วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นักวิจัยตัดแต่งจีนกันหวัดนกสำเร็จ

 นักวิจัยพบว่า การปรับแต่งจีนที่สำคัญเชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สามารถช่วยป้องกันได้ เป็นการส่งสัญญาณถึงเส้นทางในการพัฒนาสัตว์ปีกต้านทานโรคไข้หวัดนกได้แล้ว

การใช้เทคนิคแก้ไขจีน นักวิจัยได้ค้นคว้าและปรับเปลี่ยนส่วนของดีเอ็นเอไก่ที่ช่วยควบคุมการแพร่กระจายเชื้อไวรัส แม้ว่าจะไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ แต่ยังสามารถจำกัดและควบคุมไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือความเป็นอยู่ของสัตว์ได้

ปรับปรุงพันธุ์ไก่โดยใช้เทคนิคการแก้ไขจีน

               คณะวิจัยจากสถาบันโรสลิน อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน และสถาบันเพอร์ไบร์ต ได้ปรับปรุงพันธุ์ไก่โดยใช้เทคนิคการแก้ไขจีนเพื่อเปลี่ยนบางส่วนของดีเอ็นเอที่มีความสำคัญสำหรับการผลิตโปรตีนชื่อว่า เอเอ็นพี๓๒เอ (ANP32A) ระหว่างการติดเชื้อไวรัสได้แย่งเอาโมเลกุลเหล่านี้ช่วยในการเพิ่มจำนวน

การให้เชื้อไวรัสไข้หวัดนกกับไก่

               ไก่ที่ผ่านการตัดแต่งจีนเอเอ็นพี๓๒เอแล้ว นักวิจัยได้ทดลองให้เชื้อไวรัสสับไทป์เอช ๙ เอ็น ๒-ยูดีแอล (H9N2-UDL strain) พบว่า ไก่ ๙ ใน ๑๐ ตัวไม่ติดเชื้อ และไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปยังไก่ตัวอื่น นักวิจัยจึงเพิ่มขนาดเชื้อไวรัส พบว่า ครึ่งหนึ่งของไก่ทดลอง ๑๐ ตัวติดเชื้อ

               อย่างไรก็ตาม ไก่กลุ่มทดลองยังสามารถป้องกันโรคได้บ้าง โดยปริมาณของเชื้อไวรัสในไก่ที่ตัดแต่งจีนและให้เชื้อพิษทับมีระดับของเชื้อไวรัสที่ต่ำกว่าอย่างมากเปรียบเทียบกับไก่กลุ่มควบคุม และยังช่วยจำกัดการแพร่กระจายต่อไปยังไก่กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ตัดแต่งจีนอีก ๔ ตัวที่เลี้ยงในตู้บ่มเดียวกันไว้ จึงไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสจากไก่ที่ตัดแต่งจีน

               นักวิจัยยังพบว่าในไก่ที่ตัดแต่งจีนเอเอ็นพี๓๒เอ เชื้อไวรัสยังสามารถปรับตัวให้ใช้โปรตีนอีก ๒ ชนิด ได้แก่ เอเอ็นพี๓๒บี และเอเอ็นพี๓๒อี เพื่อเพิ่มจำนวนตัวเองได้ ภายหลังการทดสอบในห้องปฏิบัติการต่อไป นักวิจัย พบว่า เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ให้ใช้เอเอ็นพี๓๒ จากร่างกายมนุษย์ได้ แต่การเพิ่มจำนวนยังต่ำในเซลล์เพาะเลี้ยงจากทางเดินหายใจมนุษย์

ยังไม่สำเร็จทั้งหมด

               งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเนเจอร์ คอมมิวนิเคชัน แสดงให้เห็นว่าจีนเอเอ็นพี๓๒เอ ตัวเดียวไม่เพียงพอ การป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสหลุดรอดออกไปได้ คณะผู้วิจัยต้องพุ่งเป้าไปที่ดีเอ็นเอที่ใช้สำหรับการผลิตโปรตีนทั้งสามชนิด ได้แก่ เอเอ็นพี๓๒เอ เอเอ็นพี๓๒บี และเอเอ็นพี๓๒อี ภายในเซลล์ไก่ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ซึ่งพบว่าสามารถยับยั้งได้ด้วยการแก้ไขจีนทั้งสามชนิด

               ศาสตราจารย์เวนดี้ บาร์เคลย์ จากสถาบันโรสลิน อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ตื่นเต้นกับความการประสานความร่วมมือผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาที่มีศักยภาพด้านพันธุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่สถาบันโรสลิน แม้ว่า อาจจะยังไม่สามารถสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ แต่ผลการวิจัยครั้งนี้ก็บ่งบอกมากมายเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ภายในเซลล์ที่ติดเชื้อ และวิธีการชะลอการเพิ่มจำนวนของไวรัส

