เคยเจอเนื้อแบบนี้มั้ย? ยุโรปเป็นตลาดหลักของการส่งออกกล้ามเนื้ออก
การพัฒนาสายพันธุ์ไก่เนื้อให้โตเร็วขึ้นทุกปี กล้ามเนื้ออกใหญ่มาก แต่ก็มีปัญหาคุณภาพเนื้ออกเป็นสาเหตุให้ต้องคัดทิ้งปริมาณมากมายไปจนถึงการร้องเรียนของลูกค้า
กระแสกดดันนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตราบใดที่ ผู้ผลิตยังไม่สามารถวินิจฉัยปัญหา และสาเหตุของความผิดปรกติ โดยข้อเท็จจริงแล้ว
ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการพัฒนากล้ามเนื้อในไก่เนื้อ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่หลังความสำเร็จในการคัดเลือกพันธุกรรมไก่
โภชนาการ โรงเรือน และการป้องกันโรค อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ได้รับประโยชน์จากน้ำหนักไก่ที่เพิ่มขึ้น
อายุการจับไก่ลดลง และประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ผลกำไรที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน
ความก้าวหน้าเหล่านี้ก็ได้ส่งผลกระทบต่อปัญหาคุณภาพเนื้อไก่
และการยอมรับของผู้บริโภค
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นต้นมา
น้ำหนักไก่ที่อายุ 40 วันเพิ่มขึ้นเป็น ๔ เท่า
และสัดส่วนของกล้ามเนื้ออกก็มากขึ้นเป็น ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญพยาธิสภาพของกล้ามเนื้อ
ความผิดปรกติที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเส้นเลือดที่เข้าไปเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ
และการทำหน้าที่ผิดปรกติของเส้นใยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อลายประกอบด้วย
เส้นใยกล้ามเนื้อเรียงตัวกันเป็นมัดคั่นด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหล่อเลี้ยงด้วยเส้นเลือดแดงตามเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ก่อนการฟักเป็นลูกไก่
เส้นใยกล้ามเนื้อมีการเพิ่มจำนวนเซลล์มากขึ้น แต่หลังจากฟักเป็นตัวแล้ว
กล้ามเนื้อจะมีการเพิ่มเฉพาะขนาดของเส้นใยกล้ามเนื้อเท่านั้น
การจำแนกชนิดของกล้ามเนื้อตามคุณสมบัติในการเมตาโบลิซึม
สามารถแบ่งได้เป็น
๑.
Type I: Slow-oxidative fibers
๒.
Type IIA: Fast-oxidative fibers
๓.
Type IIB: Fast-glycolytic fibers
กล้าเมนื้อสองชนิดแรกมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมากมาเลี้ยง
ขณะที่ มีเส้นเลือดฝอยเพียงเล็กน้อยที่เข้าไปเลี้ยงกล้ามเนื้อชนิด Type IIB
ขณะที่ Type I ประกอบด้วยไมโอกลอบินจำนวนมาก
ดังนั้น จึงมีสีค่อนข้างแดงสอดคล้องกับปฏิกิริยาออกซิเดชันของ ATP สำหรับการปลดปล่อยพลังงาน อัตราการล้าของกล้ามเนื้อชนิดนี้จึงมีน้อย
ในทางตรงกันข้าม Type IIB ประกอบด้วยกล้ามเนื้อขาว
มีไมโอกลอบบินน้อย แต่ประกอบด้วย ไกลโคเจน ที่ถูกสลายโดยกระบวนการ Anaerobic
process ให้มีการปลดปล่อยพลังงาน ดังนั้น
กล้ามเนื้อชนิดนี้จะมีอัตราการล้าอย่างรวดเร็ว
ความผิดปรกติของกล้ามเนื้อที่พบได้บ่อยในไก่เนื้อที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ได้แก่
๑.
กล้ามเนื้อเป็นแถบลายสีขาว (White striping) ความผิดปรกติที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ปรากฏเป็นลายที่มีขนาดน้อยกว่า
1 มิลลิเมตร ไปจนถึง 2 มิลลิเมตร ความชุกของโรคอาจพบได้สูงกว่า ๑๒ เปอร์เซ็นต์
ความผิดปรกติที่เกิดขึ้นมักพบในกล้ามเนื้อหน้าอก
ความชุกของโรคมีความสัมพันธ์โดยตรงกับน้ำหนักของไก่
และพบได้บ่อยในไก่เนื้อที่มีน้ำหนักมากกว่า ๓.๕ กิโลกรัม
ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ กล้ามเนื้อที่ผิดปรกติจะมีการสะสมของเนื้อเยื่อไขมันเข้าไปแทนที่เส้นใยกล้ามเนื้อ
สิ่งที่ตรงข้ามกับเนื้อเยื่อปรกติความชื้นต่ำลงเล็กน้อย และโปรตีนต่ำมาก
แต่กลับแทนที่ด้วยระดับไขมัน และคอลลาเจนที่สูงขึ้น
องค์ประกอบของกรดไขมันในกล้ามเนื้อสันในที่เกิดความผิดปรกติของกล้ามเนื้อเป็นแถบลายเส้นจะมีกรดไขมันชนิด
Monounsaturated fatty acids สูงขึ้น และ Polyunsaturated fatty acids ต่ำลง
โดยเฉพาะ EPA และ DHA จะต่ำลงอย่างมากเปรียบเทียบกับกล้ามเนื้อปรกติ
การเพิ่มปริมาณ
EPA และ DHA
ในอาหารช่วยให้ดีขึ้นได้ รวมถึงการเสริมด้วยวิตามินอี ซีลีเนียม
และกรดอะมิโนชนิดที่ประกอบด้วยซัลเฟอร์
๒.
