โลกสมัยใหม่
หรือแม้แต่ในเมืองไทย
การแสวงหาแรงงานท้องถิ่นที่อยากจะทำงานหนักในภาคเกษตรกรรมอย่างฟาร์มเลี้ยงไก่ช่างยากเย็นเหลือเกิน
กลุ่มนักวิชาการด้านแรงงานอาจเถียงว่า
ทางออกที่ดีที่สุดของผู้ประกอบการก็ควรปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานในฟาร์มให้ดีขึ้น
แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ประกอบการมีทางเลือกใหม่ในการใช้หุ่นยนต์เข้าแทนที่แรงงาน
หุ่นยนต์ (Robotics)
สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการหมดกังวลเรื่องปัญหาแรงงาน
และเพิกเฉยต่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานได้
เพราะโรงเรือนเลี้ยงไก่ไม่ได้ตั้งใจสร้างขึ้นให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดี
แต่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของไก่เป็นเป้าหมายหลัก
อุปกรณ์อัตโนมัติที่ช่วยตรวจตราพฤติกรรมไก่
แล้วบันทึกข้อมูลเข้าถึงในระดับตัวไก่ได้มากขึ้นตลอดเวลา
กำลังกลายเป็นเรื่องปรกติในฟาร์มเลี้ยงไก่ ตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่ โรโบชิก (RoboChick)
เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาโครงการวิจัยร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย
และอุตสาหกรรมในสหราชอาณาจักร โครงการนี้กำลังอยู่ในขั้นทดลองในฟาร์มเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์
มีเป้าหมายเพื่อพัฒนากระบวนการเดินตรวจตราพฤติกรรมไก่ให้สอดคล้องกับราชวิทยาลัยสัตวแพทย์
(Royal Veterinary College, RVC) สำหรับโครงการวิจัยนี้จุดประกายมาจากวิธีการตรวจตราพฤติกรรมไก่ตามปรกติไม่สามารถมองเห็นไก่เป็นรายตัวได้
นอกจากนั้น ฟาร์มสมัยใหม่เพิ่งเริ่มใช้ระบบเซนเซอร์เล็กๆเพื่อตรวจตราไก่
หากเป็นยี่สิบปีที่แล้วก็นับได้ว่าทันสมัยมากแล้ว แต่วันนี้
ฟาร์มเลี้ยงไก่มีจำนวนไก่มากกว่าเดิมเยอะ การใช้เซนเซอร์คอยวัดอุณหภูมิสัก ๓ หรือ
๔ ตำแหน่งเป็นอย่างมาก อาจมีเพิ่มวัดความชื้นขึ้นได้อีกสัก ๒ ตำแหน่ง
แต่ก็ยังไม่อาจวัดได้ถึงระดับตัวไก่ ความรู้สึกจริงๆที่ไก่รู้สึกได้
เริ่มจากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ
แล้วทฤษฎีก็นำไปสู่การปฏิบัติจากโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตรวจสอบได้ที่ระดับตัวไก่จริง
แถมตรวจสอบตลอดเวลาไม่มีการพักผ่อน
และไม่ต้องรบกวนให้ไก่ต้องตื่นตกใจกลายเป็นความเครียดที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต
โครงการวิจัยนี้เริ่มจากความร่วมมือหลายภาคส่วนทั้งราชวิทยาลัยสัตวแพทย์
มหาวิทยาลัยฮาร์เปอร์ อดัมส์ ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์
และผู้ผลิตหุ่นยนต์จากบริษัท รอส โรโบติก (Ross
Robotics) จนได้ผลการวิจัยได้เป็นนวัตกรรมใหม่
โรโบชิก