               ศาสตราจารย์ ไมค์ แมคกรู จากสถาบันโรสลิน เห็นว่า การให้วัคซีนป้องกันโรคมีข้อเสียหลายอย่างทั้งภาระการให้วัคซีน และค่าใช้จ่าย การตัดแต่งจีนอาจจะเป็นความหวังใหม่ให้สัตว์มีความต้านทานต่อโรคอย่างถาวร ที่สามารถผ่านไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานให้ป้องกันโรคได้อีกด้วย เป็นการลดความเสี่ยงต่อมนุษย์ และนกป่า ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง การหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในไก่ อาจจะต้องไปปรับเปลี่ยนพันธุกรรมหลายอย่างพร้อมกัน ขั้นตอนถัดไปจะต้องพยายามพัฒนาไก่ด้วยการตัดแต่งจีนทั้ง ๓ จีน

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2023. Scientists claim gene editing breakthrough in bird flu fight. [Internet]. [Cited 2023 Oct 13]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/scientists-claim-gene-editing-breakthrough-in-bird-flu-fight/

ภาพที่ ๑ นักวิจัยอ้างตัดแต่งจีนกันหวัดนกสำเร็จแล้ว (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กรดจีเอเอลดปัญหาคุณภาพเนื้ออกในไก่เนื้อ

 กรดกัวนิไดโนอะซิติก (Guanidinoacetic acid, GAA) ในอาหารไก่เนื้อ ช่วยลดปัญหาคุณภาพเนื้ออกไก่

ปัจจุบัน ไก่เนื้อปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้มีกล้ามเนื้ออกใหญ่และหนัก เนื่องจาก ชิ้นส่วนอกไก่เป็นชิ้นส่วนที่มีราคาสูงที่สุดในตลาดค้าปลีกและตลาดร้านจำหน่ายอาหาร อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงพันธุกรรมได้ส่งผลให้ความชุกของโรค เช่น กล้ามเนื้อแข็งเหมือนไม้ หรือวู้ดดี้เบรสต์ (woody breast, WB) และการปรากฏเป็นลายทางสีขาว (white striping, WS) ส่งผลให้กำไรของผู้ผลิตไก่เนื้อลดลงอย่างมาก ปัจจัยอื่นๆ เช่น ไขมันที่รวมกับออกซิเจนในอาหารสัตว์ ก็ส่งผลให้อุบัติการณ์และความรุนแรงของพยาธิสภาพกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น

  ปัจจุบันเริ่มมีงานวิจัยจำนวนมากค้นพบสาเหตุของการเกิดพยาธิสภาพกล้ามเนื้อ หนึ่งในวิธีการในการลดปัญหาเป็นการใช้กรดจีเอเอ ซึ่งผลิตได้เองตามธรรมชาติในเซลล์สัตว์ ช่วยลดอุบัติการณ์ของปัญหานี้ได้ โดยไม่ส่งผลต่อผลผลิตการเลี้ยง เช่น อัตราการเจริญเติบโต

กรดกัวนิไดโนอะซิติก

กรดกัวนิไดโนอะซิติก และอาร์จินีนในอาหารสัตว์เสริมฤทธิ์กันโดยตรงสร้างเป็นครีเอทีน ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในกระบวนการเมตาโบลิซึมพลังงาน ดังนั้น จึงมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของสัตว์และเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ตามคำอธิบายของ ดร.เคซีย์ โอเวน นักวิจัยด้านเนื้อสัตว์ และศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สัตว์ปีกที่มหาวิทยาลัยอาร์คันซอ เห็นได้ชัดเจนว่า กรดอะมิโน เช่น อาร์จินีน จำเป็นต้องการสร้างกล้ามเนื้อและโปรตีน

ดร.โอเวน รายงานว่า กลุ่มนักวิจัย เช่น ดร.บิล โดซิเออร์ และคณะที่มหาวิทยาลัยเออร์เบิร์น ได้ประเมินกรดอะมิโนที่สำคัญที่เวลาต่างๆในวงจรการเจริญเติบโตไก่เนื้อ ซึ่งการดึงให้เจริญเติบโตช้าลง ช่วยลดอุบัติการณ์ปัญหากล้ามเนื้ออกได้ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เป็นที่พอใจต่อผู้ผลิตสัตว์ปีก ทั้งผลผลิต ปริมาณเนื้อที่ได้ลดลง และประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารแย่ลง

ไม่กี่ปีมานี้เอง คณะนักวิจัยอีกกลุ่มที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เอแอนด์เอ็มได้ประเมินกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึง การเสริมอาร์จินีนและวิตามินซี การเพิ่มวิตามินเป็นสองเท่าของปริมาณที่ผสมในพรีมิกซ์ การลดกรดอะมิโน พบว่า การใช้วิตามินซี การเพิ่มวิตามินเป็นสองเท่าของปริมาณที่ผสมในพรีมิกซ์ และผสมผสานกลยุทธ์ร่วมกัน สามารถลดปัญหากล้ามเนื้ออกได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ก็ยังส่งผลกระทบต่ออัตราการแลกเปลี่ยนอาหารด้วยเช่นกัน การเสริมอาหารไก่เนื้อด้วยอาร์จินีนระดับสูงอย่างเดียว ช่วยลดปัญหากล้ามเนื้ออกได้เล็กน้อยเท่านั้น นักวิจัยยังพยายามทดลองใช้ครีเอทีนลดปัญหากล้ามเนื้ออก

