วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563

สัตวแพทย์ในวิกฤติโควิด ๑๙


ท่ามกลางวิกฤติโควิด องค์กร และบริษัทด้านสัตวแพทย์ทั่วโลก กำลังยื่นมือช่วยเตรียมอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เชื้อไวรัสกลุ่มโคโรนาไวรัส สามารถจำแนกได้เป็น กลุ่มอัลฟา โคโรนาไวรัส เช่น โรค PED และ TGE ก่อโรคท้องเสียในสุกร โรค Canine coronavirus ก่อโรคท้องเสีย และโรค FIP (Feline infectious peritonitis, FIP) ในแมว กลุ่มเบตา โคโรนาไวรัส เช่น โรค SARS, COVID-19, MERS ในมนุษย์ กลุ่มแกมมา โคโรนาไวรัส เช่น โรค IB ในไก่ สังเกตว่า หลายโรคเป็นโรคที่สัตวแพทย์คุ้นเคย หรือมีประสบการณ์กับโรคโดยตรงอยู่แล้วทั้งสัตว์ปีก สุกร และสัตว์เลี้ยง
เมื่อไวรัสก็คือไวรัส ไม่จำเป็นต้องเป็นเชื้อโรคในมนุษย์ หรือสัตว์ หมายความว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสัตว์ก็สามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับวิกฤติการณ์โคโรนาไวรัสนี้ได้ เช่นเดียวกับสิ่งที่สัตวแพทย์ทั่วโลกกำลังพยายามทำอยู่
สัตวแพทย์ในสเปน
ในขณะที่ โรคโควิด ๑๙ ระบาดในสเปน บริษัทด้านสุขภาพสัตว์ในสเปนอย่าง "ฮิปรา (Hipra)" ก็ได้พยายามแบ่งปันอุปกรณ์ และเครื่องมือด้านเทคโนโลยีชีวภาพให้กับองค์กรสาธารณสุข บริษัทยา และวัคซีนทางสัตวแพทย์แห่งนี้ให้ห้องปฏิบัติการใหม่กับโรงพยาบาลสำหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อไวรัส รวมถึง พรินต์เตอร์สามมิติสำหรับโรงงานในการผลิตอุปกรณ์ช่วยหายใจที่มีความจำเป็นทางการแพทย์อย่างมาก โดยบริษัทด้านสุขภาพสัตว์แห่งนี้ถือเป็นภาระ และความรับผิดชอบให้การใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่ตัวเองมีอยู่เข้าไปช่วยสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณสุข และเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมโรคระบาดครั้งนี้ให้ได้
สัตวแพทย์ในเนเธอร์แลนด์
ในเนเธอร์แลนด์ หน่วยงานด้านสุขภาพสัตว์ชื่อว่า "รอยัล จีดี (Royal GD)" ก็เป็นอีกหน่วยงานด้านสัตวแพทย์ ที่พยายามให้ความช่วยเหลือด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองโรคโควิด ๑๙ การบริการตรวจสอบวันต่อวันด้วยห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุด รอยัลจีดี เป็นหน่วยบริการด้านสุขภาพสัตว์ที่มีประสบการณ์สูงมากในงานวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัส ตามปรกติ จีดี มุ่งวิจัยเชื้อไวรัสในสัตว์ แต่หลักการของวิธีการวิจัยเชื้อไวรัสในสัตว์ก็เหมือนกับเชื้อวไรัสในมนุษย์นั่นเอง สำหรับการศึกษาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ การทดสอบต้องถูกทวนสอบความถูกต้องในมนุษย์ก่อน และจีดีก็ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมโรคในมนุษย์ การตรวจสอบเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ น้ำลายของผู้ป่วยจะถูกตรวจสอบด้วยเครื่องพีซีอาร์ (Polymerase chain reaction device, PCR) เพื่อเพิ่มจำนวนสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสสำหรับการตรวจสอบ ขณะนี้ จีดี มีห้องปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพพร้อมเครื่องพีซีอาร์จำนวนมาก สามารถตรวจสอบตัวอย่างได้หลายพันตัวอย่างเป็นประจำทุกปี สำหรับการวินิจฉัยโรคโควิด ๑๙ ห้องปฏิบัติการพร้อมรับตัวอย่างมากกว่า ๒๐๐๐ ตัวอย่างต่อวัน  
สัตวแพทย์ในฝรั่งเศส
ในฝรั่งเศส หน่วยงานด้านสุขภาพสัตว์อย่าง "บริษัท ซีวา (Ceva Sante Animale)" กำลังศึกษาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ด้วยความระมัดระวัง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมโรคโควิด ๑๙ แม้ว่าจะไม่สามารถใช้ห้องปฏิบัติการของตนเองที่มีความทันสมัยอย่างมาก สำหรับการวิจัยวัคซีนโควิดได้ แต่สำหรับสุขภาพสัตว์ นักวิจัยของบริษัทก็ทำงานกับเชื้อโคโรนาไวรัสในสัตว์เป็นประจำอยู่แล้ว ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านวัคซีนโคโรนาไวรัสในสัตว์อย่างลึกซึ้งเป็นเวลายาวนาน นักวิจัยของซีวาเองก็กำลังศึกษาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นี้อย่างระมัดระวัง 
สัตวแพทย์ในสหรัฐฯ
แม้ว่าจะเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสเหมือนกัน แต่สัตว์ปีกไม่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด ๑๙ อย่างไรก็ตาม สำหรับสัตวแพทย์แล้ว เชื้อไวรัสแฟมิลีโคโรนาไวรัสรู้จักคุ้นเคยกันมานานแสนนานแล้ว โคโรนาไวรัส แบ่งได้เป็น อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่มีความสำคัญกับโรคทางระบบหายใจ ทางเดินอาหาร ระบบประสาท ไต และตับ สำหรับสัตว์ปีก เชื้อไวรัสโคโรนาไวรัสที่รู้จักกันดีที่สุดคือ โรคหลอดลมอักเสบ เป็นแกมมาโคโรนาไวรัส ไม่ติดต่อสู่คน แต่โควิด ๑๙ เป็นเบตาโคโรนาไวรัส
เชื้อไวรัสกลุ่มนี้พบได้ทั้งในมนุษย์ และสัตว์ ดังนั้น สมาคมพยาธิวิทยาด้านสัตว์ปีกแห่งอเมริกัน (AAAP) และมหาวิทยาลัยจอร์เจีย โดยนักไวรัสวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญ ดร.มาร์ก แจ็ควู้ด ได้นำเสนอความเห็นที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์
๑. อุตสาหกรรมสัตว์ปีก และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงสัตว์ปีกมีประสบการณ์อย่างมากกับโรคหลอดลมอักเสบติดต่อที่เป็นโคโรนาไวรัสเหมือนกัน ความจริงแล้วสามารถแบ่งบันความรู้ให้กับวงการแพทย์ได้
๒. โควิด ๑๙ ยังไม่มีหลักฐานพิสูน์ว่าจะติดต่อสู่สัตว์ปีกได้ และไม่น่าจะติดได้เช่นกัน ดังนั้น สัตว์ปีกจึงไม่มีความเสี่ยงต่อโรคโควิด ๑๙
๓. เนื้อสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์ เช่น ไข่ และไส้กรอก ไม่ใช่แหล่งของเชื้อโคโรนาไวรัส
การระบาดของโคโรนาไวรัสครั้งนี้ ผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์ปีกควรถือโอกาสในการสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ การฆ่าเชื้อ และทำความสะอาด และการเฝ้าระวังโรค
ในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด ๑๙ สิ่งสำคัญที่สุดคือ พื้นฐานของเชื้อโคโรนาไวรัสมีเปลือกหุ้ม ดังนั้น จึงมีความไวรับต่อการฆ่าเชื้อด้วยสบู่ และสารฆ่าเชื้อทั่วไป การผลิตวัคซีนในมนุษย์มีความซับซ้อน เนื่องจาก การทำให้เชื้อไวรัสอ่อนแรงลงได้ค่อนข้างลำบาก ส่วนการพัฒนาวัคซีนรีคอมบิแนนท์ก็ยังให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจนัก แม้ว่าจะมีการใช้อย่างแพร่หลายมากอยู่แล้วในการผลิตสัตว์ปีก แต่สัตว์ปีกไม่เหมือนมนุษย์ จำเป็นต้องมีงานวิจัยมากกว่านี้จนกว่าจะได้วัคซีนที่ดีเพียงพอ จงเดินหน้าผลิตไก่ และไข่ต่อไปในเวลานี้ โควิด ๑๙ ก็น่ากลัว แต่ความอดอยากที่อาจเป็นวิกฤติต่อไปเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า 

