วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561

บล๊อกเชนเทคโนโลยีสู่ระบบสุขอนามัยอัจฉริยะในการผลิตสัตว์ปีก

บริษัทผู้ผลิตพันธุ์ไก่รายใหญ่ของโลกร่วมกับไอบีเอ็ม นำเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยอิสระจากคนกลาง เพื่อนำไปสู่ความปลอดภัยของพนักงาน และสวัสดิภาพสัตว์ผ่านกระบวนการสุขอนามัยอัจฉริยะ
               คุณประโยชน์ของเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยอิสระจากคนกลาง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีก กำลังลงมาสู่ภาคโรคฟักไข่ไก่แล้ว ขณะนี้ดูเหมือนว่าจะมีนวัตกรรมใหม่อย่างท่วมท้นมาแล้ว บริษัทด้านเทคโนโลยีบางแห่งได้ก้าวล้ำนำหน้าไปแล้ว มาร์ติน คิง กรรมการผู้จัดการบริษัท มีประสบการณ์ในธุรกิจสัตว์ปีกมานาน เล็งเห็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างด้านความปลอดภัยของพนักงาน และสวัสดิภาพสัตว์ แนวความคิดนี้จุดประกายเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว โจทย์ที่ตั้งไว้คือ เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงฟักไข่ สวัสดิภาพของลูกไก่ และลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ได้อย่างไร ณ เวลานั้นเมื่อฟาร์มต้องการลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียก็จะคิดถึงยาปฏิชีวนะก่อนเป็นอันดับแรก จึงหันมาให้ความสำคัญกับวิธีการลดปริมาณเชื้อที่เวลาเมื่อลูกไก่จิกเปลือกครั้งแรกเพื่อพยายามออกจากไข่ ตามปรกติถูกควบคุมโดยวิธีทางสุขอนามัยคือ ฟอร์มาลิน บริษัทผู้ผลิตพันธุ์ไก่ตั้งโจทย์นี้ให้กับบริษัทด้านเทคโนโลยี เพื่อเล็งหาวิธีการจัดการวัตถุอันตรายนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยของพนักงาน และวิธีการควบคุมขนาดของสารเคมี และเพิ่มสวัสดิภาพของลูกไก่ให้ดีขึ้น กลายเป็นระบบไร้การสัมผัส เพื่อจัดการฟอร์มาลินได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตัดโอกาสรับสารเคมีอันตรายโดยไม่ตั้งใจ และจัดการได้ง่าย ฟอร์มาลินถูกนำส่ง และเก็บไว้ภายนอกโรงฟักในห้องที่ออกแบบไว้เฉพาะ จากนั้นจึงส่งมาตามท่อที่หุ้มไว้อย่างแน่นหนาส่งไปยังตำแหน่งที่มีการใช้งาน ฝัก หรือพอดเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งด้วยเทคโนโลยีสูง ระบบนี้จะมีคามปลอดภัยมากขึ้นสำหรับพนักงาน โดยมนุษย์จะไม่มีการสัมผัสกับฟอร์มาลินที่นำส่งไปสู่โรงฟัก และยังมีกระบวนการระบายอากาศออกไปอีกด้วย
               ระบบนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อสวัสดิภาพของลูกไก่ เนื่องจาก จะเป็นระบบที่จ่ายฟอร์มาลินในขนาดที่ถูกต้องที่ตำแหน่งที่เหมาะสม และการใช้ขนาดที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสามารถลดระดับของสารฟอร์มาลินลงได้ ผลการทำงานของระบบจะมีการประเมินซ้ำโดยการทดสอบทางจุลชีววิทยา ขนาดของแก๊สที่นำเข้าสู่ระบบจะถูกควบคุมอย่างละเอียด จัดการ และตรวจติดตามอย่างทันเหตุการณ์ โดยสามารถควบคุม และตรวจติดตามได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และสามารถตรวจดูสิ่งแวดล้อมภายในโรงฟักได้ทุก ๖๐ วินาที เพื่อตรวจสอบระดับพีพีเอ็มของแก๊ส และสามารถดูย้อนหลังได้มากกว่า ๓ วัน ทั้งขนาด โดยสามารถทำเป็นกราฟ และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมได้                     
               เอกลักษณ์ในการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมจุดที่สำคัญ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมตั้งแต่แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้น และความดันภายในห้อง ดังนั้น การตรวจติดตามระบบจึงสามารถมองเห็นปัญหาได้เร็วที่สุด และสามารถมั่นใจได้ว่า ระบบสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง โดยระบบที่ดีนี้จะช่วยลดขนาดฟอร์มาลินต่อลูกไก่ลงได้เป็นการเพิ่มสวัสดิภาพสัตว์ให้ดีขึ้นอีก รวมถึง คุณภาพลูกไก่ก็จะดีไปด้วย เนื่องจากความเครียดที่ลดลง และไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย  
               กระบวนการ และระบบที่ออกแบบขึ้นมาใหม่นี้เริ่มต้นใช้ที่เวลาเมื่อลูกไก่จิกเปลือกครั้งแรก แต่ได้ถูกขยายต่อไปยังกระบวนการสุขอนามัยของตู้ฟักที่ว่างเปล่า เพื่อให้ปลอดภัย และสะอาด ระบบนี้สามารถใช้พ่นหมอกไข่ก่อนเริ่มการฟักไข่ เป็นการช่วยทั้งในกระบวนการ และเครื่องจักร

เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยอิสระจากคนกลาง
               ระบบนี้เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยอิสระจากคนกลาง หรือบล็อกเชน เจ้าตลาดผู้ค้าปลีก และไอทีกำลังสนใจในการรวบรวมข้อมูลแหล่งผลิต หรือฟาร์มเลี้ยงไก่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค และห่วงโซ่การขายสินค้า ด้วยความร่วมมือกับเจ้าตลาดไอทีอย่างไอบีเอ็มจึงเป็นการเปลี่ยนข้อมูลดิบนำมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไอบีเอ็มมองข้อมูลจากลูกไก่ไม่ใช่เพียงแหล่งที่มา หรือฟาร์มเลี้ยงไก่ แต่ยังวิเคราะห์ผ่านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า วัตสันเพื่อสร้างข้อมูลทางธุรกิจผ่านข้อมูลที่มีการเชื่อมโยงร่วมกับปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น พันธุกรรม การควบคุมโรค และภูมิอากาศ เป็นต้น    

อนาคตของข้อมูลสารสนเทศ
               อนาคตเป็นเรื่องของข้อมูลอาหาร การตรวจวัด และการสร้างความเชื่อมั่น รวมถึง ประสิทธิภาพการผลิต ดังนั้น โซนาส จึงหวังว่าจะเป็นผู้เล่นสำคัญในการจุดประกายตอบโจทย์ความต้องการของสินค้าอาหารประเภทเนื้อไก่ แหล่งโปรตีนชั้นนำของโลก และเชื่อว่า ระบบสุขอนามัยอัจฉริยะนี้จะช่วยทดแทนความปรารถนาต้องการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์ม ในเวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นของระบบสุขอนามัยอัจฉริยะ และจะต่อยอดไปที่ฟาร์มในขั้นตอนถัดไป   

โรงฟักซทแรท-เฟิด ต้นแบบของอะเวียเจน
               ผู้ผลิตพันธุ์ไก่ยักษ์ใหญ่อย่างอะเวียเจนมีแหล่งผลิตสำคัญที่เมืองซแทรด-เฟิด ทั้งพ่อแม่พันธุ์ ปู่ย่าพันธุ์ และทวดพันธุ์ ในแต่ละวันมีการฟักไข่ทั้งเพื่อใช้ภายใน และส่งออก โดยมีสถานะคอมพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง หมายความว่า หากสหราชอาณาจักรทั้งประเทศ หรือบางบริเวณเป็นบวกต่อโรคไข้หวัดนก ลูกไก่ที่ผลิต และส่งออกของบริษัทจะยังคงสามารถส่งออกได้โดยไม่มีอุปสรรค

