การตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ลดความเสี่ยงของเชื้อซัลโมเนลลาตลอดห่วงโซ่
ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์สู่อาหารมนุษย์ เพื่อช่วยให้มั่นใจทั้งอาหารสัตว์
และการเลี้ยงสัตว์ปีก อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตบางขั้นตอน เช่น
การสร้างสภาวะที่แห้ง ทำให้เซลล์ของเชื้อ ซัลโมเนลลา แห้งไปเอง ก็สามารถช่วยสนับสนุนการทำความสะอาด
และการฆ่าเชื้อได้ด้วย
ในบางช่วงของการผลิตอาหารสัตว์
เซลล์ของเชื้อซัลโมเนลลา สามารถจำศีลพักรักษาตัวก่อน
รอคอยเวลาถูกปลุกให้ตื่นในระหว่างกระบวนการผลิตอาหารสัตว์
ผู้ผลิตอาหารสัตว์ไม่สามารถตรวจสอบเซลล์ของเชื้อ ซัลโมเนลลา
ที่ยังอยู่ในระยะจำศีลได้เลย ทำให้เข้าใจว่า อาหารสัตว์ที่ผลิตจำหน่ายยังปราศจากเชื้อปนเปื้อน
กลายเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอาหาร
ความเสี่ยงดังกล่าวนี้จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การฆ่าเชื้อด้วยเทคนิคการบำบัดด้วยไฮโดรเทอร์มัล
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์การถนอมคุณภาพอาหารสัตว์
ด้วยการใช้ส่วนผสมของบัฟเฟอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ร่วมกับกรดอินทรีย์
และสารลดแรงตึงผิว
สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนอาหารสัตว์ระหว่างการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ
การปนเปื้อนอาหารสัตว์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกระยะของการผลิต
การปนเปื้อนอาหารสัตว์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกระยะของการผลิต
ได้แก่ วัตถุดิบอาหารสัตว์ การขนส่ง การจัดเก็บ กระบวนการผลิต หรือแม้กระทั่ง
โรงเรือนเลี้ยงสัตว์
ในแต่ละขั้นตอนก็จะมีความเสี่ยงเกิดขึ้น
ตัวอย่างเช่น การลดความเสี่ยงด้านจุลชีววิทยามีความจำเป็นในระยะแรกของการผลิต
ตามห่วงโซ่อาหารสัตว์สู่อาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนข้าม
และสร้างความมั่นใจว่าอาหารปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์ ในกระบวนการถัดมา
สุขอนามัยระหว่างการผลิต แผนการเก็บสินค้าวัตถุดิบ และการจัดการฟาร์มที่ดี
ก็เป็นจุดวิกฤติที่การปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์อาจเกิดขึ้นได้
เมื่อสภาวะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ปรากฏขึ้นในขั้นตอนใดของการผลิตอาหารสัตว์
เชื้อกลุ่มเอนเทอโรแบคเทอริซีอี เช่น ซัลโมเนลลา
สามารถเป็นภัยคุกคามต่อทั้งสัตว์ที่กินอาหารสัตว์ที่ปนเปื้อน และมนุษย์ผู้บริโภคเนื้อสัตว์นั้น
หนึ่งในอันตรายคุกคามนั้นคือเชื้อ ซัลโมเนลลา ในระยะจำศีล เนื่องจากความแห้ง เชื้อ
ซัลโมเนลลา
ที่อยู่ในระยะแห้งทำให้ห้องปฏิบัติการไม่สามารถตรวจสอบเชื้อได้ด้วยวิธีตามปรกติได้
และทำให้สรุปผลกันผิดพลาดได้ว่า อาหารสัตว์ และระบบการผลิตอาหารสัตว์ยังคงปลอดเชื้อ
ซัลโมเนลลา ปนเปื้อน
ความเสี่ยงจากการปนเปื้อนซ้ำ
อุณหภูมิ และความชื้นที่เพิ่มขึ้น
สามารถปลุกเชื้อซัลโมเนลลา และเชื้อกลุ่มเอนเทอโรแบคเทอริซีอี ที่จำศีลอยู่ การแปรผันของอุณหภูมิ และความชื้น
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ในทุกกระบวนการผลิต รวมถึง
การเก็บรักษาวัตถุดิบอาหารสัตว์ การบด และการหยุดการผลิต
เอื้ออำนวยให้ระบบเมตาโบลิซึมของเชื้อ ซัลโมเนลลา และเชื้อจุลชีพต่างๆ
ที่หลับไหลอยู่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นใหม่ และเพิ่มจำนวน อุณหภูมิ