เอกสารอ้างอิง
Brockotter F. 2020. Veterinarian expertise in Corona crisis. [Internet]. [Cited 2020 Mar 30]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2020/3/Veterinarian-expertise-in-Corona-crisis-562693E/ 

ภาพที่ ๑ เครื่องพีซีอาร์ที่ห้องวิจัยของฮิปรา และโรยัล จีดี ในเนเธอร์แลนด์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่กำลังใช้สำหรับช่วยตรวจสอบโควิด ๑๙  (แหล่งภาพ Hipra)



วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563

พนักงานโรงเชือดในอังกฤษ ท่ามกลางวิกฤติโควิด ๑๙


พนักงานที่โรงเชือดสัตว์ปีกของมอย พาร์ก หยุดงานกันตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ ๒๕ มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจาก การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 

แม้ว่า สหภาพแรงงานอ้างว่ามีแรงงานหยุดงานราวพันคนที่มอย พาร์ก ในไอร์แลนด์เหนือ เนื่องจาก คนงานวิตกกังวลต่อการปฏิบัติงานภายในโรงงาน โดยไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโคโรนาไวรัส  แต่บริษัทยืนยันว่ามีเพียงร้อยคนเท่านั้น และกลับเข้าทำงานแล้ว ภายหลังประท้วงเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น มอย พาร์ก ยืนยันว่า สุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงานเป็นสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุด โดยกำหนดมาตรการที่เข้มงวด เพื่อคุ้มครองพนักงานในองค์กร บริษัทได้ตรวจสอบอย่างถ้วนถี่ตลอดทั่วทุกกิจกรรม และสื่อสารกับพนักงานภายในบริษัทอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ มีการกำหนดพื้นที่ ๗ แห่งที่ต้องยกระดับกิจกรรมการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing)

อุตสาหกรรมสัตว์ปีกต้องปรับธุรกิจต่อวิกฤติโควิด ๑๙

เมื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกตกอยู่ในสถานะล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกก็ถูกแรงกดดันให้ต้องปรับธุรกิจให้เท่าทันต่อสถานการณ์ ผู้ประกอบการเนเธอร์แลนด์ โมบา และพาส รีฟอร์ม เป็นสองตัวอย่างที่ดีในการปรับตัววันต่อวันตามสถานการณ์

กุญแจสำคัญคือ จำกัดการเดินทาง และการเว้นระยะห่างทางสังคม การผลิตสัตว์ปีกภาคฟาร์มจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก โรงฟักไข่ การบรรจุไข่ และการแปรรูปเนื้อสัตว์ การติดต่อสัมผัสระหว่างภาคส่วนที่ไม่จำเป็น และไม่ต้องเร่งรีบก็จะเลื่อนออกไป

