วย
                ขณะนี้ สัตวแพทย์รัสเซียยังคงสืบค้นสารตกค้างที่เป็นอันตราย และผิดกฏหมายจากผลิตภัณฑ์ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ยาปฏิชีวนะในกลุ่มเตตราซัยคลิน สัตว์ปีกจากสหรัฐฯไม่ได้ส่งไปยังตลาดรัสเซียนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อสุกรจากคานาดา และสหรัฐฯเนื่องจากสารตกค้างชื่อว่า แรคโตพามีน ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังเตรียมการผลิตเนื้อสัตว์ภายในประเทศรองรับ
แหล่งที่มา:            VLADISLAV VOROTNIKOV (5/12/14)

วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...