และความชื้นที่เพิ่มขึ้น
ช่วยให้สารอาหารสำหรับเชื้อจุลชีพเข้าถึงได้ง่ายขึ้นระหว่างกระบวนการบด
เปิดไปสู่ตำแหน่งที่เชื้อจุลชีพเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเซลล์เพิ่มจำนวน
และปนเปื้อนข้ามไปสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ขึ้นตอนตางๆ ดังภาพที่ ๑
แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของระดับเชื้อกลุ่ม เอนเทอโรแบคเทอริอีซิอี
เป็นหน่วยซีเอฟยู (Colony-forming unit) ในขั้นตอนก่อน และหลังการบด
ผลกระทบที่เป็นอันตราย
หากเชื้อจุลชีพสามารถเข้าถึงสารอาหารได้สำเร็จระหว่างกระบวนการบด
ก็จะเกิดการเสื่อมคุณภาพของสารอาหาร และส่งผลกระทบต่อคุณภาพอาหารสัตว์ ขณะที่
สารอาหารเสื่อมคุณภาพลง
เชื้อจุลชีพใช้สารอาหารต่างๆสำหรับการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนจนกระทั่งไม่เหลือให้ใช้ประโยชน์ต่อไปได้
จึงส่งผลให้คุณค่าทางโภชนาการของอาหารสัตว์ลดลง
ตัวอย่างเช่น ข้าวโพด
การสูญเสียสารอาหารจากเชื้อจุลชีพจากการเสื่อมคุณภาพอาหารสัตว์เกิดขึ้นราวร้อยละ ๗
ของน้ำหนักอาหารสัตว์รวมทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน การเพิ่มอุณหภูมิ
และความชื้นอาจโน้มนำให้เกิดเชื้อรา ยีสต์ และระดับเชื้อกลุ่ม
เอนเทอโรแบคเทอริอีซิอี เพิ่มขึ้นสูงสุดทันที
กลายเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอาหารต่อไปได้
เครื่องมือจัดการความเสี่ยงของการปนเปื้อนซ้ำ
วิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจช่วยลดความเสี่ยง
และการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพอย่าง ซัลโมเนลลา มีหลายวิธี
วิธีที่นิยมมากที่สุดคือ เทคนิคการบำบัดด้วยไฮโดรเทอร์มัล
ในกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน โดยให้ความร้อน
และความชื้นลงในอาหารสัตว์ก่อนการอัดเม็ด ภาพที่
๒
แสดงให้เห็นถึงผลของการเพิ่มความชื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า ๑๐๐
องศาเซลเซียสต่อการลดระดับของเชื้อ ซัลโมเนลลา หน่วยเป็นซีเอฟยูต่อกรัม
เพื่อสร้างความมั่นใจว่า เชื้อ
ซัลโมเนลลา และจุลชีพอื่นๆลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จำเป็นต้องให้อุณหภูมิที่ถูกต้อง และเวลาที่เหมาะสม ตารางที่ ๑
แสดงเวลาที่ลดลงเป็นหน่วยทศนิยม เรียกว่า "ค่าดี (D values)" ที่ใช้สำหรับกำจัดเชื้อ ซัลโมเนลลา
เป็นหน่วยซีเอฟยูต่อกรัมได้ร้อยละ ๙๐ ในการผลิตอาหารไก่เนื้อระยะแรก หมายความว่า
วิธีนี้มีประสิทธิภาพ อุณหภูมิในขั้นตอนการคอนดิชันนิ่งต้องสูงเพียงพอ
และมีระยะเวลาที่นานเพียงพอด้วย
การเติมกรดอินทรีย์
นอกเหนือจากข้อปฏิบัติที่ดีทั้งก่อน
และระหว่างกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ผู้จัดการคุณภาพโรงงานอาหารสัตว์ และฟาร์ม
ควรมีมาตรการควบคุมการปนเปื้อนซ้ำภายหลังใช้เทคนิคการบำบัดด้วยไฮโดรเทอร์มัล
วิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยลดความเสี่ยงการปนเปื้อนซ้ำ
ร่วมกับการใช้เทคนิคการบำบัดด้วยไฮโดรเทอร์มัล ได้แก่ การใช้กรดอินทรีย์
และสารลดแรงตึงผิว ที่ออกฤทธิ์ส่งเสริมกัน การใช้กลยุทธ์บูรณาการวิธีการเหล่านี้
สามารถช่วยลดการสูญเสียความชื้น ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตอาหาร
และยังเป็นวิธีการถนอมคุณภาพอาหารสัตว์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อรา ยีสต์
และเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม เอนเทอโรแบคเทอริซิอี ได้ด้วย