ครีเอทีนเคยเป็นความหวังในการลดปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อ แต่มีข้อด้อยด้านความคงตัวในการเสริมอาหารสัตว์ ดังนั้น จึงไม่ประสบความสำเร็จในการลดปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม ดร.โอเวน อธิบายว่ากรดจีเอเอเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของครีเอทีนที่มีความคงตัวมากกว่าในอาหารสัตว์ กรดจีเอเอสามารถสำรองอาร์จินีน ที่ช่วยขยายหลอดเลือด และหากไม่มีระดับที่สูงอย่างเพียงพอ อาจพบปัญหาการหล่อเลี้ยงเลือดไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ โดยเฉพาะ กล้ามเนื้ออกของไก่

การศึกษากรดจีเอเอ

               ดร.เอ็ดการ์ โอเวียโด-รอนดอน ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สัตว์ปีก และโภชนาการ มหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยกรดจีเอเอในอาหารไก่เนื้อตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๑ ผลการศึกษาแรก บ่งชี้ว่า การเติมกรดจีเอเอที่สัดส่วนร้อยละ ๐.๐๖ ในอาหารสัตว์ช่วยลดปัญหาวู้ดเด้นเบรสต์ ขณะที่ ช่วยให้การเจริญเติบโต ผลผลิตเนื้ออก และประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารดีขึ้น ผลการศึกษาครั้งนี้ยังพบความแปรปรวนของผลตามสูตรอาหารสัตว์ เช่น สูตรที่ใช้ข้าวฟ่างจะมีความสามารถในการย่อยได้ของอาร์จินีน และเมไทโอนีนต่ำ เนื่องจาก การปรากฏของแคฟิริน และแทนนิน ทำให้ประสิทธิภาพของกรดจีเอเอลดลง

ดร. โอเวียโด-รอนดอน ตั้งข้อสังเกตว่า ด้วยปัจจัยด้านสูตรอาหาร เช่น การปรากฏของตัวให้หมู่เมธิล หรืออาร์จินีนที่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่จะได้ผลเชิงบวก

ผลการวิจัยล่าสุด

                ดร.โอเวน เพิ่งเสร็จสิ้นการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินผลของกรดจีเอเอในสูตรอาหารไก่เนื้อ เพื่อลดปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อ โดยนำเสนอผลการวิจัยที่การประชุมด้านโภชนาการสัตว์ของคานาดาในปี พ.ศ.๒๕๖๖ มานี้เอง

การทดลองแรกใช้กรดจีเอเอร้อยละ ๐.๑๒ พบว่า มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการลดปัญหาวู้ดดี้เบรสต์ การเสริมกรดจีเอเอร้อยละ ๐.๐๖ หรือ ๐.๑๒ ช่วยลดความรุนแรงของไวต์สไตรบ์ปิงได้ ระดับที่เติมลงไปไม่มีผลต่อน้ำหนักมีชีวิตที่โรงงานแปรรูป และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่ออัตราการแลกเปลี่ยนอาหารเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่อายุ ๕๕ วัน

ในการทดลองครั้งที่ ๒ อัตราการใช้ร้อยละ ๐.๐๘ ในสูตรอาหารลดพลังงานลง ๒ ระดับเป็น ๒๕ หรือ ๕๐ กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมน้อยกว่ากลุ่มควบคุม เมื่อเข้าโรงงานแปรรูปฯไม่พบความแตกต่างของน้ำหนักมีชีวิตสุดท้าย หรือปริมาณเนื้ออก บ่งชี้ว่า กรดจีเอเอช่วยลดปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อ เช่น วู้ดดี้เบรสต์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต

ปัจจัยด้านพันธุกรรม

               ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า กรดจีเอเออาจมีผลต่างกันไปขึ้นกับพันธุกรรมหรือไม่ สองสายพันธุ์หลักที่นิยมเลี้ยงกับทั่วโลกมีโอกาสพบปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปยิ่งสายพันธุ์ที่มีขนาดอกใหญ่ก็มีโอกาสพบปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อสูงกว่าปรกติอยู่แล้ว แต่กรดจีเอเอสามารถทำงานได้คล้ายคลึงกันไม่ขึ้นกับสายพันธุ์ของไก่  

การวิจัยในอนาคต

ห้องปฏิบัติการของ ดร.โอเวน ยังพยายามผสมผสานการใช้แร่ธาตุชีเลต และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้ออีกด้วย กรดจีเอเอตัวเดียวดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะลดประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหารและการเจริญเติบโต ผู้วิจัยยังไม่ได้ลองเพิ่มอัตราการผสมให้สูงขึ้น และอาจจะลองร่วมทดลองกับพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมบางราย แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่า หากเสริมลงไปในระดับที่สูงขึ้นอีกจะยังให้ผลดีขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงต้นทุนและผลกระทบเชิงลบด้วย