ภายหลังการทดลองในฟาร์มขนาดเล็กเป็นการออกแบบอุปกรณ์พื้นฐานที่สามารถตรวจติดตามพฤติกรรมไก่
และสิ่งแวดล้อมโดยไม่ส่งผลรบกวนความเป็นอยู่ตามปรกติ
การทดสอบแรกเริ่มจากฟาร์มเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์โดยใช้เครื่องมือง่ายๆที่ใช้เป็นแผ่นการ์ดบอร์ดจะได้ปรับแต่งได้ง่าย
สิ่งแรกที่ได้คือ ไก่แสดงอาการตื่นตกใจเมื่อเห็นหุ่นยนต์ผ่านไปมา แต่ผ่านเพียงหนึ่งวัน
เมื่อหุ่นยนต์ทำงานตลอดเวลาภายในโรงเรือนเลี้ยงไก่
ไก่ก็จะเริ่มคุ้นเคยเสมือนเป็นสมาชิกตัวหนึ่งในฝูง ไม่มีอาการตื่นตกใจอีกต่อไป
ผู้วิวัยยังเพิ่มตัวอย่างซ้ำอีกเป็นการสร้างความมั่นใจ แล้วก็ได้สังเกตเห็นว่า
ไก่แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นสนใจหุ่นยนต์
แล้วยังชอบเหยียบย่ำปรากฏเป็นรอยเท้าบนหุ่ยนต์ ดังนั้น
ผู้วิจัยจึงต้องปรับการออกแบบเพิ่มเติมป้องกันไม่ให้ไก่กระโดดขึ้นลงเล่นบนหุ่นยนต์
แถมบางตัวยังชอบไปนั่งคร่อมอีกด้วย
การทดลองในฟาร์ม
หลังจากผ่านรุ่นแรกของการเลี้ยงภายในฟาร์มทดลองของมหาวิทยาลัยแล้ว
นักวิจัยก็เริ่มสนใจทดลองในฟาร์มเลี้ยงไก่เชิงพาณิชย์จริงๆบ้าง บริษัทฟาร์ม Applied Poultry อาสาให้ทดลองในฟาร์มตนเอง ๒ โรงเรือน
โรงเรือนหนึ่งทดลองใช้หุ่นยนต์รุ่นล่าสุด จากโรโบชิกเปรียบเทียบกับอีกโรงเรือนเป็นกลุ่มควบคุม
ตลอดการเลี้ยง โรโบชิก เดินสำรวจทั่วโรงเรือนวันละ ๒ รอบ
เป็นเส้นทางวนไปวนมาเดินไปบนวัสดุรองพื้นใช้เวลา ๒ ชั่วโมงต่อรอบ
เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่า เมื่อสิ้นสุดการเลี้ยง ในโรงเรือนที่ใช้หุ่นยนต์
ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารดีขึ้นร้อยละ ๒.๙ และคัดไก่น้อยลงร้อยละ ๑๘.๗
เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม
นักวิจัยเชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่หุ่นยนต์ไปกระตุ้นให้ไก่มีการเคลื่อนไหว
การที่ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารดีขึ้นเกิดจากควมสม่ำเสมอของตัวไก่ที่ดีขึ้น
หุ่นยนต์กำลังสลายภาวะผู้นำฝูงที่เกเรข่มเพื่อนไก่ตัวอื่นๆ
เพื่อนๆไก่ส่วนใหญ่จึงสามารถเข้าหาอาหาร และน้ำดีขึ้น ก่อนหน้านี้ อาจเชื่อกันว่า
การกระตุ้นให้ไก่มีกิจกรรม
และเคลื่อนที่มากขึ้นจะไม่เป็นผลดีต่อการแลกเปลี่ยนอาหาร
แต่การทดลองครั้งนี้ใช้หุ่นยนต์ไปคอยกระตุ้นให้ไก่ตัวน้อยเดินไปกินอาหาร
และน้ำได้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังสังเกตเห็นว่า ฝูงไก่มีพฤติกรรมก้าวร้าวลดลง
เมื่อปราศจากหัวหน้าแก๊งค์อันธพาล เพื่อนไก่ปรับตัวให้คุ้นเคยกับหุ่นยนต์ ปัจจุบัน
โรโบชิกกำลังมองหาฟาร์มที่จะร่วมทดลองต่อไป
เพื่อปรับปรุงออกแบบให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคตก่อนที่จะเปิดตัวจำหน่ายเชิงพาณิชย์ต่อไป
บริษัทหุ่นยนต์
๑.