บริษัท โมบา

โมบาได้ประกาศใช้มาตรการเฝ้าระวังด้านสุขภาพ และความปลอดภัยของผู้บริโภค พนักงาน ตัวแทนคู่ค้า และชุมชน ขณะเดียวกัน ก็ได้ลงมือปฏิบัติทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้เพื่อรักษาบริการไว้ได้

บริษัท รอยัล พาส รีฟอร์ม

ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทได้ส่งสารถึงผู้บริโภคอธิบายถึงมาตรการของบริษัทในการควบคุมการเดินทางของพนักงาน เพื่อป้องกันสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง หรือเลื่อนการประชุมนัดหมาย และฝึกอบรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก จนกว่าจะมีการประกาศแจ้งให้ทราบต่อไป และเรียกร้องให้คู่ค้าธุรกิจเลื่อนการเยี่ยมชมกิจการของบริษัททุกแห่ง

ทั้งโมบา และพาส รีฟอร์ม ได้ให้พนักงานบริการช่วยเหลือลูกค้ายังปฏิบัติงานในสำนักงานทั่วโลก และคอยติดตามช่วยเหลือลูกค้าได้โดยการประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ หรือสไคป์ และช่องทางการสื่อสารแบบดิจิตอได้ตลอดเวลา เพื่อการติดต่อประสานงาน และการประชุมเสมือน

เอกสารอ้างอิง

Brockotter F. 2020. Poultry industry players adapt business to Covid-19. [Internet]. [Cited 2020 Mar 19]. Available from:  https://www.poultryworld.net/Home/General/2020/3/Poultry-industry-players-adapt-business-to-Covid-19-557930E/

ภาพที่ ๑ คนงานที่โรงเชือดสัตว์ปีกของมอย พาร์ก ในไอร์แลนด์เหนือหยุดงานกันแล้วตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ ๒๕ มีนาคมที่ผ่านมา (แหล่งภาพ https://pixabay.com/photos/coronavirus-virus-mask-corona-4914028/)

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563

เทคนิคคริสเปอร์เพื่อพัฒนาไก่ต้านทานโรค


พ่อไก่จะถูกฝากเซลล์สืบพันธุ์ที่ดัดแปลงสำหรับผลิตเป็นลูกไก่ต้านทานโรคลิวโคซิสในไก่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดัดแปลงยีนด้วยเทคนิคคริสเปอร์จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับกำจัดโรคลิวโคซิสในไก่โดยการผลิตเป็นไก่พันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรค

อ้างอิงตามผลการวิจัยใน PNAS นักวิจัยในสาธารณรัฐเชกประสบความสำเร็จในการผลิตไก่ต้านทานโรคโดยปลูกถ่ายเซลล์สืบพันธุ์ที่ถูกดัดแปลงลงในอัณฑะของพ่อไก่โตเต็มวัย เมื่อพ่อไก่ให้ผลผลิตเป็นลูกไก่ก็สามารถต้านทานต่อโรคลิวโคซิสในไก่ได้ ขณะที่ ลูกไก่ปรกติยังคงมีความไวรับต่อโรคเหมือนเดิม

แม้ว่า รายงานการวิจัยครั้งนี้เป็นการประเมินเทคนิคในพันธุ์ไก่ภายในห้องปฏิบัติการเท่านั้น นักวิจัยเชื่อว่า ผลการทดลองครั้งนี้สามารถนำไปใช้ในพันธุ์ไก่เชิงพาณิชย์ต่อไปได้ และพันธุ์ไก่ต้านทานโรคลิวโคซิสในสัตว์ปีกพร้อมจำหน่ายให้ลูกค้าได้ภายในเวลาหนึ่งปีครึ่งได้เลย

โรคลิวโคซิสเป็นโรคสำคัญที่กำจัดโรคได้ยากด้วยวิธีการปรับปรุงพันธ์ตามปรกติเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทดลองด้วยคริสเปอร์ เนื่องจาก เชื้อไวรัสต้องการตัวรับของเซลล์ที่มีความจำเพาะ วิศวพันธุกรรมพื่อสร้างพันธุ์ไก่ต้านทานเชื้อไวรัสจึงเป็นการลบกรดอะมิโนเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น การนำยีนที่ถูกดัดแปลงแล้วเข้าสู่ไก่มีชีวิตเป็นสิ่งที่ยากมากกว่า โดยทั่วไปแล้ว ความพยายามผลิตไก่ดัดแปลงพันธุกรรมจะใช้การปลูกถ่ายเซลล์สืบพันธุ์ที่ดัดแปลงแล้วเข้าสู่ไข่ที่เพิ่งออกมาใหม่ๆ แม้ว่าเป็นไปได้ที่ความสำเร็จของวิธีนี้จะมีโอกาสน้อยกว่าวิธีที่เคยใช้กันมา นักวิจัย ๒ คณะจากบริษัทไบโอฟาร์ม และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เช็ก ได้พยายามใช้วิธีที่ต่างกันออกไป

แทนที่จะปลูกถ่ายเซลล์สืบพันธุ์ในไข่ฟัก นักวิจัยได้ใส่ลงในอัณฑะของพ่อไก่แทน เพื่อให้เซลล์สืบพันธุ์พัฒนาต่อไปเป็นอสุจิ ในรายงานวิจัยล่าสุด ผู้วิจัยแสดงให้เห็นว่า ลูกไก่ที่ได้จากยีนส์ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมจากพ่อไก่ยังคงสามารถต้านทานต่อโรคลิวโคซิสได้อีกสองปี