เอกสารอ้างอิง
McDougal T. 2018. Smart sanitiser cutting human contact with formalin. [Internet]. [Cited 2018 Mar 23]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2018/3/Smart-sanitiser-cutting-human-contact-with-formalin-263754E/?cmpid=NLC|worldpoultry|2018-03-23|Smart_sanitiser_cutting_human_contact_with_formalin

ภาพที่ ๑ สิ่งท้าทายในการผลิตในโรงฟักคือ การสร้างความปลอดภัยต่อพนักงานระหว่างการผลิตจากสารที่เป็นพิษในระบบสุขอนามัย (แหล่งภาพ: Aviagen)

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

ผลวิจัยล่าสุด กรดอินทรีย์ลดไบโอฟิลม์ของซัลโมเนลลา

การใช้ผลิตภัณฑ์กรดอินทรีย์ กับการออกฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย และไบโอฟิลม์ต่อเชื้อ ซัลโมเนลลลา เอนเทอริคา จากสิ่งแวดล้อมในฟาร์มไก่ไข่
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียของกรดอินทรีย์ที่ผสมน้ำเพื่อต่อต้านเชื้อ ซัลโมเนลลลา เอนเทอริคา และตรวจสอบความไวรับของไบโอฟิลม์ต่อเชื้อ ซ. ไทฟิมูเรียม ต่อผลิตภัณฑ์กรดอินทรีย์ ๓ ชนิด ได้แก่ เอ บี และซี แล้วประเมินความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถหยุดยั้ง และฆ่าเชื้อแบคทีเรียเชื้อ ซัลโมเนลลลา เอนเทอริคา ได้ ไบโอฟิลม์จากเชื้อ ซ. ไทฟิมูเรียม ที่เพาะเลี้ยงมาเป็นเวลา ๓ ถึง ๕ วันที่อุณหภูมิ ๒๒ ± ๒ องศาเซลเซียสโดยใช้ระบบ MBEC assay system โดยใช้เวลา ๓๐ ถึง ๙๐ องศาเซลเซียสที่ความเข้มข้น ๐.๒ และ ๐.๔ เปอร์เซ็นต์ ไม่พบความแตกต่างระหว่างซีโรวาร์สำหรับความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถหยุดยั้ง และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผลิตภัณฑ์ ๒ ชนิด (เอ และซี) สามารถลดเซลล์ของเชื้อที่มีชีวิตจากไบโอฟิลม์ โดยมีความแปรผันตามตามขนาดยา และระยะเวลา อายุของไบโอฟิลม์ที่เพิ่มขึ้นมิได้ส่งผลให้ความต้านทานต่อกรดอินทรีย์เพิ่มขึ้น ไม่มีผลิตภัณฑ์ชนิดใดสามารถกำจัดเซลลืไบโอฟิลม์ได้ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้น หรือระยะเวลาเท่าใดก็ตาม องค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ ระยะเวลาการสัมผัส และความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์กรดอินทรีย์เป็นปัจจัยสำคัญในการลดเซลล์ไบโอฟิลม์ที่มีชีวิต การศึกษาครั้งนี้นับเป็นการขยายความเข้าใจเกี่ยวกับความไวของไบโอฟิลม์ของเชื้อซัลโมเนลลาต่อผลิตภัณฑ์กรดอินทรีย์ที่มีการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ การค้นพบครั้งนี้ส่งผลต่อการใช้ การพัฒนา และการปรับขนาดที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์กรดอินทรีย์      

เอกสารอ้างอิง

Pande et al. 2018. Anti-bacterial and anti-biofilm activity of commercial organic acid products against Salmonella enterica isolates recovered from an egg farm environment. Avian Pathol. 47(2): 189-196.  


วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

ไรไก่...ปัญหาสำคัญกวนใจแม่ไก่ในอิยิปต์

ความชุกของไร และผลกระทบต่อฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ (กัลลัส กัลลัส โดเมสติคัส) ในอิยิปต์ โดยการวิเคราะห์สารตกค้างเดลตาเมธรินในไข่ และเนื้อเยื่อ
               การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการในฟาร์มไก่ไข่ ๖ แห่ง โดยสามแห่งมีปัญหาไร และอีกสามแห่งไม่มีไรในสองจังหวัดของประเทศอิยิปต์เพื่อแสดงให้เห็นถึง (๑) ความชุกของไรแต่ละชนิดในฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ (๒) ผลของปัญหาไรต่อสุขภาพ และผลการเลี้ยงไก่ (๓) ประสิทธิภาพของเดลตาเมธริน (ดีเอ็มที) ต่อการควบคุมไร (๔) การตกค้างของดีเอ็มทีในไข่ และเนื้อ ผลการศึกษาไร ๑๒ ชนิดในฟาร์มไก่ไข่ที่เกิดปัญหา นับเป็นรายงานที่มีการบันทึกไว้เป็นครั้งแรกในประเทศอิยิปต์ โดยพบว่า เดอร์มานิสซุส กัลลิเน เป็นไรที่มีโอกาสพบได้บ่อยที่สุด ๒๙๕ จาก ๗๒๐ ตัวอย่างคิดเป็น ๔๐.๙ เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว การพบปัญหาไรมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่ความเชื่อมั่นร้อยละ ๙๕ ต่ออัตราการตาย การกินอาหาร อัตราการไข่ และค่าโลหิตวิทยา การใช้ยาฆ่าแมลงดีเอ็มทีไม่มีผลต่อผลการเลี้ยง แต่ภายหลังการพ่นยาฆ่าแมลง อาจสังเกตเห็นอาการทางระบบหายใจเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไรเหนี่ยวนำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง ตัวอย่างไข่ไก่พบระดับของสารตกค้างดีเอ็มทีสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ กล้ามเนื้อ และผิวหนัง ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ ๙๕ สรุปการทดลองได้ว่า รายงานวิจัยครั้งนี้เป็นบันทึกฉบับแรกที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อการเลี้ยงไก่ไข่ในประเทศอิยิปต์ นอกจากนั้น ยาฆ่าแมลงดีเอ็มที (บูท๊อกซ์ ๕๐ อีซี, อินเตอร์เวต, ฝรั่งเศส) ที่พ่นเพียงครั้งเดียวไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือการใช้ทุก ๑ หรือ ๒ เดือน โดยเฉพาะในฟาร์มที่มีปัญหาไรรุนแรงมาก นอกจากนั้น สารตกค้างดีเอ็มทีในไข่ไก่ และเนื้อเยื่อ ควรมีการทบทวนเป็นพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อผู้บริโภค               
เอกสารอ้างอิง

Abdelfattah et al. 2018. Prevalence of mites and their impact on laying hen (Gallus gallus domesticus) farm facilities in Egypt, with an analysis of deltamethrin residues in eggs and tissue. Avian Pathol. 47(2): 161-171.  


วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

ไอบี สายพันธุ์ ๗๙๓ บี ยังโดดเด่นในยุโรป

การตรวจสอบจีโนไทป์ของเชื้อไวรัสหลอดลมอักเสบติดต่อ และกัมโบโรในไก่เนื้อยุโรปในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และเทคนิคการวินิจฉัยโรค พบเชื้อไวรัสหลอดลมอักเสบติดต่อ ๑๐ จีโนไทป์ โดยจีโนไทป์ ๗๙๓ บี พบได้บ่อยที่สุด ติดตามด้วยคิวเอ็กซ์ แมส และสายพันธุ์ที่คล้ายกับ Xindadi
               ผลการรวบรวมข้อมูลของเชื้อหลอดลมอักเสบติดต่อ และกัมโบโรในยุโรปจากการศึกษาทางระบาดวิทยาวงกว้างโดยใช้ตัวอย่างที่ส่งเพื่อการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นเวลา ๖ เดือนครอบคลุมหลายประเทศในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกศ ไอร์แลนด์ สเปน และอังกฤษ ในจำนวน ๒๓๔ ฟาร์ม พบเชื้อไวรัสหลอดลมอักเสบติดต่อ ๑๐ จีโนไทป์ โดยจีโนไทป์ ๗๙๓ บี พบได้บ่อยที่สุด ติดตามด้วยคิวเอ็กซ์ แมสซาชูเซตต์ (แมส) และสายพันธุ์ที่คล้ายกับ Xindadi และสายพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มของ คิว ๑ ได้แก่ จีโนไทป์ อาร์คันซอ ดี๒๗๔ ดี๑๔๖๖ อิตาลี๐๒ และบี๑๖๔๘ ก็ตรวจพบได้ แต่พบได้น้อยกว่า การแยกตัวอย่างท่อลม และไต สำหรับการตรวจสอบเชื้อไวรัสหลอดลมอักเสบโดยใช้เทคนิคอาร์ทีพีซีอาร์เป็นประโยชน์ เนื่องกจาก เชื้อไวรัสต่างจีโนไทป์ หรือมีลำดับสารพันธุกรรมที่แตกต่างกันมากจะถูกตรวจพบได้ระหว่างอวัยวะทั้งสอง   
               ผลการสำรวจครั้งนี้ยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสในวัคซีน และการตอบสนองของแอนติบอดีต่อกัมโบโรในพื้นที่ การตรวจพบเชื้อไวรัสท้องถิ่นที่ไม่ใช่เชื้อไวรัสชนิดรุนแรงมาก บ่งชี้ถึง การปรากฏของเชื้อไวรัสชนิดที่ไม่รุนแรงมาก และไม่ใช่เชื้อจากวัคซีน พบได้ไม่บ่อยในยุโรป เนื่องจาก มุ่งเก็บตัวอย่างเฉพาะไก่ที่แสดงอาการทางคลินิก การตรวจพบเชื้อไวรัสที่มาจากวัคซีนในต่อมเบอร์ซา และการตอบสนองของแอนติบอดีต่อการให้วัคซีนกัมโบโรในฟาร์มที่ให้วัคซีนเชื้อเป็นชนิดอ่อนแรงละลายน้ำเปรียบเทียบกับการให้วัคซีนในโรงฟักโดยใช้วัคซีนอิมมูนคอมเพล็กซ์ แสดงให้เห็นถึง การเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสจากวัคซีนที่ค่อนข้างช้าจากการให้วัคซีนละลายน้ำ บ่งชี้ถึง ความผิดพลาดของเวลาให้วัคซีน และ/หรือวิธีการให้วัคซีน

เอกสารอ้างอิง

De Wit et al. 2018. Detection of different genotypes of infectious bronchitis virus and of infectious bursal disease virus in European broilers during an epidemiological study in 2013 and the consequences for the diagnostic approach. Avian Pathol. 47(2): 197-205.  


วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

อากาศร้อน ๓๙ เซลเซียสไม่มีผลต่อผลการเลี้ยงไก่เนื้อ

อากาศเริ่มร้อนแล้ว นักวิจัยอิหร่านเผยแพร่ผลการวิจัยล่าสุด ความเครียดจากความร้อนถึง ๓๙ องศาเซลเซียส ๘ ชั่วโมงต่อวันไม่มีผลต่อผลการเลี้ยงไก่เนื้อ คุณลักษณะของกระดูก หรือค่าซีรัม และการให้วิตามินซีก็ไม่ได้มีผลประโยชน์แต่อย่างใด นอกจาก การลดภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุล โดยเฉพาะในไก่ที่ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาสั้น
ผลของความเครียดจากความร้อนอย่างเรื้อรัง โดยมีการเสริม หรือไม่เสริมวิตามินซีต่อกระดูก และค่าซีรัมของไก่เนื้อ การประเมินผลของความเครียดจากความร้อนอย่างเรื้อรังต่อกระดูก และค่าซีรัมของไก่เนื้อ ที่มีการเสริม หรือไม่เสริมวิตามินซี ผู้วิจัยได้แบ่งกลุ่มแบบสุ่มไก่เนื้ออายุ ๒๓ วันจำนวน ๙๐ ตัวเป็น ๗ กลุ่ม ได้แก่
(๑) กลุ่มควบคุม
(๒) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาสั้น ๕ วัน
(๓) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาสั้น ๕ วัน และเสริมวิตามินซี (๕๐ เปอร์เซ็นต์) ๑๒ กรัมต่อน้ำ ๑๐๐ ลิตร 
(๔) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาปานกลาง ๑๐ วัน
(๕) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาปานกลาง ๑๐ วัน และเสริมวิตามินซี
(๖) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลานาน ๒๐ วัน
(๗) ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลานาน ๒๐ วัน และเสริมวิตามินซี
               ในกลุ่มที่ให้ความเครียดจากความร้อน อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเป็น ๓๙ ± ๑ องศาเซลเซียสเป็นเวลา ๘ ชั่วโมงต่อวัน เมื่อสิ้นสุดการทดลอง เก็บตัวอย่างเลือด กระดูกเท้า กระดูกอก และกระดูกแข้ง ผลการทดลองพบว่า  ความเครียดจากความร้อนไม่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของแคลเซียมในซีรัม และคอร์ติโคสเตอโรน หรือการเปลี่ยนแปลงของกระดูกทั้งส่วนคอร์ติคอล และทราบิคูลาร์จากภาพถ่ายรังสี และจุลพยาธิวิทยา หรือผลการเลี้ยงไก่เนื้อ ภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุล (Oxidative stress) พบได้มากในกรณีความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาสั้น สำหรับความเครียดจากความร้อนอย่างเรื้อรัง โดยเฉพาะเป็นเวลาสั้น หรือปานกลาง มีแนวโน้มที่จะพบการเพิ่มขึ้นของวิตามินซีในซีรัม และการให้วิตามินชนิดนี้ไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับวิตามินซีในซีรัม แม้ว่าจะช่วยลดภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุลได้ โดยสรุปความเครียดจากความร้อนมิได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงผลการเลี้ยงในไก่เนื้อ คุณลักษณะของกระดูก หรือค่าซีรัม และการให้วิตามินซีที่ขนาด ๑๒ กรัมต่อน้ำ ๑๐๐ ลิตรละลายในน้ำให้ไก่กินไม่ได้มีผลประโยชน์แต่อย่างใด นอกจาก การลดภาวะถูกออกซิไดซ์เกินสมดุล โดยเฉพาะในไก่ที่ให้ความเครียดจากความร้อนเป็นเวลาสั้น
เอกสารอ้างอิง

Mosleh et al. 2018. Effect of different periods of chronic heat stress with or without vitamin C supplementation on bone and selected serum parameters of broiler chickens. Avian Pathol. 47(2): 197-205.  

ภาพที่ ๑ อิหร่าน ภูมิภาคที่เป็นทะเลทรายอากาศร้อนแรง นักวิจัยเปิดเผยผลการวิจัยล่าสุด ความเครียดจากความร้อนถึง ๓๙ องศาเซลเซียส ๘ ชั่วโมงต่อวันไม่มีผลต่อผลการเลี้ยงไก่เนื้อ คุณลักษณะของกระดูก หรือค่าซีรัม (แหล่งภาพ: https://pixabay.com/en/dry-arid-yellow-nature-landscape-856544/