เอกสารอ้างอิง

Hein T. 2023. Reducing breast myopathies in broilers with Guanidinoacetic acid in diets. [Internet]. [Cited 2023 Sep 29]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/broilers/reducing-breast-myopathies-in-broilers-with-guanidinoacetic-acid/

ภาพที่ ๑ การให้กรดจีเอเอมีประสิทธิภาพลดอุบัติการณ์ปัญหาคุณภาพกล้ามเนื้อได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต (แหล่งภาพ Lexo Salverda)



วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ใช้คลื่นเสียงแปลงเพศลูกไก่ไข่

 หนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดด้านสวัสดิภาพสัตว์ และเศรษฐศาสตร์ที่กำลังเป็นประเด็นปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกอาจจะแก้ไขได้แล้วโดยใช้คลื่นเสียง

               ในปัจจุบัน ลูกไก่ ๗.๕ พันล้านตัวต่อปีถูกทำลายภายหลังการฟัก สร้างความเสียหายหลายพันล้านบาท และเป็นคำถามด้านจริยธรรม หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ออสเตรีย และลักเซมเบิร์ก ได้สั่งห้ามการทำลายลูกไก่เพศผู้ไปแล้ว บางประเทศกำลังเดินทางไปในทิศทางเดียวกัน

               เทคโนโลยีหลายชนิดถูกพิจารณาอย่างพิถีพิถัน และเริ่มนำร่องใช้สำหรับการตรวจสอบเพศตัวอ่อนลูกไก่ก่อนการฟักเป็นตัว เพื่อให้การทำลายชีวิตเกิดขึ้นตั้งแต่ตัวอ่อนจะพัฒนาการเติบโตไปมากกว่านี้

               การให้แสงเพิ่มขึ้นในไก่ไข่ช่วยกระตุ้นการออกไข่ได้ แต่นักวิจัยกำลังคิดว่า คลื่นเสียงก็สามารถเพิ่มจำนวนไข่ได้เช่นกัน

การใช้คลื่นเสียงเปลี่ยนพันธุกรรมสัตว์

               นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยซิวราคิวส์ และซูเทคโนโลยี เชื่อว่า คลื่นเสียงสามารถไขปัญหาจริยธรรมการทำลายลูกไก่ไข่เพศผู้ และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการทำลายลูกไก่จำนวนมากภายในอุตสาหกรรมการผลิตไก่ไข่ได้ 

               เทคโนโลยีใหม่นี้ทำงานภายในตู้บ่มโดยใช้เครื่องมือที่นำคลื่นเสียงส่งให้กับไข่ที่ผ่านการปฏิสนธิ เพื่อควบคุมการแสดงออกของจีน ผลที่ได้สามารถเปลี่ยนให้เป็นลูกไก่ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมแบบเพศผู้ แต่แสดงลักษณะทางกายภาพเป็นเพศเมีย นั่นคือ ลูกไก่เหล่านี้ยังสามารถวางไข่ได้ 

               คลื่นเสียงถูกใช้นานมาแล้วในอดีตสำหรับเปลี่ยนแปลงการตอบสนองของจีนในพืช และสามารถนำมาใช้สำหรับเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของจีนในตัวอ่อนลูกไก่ได้ด้วย เทคนิคนี้ไม่สร้างความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิต และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดัดแปลงจีน หรือใช้ฮอร์โมนไปกระตุ้นแต่อย่างใด

               นักวิจัยควบคุมสภาวะแวดล้อมในตู้ฟักระหว่างการพัฒนาตัวอ่อนโดยใช้พลังงานเสียงจากการสั่นสะเทือน โดยการเปลี่ยนความถี่และความดังของเสียง ร่วมกับอุณหภูมิและความชื้น นักวิจัยสามารถเพิ่มโอกาสในการฟักเป็นลูกไก่เพศเมียได้ร้อยละ ๕๐ ถึง ๘๐ ทั้งนี้ ซูเทคโนโลยีได้รับรางวัลร่วม ๔๐ ล้านบาทจากการแข่งขัน และจับมือกับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกในนิวยอร์กใกล้กับมหาวิทยาลัยซิวราคิวส์

เปลี่ยนเป็นจีนเพศเมีย

               ศาสตราจารย์ เจมส์ คริลล์ ในสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิวราคิวส์ ใช้ห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่สำหรับการศึกษาการแสดงออกทางจีโนมิก และอาร์เอ็นเอ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายในตัวไก่ระหว่างการพัฒนาตัวอ่อนว่าเป็นเพศเมีย แต่ยังมีพันธุกรรมของเพศผู้ทั้งหมดอยู่ และศึกษาคลื่นเสียงที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงจีนเพศเมียที่มีการแสดงออกแทนจีนเพศผู้