ขณะที่ ไก่ทดลองสามารถต้านทานต่อเชื้อไวรัสลิวโคซิสกรุ๊ปเจ เป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสยังสามารถกลายพันธุ์ต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยหลักการเดียวกันยังสามารถพัฒนาให้สายพันธุ์ไก่ต้านทานต่อโรคได้อีกต่อไป

เอกสารอ้างอิง

Penrod E. 2020. New CRISPR method produces ALV resistant chickens. [Internet]. [Cited 2020 Feb 14]. Available from:  https://www.wattagnet.com/articles/39670-new-crispr-method-produces-alv-resistant-chickens

ภาพที่ ๑ เทคนิคคริสเปอร์เพื่อพัฒนาไก่ต้านทานโรค (แหล่งภาพ Gabriela Pernecka, Freeimages.com)

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

สามประเทศผู้นำการผลิตเนื้อสัตว์ปีกแห่งปี ๒๐๒๘

บราซิล จีน และสหรัฐฯ จะเป็นสามประเทศชั้นนำผู้ผลิตเนื้อสัตว์ปีกในปี พ.ศ. ๒๕๗๑ หรืออีกแปดปีข้างหน้านี้ แต่เทคโนโลยีการผลิตใหม่จะช่วยขยายการเติบโตในภูมิภาคอื่นๆ
การผลิตเนื้อสัตว์ปีกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเหนือ ๑๒๑ ล้านเมตริกตันที่เป็นฐานเฉลี่ยของช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึง ๒๕๖๑ เป็นมากกว่า ๑๔๑ เมตริกตันในปี พ.ศ. ๒๕๗๑ ข้างหน้าตามพยากรณ์ขององค์การอาหารโลก หรือเอฟเอโอ และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา  หรือโออีซีดี
เนื้อสัตว์ปีกจะยังคงเป็นชนิดเนื้อสัตว์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดต่อไปอีกหลายทศวรรษ ต้องขอบคุณข้อได้เปรียบที่มีวงจรการผลิตสั้น เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วเหนือกว่าการผลิตเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ตามความต้องการของตลาด นอกเหนือจาก ข้อได้เปรียบเชิงการผลิตที่ทำให้การผลิตเนื้อสัตว์ปีกมีความยั่งยืนสำหรับสิ่งแวดล้อมเหนือกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นใด ในปี พ.ศ. ๒๕๗๑ นี้เนื้อสัตว์ปีกเกือบ ๑๔๑ ล้านเมตริกตันจะถูกผลิตเลี้ยงประชากรโลกตามพยากรณ์ของเอฟเอโอ ขณะที่ เนื้อสุกรเกือบ ๑๒๙ ล้านเมตริกตัน เนื้อโคเกือบ ๗๗.๕ ล้านเมตริกตัน และเนื้อแกะมีเพียง ๑๗ ล้านเมตริกตันเท่านั้น
 การผลิตสัตว์ปีกคาดว่าจะเพิ่ม ๒๐ ล้านเมตริกตัน ตามคำพยากรณ์ของเอฟเอโอ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดการเพิ่มการผลิตเนื้อทุกชนิดรวมกันในอีกทศวรรษข้างหน้านี้ โดยการผลิตเชิงอุตสาหกรรมจึงจะได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์
สถานการณ์ปัจจุบัน และมุมมองกลยุทธ์สำหรับอนาคต ผู้เล่นรายใหม่
ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึง ๒๕๖๒ ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ปีกรายสำคัญจะมาจากเอเชีย อเมริกาเหนือ และใต้ และยุโรป ต้องขอบคุณผู้เล่นรายใหม่ในตลาดอย่างจีน สหรัฐฯ และบราซิล รวมถึง สหภาพยุโรป ในระยะยาว ประเทศใหญ่อย่างจีน สหรัฐฯ และบราซิล อินเดีย และเม็กซิโก จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพิ่มยอดการผลิตเนื้อสัตว์ปีกในปี พ.ศ. ๒๕๗๑ ข้างหน้านี้  
คาดการณ์จากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ การผลิตไก่เนื้อในสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกือบ ๔๒.๖ พันล้านปอนด์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น ๔๔ พันล้านปอนด์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ นี้ การผลิตเนื้อไก่งวงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ๕.๘๘ พันล้านปอนด์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น ๕.๙๒ พันล้านปอนด์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓
การผลิตเนื้อสัตว์ปีกในบราซิลจะเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๕ ในปี พ.ศ. ๒๕๗๑ ตามความต้องการเนื้อไก่โลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน บราซิลกำลังอยู่บนถนนที่มองเห็นการผลิต และการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึง ๒๕๖๒
นอกเหนือจากยอดการผลิตที่เพิ่มขึ้นในบราซิลแล้ว ยังคาดว่า การผลิตสัตว์ปีจะเติบโตอย่างมากทั่วทั้งละตินอเมริกา และแถบแคริเบียน เอฟเอโอพยากรณ์ว่า การผลิตสัตว์ปีกเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ ๓๐๒ ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะ การขยายการผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่
ตลาดใหญ่อีกแห่งคือ สหภาพยุโรป ผลิตเนื้อสัตว์ปีกสูงเป็นประวัติศาสตร์ ๑๕.๒ ล้านเมตริกตันในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ อ้างอิงตาม Eurostat ร้อยละ ๗๐ ของการผลิตดังกล่าวมาจากประเทศสมาชิกสำคัญ ๖ ประเทศ ได้แก่ โปแลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน และอิตาลี 

เอกสารอ้างอิง
Convay A. 2020. 3 countries dominate poultry meat production to 2028. [Internet]. [Cited 2020 Feb 6]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/38883-brazil-china-us-lead-poultry-meat-production-to-2028
ภาพที่ ๑ สามประเทศผู้นำการผลิตเนื้อสัตว์ปีกแห่งปี ๒๐๒๘ (แหล่งภาพ Stokerplusss, Bigstock)