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561

อินเดียยังขายโคลิสตินให้ฟาร์มเลี้ยงไก่ได้

ผลการสำรวจอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกในประเทศอินเดียว ยังพบว่า ยาปฏิชีวนะโคลิสติน ที่มีความสำคัญต่อผู้ป่วยระยะวิกฤติยังขายกันได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
               นักข่าวจากองค์กรนักข่าวไม่แสวงหารายได้ ล่อซื้อยา ๒๐๐ กรัมจากร้านค้า โดยข้างซองจำหน่ายยามีการโฆษณาประสิทธิภาพการเร่งการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์ โดยข้อบ่งชี้การใช้ยาระบุถึงสรรพคุณของยาช่วยเพิ่มน้ำหนัก เติมยา ๕๐ กรัมต่ออาหารไก่ ๑ ตัน สินค้าจัดจำหน่ายโดยกลุ่มบริษัทเวนกี้
               ยาปฏิชีวนะที่พึ่งพาสุดท้ายทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยระยะวิกฤติที่ทราบกันทั่วไปในเวลานี้คือ ยาโคลิสติน ถูกใช้ต่อเมื่อทางเลือกในการรักษาสุดท้ายทั้งหมดถูกใช้ไปหมดแล้ว สมาชิกของสภาสัตว์ปีกอังกฤษ ได้สั่งห้ามใช้ยานี้ในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นมา แต่ยังพบว่า ยานี้ถูกส่งไปยังหลายประเทศทั้งเวียดนาม อินเดียว เกาหลีใต้ และรัสเซีย ในเวลานี้บริษัทยาสัตว์อย่างน้อย ๕ แห่งในอินเดีย มีการเปิดจำหน่ายยาโคลิสตินเป็นสารเร่งการเจริญเติบโตผสมในอาหาร 
               สภาสัตว์ปีกระหว่างชาติได้เปิดเผยข้อมูลไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยแสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์เชื้อดื้อยาทั่วโลก แต่ยังไม่มีมาตรการควบคุมด้วยการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับเร่งการเจริญเติบโตกันอย่างทั่วถึงเพียงพอ นักวิชาการด้านจุลชีววิทยาทางการแพทย์ ทิโมธี วอล์ช ยิ่งแสดงความวิตกกังวงอย่างมาก และเป็นความบ้าคลั่งอย่างที่สุด และสมบูรณ์แบบในการใช้ยานี้ในการเลี้ยงสัตว์ปีก โคลิสตินเป็นด่านสุดท้ายสำหรับการรักษาชีวิตมนุษย์แล้ว เป็นยาชนิดเดียวที่หลงเหลืออยู่สำหรับรักษาผู้ป่วยระยะวิกฤติที่ติดเชื้อดื้อยาคาร์บาพีเนม การนำยานี้ไปผสมอาหารสัตว์ให้ไก่กินจึงเป็นเรื่องที่เหลวไหลมาก เชื้อแบคทีเรียจะแพร่กระจายไปทั่วฟาร์มเลี้ยงไก่ ฟุ้งไปในอากาศรอบตัว ปนเปื้อนตามเนื้อ แล้วแพร่ไปยังผู้เลี้ยงไก่ในฟาร์ม และแมลงวันจะเป็นพาหะนำเชื้อให้ไกลออกไป
               อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทเวนกี้ ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่า มิได้กระทำผิดกฏหมายของอินเดียในการจำหน่ายยาโคลิสติน เนื่องจาก สินค้ายาปฏิชีวนะของบริษัทใช้สำหรับการรักษาเท่านั้น แม้ว่า บางกรณีขนาดยาต่ำอยู่ที่ระดับสำหรับการป้องกัน และอาจออกฤทธิ์คล้ายกับสารส่งเสริมการเจริญเติบโต บริษัทเวนกี้มิได้สนับสนุนให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะตามอำเภอใจ การใช้ยาปฏิชีวนะของฟาร์มใช้สำหรับการรักษาเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
Davies J. 2018. Colistin sold to poultry farms without prescription. [Internet]. [Cited 2018 Feb 26]. Available from: http://www.poultryworld.net/Health/Articles/2018/2/India-Colistin-sold-to-poultry-farms-without-prescription-253152E/

ภาพที่ ๑ นักวิชาการด้านจุลชีววิทยาทางการแพทย์ ทิโมธี วอล์ช แสดงความวิตกกังวลอย่างมาก แสดงความเห็นว่าเป็นความบ้าคลั่งอย่างที่สุด และสมบูรณ์แบบในการใช้ยาโคลิสตินในการเลี้ยงสัตว์ปีก (แหล่งภาพ Pixabay)