               ราวร้อยละ ๖๑ ของลูกไก่ที่ฟักเป็นตัวจากการทดลองเป็นเพศเมียแล้ว

               อีแฟรต พีเทล ผู้จัดการทั่วไปของซูเทคโนโลยี อ้างว่านี่เป็นการค้นพบที่สำคัญที่สุดจากการใช้คลื่นเสียงที่ความถี่และความเข้มหนึ่ง ส่งผลต่อการแปลงเพศได้ โดยเฉพาะ ในช่วงอายุตัวอ่อน ๐ ถึง ๑๖ วัน การทดลองครั้งหนึ่งพบว่าได้ลูกไก่เพศเมียสูงถึงร้อยละ ๖๙ เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ตัวอ่อนลูกไก่พัฒนาเป็นเพศเมียได้ และยังสามารถออกไข่ได้จริงๆด้วย   

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2023 Can sound alter layer gene expression?. [Internet]. [Cited 2023 Sep 27]. Available from: https://www.poultryworld.net/poultry/genetics/can-sound-alter-layer-gene-expression/

ภาพที่ ๑ นักวิจัยกำลังค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นเสียงและการแสดงออกของจีนในไก่ไข่ เพื่อให้ได้ลูกไก่เพศเมียแทนที่จะเป็นเพศผู้ (แหล่งภาพ Canva)




วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นานาปัจจัยกดดันราคาถั่วเหลืองแพง

 ยังไม่มีทิศทางที่แน่ชัดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาถั่วเหลือง แต่ปัจจัยหนึ่งคือ สภาพอากาศกำลังกดดันราคา ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งในแถบทะเลดำก็ยิ่งกดดันราคาให้สูงขึ้นอีก

สภาพอากาศในสหรัฐฯ กำลังกดดันราคาถั่วเหลืองในระยะสั้น คาดว่าอากาศที่เย็นลงและชื้นขึ้นในเดือนนี้จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านการผลิตในสหรัฐฯ น่าจะเป็นผลบวกต่อการผลิต เนื่องจากปีที่ผ่านมาอากาศที่แห้งและอุ่นให้ผลผลิตได้ไม่ดีนัก

กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ถั่วเหลืองร้อยละ ๕๔ จะได้ผลดีถึงดีเยี่ยม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนร้อยละ ๒ และปีที่ผ่านมา ถั่วเหลืองในสหรัฐฯร้อยละ ๕๙ ให้ผลผลิตดีถึงดีเยี่ยมในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม ความต้องการถั่วเหลืองมีมาก และยังเกิดความขัดแย้งในแถบทะเลดำ อาจจะกดดันราคาได้ สภาวัตถุดิบอาหารสัตว์ระหว่างประเทศ (International Grains Council, IGC) ให้ดัชนีราคาถั่วเหลืองยืนอยู่ที่ ๒๗๑ จุดในช่วงต้นสัปดาห์นี้ (ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ดัชนีอยู่ที่ ๑๐๐)

ผลผลิตถั่วเหลืองออกมามากในบราซิล

ผลผลิตถั่วเหลืองในบราซิลในฤดูกาล พ.ศ.๒๕๖๖ ถึง ๒๕๖๗ ผู้ผลิตในบราซิลเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกถั่วเหลือง คาดว่าจะทำให้ผลผลิตเติบโตขึ้นเกือบร้อยละ ๔ เป็น ๑๖๓.๕ ล้านตัน จากรายงานด้านการตลาดของ สโตนเอ็กซ์ (StoneX)

เรพซีดยังได้รับปัจจัยลบต่อตลาดในอนาคตในปารีสเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคมที่ผ่านมา โควต้าของเรพซีดสำหรับสัญญาที่สิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายนฟื้นตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังล่วงลงมาก่อนหน้านี้ สัญญาเดือนพฤศจิกายนปิดแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ ๗ สิงหาคมด้วยราคา ๑๘,๐๐๔ บาทต่อตัน สูงขึ้น ๗๗๒ บาทจากสัปดาห์ก่อน

สถานการณ์ในแถบทะเลดำ

               ความไม่สงบของสถานการณ์ในแถบทะเลดำส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ภัยแล้งในคานาดา ผู้ผลิตและส่งออกหลักเรพซีดของโลก เป็นปัจจัยลบที่สร้างความกังวลต่อราคาอาหารสัตว์ ขณะเดียวกัน ราคาถั่วเหลืองที่ลดลง กดดันราคาเรพซีด อีกด้วย

เอกสารอ้างอิง

Smale A. 2023. Multiple factors drive soybean prices. [Internet]. [Cited 2023 Aug 9]. Available from: https://www.poultryworld.net/article/multiple-factors-drive-soybean-prices/

ภาพที่ ๑ นานาปัจจัยกดดันราคาถั่วเหลืองแพง (แหล่งภาพ Canva)



วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

แบคเทอริโอฝาจเป็นเครื่องมือเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร

 การรักษาสุขภาพทางเดินอาหารให้ดีเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการผลิตสัตว์ เนื่องจาก สามารถสะท้อนภาพเชิงบวกในการผลิตสัตว์ปีก และผลกำไรของอุตสาหกรรม บทบาทสำคัญของลำไส้ต่อการดูดซึมสารอาหาร และการขับของเสียได้วิวัฒนาการขึ้นอย่างมาก การวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นถึง บทบาทสำคัญต่อภูมิคุ้มกัน เมตาโบลิซึม และผลการเลี้ยงโดยภาพรวมในการผลิตปศุสัตว์

แนวความคิดเกี่ยวกับสุขภาพทางเดินอาหาร ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในแวดวงวิทยาศาสตร์ โดยทั่วไปเป็นการมุ่งเน้นไปที่สมดุลการทำหน้าที่ด้านสรีรวิทยา จุลชีววิทยา และกายภาพ ที่ช่วยให้ลำไส้อยู่ในสภาวะที่ดุลยภาพ ซึ่งควรจะมีความหลากหลาย ความสมดุล และประกอบด้วยชุมชนของเชื้อจุลชีพที่เป็นประโยชน์ และก่อโรค (ไมโครไบโอม) ปราการผนังลำไส้ที่แข็งแกร่งสำหรับการป้องกันทางกายภาพและเคมี รวมถึง ระบบภูมิคุ้มกันที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเฉพาะแห่งและทั่วทั้งระบบร่างกาย

ความแข็งแกร่งของปราการผนังลำไส้

               ลำไส้เป็นอินเตอร์เฟซที่ยาวที่สุดที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อม และมีความไวรับต่อการติดเชื้อ เมื่อสัตว์ปีกติดเชื้อ เช่น เชื้อก่อโรคลำไส้ ความแข็งแกร่งของปราการผนังลำไส้ และไมโครไบโอม อาจเกิดการแปรปรวน เกิดเป็นดิสไบโอซิส และระบบภูมิคุ้มกันต้องสูญเสียพลังงานมากขึ้นในการทำหน้าที่ควบคุมสิ่งแปลกปลอม ภาวะดิสไบโอซิสส่งผลต่อการอักเสบ และการดูดซึมสารอาหารอย่างผิดปรกติ จนผลการเลี้ยงแย่ลง ผลกำไรน้อย และส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพสัตว์ แม้กระทั่ง เชื้อก่อโรคในระดับที่ไม่แสดงอาการ เช่น เชื้อ ซัลโมเนลลา ก็สามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพลำไส้ และผลผลิตให้ลดลงได้

นับตั้งแต่การแบนห้ามใช้ยาต้านจุลชีพเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของไก่ และป้องกันการติดเชื้อในยุโรป สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ก็พบปัญหาสุขภาพจากระบบทางเดินอาหารในสัตว์ปีกเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ภาวะดิสไบโอซิส สารเติมอาหารสัตว์บางชนิดที่ใช้ส่งเสริมสุขภาพลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกันในสัตว์ เช่น โปรไบโอติก พรีไบโอติก กรดอินทรีย์ เอนไซม์ และปัจจุบันเป็นแบคเทอริโอฝาจ ได้สร้างความหวังที่จะเป็นทางเลือกใหม่

แบคเทอริโอฝาจ

               ฝาจเป็นไวรัสที่เป็นประโยชน์ พบได้ตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อไมโครไบโอมที่ช่วยป้องกันสัตว์และมนุษย์จากการเจริญเติบโตมากเกินไปของประชากรแบคทีเรียบางชนิดทั่วโลก ในอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ ฝาจสามารถประยุกต์ใช้สำหรับการป้องกันหรือลดการปรากฏของเชื้อแบคทเรียบางชนิด เช่น ซัลโมเนลลา และ อี.โคไล ก่อโรค หรือเอเพค

               ฝาจสามารถแบ่งได้เป็น ๒ ชนิด ได้แก่ ฝาจชนิดไลติก และไลโซเจนิก โดยฝาจชนิดไลโซเจนิกเป็นเชื้อไวรัสที่พบได้มากที่สุด ฝังตัวในเซลล์แบคทีเรีย และสามารถปิดสวิสซ์ชีวิตของแบคทีเรียได้ โดยไม่ทำลายเซลล์ ฝาจชนิดนี้ไม่เหมาะสำหรับการผลิตสัตว์ ขณะที่ ฝาจชนิดไลติก มีความรุนแรง และติดเชื้อแบคทีเรียเป้าหมาย บังคับให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนดีเอ็นเอของฝาจ จนกระทั่ง ทำให้เซลล์แตก และส่งผลต่อการลดจำนวนของเชื้อแบคทีเรีย

               บริษัท โปรตีออน ฟาร์มาซูติคัล มีประสบการณ์ด้านการวิจัยฝาจมากกว่า ๑๘ ปี ด้วยความพร้อมด้านโอมิก อณูชีววิทยา ชีวสารสนเทศ และปัญญาประดิษฐ์ โปรตีออนได้พัฒนาฝาจที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมสุขภาพสัตว์ เป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฝาจที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของสัตว์แต่ละสปีชีส์   

