วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ปฏิบัติการเชิงรุก ไก่โตช้าในยุโรป

องค์การรณรงค์เพื่อความเท่าเทียมกันต่อสัตว์ได้พยายามสร้างกระแสความตื่นตัวของผู้บริโภคให้ใส่ใจต่อสวัสดิภาพสัตว์ โดยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมากในประเทศเนเธอร์แลนด์ และเยอรมัน รวมทั้งเจรจากับผู้ประกอบการค้าปลีกจำนวนมากให้ร่วมตกลงในปฏิญญาณว่าด้วย การเลี้ยงไก่ในยุโรป (European Chicken Commitment) 
     โดยกำหนดหมุดหมายไว้ในอีก ๗ ปีข้างหน้าปี ค.ศ. ๒๐๒๖ จะซื้อเนื้อไก่สด แช่แข็ง และแปรรูปจากผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์ที่ปฏิบัติตามกฏหมาย และกฏระเบียบเกี่ยวกับหลักการสวัสดิภาพสัตว์ของสหภาพยุโรป เท่านั้น โดยมีข้อกำหนดปลีกย่อยเกี่ยวกับการเลี้ยงการจัดการ การฆ่าไก่ เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่บนทุ่งหญ้าที่อาจเป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างลำบากมากในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ทั้งในประเทศไทย และในยุโรปเอง โดยเฉพาะในยุโรป สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศประกาศให้ผู้ประกอบการควบคุมไม่ให้สัตว์ปีกออกนอกโรงเรือนจนกระทั่งแนวโน้มของการเลี้ยงไก่อินทรีย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญคือ พันธุ์ไก่ที่สอดคล้องกับหลักการสวัสดิภาพสัตว์ที่กำหนดไว้โดยแบบแผนการประเมินสวัสดิภาพพันธุ์สัตว์ปีกเนื้อของราชสมาคมการป้องกันการทารุณกรรมต่อสัตว์ (Royal Society for the Prevention of Cruelty to Animals, RSPCA) กำหนดไว้แค่สองค่าย ได้แก่ ค่ายแรกสายพันธุ์ฮับบาร์ด คือ JA757, 787, 957 หรือ 987 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ https://www.hubbardbreeders.com/ ค่ายถัดมาสายพันธุ์เอเวียเจน คือ Ramber ranger, Ranger Classic และ Ranger Gold สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://eu.aviagen.com/brands/rowan-range/
       การเลี้ยงไก่โตช้าเป็นสินค้าพรีเมียมในตลาดใหม่ในยุโรป เชื่อว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในยุโรป แม้ว่าในเวลานี้จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของตลาดรวมทั้งหมด ล่าสุด โรโบแบงค์ ให้ความเห็นว่า ตลาดของเนื้อจากการเลี้ยงไก่โตช้าจะเติบโตขึ้นจากร้อยละ ๗ ในปัจจุบันเป็นร้อยละ ๒๐ ในปี ค.ศ. ๒๐๒๕ ดูเหมือนว่าจะเป็นปริมาณไม่มากนัก แต่นักวิเคราะห์การตลาดเชื่อว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่า แนวโน้มของตลาดการเลี้ยงไก่โตช้าได้ขยายไปยังอเมริกาเหนือเรียบร้อยแล้วจากความริเริ่มพันธมิตรสัตว์โลก (Global Animal Partnerships, GAP) น่าสังเกตว่าใช้ชื่อย่อพ้องกับ GAP ที่หมายถึง หลักเกณฑ์ข้อปฏิบัติที่ดีในการเลี้ยงสัตว์ รายละเอียดขององค์กรนี้สามารถดูรายละเอียดขององค์กรนี้ได้จากเว็บไซต์ https://globalanimalpartnership.org/ โดยสร้างบทบาทเป็นผู้ให้การรับรองผู้ประกอบการด้านสวัสดิภาพสัตว์โดยการเลี้ยงไก่โตช้าในภาคพื้นทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย ปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ภัตตาคาร และบริษัทต่างๆได้ลงนามความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว โดยตั้งใจจะให้ผลิตเนื้อไก่โตช้าสำเร็จในปี ค.ศ. ๒๐๒๔ ก่อนยุโรปสองปีอีกต่างหาก 


ภาพที่ ๑ สายพันธุ์ไก่โตช้าของฮับบาร์ด JA757 เปิดตัวในสื่อหนังสือพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. ๒๐๑๖ เป็นภาพของผู้ช่วยวิจัยกำลังอุ้มไก่ที่สถาบันวิจัยฟาร์มทดลองเลี้ยงไก่แบบอินทรีย์แห่งหนึ่งในประเทศเยอรมัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิชิแกนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหวัดนก

  โรคไข้หวัดนกยังคงระบาดในสหรัฐฯ สองปีที่ผ่านมา สหรัฐฯมีไก่มากกว่า ๙๐ ล้านตัว และนกป่า ๙,๐๐๐ ตัวที่ติดเชื้อด้วยเอช ๕ เอ็น ๑    ในรอบเดือนท...