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561

อียูเตรียมรับมือขาดแคลนวัตถุดิบโปรตีน

แผนนโยบายด้านโปรตีนของสหภาพยุโรป มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มปริมาณ คุณภาพ และความสามารถในการแข่งขันของแหล่งโปรตีนในยุโรป กำลังก้าวไปข้างหน้า
               คณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับภาคเกษตรกรรม และการพัฒนาชนบท กำลังสอบถามผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมุมมองด้านบทบาทของสหภาพยุโรปในการผลิตโปรตีนจากพืช ระยะแรกอาจเป็นการพัฒนาแผนการผลิตโปรตีนภายในสหภาพยุโรปทั้งหมด ในอนาคต ยุโรปมีความกังวลต่อการขาดแคลนโปรตีน พื้นที่สำหรับการผลิตโปรตีนดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจาก เกษตรกรรม และสภาวะอากาศในยุโรปจะไม่เหมาะกับการเพาะปลูกพืชที่เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ เช่น ถั่วเหลือง ขณะเดียวกัน ราคาถั่วเหลืองกำลังเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการตัดไม้ทำลายป่า เมื่อมองหาแหล่งโปรตีนประเภทอื่นๆ ก็จะเป็นต้องพิจารณาถึงความจำเป็นสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

ความสามารถในการแข่งขัน
                 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในยุโรปเป็นผู้ใช้โปรตีนจากพืชรายใหญ่ที่สุดในยุโรป แถมยังต้องนำเข้าจาประเทศที่สาม สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของยุโรป (ฟีแฟค) เน้นให้ความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของแหล่งโปรตีนจากพืชท้องถิ่น โดยเฉพาะ การผลิตเมล็ดพันธุ์ และเมล็ดน้ำมัน ภายในสหภาพยุโรปควรเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชชนิดหลักที่นำมาใช้สำหรับการผลิตอาหารสัตว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสนับสนุนให้ผลิตแหล่งอาหารโปรตีนที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดกับประชากรสัตว์ในอียู เพื่อลดการสูญเสียโภชนะ โดยลดระดับครูดโปรตีนในอาหารสัตว์กระเพาะเดี่ยวลง ๓ เปอร์เซ็นต์จากระดับที่ใช้กันมาเป็นเวลายี่สิบปี โดยเพิ่มความสามารถในการย่อยได้ และคุณภาพของโปรตีนจากพืช

เพิ่มทั้งปริมาณ และคุณภาพ
               สมาคมฟีแฟค ยังพิจารณาให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพยายามเพิ่มทั้งปริมาณ และคุณภาพของโปรตีนจากโปรไฟล์ของกรดอะมิโน และองค์ประกอบที่ขัดขวางการใช้โภชนะ รวมถึง พืชน้ำมัน แผนการวิจัยของยุโรปจะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโปรตีน และการนำไปใช้โดยสัตว์ หรือความสามารถในการย่อยอาหารได้ ในเวลาเดียวกัน สมาคมฟีแฟคยังตักเตือนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทราบถึงความจำเป็นในการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้สำหรับการผลิตโปรตีนจากพื้นในสหภาพยุโรป ขณะที่ สหภาพยุโรปจะไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้สำหรับวัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทโปรตีนในระยะสั้น หรือระยะกลาง ความสนใจต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของการปศุสัตว์ในยุโรปต้องพึ่งพาแผนโครงการพัฒนาที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า วัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภคโปรตีน โดยเฉพาะ กากถั่วเหลือง จากการนำเข้า และการเพาะปลูกภายในยุโรปจะต้องมีการผลิตด้วยความรับผิดชอบเป็นไปตามหลักมาตรฐานการเกษตรที่ดี มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม สมาคมฟีแฟคได้ออกคำแนะนำสำหรับแหล่งถั่วเหลืองตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ร่วมกับไอทีซี กำหนดระบบสำหรับเจ้าของฟาร์ม และคู่ค้าผู้รับวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับการผลิต และแบ่งปันความรับผิดชอบสำหรับผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง  
เอกสารอ้างอิง


ภาพที่ ๑ ฟิล โฮแกน คณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับภาคเกษตรกรรม และการพัฒนาชนบท กำลังเตรียมเปิดเผยรายงานทางการตลาด และการสำรวจข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโปรตีนในยุโรป  (แหล่งภาพ: Saul Loeb/ANP

วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...