กรดอินทรีย์ และสารลดแรงตึงผิวที่ยังคงฤทธิ์อยู่ได้
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพเป็นเวลานาน
เมื่อใช้กับวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ เช่น ข้าวโพด กากถั่วเหลือง
หรืออาหารสำเร็จรูป
การผสมสารลดแรงตึงผิวได้ด้วยช่วยให้กรดอินทรีย์ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยการลดแรงตึงผิว ช่วยให้การดูดซึม และการกระจายตัวในอาหารสัตว์ดีขึ้น
กลยุทธ์ดั้งเดิมที่นิยมใช้สำหรับป้องกันการปนเปื้อนซ้ำด้วยฟอร์มัลดีไฮด์
แม้ว่า ฟอร์มัลดีไฮด์ จะสามารถออกฤทธิ์ได้นาน
และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงมากสำหรับการกำจัดเชื้อจุลชีพปนเปื้อนในอาหารสัตว์
แต่ได้ถูกห้ามใช้ไปแล้ว เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน
ต่างจากกรดอินทรีย์ และสารลดแรงตึงผิวที่มีความปลอดภัย
ฟอร์มัลดีไฮด์เป็นสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์
ด้วยเหตุนี้หลายประเทศจึงสั่งห้ามใช้ฟอร์มัลดีไฮด์ในอาหารสัตว์ นอกจากนั้น
นักวิจัยยังแนะนำว่า ฟอร์มัลดีไฮด์ส่งผลกระทบทางลบต่อการผลิตไก่เนื้อได้อีกด้วย
โดยเฉพาะ อัตราการเจริญเติบโต และประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนอาหาร
กลยุทธ์การบูรณาการใช้กรดอินทรีย์
และสารลดแรงตึงผิวรวมกัน ช่วยเพิ่มสุขอนามัยอาหารสัตว์
และเสริมความแข็งแกร่งตามธรรมชาติของระบบทางเดินอาหาร
เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียแกรมลบในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น
โดยสามารถป้องกันไม่ให้อาหารสัตว์ปนเปื้อนซ้ำอีกที่ฟาร์ม และช่วยถนอมคุณภาพทั้งวัตถุดิบ
และอาหารสัตว์สำเร็จรูปได้เป็นเวลานานอีกด้วย
โดยมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับฟอร์มัลดีไฮด์
ความปลอดภัยอาหารเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด
แม้ว่า การบำบัดด้วยความร้อน
ร่วมกับการใช้กรดอินทรีย์
และสารลดแรงตึงผิวจะให้ผลดีกับการแก้ปัญหาความเสี่ยงต่อเชื้อจุลชีพ เช่น
ซัลโมเนลลา แต่ก็ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล
จัดการได้เบ็ดเสร็จ การปนเปื้อนซ้ำของเชื้อจุลชีพสามารถเกิดได้ตลอดเวลา ทั้งก่อน
ระหว่าง และภายหลังการผลิตอาหารสัตว์
แผนด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพยังเป็นสิ่งจำเป็นในโรงงานอาหารสัตว์
และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และควรมีการประเมินด้านอื่นๆ เช่น
คุณภาพของวัตถุดิบอาหารสัตว์ สำรวจหาชุดวิกฤติตลอดห่วงโซ่การผลิต เข้มงวดด้านสุขอนามัยในแต่ละขั้นตอนของการผลิตอาหารสัตว์
การบำบัดด้วยเทคนิคไฮโดรเทอร์มัล ร่วมกับการใช้กรดอินทรีย์ และสารลดแรงตึงผิว
ที่ช่วยส่งเสริมฤทธิ์ทำงานร่วมกันได้
เป็นกลวิธีหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนความปลอดภัยของอาหารสัตว์ โดยเฉพาะ
ความเสี่ยงของเชื้อ ซัลโมเนลลา ที่อาจฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้
ทั้งนี้ก็มีเป้าหมายสุดท้ายก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของอาหารสำหรับผู้บริโภค
เอกสารอ้างอิง
ภาพที่ ๑
เมื่อสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพเกิดขึ้นที่ระยะใดของกระบวนการผลิตอาหาร
เชื้อกลุ่มเอนเทอโรแบคเทอริซิอี เช่น ซัลโมเนลลา
สามารถเป็นอันตรายต่อทั้งสัตว์ที่กินอาหารปนเปื้อน
และมนุษย์ที่บริโภคเนื้อสัตว์ปีกได้ (แหล่งภาพ Jan Willem
van Vliet)