ไข้หวัดนกกลับมาระบาดในจีน

 รายงานโรคระบาดในจีน ซาอุดิอาระเบีย เวียดนาม และโปแลนด์ในรอบเดือนกุมภาพันธ์นี้ กระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนรายงานการระบาดใหม่ของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป เอช ๕ เอ้น ๑ ตามรายงานในหนังสือพิมพ์ The Straits Times
การติดเชื้อครั้งนี้ทำให้ไก่ตายไปแล้ว ๔,๕๐๐ ตัว ตามรายงานข่าวจาก CNN
จีนเป็นหนึ่งในประเทศย่านเอเชียที่กำลังเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง อ้างอิงตามข้อมูลจากโอไออี จีนเคยรายงานการระบาดของโรคครั้งนี้ในสัตว์ปีกแถบมณฑลทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในมณฑลเหลียวหนิงเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยสถานการณ์ระบาดของโรคยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้วหรือยัง
นอกจากนั้น ในจีนยังตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๖ ในนกป่าใน ๓ พื้นที่ในมณฑลซินเจียง
ภายหลังการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในจีน กระทรวงเกษตรแห่งเวียดนามได้แจ้งเตือนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นเตรียมมาตรการควบคุมโรคให้พร้อมทันที รายงานข่าวจาก Vietnam News รายงานจากกระทรวงเกษตรเวียดนามอ้างว่า พื้นที่ใกล้เคียงกับมณฑลหูหนานเป็นเขตที่อันตรายอย่างมาก เนื่องจากใกล้กับพื้นที่การผลิตของสัตว์ปีกเวียดนามจำนวนกว่า ๔๖๗ ล้านตัว 
สถานการณ์โรคระบาดในจีน
การระบาดของโรคไข้หวัดนกในจีนเป็นสิ่งคุกคามต่อธุรกิจของซีพีเอฟ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัท แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนสามารถควบคุมการระบาดในมณฑลฮูหนานไว้ได้ จีนมีประสบการณ์จัดการโรคไข้หวัดนกมาแล้วกว่าสิบปี การให้วัคซีน และการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพตระเตรียมไว้พร้อมแล้ว
ธุรกิจในจีนมีสัดส่วนเป็นร้อยละ ๒ ของยอดจำหน่ายของซีพีเอฟ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับไทยที่จะส่งออกเนื้อสัตว์ปีกทำลายสถิติปีที่แล้ว ๗๐,๐๐๐ ตันให้สูงถึง ๑๕๐,๐๐๐ ตันได้ในปีนี้
โรคไข้หวัดนดในซาอุ และเวียดนาม
ปลายเดือนมกราคม โรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘ ตรวจพบในกรุงริยาร์ด ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ตามรายงานอย่างเป็นทางการต่อโอไออี สัตว์ปีก ๒๒,๗๐๐ ตัวตาย ที่เหลืออีก ๓๘๕,๐๐๐ ตัวถูกทำลาย
ยังไม่ทราบแหล่งต้นตอของโรค ไม่เคยตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดนี้นับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๑ เป็นต้นมา
รัฐบาลซาอุฯ เชื่อมั่นว่า เชื้อไวรัสจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกให้คอยสังเกตอาการสัตว์ป่วย และยกระดับมาตรการป้องกันโรค
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นมา เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๖ ถูกตรวจพบในเวียดนาม กลางเดือนมกราคมที่่ผ่านมา ไก่บ้านจำนวน ๒,๒๐๐ ตัวตายจากทั้งหมด ๓,๐๐๐ ตัวในฝูง ตามรายงานต่อโอไออี ไก่อีก ๓๐๐ ตัวถูกทำลาย แหล่งต้นตอของการระบาดยังไม่ทราบแน่ชัด การระบาดเกิดขึ้นในจังหวัด Quang Ninh ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐประชาชนจีน
เทศกาลตรุษจีน และการเปลี่ยนฤดูกาลน่าจะเป็นสาเหตุของการระบาดใหม่อีกครั้ง นอกเหนือจาก ท้องถิ่นหลายแห่งไม่ได้ให้วัคซีนสัตว์ปีก ระหว่างเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้มอบวัคซีนไข้หวัดนกสำหรับสัตว์ปีกแจกจ่ายไปแล้ว ๔.๕ ล้านโด๊ส
โรคไข้หวัดนกยังระบาดต่อไปในโปแลนด์
กระทรวงเกษตรโปแลนด์ยังรายงานต่อโอไออีถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ปรากฏในจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศที่เมือง Warmia-Masuria เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ภายหลังสัตว์ปีกมากกว่า ๔,๐๐๐ ตัวตาย และทำลายที่เหลืออีก ๑๙,๐๐๐ ตัว
ยอดจำนวนครั้งการระบาดในโปแลนด์นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็น ๗ ครั้งแล้ว สร้างความเสียหายสัตว์ปีกมากกว่า ๑๑๔,๐๐๐ ชีวิต การระบาดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในจังหวัดทางตอนกลาง และตะวันตก
อินเดียโหดปิดฟาร์มมหา'ลัยหนึ่งปีคุมโรคไข้หวัดนก
ภายหลังการยืนยันการติดโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง รัฐบาลอินเดียได้ปิดฟาร์มที่มหาวิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยี Odisha แล้ว โดยสัตว์ปีกทั้งหมดถูกทำลาย และฝังทันที ห้ามเลี้ยงอีกเป็นเวลา ๑ ปี และวัสดุการเลี้ยงต่างๆต้องฆ่าเชื้อทุก ๑๕ วัน ภายหลังยืนยันการติดเชื้อ สัตว์ปีกทุกตัวในรัศมี ๑ กิโลเมตรจะต้องถูกทำลาย ห้ามจำหน่ายไข่ และเนื้อไก่ในพื้นที่ติดเชื้อ เฝ้าระวังโรครัศมี ๑๐ กิโลเมตร
อิสราเอลรายงานโรคในนกป่า
นกอินทรีย์แสดงอาการทางระบบประสาท ผลบวกต่อโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง เอช ๕ เอ็น ๘ ในอิสราเอล ตามปรกติ นกชนิดนี้อาศัยในจอร์แดนแล้วหลงเข้ามาในอิราเอลตั้งแต่วันที่ ๑มกราคม ตามรายงานโอไออี โรคไข้หวัดนกตรวจพบครั้งสุดท้ายในอิสราเอลตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว
เอกสารอ้างอิง
Linden J. 2020. Avian flu returns to Chinese poultry sector. [Internet]. [Cited 2020 Feb 6]. Available from: https://www.wattagnet.com/articles/39602-avian-flu-returns-to-chinese-poultry-sector
ภาพที่ ๑ ไข้หวัดนกกลับมาระบาดในจีน (แหล่งภาพ Stokerplusss, Bigstock)



วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิเคราะห์ขนไก่เพื่อตรวจสอบการใช้ยาปฏิชีวนะ


นักวิจัยที่สถาบันวิจัยด้านสัตวแพทย์แห่งชาติโปแลนด์ ประเมินผลการวิเคราะห์เส้นขนไก่ซึ่งเป็นวิธีทางเลือกที่ปราศจากความเจ็บปวดสำหรับการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อสำรวจการใช้ยาด็อกซีซัยคลินในฟาร์มสัตว์ปีก ดูเหมือนว่า สัตว์ปีกที่ได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่มนี้สามารถตรวจสอบได้ไม่ยากโดยการตรวจสอบขนไก่ เนื่องจาก ยาต้านจุลชีพมีสามารถสะสมในขนสัตว์ปีกได้

ยาต้านจุลชีพนิยมใช้กันมากในสัตว์ปีกเพื่อรักษาโรคติดเชื้อ และเพื่อสร้างความมั่นใจในการรักษาสุขภาพ และสวัสดิภาพของสัตว์ปีก 

ในการผลิตสัตว์ปีกเชิงอุตสาหกรรม การใช้ยามากเกินความจำเป็นเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในการผลิตสัตว์ปีกพันธุ์ จนทำให้มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียดื้อยาทั้งในสัตว์ และมนุษย์ ในกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป การใช้ยาปฏิชีวนะได้รับการตรวจติดตามเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการผลิตอาหารสำหรับผู้บริโภค แผนการตรวจติดตามสัตว์ปีกจากตัวอย่างส่งตรวจที่เก็บจากสัตว์หลังเสียชีวิต เช่น กล้ามเนื้อ ตับ ผิวหนัง และไขมัน ระดับการตกค้างสูงที่สุดกำหนดไว้สำหรับยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการผลิตไก่เนื้อเป็นหลัก แต่ไม่มีการกำหนดระดับสำหรับไก่ไข่

การสะสมในเส้นขนไก่

การวิเคราะห์ประมาณยาปฏิชีวนะภายหลังสัตว์เสียชีวิตในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้ทราบถึงการรักษาสัตว์ปีกระหว่างที่ยังมีชีวิต ดังนั้น นักวิจัยหันมาให้ความสนใจกับการแสวงหาวิธีทางเลือกใหม่ในการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์จากการใช้ยาปฏิชีวนะ ดูเหมือนว่า สัตว์ที่ได้รับยาปฏิชีวนะบ่งชี้ได้ดีที่สุดโดยการตรวจสอบที่เส้นขนไก่ เนื่องจาก ยาต้านจุลชีพสามารถสะสมในเส้นขนไก่ได้ ขนไก่ยังใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ให้โปรตีนสูงในอาหารสัตว์สำหรับสัตว์ปีก และยังเป็นแหล่งของโปรตีนในสัตว์อีกหลายชนิด จึงมีโอกาสที่จะนำยาปฏิชีวนะเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตอาหารสำหรับมนุษย์ได้อีกด้วย การวิเคราะห์ขนไก่เป็นวิธีที่ปราศจากความเจ็บปวด และไม่ทำร้ายสัตว์ที่ช่วยตรวจติดตามสารตกค้างได้อีกหลายชนิด ขนไก่เป็นแหล่งสะสมสารตกค้างได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อตัวสัตว์ เคลื่อนย้าย และเก็บกักไว้ได้เป็นเวลาหลายปี โดยไม่ขึ้นกับอายุ และเพศของสัตว์ การวิจัยก่อนหน้านี้เป็นการศึกษาการเคลื่อนย้าย และการสะสมของยาปฏิชีวนะที่ขนไก่ หลังจากการใช้ยาเอนโรฟลอกซาซิน ออกซีเตตราซัยคลิน ซัลฟาคลอพิริดาซีน ฟลูมีควิน และไทโลซิน แต่ยาด็อกซีซัยคลินเป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้าง และเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในสหภาพยุโรป ดังนั้น การศึกษาเพิ่มเติมจึงมีความจำเป็นเพื่อหาวิธีการเก็บตัวอย่างทดแทนโดยการใช้ขนไก่ภายหลังการให้ยาดังกล่าวในไก่เนื้อ

ไม่เจ็บปวด

 เป้าหมายหลักของการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาว่าขนไก่จะเป็นทางเลือกใหม่ในการเก็บตัวอย่างที่ปราศจากความเจ็บปวดต่อสัตว์ เพื่อตรวจสอบยาด็อกซีซัยคลินตกค้างในการผลิตสัตว์ปีก