สารเติมอาหารสัตว์ชนิดใหม่

               โปรตีออน ฟาร์มาซูติคัล พัฒนาคอคเทลของฝาจชนิดใหม่ ๒ สูตร ได้แก่ บาฟาซาล พลัส จี และบาฟาคอล ออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับไก่เนื้อ ไก่พันธุ์ และไก่ไข่

               บาฟาซาล พลัส จี เป็นสารเติมอาหารสัตว์สูตรใหม่ที่ประกอบด้วย ฝาจชนิดไลติก ๖ สายพันธุ์ ป้องกันเชื้อ ซ. กัลลินารัม เอนเทอไรทิดิส และไทฟิมูเรียม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อไมโครไบโอมในลำไส้ ผลผลิต และป้องกันอัตราการตายสูง

               บาฟาคอล ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่ประกอบด้วย  ฝาจชนิดไลติก ๕ สายพันธุ์ ป้องกันเชื้อ อี. โคไล ก่อโรค หรือเอเพค ลดอัตราการตาย และผลกระทบต่อการผลิต โดยไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อไมโครไบโอม จึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และผลผลิตได้ดี

               โปรตีออน ฟาร์มาซูติคัล มุ่งมั่นส่งเสริมสุขภาพสัตว์ เพื่อให้ผลผลิตที่ดี และรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยสุขภาพทางเดินอาหารของสัตว์ที่ดี

เอกสารอ้างอิง

Cobucci A. 2023. Bacteriophages as a tool to improve poultry gut health. [Internet]. [Cited 2023 Aug 3]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/bacteriophages-as-a-tool-to-improve-poultry-gut-health/

ภาพที่ ๑ แบคเทอริโอฝาจเป็นเครื่องมือเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร (แหล่งภาพ Shutterstock)



วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2566

แบคเทอริโอฝาจชนิดใหม่ ควบคุมซัลโมเนลลาในไก่เนื้อ

 โรงงานผลิตอาหารสัตว์ชั้นนำระดับโลก เอบี อะกริ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเลสเตอร์พัฒนาแบคเทอริโอฝาจขึ้นใหม่ เพื่อป้องกันเชื้อ ซัลโมเนลลา ในไก่เนื้อ

ในสหภาพยุโรป พลเมืองราว ๙๑,๐๐๐ คนติดเชื้อก่อโรคซัลโมเนลโลซิสเป็นประจำทุกปี เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของเชื้อ ซัลโมเลลา และเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในห่วงโซ่การผลิตอาหาร การใช้แบคเทอริโอฝาจสามารถใช้ประโยชน์ได้ระหว่างการเลี้ยง หรือก่อนขั้นตอนการจับสำหรับการผลิตสัตว์

การใช้ฝาจแบบคอคเทลผสมในอาหารสัตว์ช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อ ซัลโมเนลลา ในไก่ทดลองป้อนเชื้อพิษทับได้ นักวิจัยพยายามทดลองปรับขนาดที่เหมาะสมต่อไป

รูปแบบการศึกษา

               ไก่เนื้อทั้งหมด ๖๗๒ ตัว แบ่งเป็น ๖ กลุ่มการทดลอง เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแบคเทอริโอฝาจโดยใช้ขนาดแตกต่างกันไป  จนถึงอายุ ๔๒ วัน ไม่พบเชื้อ ซัลโมเนลลา ในตัวอย่างมูลไก่ การใช้ฝาจทั้ง ๓ ขนาดส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตในไก่กลุ่มที่ป้อนเชื้อทับ โดยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ป้อนเชื้อทับและไม่ได้รับฝาจ

ผลการทดลองที่ดี

               นักวิจัย ดร.อนิชา ธานกิ ศูนย์วิจัยแบคเทอริโอฝาจเมืองเลสเตอร์ ทดลองใช้แบคเทอริโอฝาจผสมอาหารสัตว์ที่ขนาดต่างๆกัน สำหรับควบคุมเชื้อ ซัลโมเนลลา ในไก่ ตลอดช่วงเวลา ๔๒ วัน พบว่า ไก่ทดลองทั้งหมดที่ติดเชื้อ และให้ฝาจขนาดที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นการทดลอง ให้ผลเป็นลบต่อเชื้อ ซัลโมเนลลา ในวันที่ ๔๒

               การทดลองให้ผลที่น่าตื่นเต้นมากที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถช่วยลดการติดเชื้อในไก่ และป้องกันไม่ให้เชื้อ ซัลโมเนลลา เข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตอาหารได้ หากประสบความสำเร็จในการผลิตเชิงพาณิชย์เชื่อว่าสามารถลดการใช้ยาต้านจุลชีพ และช่วยอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ลดต้นทุนการผลิตลงได้หลายหมื่นล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกัน ดร.นาตาชา เวนแฮม บริษัท เอบี อะกริ ก็แสดงความยินดีต่อนวัตกรรมด้านการผลิตอาหารสัตว์นี้ เป็นการสนับสนุนการผลิตอาหารทั่วโลก บริษัทฯภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นผลการวิจัย