กล้ามเนื้อแข็งเหมือนไม้ (Wooden meat)
เป็นลักษณะของการอักเสบที่เกดขึ้นในกล้ามเนื้อหน้าอกจนมีสีค่อนข้างซีด
และเนื้อแข็งมาก ความผิดปรกติที่เกิดขึ้นนี้ หลอดเลือดฝอยภายในพังผืดรอบเส้นใยกล้ามเนื้อถูกกดทับด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อที่มีการขยายขนาด
ส่งผลให้มีเส้นเลือดมาเลี้ยงน้อยลง และมีการขยายไปยังบริเวณข้างเคียง
ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เนื้อเยื่อจะมีการตอบสนองด้วยการติดสีม่วง บ่งชี้ถึง
การเสื่อมของกล้ามเนื้อ กระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อแบคทีเรีย
แต่เป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจน
การทดลองในฟาร์ม พบว่า อัตราความชุกของโรคลดลงภายหลังการให้ EconomasE ที่ประกอบด้วย
สารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี และ Bioplexed selenium นอกจากนั้น
ยังพบว่า การเพิ่มปริมาณอาร์จินีนในอาหารก็ช่วยให้ดีขึ้นเช่นกัน
๓.
โรคกล้ามเนื้อสีเขียว (Green muscle disease) เป็นความผิดปรกติที่พบได้ในกล้ามเนื้อสันใน
บางครั้งจงเรียกโรคนี้ว่า พยาธิสภาพของกล้ามเนื้อหน้าอกชั้นใน การเสื่อมของกล้ามเนื้อเป็นผลมาจากการทำงานมากเกินไปของกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะ ไก่เนื้อที่มีการตีปีกขึ้นลงมากเกินไป ความผิดปรกตินี้ยังขึ้นกับโครงสร้างของร่างกายที่เอื้อต่อการขยายขนาดของกล้ามเนื้อหน้าอก
กล้ามเนื้อสีเขียวสามารถพบได้ที่อายุใดก็ได้ พบได้บ่อยในขณะถอดกระดูกออก
การป้องกันโรคได้ด้วยการให้ความเข้มแสงที่เหมาะสม ควบคุมเสียงภายในโรงเรือนให้ต่ำ
และป้องกันมิให้ไก่มีการเคลื่อนที่มากเกินไป หรือตื่นตกใจ
การเสริมอาหารสัตว์ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
และซีลีเนียมอินทรีย์พบว่าสามารถช่วยให้ดีขึ้นได้เช่นกัน
๔.
พยาธิสภาพของกล้ามเนื้อส่วนบนตอนหน้า (Cranial dorsal myopathy) พึ่งมีรายงานเมื่อเร็วๆนี้ที่กล้ามเนื้อลาทิซซิมุส
ดอร์ไซ ที่บริเวณแนวสันหลัง มีการรายงานครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๔๕
ในบราซิลส่ผลให้มีการคัดซากทิ้ง ๖ เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐
ความชุกของโรคอยู่ที่ประมาณ ๐.๕ เปอร์เซ็นต์ กล้ามเนื้อลาทิซซิมุส ดอร์ไซ ประกอบด้วย
กล้ามเนื้อชนิด TypeI ที่มีอัตราการล้าได้น้อย
แต่ต้องอาศัยออกซิเจน โรคนี้มีความรุนแรงในไก่เพศผู้ โดยเฉพาะ น้ำหนักสูงกว่า ๒.๕
กิโลกรัม และมีความสัมพันธ์กับสายพันธุ์ไก่ด้วย ฟาร์มในประเทศบราซิล
สามารถลดความชุกของโรคจาก ๒ เปอร์เซ็นต์เป็น ๐.๕ เปอร์เซ็นต์โดยการเสริมซีลีเนียมอินทรีย์ในรูปของ
Sel-Plex ระดับ ๐.๓ เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเลิกใช้ Bioplexed
selenium การคัดซากทิ้งก็เพิ่มสูงขึ้นจาก ๐.๕ เปอร์เซ็นต์เป็น ๒.๐
เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึง ผลดีของการเสริมสารอาหารดังกล่าว
การเสื่อมของกล้ามเนื้อมิได้เกิดจากสาเหตุใดสาเหตุเดียว
แม้ว่า จะมีปัจจัยโน้มนำให้เกิดโรคที่สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว
และสัดส่วนของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการปรับปรุงพันธุกรรมสัตว์ กระบวนการวินิจฉัยโรคที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการค้นหาสาเหตุของโรค
และการเลือกกลยุทธในการแก้ไขปัญหาทั้งโภชนาการ และการจัดการ เพื่อลดการปลดซากทิ้ง
และความเสียหายทางเศรษฐกิจ
แหล่งที่มา: Simon M. Shane (4/6/15)