ยอดการจำหน่ายยาปฏิชีวนะในภาคปศุสัตว์ลดลงร้อยละ
๖๓ ในเนเธอร์แลนด์ แสดงให้เห็นว่า ไม่พบผลกระทบทางลบต่อทั้งการผลิต หรือทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงไก่เนื้ออย่างที่เกรงกลัวกันไป
ความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศของผู้ประกอบการเลี้ยงไก่เนื้อในฮอลแลนด์ไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตไก่เนื้อเลย
แถมยังทำให้ฮอลแลนด์กลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกในโลกที่สามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้อย่างมหาศาล
ทั้งนี้มาจากรายงานล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ผลการวิจัยทางเศรษฐกิจแห่งวาเกนนิงเก้น
ตามข้อเรียกร้องจากกระทรวงเกษตรกรรม ธรรมชาติ และคุณภาพอาหาร
การตรวจติดตามการใช้ยาปฏิชีวนะในภาคปศุสัตว์
รัฐบาลดัทช์เริ่มตรวจติดตามการใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตปศุสัตว์เป็นเวลายี่สิบปีมาแล้ว
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นต้นมา
โดยการบันทึกยอดจำหน่ายรวมของยาปฏิชีวนะทางสัตวแพทย์ จนห้าปีต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๗
ก็เก็บบันทึกเพิ่มเติมเป็นการใช้อัตราการใช้ยาปฏิชีวนะต่อตัว จนกระทั่งปี พ.ศ.
๒๕๕๑
ได้มีนโยบายใหม่ให้ลดการใช้ยาโดยตัดสินใจใช้ยาด้วยความรับผิดชอบภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
และเอกชน ในตอนแรก ผู้ประกอบการก็สติแตกตื่นกังวลว่า
หากลดการใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตปศุสัตว์แล้วจะส่งผลทางลบต่อประสิทธิภาพการผลิต และผลผลิตการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม
ในทางตรงกันข้ามนับตั้งแต่นโยบายปฏิรูปการใช้ยานี้ถูกนำไปใช้จริงก็ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์แต่อย่างใด
ต้นทุนการผลิตของภาคการผลิตไก่เนื้อ
และสุกรในเนเธอร์แลนด์ก็ยังสู้กับคู่แข่งสำคัญในสหภาพยุโรปได้ทั้งเดนมาร์ก
ประเทศที่มีการใช้ยาปฏิชีวนะเฉลี่ยน้อย เยอรมัน ประเทศผู้ส่งออกไก่เนื้อรายใหญ่
และสเปน ประเทศที่มีการใช้ยาปฏิชีวนะสูง ตามรายงานที่เชื่อถือได้นี้ก็ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง
กับการลดใช้ยาปฏิชีวนะแต่อย่างใด
มาตรการเชิงรุกของผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์
เมื่อปราศจากอาวุธที่คุ้นมือแล้ว
ผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์ชาวดัทช์ก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ พยายามแสวงหามาตรการอย่างง่าย
และไม่ต้องจ่ายเงินมาก เพื่อส่งเสริมสุขภาพสัตว์
หรือสถานภาพด้านสุขภาพของฟาร์มตนเอง มุ่งเน้นเป็นพิเศษกับการจัดการสุขภาพสัตว์
เช่น การให้ความใส่ใจเพิ่มขึ้นต่อสุขอนามัย
ใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกชนิดต่างที่ออกฤทธ์ต่อต้านการอักเสบ หรือใช้วัคซีนป้องกันโรคไว้ก่อนแทนที่จะรอให้ป่วยจนต้องใช้ยาปฏิชีวนะไปรักษา
ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆในภาคการผลิตไก่เนื้อดัทช์
ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
ตามอัตลักษณ์ของผู้ประกอบการเลี้ยงไก่เนื้อเนเธอร์แลนด์ย่อมไม่ยอมให้เหมือนประเทศใดในโลก
ได้แก่
๑.
เปลี่ยนไปเลี้ยงไก่เนื้อโตช้า
๒.
ให้ความสำคัญกับการให้น้ำไก่กินที่สะอาด
๓.
คุณภาพลูกไก่ต้องดีเยี่ยม
๔.
การทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรงเรือนระหว่างการเตรียมโรงเรือนต้องสุดยอด
๕.
ระบบการเลี้ยงแบบเข้าพร้อมกันทั้งหมด
และออกพร้อมกันทั้งหมด (All
in/all out)
สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดสำหรับการผลิตเนื้อไก่ในเนเธอร์แลนด์คือ
การปรับตัวไปสู่การเลี้ยงไก่เนื้อโตช้า ช่วยให้ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ
เมื่อปีที่แล้ว
หนึ่งในสามของการผลิตไก่เนื้อในเนเธอร์แลนด์เป็นไก่เนื้อโตช้า
นับเป็นการตอบสนองต่อการรณรงค์ด้านสวัสดิภาพสัตว์ของผู้บริโภค
และร้านค้าปลีกภายในประเทศ นั่นคือ
การลดการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเป็นรูปธรรมในการผลิตไก่เนื้อเป็นผลมาจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของการเลี้ยงไก่เนื้อโตช้าหนึ่งในสามของการผลิตในประเทศ
เอกสารอ้างอิง
McDougal T. 2019. Dutch
poultry industry not affected by antibiotic reduction. [Internet]. [Cited 2019
Jun 28]. Available from: https://www.poultryworld.net/Health/Articles/2019/6/Dutch-poultry-industry-not-affected-by-antibiotic-reduction-443885E/9
ภาพที่
๑ สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดสำหรับการผลิตเนื้อไก่ในเนเธอร์แลนด์คือ
การปรับตัวไปสู่การเลี้ยงไก่เนื้อโตช้า (แหล่งภาพ Ronald
Hissink)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น