หมึกยนต์ (Octupus
Robotics) ผลิตขึ้นโดยโรงงานผลิตหุ่นยนต์สัญญาติฝรั่งเศส Octupus Scarifier เป็นเครื่องยนต์อัตโนมัติที่ออกแบบให้สามารถระบายของเสียออกจากวัสดุรองพื้น
และตรวจสอบสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรือนได้ตั้งแต่อุณหภูมิ ความชื้น ระดับแอมโมเนีย
และความเข้มแสง บริษัทผู้ผลิตอ้างว่า การพรวนวัสดุรองพื้น หรือแกลบ
ซึ่งความจริงในแถบตะวันตกใช้เป็นขี้กบนั้น สามารถลดปัญหาโรคสำคัญ เช่น
โรคแอสเปอร์จิลโลซิส ฝ่าเท้าอักเสบ ข้าเข่าอักเสบ และอกเป็นหนอง เป็นต้น
หมึกยนต์สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้มนุษย์ควบคุม และวิ่งทำงานได้เป็น
๒๔/๗ หรือยี่สิบสี่ชั่วโมง ตลอด ๗ วัน ไม่มีวันหยุด
ไม่เรียกร้องความยุติธรรม แต่ต้องมีหน่วยชาร์จพลังงานไว้ในโรงเรือนสักหน่อย
แต่หมึกยนต์จะเดินไปได้เอง ไม่ต้องใช้มนุษย์ควบคุมอีกแล้ว
๒.
สปุตนิค (Spoutnic)
เป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กลงมาหน่อย
เล็กกว่าตัวอื่นๆที่มีวางขายในตลาด
และออกแบบไว้เพื่อกระตุ้นให้ไก่ตื่นตัวตลอดเวลาในโรงเรือนเลี้ยงไก่พันธุ์ (เนื้อ)
เพื่อกระตุ้นหรือสอนให้แม่ไก่ขึ้นรังไข่ บริษัทผู้ผลิตอ้างว่า ขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดทำให้เคลื่อนตัวได้ง่ายไปทั่วโรงเรือน
และยังสามารถเคลื่อนไปได้บนวัสดุรองพื้นที่ขรุขระไม่ได้เรียบอะไรเหมือนพื้นบ้าน
นอกจากนั้น ยังสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆได้อัตโนมัติ น้ำหนักอยู่ที่ ๑๐
กิโลกรัม มีแบตเตอรีใช้ได้นาน ๘ ชั่วโมง ปรับตั้งความเร็วได้เป็น ๖
ระดับจากช้าไปเร็ว เลือกใช้งานได้ตามความฉลาดของแม่ไก่
ผลิตโดยโรงงานฝรั่งเศสอีกราย Tibot
๓.
หุ่นเด็กเลี้ยงไก่ (ChickenBoy)
คู่แข่งสำคัญมาแล้วจากสเปนบ้าง
บริษัทผู้ผลิต Faromatics
SL หุ่นเด็กเลี้ยงไก่อาจแตกต่างจากระบบอัตโนมัติเล็กน้อย
เพราะเพิ่งยกเลิกระบบเดิมที่แขวนไว้บนเพดานโรงเรือน
แล้วตรวจติดตามพฤติกรรมไก่จากข้างบน โดยใช้กล้องถ่ายภาพ และเซนเซอร์
เพื่อวิเคราะห์ภาพปรากฏ เช่น ไก่ตาย หรือวัสดุรองพื้นเสื่อมคุณภาพ ระดับเสียง
และสิ่งแวดล้อม โดยการวัดอุณหภูมิ ความเร็วลม หรือคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
Davies J. 2019. Robotics
revolution happening now. [Internet]. [Cited 2019 May 8]. Available from: https://www.poultryworld.net/Home/General/2019/5/Robotics-revolution-happening-now-425378E/
ภาพที่ ๑
นอกเหนือจากตรวจตราไก่ในฟาร์ม หุ่นยนต์ยังช่วยกระตุ้นให้ไก่เล็กแกรนลุกขึ้นไปกินน้ำกินอาหาร
ช่วยให้ความสม่ำเสมอของไก่ในฝูงดีขึ้นได้อีกด้วย (แหล่งภาพ Poultry World)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น