การใช้ยาปฏิชีวนะในการทดลองครั้งนี้มี 3 วิธี ได้แก่

  1. ใช้ระดับการรักษา
  2. ใช้ร่วมกับการสเปรย์
  3. ใช้ระดับต่ำกว่าการรักษา

การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธี Ultra-high-performance liquid chromatography tandem mass spectrometry สำหรับการตรวจเชิงปริมาณยาด็อกซีซัยคลินในขนไก่ ความเข้มข้นของยาด็อกซีซัยคลินที่ระดับสูงในขนไก่สามารถตรวจสอบได้เป็นเวลา ๒๒ วันภายหลังการรักษาในแต่ละกลุ่มการทดลอง และยังตรวจพบในระดับสูงกว่านั้นอีกในกล้ามเนื้อ และตับ ระดับยาด็อกซีซัยคลินที่สูงพบว่า มีการสะสมในช่วงบนของเส้นขนไก่ในแต่ละกลุ่มการทดลอง ผลการทดลองครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ขนไก่สามารถใช้เป็นวัสดุตัวอย่างสำหรับการเฝ้าระวัง และตรวจสอบยาตกค้างชนิดด็อกซีซัยคลินได้โดยไม่ต้องฆ่า หรือทำให้สัตว์เจ็บปวด

   

เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑ นักวิจัยพัฒนาวิเคราะห์ขนไก่เพื่อตรวจติดตามการใช้ยาปฏิชีวนะ (แหล่งภาพ Peter Roek)

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไข้หวัดนกระบาดกระทบส่งออกของอียู


เชื้อไวรัสตรวจพบเป็นครั้งแรกในสามประเทศยุโรป เมื่อเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในยุโรป ติดตามด้วยข้อเรียกร้องให้จำกัดการค้าขายเนื้อสัตว์ปีก และไข่

นักเคลื่อนไหวกิจกรรมชาวฝรั่งเศส Coordination Rurale เรียกร้องให้หยุดการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกจากประเทศที่ติดเชื้อ โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวกิจกรรมอ้างว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นใหญ่หลวง และเป็นเวลายาวนานต่อภาคการผลิตสัตว์ปีกในประเทศกลุ่มยุโรปจากการระบาดของโรคครั้งนี้

ไม่นานมานี้ สหรัฐอาหรับอิมิเรตก็ได้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ปีก และไข่จากประเทศฮังการี และสโลาวาเกีย ภายหลังการประกาศโรคระบาด ภายหลังการยืนยันโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในยูเครนเป็นครั้งแรก ผู้ผลิตสัตว์ปีกรายใหญ่ Myronivsky Hliboproduct (MHP) อ้างว่า โรคไข้หวัดนกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตของบริษัท เนื่องจาก บริษัทให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสูงภายในกิจการ

สมาคมผู้ผลิตสัตว์ปีกยุโรป (European poultry meat producers' association, AVEC) รายงานว่า สหภาพยุโรปส่งออกเนื้อสัตว์ปีก ๑.๕๘ ล้านตันในปี พ.ศ. ๒๕๖๑

การระบาดครั้งแรกในสาธารณรัฐเชก และยูเครน

ภายหลังการระบาดใหม่ยืนยันแล้วในสาธารณรัฐเชก และยูเครน จำนวนของประเทศในยุโรปที่รายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในสัตว์ปีกช่วงฤดูหนาวนี้เพิ่มเป็น ๗ ประเทศ

สำหรับสาธารณรัฐเชก เป็นครั้งแรกที่ตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สับไทป์ เอช ๕ เอ็น ๘ ในประเทศ

ตามรายงานขององค์การโรคระบาดสัตว์โลก หรือโอไออี การปรากฏของเชื้อไวรัสยืนยันว่า ไก่หลังบ้านหกตัวในทางตอนใต้ของ Vysocina ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา สัตว์ป่วยที่เหลือทั้งหมดถูกทำลาย

หลังโรคสงบลงเกือบสามปี เชื้อไวรัสชนิดเดียวกันนี้ได้หวนกลับคืนยูเครน โดยตรวจพบในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ ๙๘,๐๐๐ ตัว แต่ไม่มีการแจ้งชนิดในทางตะวันตกของเมือง Vinnista  โดยยังไม่ทราบแหล่งต้นตอของการติดเชื้อ สัตว์ปีกเกือบ ๕,๐๐๐ ตัวตาย และที่เหลือกำลังถูกทำลาย

ระบาดต่อไปในฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกีย

ภายหลังข่าวในสื่อท้องถิ่น กระทรวงเกษตรโปแลนด์ก็ยืนยันต่อโอไออีว่า มีการระบาดต่อไปอีก ๖ ครั้งในสัตว์ปีก นับตั้งแต่ ๓๑ ธันวาคมเป็นต้นมา สัตว์ปีกเสียหายไปแล้วมากกว่า ๙๑,๐๐๐ ตัวจากการตาย และทำลายสัตว์ป่วย โดยในจำนวนนี้สี่ครั้งพบในจังหวัดทางภาคกลางของโปแลนด์ และอีกครั้งหนึ่งในทางตะวันตก และตอนล่าง ครั้งแรกอยู่ติดพรมแดนเยอรมัน และครั้งที่สองเป็นตะเข็บพรมแดนของสาธารณรัฐเชก

 เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ตัวเดียวกันยังตรวจพบเป็นครั้งแรกในนกป่าจังหวัดลูบลินทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ โดยพบเหยี่ยวปีกสั้นตายในป่า