               ดร.นาตาชา เวนแฮม หัวหน้าหน่วยนวัตกรรมที่เอบี อะกรี มีความหวังต่อเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยอาหารทั่วโลก และภูมิใจที่งานวิจัยครั้งนี้จะได้เป็นหนทางออกที่ช่วยให้อุตสาหกรรมเดินหน้าสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

Mcdougal T. 2023. New bacteriophage to tackle salmonella in broilers. [Internet]. [Cited 2023 Aug 3]. Available from: https://www.poultryworld.net/health-nutrition/health/new-bacteriophage-product-for-feed-to-tackle-salmonella-in-broilers/

ภาพที่ ๑ แบคเทอริโอฝาจชนิดใหม่ ควบคุมซัลโมเนลลาในไก่เนื้อ (แหล่งภาพ Canva)



วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566

โรงงานไส้กรอกรัสเซียเปลี่ยนจากเนื้อไก่เป็นเนื้อหมู

 ผู้ผลิตเนื้อรัสเซียเปลี่ยนสูตรการผลิตไส้กรอก โดยยกเลิกการใช้เนื้อสัตว์ปีกเป็นเนื้อสุกรให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เนื่องจาก ขาดแคลนเนื้อสัตว์ปีก อันเป็นผลมาจากราคาที่ดีดตัวสูงขึ้นในตลาด ผู้ผลิตเนื้อรัสเซียซื้อเนื้อสัตว์ปีกด้วยราคา ๗๒ บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ ร้านค้าปลีกจำหน่ายที่ราคา ๖๒.๔๑ บาทต่อกิโลกรัม 

               ในรัสเซีย เนื้อไก่ถูกส่งให้กับร้านค้าปลีกเป็นแห่งแรกก่อนส่งไปให้โรงงานฯ สาเหตุที่เกิดการขาดแคลนเนื้อไก่ เนื่องจาก การบริโภคเนื้อไก่ที่เพิ่มขึ้น ทั้งที่เป็นโปรตีนที่มีราคาย่อมเยาที่สุด ดังนั้น ความต้องการเนื้อไก่ในรัสเซียเติบโตจึงมากกว่าการผลิต

ความย้อนแย้งทางการตลาด

               ผลการศึกษาร่วมโดยรัสเซียทิงค์ เอนเท็ค และธนาคารการเกษตรในรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า ราคาขายส่งโดยเฉลี่ยของเนื้อไก่ในรัสเซียช่วงต้นเดือนกรกฏาคมประมาณ ๖๖.๓๔ บาทต่อกิโลกรัม ปีที่ผ่านมา ราคากระโดดขึ้นร้อยละ ๒๔ ขณะเดียวกันราคาเนื้อหมูราว ๔๘.๓๔ บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีที่แล้วแค่ร้อยละ ๘ เท่านั้น เนื้อสุกรราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ปีกแล้ว เป็นสถานการณ์ทางการตลาดที่มีความย้อนแย้งอย่างมาก ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรรัสเซีย ยังไม่แสดงความกังวลแต่อย่างใด และเห็นว่า สถานการณ์การตลาดอาหารในรัสเซียยังคงมีเสถียรภาพ และราคาที่แพงขึ้นส่วนใหญ่เป็นไปตามแนวโน้มของภาวะเงินเฟ้อโดยทั่วไป

โรคไข้หวัดนกเป็นเหตุให้ราคาผันผวน

               ช่วงเริ่มฤดูกาลเทศกาลอาหารบาร์บีคิว และวันหยุดยาว อาจจะกระตุ้นความต้องการตลาดเนื้อสัตว์ปีกสูงขึ้น ขณะเดียวกัน การระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูงก็เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลิตภายในประเทศ แต่ยังไม่เห็นภาพสะท้อนทางสถิติอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนก ๕๔ ครั้งในประเทศ สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ในครึ่งปีแรกของปีนี้โรคไข้หวัดนกเกิดการระบาดไปแล้ว ๖๐ ประเทศ ในบางพื้นที่อย่างเคิร์ส และโวโรเนส การผลิตสัตว์ปีกลดลงเล็กน้อยช่วงต้นปี

เอกสารอ้างอิง

Global Poultry Sector Authors. 2023. Russian sausage manufacturers switch from poultry to pork. [Internet]. [Cited 2023 Aug 2]. Available from: https://www.poultryworld.net/the-industrymarkets/processing/russian-sausage-manufacturers-switch-from-poultry-to-pork/  

ภาพที่ ๑ โรงงานผลิตไส้กรอกรัสเซียเปลี่ยนจากเนื้อไก่เป็นเนื้อหมู (แหล่งภาพ Wedzerai M., 2023)



วัคซีนหวัดนก ความจริงที่ถูกกลบด้วยความกลัว

  ดร.เดวิด สเวย์น กล่าวว่าจำเป็นต้องมี “การเปลี่ยนกรอบความคิด” เพราะในความเป็นจริง สัตว์ปีกที่ได้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากกว่าสัตว์ปีกที่ไม่...