กระทรวงเกษตรฮังการีรายงานต่อโอไออีว่า ยังมีการระบาดอีก ๒ ครั้งจากเชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ เป็นฟาร์มไก่งวงเนื้อ ๒ ฝูง รวม ๕๔,๐๐๐ ตัว และยังตรวจพบในฟาร์มเป็นครั้งที่สองทางตะวันตกเฉียงเหนือของโรมาเนีย จำนวนสัตว์ปีก ๒๒,๗๐๐ ตัว ในสโลวาเกีย ฝูงสัตว์ปีกหลังบ้านพบติดเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน นับเป็นการระบาด ๔ ครั้งในสัตว์ปีกทั้งหมด ๑๙ ตัว เกิดขึ้นทางตะวันตกของประเทศ ใกล้กับรายงานการระบาดครั้งแรกที่เพิ่งรายงานไปก่อนหน้านี้

เยอรมันรายงานไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในนกป่าเป็นครั้งแรก

อ้างตามรายงานของกระทรวงเกษตรต่อโอไออี เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ถูกตรวจพบในห่านป่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบตายอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศเยอรมันใกล้พรมแดนโปแลนด์ การตรวจพบครั้งนี้เป็นการหวนกลับของโรคนี้ในเยอรมันอีกครั้งเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆในยุโรป ภายหลังห่างหายไปนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นต้นมา

ไต้หวันรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดรุนแรงสูง ๑๑ ครั้ง สัตว์ปีกติดเชื้อ ๖๑,๐๐๐ ตัว

 ในช่วงสัปดาห์ก่อน ไต้หวันรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงรวม ๑๑ ครั้ง โดยเกิดจากเชื้อไวรัส ๒ สายพันธุ์

ล่าสุดในความพยายามควบคุมโรคตลอดช่วงเวลา ๕ ปีจากเชื้อไวรัสเอช ๕ เอ็น ๒ มีการระบาดอีก ๖ ครั้งมีสัตว์ปีกติดเชื้อเกือบ ๕๐,๐๐๐ ตัว โดยการระบาดห้าครั้งดังกล่าวเกิดขึ้นกับไก่พื้นเมือง และที่เหลือเป็นฟาร์มไก่งวง ฟาร์มที่เกิดโรคอยู่ในตำบล Yunlin, Yilan และ Changhua รวมถึงเมือง Taichung โดยสองรายถูกตรวจพบในไก่พื้นเมือง ๒๐ ตัวที่โรงเชือดในตำบล Wanhua กรุงไทเป

เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๕ เอ็น ๕ อุบัติขึ้นในไต้หวันในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ทำให้จำนวนครั้งของการระบาดเพิ่มเป็น ๑๑ ครั้ง จากข้อมูลที่สภาการเกษตรแจ้งต่อโอไออีเกี่ยวกับการระบาดใหม่ห้าครั้งตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

หนึ่งในการระบาดครั้งนี้ยืนยันว่าเกิดขึ้นกับไก่พื้นเมืองจำนวน ๑,๐๐๐ ตัวจาก ๑๑,๐๐๐ ตัวในเมือง Yunlin เชื้อไวรัสยังตรวจพบในไก่พื้นเมืองอีก ๔ กลุ่มที่แสดงอาการสงสัยว่าจะติดเชื้อในโรงเชือดที่เมือง Wanhua

ตรวจพบไวรัสไข้หวัดนกในนกป่าจีน

รายงานเพิ่มเติมโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงในนกป่ายืนยันในจังหวัดซินเจียง อ้างอิงตามรายงานล่าสุดของกระทรวงเกษตรฯต่อโอไออีว่า ตรวจพบเชื้อไวรัสแวเรียนต์ สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๖ ในห่านใบ้นอนตายในสวนสาธารณะในเขตปกครองตนเองของมองโกลเลีย เป็นส่วนหนึ่งของฝูงห่านใบ้ราว ๑๕๐ ตัว ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็มีการตรวจพบเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันจากหงส์ใบ้ตายจำนวนมากในอีกสองตำบลในจังหวัดเดียวกัน

นกกระจอกเทศแอฟริกาใต้ยังพบไข้หวัดนก

เชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๕ เอ็น ๘ ยังตรวจพบในฟาร์มนกกระจอกเทศอีกสองแห่งตามรายงานล่าสุดจากกระทรวงเกษตรแห่งแอฟริกาใต้ต่อโอไออี โดยฟาร์มทั้งสองแห่งอยู่ในจังหวัดเคปตะวันตกในแถบ Oudshornn และยืนันการระบาดมาแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว

แอฟริกาใต้รายงานโรคครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยรายงานสัตว์ป่วยล่าสุดทำให้จำนวนครั้งของการระบาดรวมแล้วเป็น ๒๑๕ ครั้งอ้างอิงตามรายงานของโอไออี

เม็กซิโกประกาศฟื้นฟูสถานการณ์โรคไข้หวัดนกระบาดเรียบร้อยแล้ว

หน่วยงานสุขภาพสัตว์แห่งเม็กซิโกประกาศต่อไอไออีว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดนกที่ต้องแจ้งให้ทางการทราบ ระบาดในภาคสัตว์ปีกของประเทศได้ฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว

อ้างอิงตามรายงานต่อโอไออี การระบาดของโรคไข้หวัดนก ชนิดความรุนแรงสูง สับไทป์เอช ๗ เอ็น ๓ ที่ระบาดมาตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ สร้างความเสียหายต่อสัตว์ปีกจำนวนมากกว่า ๑.๐๓ ล้านตัว 

เอกสารอ้างอิง

Linden J. 2020.


ภาพที่ ๑ โรคไข้หวัดนกกำลังกระทบส่งออกสัตว์ปีกยุโรป (แหล่งภาพ mashi_naz, Bigstock)


วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...